Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 393

ตอนที่ 393

บทที่ 393 ล่วงเกินไม่ได้

รอยยิ้มนั้น ปรากฏอยู่ในสายตาเวินจิ้ง แทบจะเมาแล้ว

เธอกระพริบตา ยังไม่ทันได้ต้านทานเขา จูบของมู่วี่สิงประทับลงมาแล้ว

จูบจนใบหน้าเธอแดงระเรื่อถึงจะพอใจ

“ที่นี่เป็นห้องทำงาน” เวินจิ้งรู้สึกโกรธ

ถึงแม้เวลาแบบนี้จะไม่มีใครเข้ามา แต่ก็ยังรู้สึกกลัว…

“อืม เป็นสถานที่ที่จะทำอะไรเธอเมื่อไหร่ก็ได้”

เวินจิ้ง…

ทำไมถึงรู้สึกไม่เหมือนคุณหมอมู่ที่เธอรู้จัก

แต่รสชาติความโรแมนติกขึ้นสมอง เธอกอดมู่วี่สิงไว้แน่น

กลับมาถึงหอพักก็เที่ยงแล้ว แต่กลับไม่เห็นหลิงเหยา

เวินจิ้งรู้สึกเป็นห่วง โทรศัพท์หาเธอ กลับไม่มีคนรับ

เธอลงไปด้านล่างตึกหอพัก กลับพบว่ามู่วี่สิงยังไม่กลับ

“ทำไมถึงลงมาอีก?”

“หลิงเหยายังไม่กลับมา ฉันเป็นห่วงกลัวจะเกิดเรื่องกับเธอ” เวินจริงพูดอย่างตื่นเต้น

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว “เราลองไปหาดูในมหาวิทยาลัย”

เวินจิ้งพยักหน้า เพราะเป็นห่วงมาก ตอนที่มู่วี่สิงกุมมือของเธอ ถึงไม่ได้ผลักเขาออก

เวลาแบบนี้ในมหาวิทยาลัยแทบจะไม่มีคนเลย ทั้งสองหามาจนถึงสนาม ตรงใต้ต้นไม้ไม่ไกล เหมือนมีเสียงเล็ดลอดออกมา

“เจียงฉี…”

เป็นเสียงของหลิงเหยา

เวินจิ้งกำลังจะเข้าไปเปิดประตู แล้วก็ต้องเอามือปิดปากตัวเอง

หลิงเหยากับเจียงฉีอยู่ด้วยกัน

เธอรู้ว่าระยะนี้สองคนนี้ใกล้ชิดกันมาก งั้นก็แสดงว่ากำลังคบกันแล้ว?

หากเป็นแบบนี้เธอก็วางใจ

เธอรีบถอยหลัง กลับไม่ทันระวังชนถูกหน้าอกมู่วี่สิง

เขาโอบกอดเธอไว้อย่างมั่นคง เหมือนจะรู้แล้วด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น

“หน้าร้อนขนาดนี้?” มู่วี่สิงจ้องมองดูเธอ

“ไม่มี”

“อยากลอง?” มู่วี่สิงมองดูเธอ

สีหน้าเวินจิ้งแดงระเรื่อ

เขากำลังพูดอะไร…

“ฉันง่วงแล้ว กลับกันเถอะ” เวินจิ้งเดินเร็วมาก

เสียงของหลิงเหยาเมื่อกี้น่าขนลุกมาก ทั้งสองคนกำลังสนิทสนมกันอย่างยากที่จะแยกกัน

มู่วี่สิงหรี่ตาลง รอยยิ้มบนใบหน้าไม่จางหายอยู่เนิ่นนาน

หลิงเหยากลับมาหลังจากหนึ่งชั่วโมงแล้ว เวินจิ้งเพิ่งอาบน้ำเสร็จ

“เหยาเหยา ไปทำอะไรมา?” เวินจิ้งตั้งใจถาม

“ไปเดินเล่น”

“กับเจียงฉี?”

“อืม” หลิงเหยาพยักหัว

ถึงตอนนี้ ใบหน้าของเธอก็ยังแดงอยู่

“สละโสดแล้ว?”

“นับว่าใช่ แต่เธอห้ามบอกพี่ชายของฉันนะ” หลิงเหยาพูดอย่างเกรงกลัว

……….

เช้ารุ่ง เวินจิ้งได้รับการแจ้งจากไป๋สือตั้งแต่เช้า วันนี้ต้องไปโรงพยาบาล

วันนี้ไป๋สือมีเคสผ่าตัดที่สำคัญเคสหนึ่ง เวินจิ้ง เข้าห้องผ่าตัดแล้วหลายครั้งก็ค่อนข้างชินแล้ว ไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว

แต่วันนี้แพทย์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไป๋ไม่อยู่ เวินจิ้งจึงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยให้เขาอย่างกะทันหัน

โชคดีที่การผ่าตัดเสร็จสิ้น อย่างราบรื่น

ไป๋สือรีบมอบหมายงาน แล้วก็รีบไปต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมประชุม

เวินจิ้งอยู่จัดการงานขั้นตอนต่างๆให้ผู้ป่วย

ทุกครั้งที่ศาสตราจารย์ไป๋จากไป เวินจิ้งก็จะรู้สึกกลัวทุกครั้ง

แต่เวลานี้ เธอจะถดถอยไม่ได้

มองดูเวลาบนนาฬิกา คืนนี้มู่วี่สิงจะสอนพิเศษให้เธอ แต่หลายวันนี้เกรงว่าเธอจะได้กลับไปก็ดึกมากแล้ว

คิดอยู่พักหนึ่ง แล้วเธอก็บอกมู่วี่สิงผ่านการส่งวีแชทไปให้เขา

อีกหนึ่งเดือนถึงจะสอบ ที่จริงเวลาก็ไม่ได้กระชั้นชิดมาก

แต่เธอก็รู้ว่าการเรียนของตัวเองไม่ได้ดีมาก ยังคงต้องรีบตั้งใจ

ตอนเย็น เวินจิ้งตรวจห้องผู้ป่วยเสร็จ กำลังจะสั่งอาหารมาทาน ก็เห็นมีเงาที่คุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้าประตู

เวินจิ้งกระพริบตามองดูผู้ชายตรงหน้า เขายังของแต่งตัวอย่างที่เคยชินด้วยกางเกงสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาว แสดงให้เห็นถึงประกายความสูงส่งและสง่างาม

เธอยิ้มอย่างสุขใจ ในสายตาเห็นเพียงเขาคนเดียว

“คุณมาได้ยังไง” เวินจิ้งเดินไปข้างหน้า มู่วี่สิงกอดเธอไว้ในอ้อมอกอย่างมั่นคง

“มาทานข้าวเป็นเพื่อน แล้วก็ส่งคุณกลับมหาวิทยาลัย” น้ำเสียงมู่วี่สิงอ่อนหวาน

“ออ ฉันกำลังจะโทรสั่ง คุณก็มาพอดี”

“ออกไปทานได้ไหม?” มู่วี่สิงถาม

“ภายใน 1 ชั่วโมงได้”

ทั้งสองคนเดินเคียงไหล่กันออกไปจากโรงพยาบาล ถนนด้านนอกเจริญรุ่งเรืองมาก หลังจากที่เวินจิ้งมาฝึกงานที่นี่ปกติก็จะสั่งมาทาน ร้านอาหารใกล้ล้วนไม่เคยได้มาทานบ่อย

ส่วนมู่วี่สิง เดินนำเธอเข้าไปในซอยร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งอย่างชำนาญทาง

เวินจิ้งมองดูเขายังแปลกใจ ทำไมเขาถึงคุ้นเคยที่นี่ขนาดนี้?

เธอจึงถามออกไปว่า “คุณมาบ่อย?”

“อืม ผมเคยฝึกงานที่โรงพยาบาลหลินไห่”

“ถือว่า คุณดูคุ้นเคยที่มีมาก หากคุณไม่นำทางพามา ฉันยังไม่รู้จักร้านนี้เลย”

“เมื่อก่อนก็เป็นศาสตราจารย์คนหนึ่งพาพวกเรามา แต่ก็เมื่อหลายปีก่อนแล้ว” คิ้วดกดำของมู่วี่สิงค่อยๆยักขึ้น

เมนูอาหารที่มีล้วนทำเสร็จแล้ว ลูกค้าแค่ต้องบอกพนักงานในร้านว่าตัวเองชอบทานรสชาติแบบไหนก็พอ

เวินจิ้งค่อนข้างชอบรูปแบบแบบนี้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องมานั่งคิดว่าตัวเองจะทานอะไร

อาหารเพิ่งมาถึง ตรงไม่ใกล้กลับมีเสียงค่อนข้างดัง

มีลูกค้าเมาคนหนึ่งออกมาจากในห้องชุดอย่างเซไปเซมา เดินผ่านโต๊ะที่เวินจิ้งนั่ง กลับหยุดฝีเท้าลง

“ศาสตราจารย์เย่?” เวินจิ้งมองดูเย่เฉียว ทักทายอย่างมีมารยาท

แต่เย่เฉียวทำเหมือนไม่สนใจ สายตามองไปยังเย่เฉียวอย่างไม่ค่อยพอใจ

“โย้ คุณยังกล้ามาที่นี่”

“สีหน้ามู่วี่สิงที่สงบอยู่อย่างปกติ ได้ยินเช่นนี้แล้วก็ค่อยๆขมวดคิ้ว”

“เย่เฉียว ผมต้องกล้ามาสิ”

“เชอะ คุณไม่เหมาะสม มู่วี่สิง คุณใสหัวออกไป” สีหน้าเย่เฉียวแดงๆ คำพูดที่พูดออกมามีกลิ่นเหล้าด้วย

ด้านหลังเขามีนักศึกษาตามมาอยู่หลายคน เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้วก็ไม่มีใครกล้าเดินเข้ามา

ยังไม่เคยเห็นศาสตราจารเย่โกรธขนาดนี้

“เย่เฉียว ถ้าผมไม่ไป คุณคิดจะพังที่นี่หรือ?” มู่วี่สิงยิ้มอย่างเยาะเย้ย

“ใช่ ผมจะพังที่นี่ไล่ ไล่ออกไป”

เย่เฉียวดื่มไปแล้วไม่น้อย ตอนนี้ถือว่าไม่ค่อยมีสติดี เห็นมู่วี่สิงแล้วก็เหมือนดั่งสิงโตบ้าคลั่งตัวหนึ่ง

เจ้าของร้านเห็นภาพนี้แล้ว ก็กลัวไม่กล้าเดินเข้ามา คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นศาสตราจารย์ของโรงพยาบาล หน้าแต่ละคนต่างก็คุ้นเคยทั้งนั้น

ส่วนใหญ่เป็นคนที่จะล่วงเกินไม่ได้

แต่ทะเลาะกันไปแบบนี้ ธุรกิจก็ไม่ต้องทำแล้ว

“พาเขาไป” มู่วี่สิงมองดูนักศึกษาด้านหลังหลายคน

เขารู้ดีว่าตอนนี้สติของเย่เฉียวไม่ค่อยดี

“ได้ๆ ศาสตราจารย์มู่” แม้แต่ยืนเย่เฉียวก็ยืนไม่ตรงแล้ว ศึกษาหลายคนรีบมาประคองเข้าไป

เขากลับใช้แรงผลัก คิดอยากจะวิ่งเข้าไปต่อยคน

มู่วี่สิงถอยหลังไปอย่างมือหูไว ยื่นมือปกป้องเวินจิ้งไว้ก่อน

เวินจิ้งตกอกตกใจอยู่แต่แรกแล้ว รู้มาตลอดว่าสองคนนี้ไม่ถูกกัน แต่เย่เฉียวดูเหมือนจะห้ามไม่ไหวแล้ว

“มู่วี่สิง หรือไม่เราไปทานที่อื่นไหม”

“ไม่จำเป็น” สีหน้ามู่วี่สิงเย็นชา ล็อคแขนของเย่เฉียวไว้ได้อย่างง่ายดาย แล้วผลักเขาไปติดฝาอย่างแรง หยุดยั้งการกระทำที่บ้าคลั่งของเขา

เย่เฉียวกลับยิ่งโกรธจัด หันตัวมาแล้วชกหน้าของมู่วี่สิงหนึ่งที

ภาพนี้เวินจิ้งเห็นแล้วก็เป็นห่วงมาก

“นี่…”

“รีบไปห้ามไว้” เวินจิ้งมองดูนักศึกษาหลายคนที่ไม่กล้าเข้าไป

นักศึกษาต่างก็มองหน้ากัน แล้วใครก็ไม่กล้าเข้าไป

มองเห็นมู่วี่สิงชกเย่เฉียวไปหนึ่งที เธอกัดฟัน แล้วก็วิ่งเข้าไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท