บทที่ 395 เขาตามใจ
“ผมดูตอนนี้อยู่หลายรอบ อุปกรณ์การผ่าตัดในส่วนนี้ ล้วนเป็นเธอไปหยิบมาหรือ?”
“ใช่ค่ะ” เวินจิ้งพยักหัว
“อุปกรณ์ชุดนี้ เพิ่งเบิกมาจากแผนกศัลยกรรมทรวงอก ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อใดๆก็ถูกส่งเข้าไปยังห้องผ่าตัด?” น้ำเสียงของเย่เฉียวเต็มไปด้วยคำถาม
สีหน้าเวินจิ้งขาวซีดขึ้นมาทันที ตอนนั้นพยาบาลบอกกับเธอแล้วว่า ได้ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว
เธอจึงรีบอธิบายว่า “อุปกรณ์พวกนี้ล้วนผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว”
“คุณแน่ใจ?” เย่เฉียวหัวเราะเยาะเย้ย
ต่อมาก็เอาวิดีโออีกภาพหนึ่งออกมาอีก เป็นภาพกล้องวงจรปิดที่พยาบาลยื่นอุปกรณ์ให้กับมือเวินจิ้ง คำพูดของเธอคือ ให้เอาไปฆ่าเชื้อ แต่ไม่ใช่ฆ่าเชื้อแล้ว
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้…
เธอจำได้อย่างแม่นยำ พยาบาลคนนั้นไม่ได้พูดแบบนี้ น้ำเสียงก็ไม่ใช่แบบนี้
“ฉันจะไปถามพยาบาลคนนั้นให้ชัดเจน เหตุการณ์ในตอนนั้นไม่ใช่เป็นแบบนี้”
เย่เฉียวกลับไม่ให้โอกาสนี้แก่เธอ “พยาบาลคนนี้ไปประชุมที่ต่างประเทศกับศาสตราจารย์แล้ว วิดีโอตอนนี้ผมได้ส่งไปให้กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้ว คุณรอผลการตัดสินเถอะ”
“ศาสตราจารย์ ความจริงไม่ใช่แบบนี้… หากพยาบาลสั่งแล้ว ฉันจะต้องเอาไปฆ่าเชื้อทั้งหมด”
“ใครจะไปรู้ว่าคุณคิดอะไรในใจ” เย่เฉียวไม่มีความอดทนที่จะมานั่งฟังเวินจิ้งอธิบาย
เธอถึงกับเซถอยหลัง เกือบยืนไม่มั่น
หากเรื่องนี้เป็นเพราะเธอ อนาคตของเธอก็ถือว่าดับแล้ว
กล้องวงจรปิดตอนนั้น… ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้
เวินจิ้งรู้สึกได้ถึงความเยือกเย็นจากเท้ากระจายไปจนทั่วร่างกาย เธอยืนอยู่ในห้องทำงาน อยากจะเอาวิดีโอออกมาแล้วไปตรวจดู กลับถูกล็อคไว้แล้ว
เธอไม่มีหนทาง
ไม่นานเรื่องนี้ก็รู้ไปถึงมู่วี่สิง
เย่เฉียวจะเอาผิดเวินจิ้งเป็นเรื่องที่แน่นอน ตอนนี้ไป๋สือไม่อยู่ คนไข้ที่เย่เฉียวรับช่วงต่อ ก็อยู่ในความดูแลของเขา
มู่วี่สิงฟังเกาเชียนรายงาน อย่างตาคิ้วกระตุก
“ท่านประธานมู่ คุณจะไปไหน…สักครู่ยังมีประชุม…” เห็นมู่วี่สิงกำลังจะออกไป เกาเชียน จึงรีบพูดขึ้น
“ยกเลิก” มู่วี่สิงออกคำสั่งอย่างเย็นชา
พูดเสร็จ เขาก็ออกไปจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว
มาถึงโรงพยาบาล เขาก็ไปยังห้องทำงานของผู้อำนวยการด้วยตัวเอง เขาก็กำลังดูวิดีโออยู่
เห็นมู่วี่สิงมา ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลหลินไห่ขอให้มู่วี่สิงมาทำงานประจำอยู่ที่นี่ตลอด แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง
แต่ตอนนี้มู่วี่สิงเป็นศาสตราจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ มีก็เพียงโอกาสนี้เท่านั้น
“ผู้อำนวยการ วิดีโอตอนนี้ ผมอยากขอเอาไปตรวจ” มู่วี่สิง พูดอย่างง่ายๆตรงไปตรงมา
เมื่อกี้เขาได้ทำตามเข้าใจเรื่องราวตั้งแต่แรกจนจบ เขาทำความเข้าใจท่าทีการทำงานของเวินจิ้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำผิดแบบนี้
“แต่แบบนี้… ไม่เหมาะสม” ผู้อำนวยการค่อนข้างลำบากใจ
“เวินจิ้งเป็นศึกษาของมหาวิทยาลัยหลินไห่ ตอนนี้ผมก็เป็นศาสตราจารย์ของเธอ ผมไม่คาดหวังให้มีใครมาใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของเธอ ผู้อำนวยการ วิดีโอนี้ผมจะไม่เปิดเผย ผมได้ยินมาว่าโรงพยาบาลต้องการที่จะขยายพื้นที่ พื้นที่ทางด้านหลังนั้นเป็นของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” มู่วี่สิงพูดเงื่อนไขออกไป
“งั้นก็ต้องได้อยู่แล้ว ศาสตราจารย์มู่ ผมก็หวังว่าเรื่องนี้จะสามารถสืบหาข้อเท็จจริงได้” ท่าทีผู้อำนวยการเปลี่ยนไปทันที พื้นที่ตรงนั้นหากสามารถเอามาได้ เขตพื้นที่ของโรงพยาบาลก็จะสามารถขยายใหญ่ขึ้นได้แล้ว
มู่วี่สิงอมยิ้ม สั่งให้เกาเชียนเอาวิดีโอกล้องวงจรปิดไป ไม่ได้กลับไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่มาที่มหาวิทยาลัยหลินไห่
เรื่องของเวินจิ้งเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว จะต้องมีคนตั้งใจกระทำอยู่เบื้องหลังแน่
“คำวิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตลบทิ้งให้หมด ไปสืบมาว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว”
เกาเชียนรับคำสั่ง แล้วรีบไปจัดการ
มู่วี่สิงโทรศัพท์หาเวินจิ้ง แต่กลับไม่มีคนรับสาย
นี่ก็ค่ำมืดแล้ว มู่วี่สิงดูวิดีโอจนจบ จากรูปการในตอนนี้ยังไม่มีข้อพิรุธเลย
ปัดเอกสารตรงหน้าทิ้งอย่างโมโห เขาออกมาจากห้องทำงาน
โทรหาเบอร์โทรศัพท์ของหลิงเหยา ถึงได้รู้ว่าเวินจิ้งไม่อยู่หอพัก เธอก็กำลังตามหาเธอ
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอก็เป็นห่วง
มหาวิทยาลัยหลินไห่ไม่เล็กเลย จะหาให้ทั่วทุกมุมก็ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง นี่ก็ดึกมากแล้ว มู่วี่สิงหาจนมาถึงชั้นบนสุดของตึกห้องเรียน
ที่นี่ เป็นสถานที่สุดท้ายแล้ว
ฝีเท้าของเขาเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง บางที ก็ไม่ควรที่จะให้เธอมามหาวิทยาลัยหลินไห่ตั้งแต่แรก
เขามีโอกาสที่สามารถห้ามได้อยู่หลายครั้ง แต่เขาไม่ได้ทำ
เขาปรารถนาให้เวินจิ้งสามารถได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่เธอชอบ เรียนรู้ทุกอย่างที่เธอชอบ
เขาตามใจเธอ
แต่หากการตามใจนี้จะทำลายเธอ เขาก็ควรที่จะใจร้ายตั้งแต่แรก
ก้าวออกไปทุกอย่างก้าว มู่วี่สิงมองดูไปรอบๆ ไม่อยู่ เธอไม่อยู่
เกิดความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง เขายืนอยู่ตรงกลางดาดฟ้า ที่นี่เป็นสถานที่สูงที่สุดของมหาวิทยาลัยหลินไห่ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ
แต่ตอนนี้มืดมิดไปหมด จนทำให้หวาดกลัว
ตอนที่หันตัว ในสายตามองปรากฏเงาร่างหนึ่ง หางตามู่สี่สิงประกายความดีใจและตื่นเต้น
ผู้ชายที่ปกติเงียบสงบ ตอนที่เผชิญหน้ากับเวินจิ้งกลับขาดสติได้ง่ายๆ
เขาแทบจะวิ่งเข้าไป เวินจิ้งนั่งยองๆอยู่ด้านข้างอีกข้าง มีราวบังไว้ ดังนั้นเมื่อกี้มุ่วี่สิงจึงมองไม่เห็นเธอ
เธอก้มหน้าก้มตา ในมือถือไอแพดกำลังอ่านนิยาย…
ตรงหน้ามีเงาร่างหนึ่งปรากฏ เธอเงยหน้าขึ้น สบกับสายตาอันลึกซึ้งของมู่วี่สิง
เหมือนดั่งจะกลืนกินเธอ
เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง…
เธออยากที่จะลุกขึ้นยืน แต่เพราะนั่งยองๆนานไปหน่อย ขาชาหมดแล้ว…
ลุกขึ้นยืนไม่ไหว กลับจากเซล้มไปข้างหลัง
มู่วี่สิงกอดเธอไว้ได้ทัน เวินจิ้งอยู่ในอ้อมอกเขา เขากอดเธอไว้แน่น แรงนั้นเหมือนดั่งจะโกรธเธอจนกระดูกแหลก
เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังสั่น กำลังกลัว
เขาเป็นอะไร…
เวินจิ้งมองดูมู่วี่สิงอย่างแปลกใจ ถามขึ้นว่า “คุณกำลังเป็นห่วงฉัน?”
“อืม” มู่วี่สิงยอมรับอย่างหนักแน่น
รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเธอ ทั้งร่างกายก็เหมือนมีชีวิตชีวากลับมาอีกครั้ง
เขาไม่กล้ากลับไปคิดถึงความรู้สึกเมื่อกี้ เขาไม่อยากมีความรู้สึกแบบนั้นอีกรอบ
“อย่าทำให้ผมเป็นห่วงอีกเลย ได้ไหม?” เสียงของเขา แฝงไปด้วยน้ำเสียงที่ขอร้อง
ซึ่งเวินจิ้งไม่เคยได้ยินมาก่อน
สีหน้าของเธอค่อยๆขาวซีด ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
“ฉันแค่ขึ้นมารับลม” เวินจิ้งอธิบาย
“ไม่ต้องปิดโทรศัพท์มือถือ”
“อ๋า น่าจะแบตหมดแล้ว…” เวินจิ้งค่อนข้างรู้สึกผิด…
เธอก็กำลังเตรียมตัวที่จะกลับไปแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะเจอมู่วี่สิง
“มู่วี่สิง ฉันไม่คิดสั้นหรอก” เธอพูดอย่างสงบ
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว แววตามองเธออย่างหนักแน่น
ในหัวสมองของเขาเมื่อกี้ มีความคิดแบบนี้อยู่แว๊บหนึ่ง
เธอเคยถูกสงสัย เคยถูกใส่ร้าย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะสงบนิ่งได้
แต่ตอนนี้ เวินจิ้งเข้มแข็งกว่าที่เขาคิด
ตลอดทางที่เดินออกมาจากดาดฟ้า มู่วี่สิงยังคงจูงมือเวินจิ้งไว้แน่นอยู่ตลอด ระหว่างคิ้วยังชนกัน ไม่ผ่อนคลายเลย
เวินจิ้งมองดูสีหน้าที่เคร่งเครียดของมู่วี่สิง หัวเราะแล้วถามเขาว่า “มู่วี่สิง คุณเชื่อฉัน?”
“เชื่อ” มู่วี่สิงตอบอย่างไม่ต้องสงสัย
“ทำไม ฉันก็เป็นแค่นักศึกษาปริญญาโทคนหนึ่งเท่านั้น ที่จริงการกระทำผิดเป็นเรื่องปกติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
คำวิจารณ์บนออนไลน์ที่จริงเธอก็เห็นหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครเอาเรื่องของเธอไปเปิดเผย ตอนนี้ต่างก็พูดกันว่าเธอไม่สมควรที่จะเรียนต่ออยู่ในมหาวิทยาลัยหลินไห่ ที่กระทำความผิดที่โง่เขลาแบบนี้
“เวินจิ้ง คุณสามารถทำผิด แต่คุณทำผิดแล้วจะไม่วิ่งหนีปัญหา” มู่วี่สิงหยุดฝีเท้าลง ก้มตัวลงมองเธอด้วยสายตาที่ยังคงเชื่อถือเธอ
เขาเป็นแบบนี้มาตลอด