Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 400

ตอนที่ 400

บทที่ 400 คิดถึงเขาตลอดเวลา

“คุณโจว บอกผมสิว่า เงื่อนไขของคุณคืออะไร? คุณใส่ร้ายเวินจิ้ง คนบงการที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร?” คำพูดของมู่วี่สิงนั้นเย็นชาตลอด

สำหรับท่าทีการอ่อยของโจวหย่าน ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่นิด

โจวหย่านรู้สึกว่า ตัวเองเหมือนกับกำลังนั่งคุยธุรกิจ สนทนากันอย่างเยือกเย็น

ฉากที่เธอต้องการไม่ใช่เป็นแบบนี้

“ฉันต้องการให้คุณแต่งงานกับฉัน” เธอเรียกความกล้าหาญขึ้นมา คำพูดนี้ได้ถูกเก็บไว้ในใจเธอมานานมากแล้ว

เธอไม่เคยคิดว่าสักวันเธอจะได้พอเจอมู่วี่สิงอีก หากได้พบเจอเขาอีกครั้ง เธอจะไม่ยอมปล่อยเขาไปอีก

ได้ยินทุกคำพูด แต่สีหน้าของมู่วี่สิงก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง

อดีตที่เป็นเย่เฟยเฟย และปัจจุบันที่เป็นโจวหย่าน ก็ยังคงเป็นบุคคลเดียวกัน

เขาเข้าใจ

“ถ้าหากผมไม่แต่งงานกับคุณ คุณก็จะไม่ช่วยเวินจิ้งชี้แจงใช่ไหม หืม?” เสียงจากลำคอเขาต่ำมาก อันตรายมาก

เมื่อมองสายตาของโจวหย่าน ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเกรงกลัวอย่างบอกไม่ถูก

แต่ในเวลานี้ เธอยังคงกล้าหาญและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร ถ้าหากคุณแต่งงานกับฉัน คุณก็จะเป็นสามีของฉันแล้ว ฉันต้องช่วยคุณอยู่แล้ว มิฉะนั้น เรื่องที่คุณพูดมาฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาด”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และเข้าใจความหมายของโจวหย่าน

และยิ่งชัดเจนว่า ถ้าหากโจวหย่านไม่ออกหน้าให้ เรื่องเวินจิ้งถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัยเกือบจะเป็นเรื่องจริงในไม่ช้า

ด้วยความสามารถของมหาวิทยาลัยหลินไห่เขาไม่สามารถที่จะทำให้สั่นคลอนได้ ผู้หญิงที่อยู่ตอนนี้ คือจุดก้าวผ่านเพียงอย่างเดียว

มู่วี่สิงกดบีบที่ระหว่างคิว ไม่ได้ดื่มไวน์ แต่ได้หยิบแก้วน้ำมะนาวที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา

ลูกเล่นเล็กๆน้อยๆพวกนั้นของโจวหย่าน เขาทราบเป็นอย่างดี

ในแก้วไวน์ได้ใส่ของพวกนั้นลงไปแล้ว

“เป็นอย่างไรบ้าง มู่วี่สิง แต่งกับฉันไม่เสียเปรียบแน่ ตอนนี้ครอบครัวของพ่อเลี้ยงฉัน ใหญ่กว่าบ้านตระกูลเย่มาก” โจวหย่านมองเขาด้วยความคาดหวัง

แต่มู่วี่สิงตั้งแต่แรกถึงตอนนี้ ยังคงเย็นชาไม่เปลี่ยนทำให้เธอรู้สึกจิตใจเย็นยะเยือก

สายตาเธอลดต่ำลง สีหน้าค่อยๆเปลี่ยนเหมือนหงอยเหงา

“โจวหย่าน พวกเราสามารถแต่งงานกันได้”

เมื่อเธอเกือบหมดความมั่นใจ พอได้ยินคำพูดน้ำเสียงต่ำๆของมู่วี่สิงแล้ว

แสงในดวงตาของเธอก็ค่อยๆสว่างขึ้นมา เธอจ้องมองชายรูปงามอยู่ตรงหน้าเธอโดยไม่กระพริบตา

เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม……

ใช้แรงบีบต้นขาอย่างแรง เจ็บ

นี่มันเป็นเรื่องจริง

“มู่วี่สิง……”เธอมองเขาอย่างปลาบปลื้ม รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งยิ้มยิ่งลึกเข้าไป

“กลับหนานเฉิงกับผม” มู่วี่สิงพูดอย่างเฉยเมย และไม่ได้กินอาหารเย็นมื้อนี้ต่อ

หัวใจของโจวหย่านเริ่มเบ่งบานขึ้น เธอวิ่งเหยาะเพื่อตามไปให้ทันมู่วี่สิง “ฉันจะกลับไปกับคุณทันที แล้วพวกเราจะแต่งงานกันเมื่อไรดี”

“หนึ่งเดือนต่อมา”

“พรุ่งนี้เช้ารอผมที่สนามบินนะ” หลังจากส่งโจวหย่านกลับไปแล้ว มู่วี่สิงได้สั่งไว้

“คุณไม่มารับฉันเหรอ?” โจวหย่านมองเขาด้วยความคาดหวัง

“ผมยุ่งมาก” สีหน้าของมู่วี่สิงซีดมาก

โจวหย่านกัดริมฝีปากเล็กน้อย กำลังจะอ้าปากพูด เสียงอันขุ่นมัวของมู่วี่สิงก็ได้แทรกดังขึ้นมา “ในเมื่อการแต่งงานนี้เกิดขึ้นซึ่งการข่มขู่ของคุณ ก็อย่าคาดหวังว่าผมจะสนใจอะไรคุณมากมาย โจวหย่าน ผมไม่ชอบคุณ”

ผมไม่ชอบคุณ

คำพูดของมู่วี่สิงชัดเจนจนสะท้อนไปมาในหัวสมองของโจวหย่าน ชั่งหมุนเวียนจริง

เธอสะอึกสะอื้นและวิ่งเข้าไปในบ้านพัก

พี่ชายโจวเซินเดินลงชั้นล่างพอดีโจวหย่านไม่ทันได้มองทาง วิ่งตรงชนเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

“โอ้” โจวหย่านเกิดอารมณ์เสีย

โจวเซินคิ้วขมวด และประคองน้องสาวไว้ “ใครทำให้เธอร้องไห้นี่?”

“ฉันเอง”

โจวเซินขมวดคิ้วจนหว่างคิ้วยิ่งลึกขึ้น สายตามองไปที่ประตู มุมปากอันเยือกเย็นค่อยๆโค้งเว้าจนเกิดเป็นรอยยิ้ม

“มู่วี่สิงคุยกันเป็นอย่างไรบ้าง?” เขานั่งอยู่บนโซฟา เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทคลุมอยู่บนตัว รัศมีทั้งตัวค่อนข้างที่ลึกลับ

“เขาตอบตกลงที่จะแต่งงานกับฉันแล้ว แต่เขาบอกว่าเขาไม่ชอบฉัน” โจวหย่านรู้สึกเสียใจมาก

“นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังไว้เหรอ?” ปลายนิ้วอันเรียวยาวของโจวเซินเปิดไฟแช็กออกมา แสงจากเปลวไฟกระทบกับใบหน้าอันหล่อเหลาและมีเสน่ห์อันล้ำลึก

“แต่ว่า……เขาและเวินจิ้งหย่าร้างกันแล้ว ทำไมไม่สามารถชอบฉันบ้างเหรอ?”

“เธอแต่งกับเขาได้ ก็พอแล้ว” โจวเซินสูบบุหรี่อย่างดูดดื่ม

โจวหย่านปูดแก้มของเขาแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันไม่เพียงแต่จะแต่งงานกับเขา ฉันยังต้องการทำให้เขาตกหลุมรักฉัน”

โจวเซินเอนศีรษะของเขา และมองไปยังน้องสาวที่อายุเยาว์วัย แต่งกายได้เหมือนผู้ใหญ่มากพอ แต่ด้านจิตใจยังคงขาดความเป็นผู้ใหญ่อยู่บ้าง

หลังจากหนึ่งปีแห่งการฝึกอบรม ยังไม่มีความก้าวหน้าอะไรมากนัก

“อย่างนั้นก็ขอให้น้องสาวของผมโชคดีนะ จำไว้นะ สิ่งที่ไม่ควรพูด ก็หุบปากไว้บ้าง” โจวเซินเตือน

โจวหย่านมองเงาด้านหลังของพี่ชาย รอยยิ้มที่เย็นชาของเขาเมื่อตะกี้ ทำให้ร่างกายของเธอทนไม่ไหวสั่นเทาขึ้นมาทันที

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบอารมณ์ของเธอไว้

พรุ่งนี้เธอก็จะสามารถติดตามมู่วี่สิงไปยังหนานเฉิงแล้ว จากนั้นเธอก็จะมีโอกาสหลุดพ้นจากโจวเซินแล้ว

หนานเฉิง

หลิงอี้ส่งเวินจิ้งกลับไปยังมหาวิทยาลัย สีหน้าของเธอดีขึ้นมาก

เมื่อนึกถึงสภาพร่างกายของเธอแล้ว หลิงอี้ก็พูดอะไรไม่ออก

แต่สุดท้ายแล้ว อะไรก็ไม่ได้พูดออกมา

“วันนี้ขอบคุณคุณมากๆนะคะ” เวินจิ้งพูดอย่างมีมารยาท

“ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก” หลิงอี้มองเธอลงจากรถ สายตาที่ลดต่ำลงด้วยความหลงใหลเธอค่อยๆกระจายออกไป

จับพวงมาลัยไว้แน่น ตั้งนานก็ยังไม่ขับออกไป

เวินจิ้งกลับถึงหอพัก ยังมีการบ้านอีกมากมายที่ต้องทำ เธอกำลังที่จะเข้าสู่ท่ามกลางการศึกษาเรียนรู้

สายตารีบจ้องมองไปยังปฏิทิน ยังมีเวลา……3วัน

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วมองไปที่หน้าจอโดยไม่เห็นมีข่าวสารอะไรเลย มู่วี่สิงยังคงไม่ได้ติดต่อหาเธอ

เธอไม่ควรนำความหวังไปฝากไว้กับตัวเขาใช่ไหม?

แต่เธอคิดเสมอว่า ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบคู่รักกันแล้ว

แต่หากเป็นเช่นนี้ แล้วทำไมเขาถึงไม่ติดต่อมาหาเธอเป็นเวลาสองวันเต็มๆ?

จิตใจของเวินจิ้งเศร้าหมองลง ปลายนิ้วยังคงหยุดอยู่ตรงหมายเลขโทรศัพท์ของมู่วี่สิง กดโทรออกไป

ครั้งนี้ ในที่สุดก็โทรติดสาย

“เวินจิ้ง” เสียงของเขาแหบแห้งมาก ดูเหมือนว่ามีการพักผ่อนไม่เพียงพอ

“ฉันอยากถามว่า……คุณพบเจอพยาบาลคนนั้นไหม?” เวินจิ้งถามตรงเข้าสู่เรื่องหลัก

“อื่ม พบแล้ว”

“แล้วเธอสามารถกลับมาที่หนานเฉิงได้ไหม?”

“พวกเรากลับมาถึงพรุ่งนี้เช้า”

นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นข่าวดี แต่เวินจิ้งกลับยิ้มไม่ออก

ถึงกับรู้สึกอยากร้องไห้

“โอเคฉันทราบแล้วค่ะ”

ไม่นาน เวินจิ้งก็วางสายโทรศัพท์ การสนทนาระหว่างคนทั้งสอง ทำไมถึงเปลี่ยนมาเย็นชาแบบนี้

เธออยากจะใส่ใจเขา แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกมาจากปากของเธอ

บางที พรุ่งนี้รอมู่วี่สิงกลับมาทุกอย่างก็อาจจะดีขึ้น เขาแค่ทำงานเหนื่อยไปหน่อย

เวินจิ้งปลอบโยนตัวเองเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่คืนนี้ คงนอนไม่หลับ

วันรุ่งขึ้น สนามบินที่หนานเฉิง

โจวหย่านไม่ได้กลับมาพร้อมกับมู่วี่สิง ซึ่งเที่ยวบินของมู่วี่สิงเร็วกว่าเธอ1ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม เขาได้จัดรถให้ไปรับ จุดหมายปลายทางคือมหาวิทยาลัยหลินไห่

เพิ่งจะขึ้นรถ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“เดี๋ยวไปถึงมหาวิทยาลัย เกาเชียนจะพาคุณไปหาเวินจิ้ง” น้ำเสียงอันขุ่นมัวของมู่วี่สิง

โจวหย่านกัดริมฝีปากเล็กน้อย พูดอย่างไม่พอใจ “ตอนนี้ฉันยังไม่อยากไป ฉันเหนื่อยมาก ฉันต้องการพักผ่อน”

“อื่ม อย่างนั้นก็ไปพักผ่อนที่อพาร์ทเมนต์ก่อน ช่วงบ่ายค่อยไปมหาวิทยาลัย”

“มู่วี่สิง คุณจำเป็นต้องรีบขนาดนี้หรือ” โจวหย่านพูดอย่างไม่รื่นหู

“ใช่ ไม่อย่างนั้น คุณจะไม่ได้เห็นฉันในวันนี้หรอก” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น

โจวหย่านบึนปาก ไม่พบมู่วี่สิง……เธอคงจะเสียใจมาก

“ฉันจะไปช่วงตอนบ่ายนะ”

หลังจากวางสายแล้ว โจวหย่านก็ได้สั่งให้เกาเชียนส่งเธอไปที่มหาวิทยาลัย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท