Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 399

ตอนที่ 399

บทที่ 399 ฉันต้องการให้คุณแต่งงานกับฉัน

“เธอสบายดีไหม?” หลิงอี้โทรสายตรงมาหา

“ดูไปก็โอเคนะ แต่ในใจยังคงอึดอัดน่าดู”

“ดูแลเธอให้ดีๆนะ”

“จ๊ะพี่ชาย ฉันรู้สึกราวกับว่าตั้งแต่เริ่มเรียนมาจนถึงตอนนี้ เวินจิ้งดูเหมือนจะมีแต่ปัญหาไม่จบไม่สิ้น?”

“เธอไม่ควรเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่เลย”

“ทำไมหรือ?”

หลิงอี้ไม่ตอบ มีเรื่องบางเรื่อง เขาก็ไม่ได้รู้อะไรมากมาย

“ดึกแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ”

หลิงเหยาดูเหมือนจะถูกตัดสายโทรศัพท์ จึงไม่ค่อยพอใจนัก

พี่ชายทำพูดอะไรครึ่งๆกลางๆ……

วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งตื่นแต่เช้า

ไป๋สือกลับมาแล้ว เธอก็จะตามเขาไปเป็นนักศึกษาฝึกงาน

มาถึงโรงพยาบาลแต่เช้า เวินจิ้งรู้สึกขัดต่อสถานที่นี้เล็กน้อย

ผู้ป่วยที่ติดเชื้อตอนนี้ยังไม่ฟื้นขึ้นมา เย่เฉียวยิ่งไม่ได้เป็นศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาด้วย ผู้ป่วยหันกลับไปที่ไป๋สืออย่างรวดเร็ว

พอเห็นเวินจิ้ง ใบหน้าของเขาก็อึมครึมมาก

“ไป๋สือ ทำไมคุณไม่พาเวินจิ้งมาด้วย”

“เขาเป็นลูกศิษย์ฉัน”

“เธอมีพฤติกรรมที่ไม่ดี อธิการบดีต้องการให้เธอออกจากมหาวิทยาลัย”

“ศาสตราจารย์เย่คะ ฉันยังไม่ถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัยค่ะ ฉันจึงยังมีคุณสมบัติที่จะอยู่ที่นี่” เวินจิ้งตอกกลับอย่างเย็นชา

เย่เฉียวพูดอย่างเฉยเมย “ดูสิดูท่าทีแบบนี้ เป็นนักศึกษาควรมีท่าทีแบบนี้หรือ”

ก็ศาสตราจารย์เย่ไม่เคารพฉันก่อนนี่ ฉันไม่คิดว่าท่าทีของฉันจะมีปัญหา

“นี่เธอ เวินจิ้ง……”

“เอาล่ะ เย่เฉียว ฉันจะรับช่วงต่อผู้ป่วย ช่วงนี้ต้องรบกวนคุณแล้ว” น้ำเสียงของไป๋สือก็เยือกเย็นเช่นกัน

เย่เฉียวแบกหน้าอันเฉื่อยชา และรีบปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมุ่งเน้นไปที่งานที่ทำอยู่ในมือ

เมื่อเธอเดินออกจากผู้ป่วย ก็มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา “เธอคือเวินจิ้ง?”

“สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ……”

ยังพูดไม่จบคำ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ผลักเวินจิ้งออกไปอย่างแรง “เธอเป็นผู้ช่วยที่ไม่มีจรรยาบรรณ เธอเป็นคนทำร้ายอาเฉิงของพวกเราทำให้ยังไม่ฟื้นขึ้นมา……”

เวินจิ้งสีหน้าซีดลง ใช้แรงเกาะฝาผนังพยุงตัวลุกขึ้นมา แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ดูประหนึ่งเหมือนเป็นคนบ้า ยังอยากจะผลักเวินจิ้งให้ล้มลงไปอีก

เวินจิ้งยืนมั่น แล้วหยุดยั้งท่าทีของผู้หญิงคนนั้นไว้ “ฉันขอโทษจริงๆที่ผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุในตอนนี้ แต่ก่อนที่เรื่องนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียดชัดเจน ขอความกรุณาได้โปรดใจเย็นๆก่อน”

“จะให้ฉันใจเย็นได้อย่างไร ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว มันเป็นความผิดพลาดของผู้ช่วยอย่างเธอที่ทำให้ลูกชายของฉันต้องติดเชื้อ เธอนั่นแหละ”

เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังมาก ใช้เวลาไม่นานนักผู้คนจำนวนมากมุงดูกันเต็มระเบียง ทุกคนจ้องแต่เย้ยหยันเวินจิ้ง

“เป็นเธอเหรอเนี่ย……ฉันได้ยินมาว่าเธอเอามีดผ่าตัดที่ยังไม่ผ่านการฆ่าเชื้อเข้าไปในห้องผ่าตัด……”

“จริงหรือนี่ โรงพยาบาลหลินไห่เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศจีน ทำไมถึงปล่อยให้คนแบบนี้อยู่ในโรงพยาบาลได้อย่างไร”

“เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่ด้วย แต่คาดว่าเป็นนักศึกษาฝึกงาน ชั่งทำร้ายคนอย่างไม่น้อยจริงๆ……”

“……”

เสียงของการสนทนารอบตัวยังคงดังก้องอยู่ในหู เวินจิ้งพยุงตัวเกาะฝาผนังไว้ เบื้องหน้าเป็นผู้หญิงคนนั้นที่มองตาเธออย่างบ้าคลั่ง

สีหน้าเธอยิ่งอยู่ยิ่งซีด ในหัวสมองส่งอาการเจ็บปวดมาเป็นครั้งๆ เธอแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

ตัวเริ่มเอียง เสียงอึกทึกค่อยๆเลือนราง เวินจิ้งพยายามลืมตา แต่เห็นเพียงเงาที่รูปร่างสูงยาว

คุ้นเคยมาก

มู่วี่สิงใช่ไหม?

เธอพึมพำอยู่ ยกมือขึ้นมา ระหว่างเอวแขนข้างหนึ่งโอบเธอเข้ามายังอ้อมกอดแขนไว้อย่างมั่นคง หลิงอี้ได้ยินเสียงรำพึงรำพันของเวินจิ้ง “มู่วี่สิง……”

ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เศร้าหมองลง มองดูผู้คนท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง และพูดด้วยความโกรธว่า “นี่คือโรงพยาบาล ขอให้ทุกคนโปรดเงียบ”

เมื่อพูดจบ ก็ได้อุ้มเวินจิ้งไปยังห้องฉุกเฉิน

ผู้คนในระเบียงก็ยังไม่ได้แยกย้าย เวลาที่ไป๋สือเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เสียงโต้แย้งมากมายยังดังขึ้นอยู่

เขาขมวดคิ้ว เรื่องของเวินจิ้ง ทำไมถึงแพร่กระจายได้ร้ายแรงอย่างนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนวิจารณ์แต่เวินจิ้ง แต่ตอนนี้ผลการสอบสวนยังไม่ได้รับการประกาศเลย

……

เวินจิ้งตื่นขึ้นมาภายหลังหนึ่งชั่วโมง ต่อมาหลิงอี้มานั่งอยู่ข้างๆเธอ สายตาของเขาจ้องมองไปยังใบหน้าอันขาวซีดของเวินจิ้ง

เธอลืมตาขึ้น ภาพที่แทรกเข้ามายังม่านตาของเธอมันช่างเป็นสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดยิ่งนัก ภาพก่อนที่เธอจะหมดสติมันค่อยๆลอยขึ้นมาบนหัวสมองของเธอ เสียงที่มีความสงสัยในตัวเธอ เหมือนยังดังแววอยู่ข้างหูไม่ได้จางหายไปไหน

เธอลดสายตาลง และยิ้มประชดประชัน

หลิงอี้มองเธอด้วยความกังวล ท่าทีของเวินจิ้งแบบนี้ เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ดูเธอเศร้ามาก แต่เธอยังหัวเราะออกมาได้ หัวเราะจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจมาก

มือของเขาจับมือเธอเบาๆอย่างอ่อนโยน แต่เวลานี้ เวินจิ้งยังคงรู้สึกตัวดีใช้แรงผลักเขาออกไป

“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” เธอถามด้วยอาการตัวสั่นเทา

“คุณหมดสติไป”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง คุณอยู่ข้างฉันตลอดเวลาเหรอ?” เวินจิ้งจ้องมองไปที่เขา

เงาคนๆนั้นที่ปรากฏในหัวสมอง เธอคิดเสมอว่ามันคือมู่วี่สิง

แต่เขาน่าจะยังอยู่ที่เมืองเป่ยเฉิง

จำได้ว่า เขาทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันมาสองวันแล้ว

เวินจิ้งดูเหมือนกับจะรีบหาโทรศัพท์ของเธอให้เจอทันที เธอต้องการโทรหามู่วี่สิง

หลิงอี้ยิบโทรศัพท์ยื่นมา เห็นได้ชัดว่าเวินจิ้งกดหมายเลขโทรศัพท์ของมู่วี่สิงขึ้นมา

เขาจิบริมฝีปากอันบอกบาง แล้วลุกขึ้น “ผมไปซื้อของให้คุณกินนะ”

“รบกวนคุณแล้วค่ะ” เวินจิ้งพูดพร้อมกับแยกตัวออกไป

โทรติดสายของมู่วี่สิง แต่ฝั่งโน้นไม่มีคนรับสาย เวินจิ้งยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่

เธอได้เพียงแต่โทรหาเกาเชียน

“คุณเวิน ท่านประธานมู่กำลังยุ่ง……”

“โอเคค่ะ ถ้าหากเขาว่างแล้ว กรุณาบอกเขาโทรกลับหาฉันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

“โอเค”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เกาเชียนเห็นเจ้านายที่กำลังเอนกายอยู่ เหงื่อเย็นถึงกับหยดซึมออกมา

“ประธานมู่ คุณเวินบอกว่าหากคุณมีเวลาว่างให้โทรกลับหาเธอด้วย”

“อื่ม” มู่วี่สิงเปล่งเสียงตอบ

แต่ไม่เห็นจะมีท่าทีอะไร

เกาเชียนไม่กล้าถามและก็ไม่กล้าพูดอีก เวลานี้เจ้านายก็ว่างอยู่นี่……

นั่งอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดมู่วี่สิงก็ออกจากโรงแรม

ร้านอาหารริมแม่น้ำ ตกแต่งได้โรแมนติกและประณีตมาก

คนที่มาทานอาหารที่นี่ทั้งหมดส่วนมากเป็นคู่รักกัน เธออิงฉัน ฉันอิงเธอ

มู่วี่สิงสีหน้าไร้อารมณ์เดินย่างเข้าไปจนถึงสุดทางแล้วนั่งลง ตรงข้ามโจวหย่านก็มาถึงแล้ว

เธอสวมชุดเดรสสีแดงสด ทำให้ทั้งตัวสดใสไปด้วยเสน่ห์

อย่างไรก็ตามอายุอานามเธอยังไม่ถึง20ปี แต่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์หลายรูปแบบ

“ฉันคิดว่าคุณไม่มาเสียแล้ว” โจวหย่านรินไวน์ให้เขาเบาๆ

“คุณโจวกล้าขู่ผม ผมไม่มาได้เหรอ?” มู่วี่สิงหยอกล้อเธอด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็น

“คุณรู้นี่ ฉันก็แค่ชอบคุณ” เมื่อเผชิญหน้ากับมู่วี่สิง แต่ไหนแต่ไรโจวหย่านก็ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้

หนึ่งปีที่ผ่านมาเธอถูกมู่วี่สิงขับออกจากหนานเฉิง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเธอก็หย่ากัน เธอเลือกที่จะอาศัยอยู่กับแม่ แม้แต่ชื่อเธอก็ได้เปลี่ยนไปด้วย มีแต่ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวที่เธอมีต่อมู่วี่สิงที่ไม่ได้ลดน้อยลงมีแต่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น

ตอนนี้เธอไม่ใช่เย่เฟยเฟย แต่เป็นโจวหย่าน

แต่โจวหย่านยังคงหลงรักมู่วี่สิงไม่จืดจาง

แต่เธอไม่ได้เป็นอดีตเย่เฟยเฟยอีกต่อไปแล้ว อยากได้อะไร เธอก็จะพยายามให้ได้ตามที่เธอต้องการ

“คำพูดที่ออกจากปากคุณที่บอกว่าชอบผม เพียงแค่ขู่ผมครั้งแล้วครั้งเล่า” น้ำเสียงของมู่วี่สิงทั้งเบาบางและเยือกเย็น

“ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ฉันรู้ว่าคุณกับเวินจิ้งได้หย่าร้างกันแล้ว ตอนนี้ฉันควรได้รับโอกาสแล้วสินะ”

โจวหย่านจ้องมองแต่มู่วี่สิง

เมื่อไรเธอก็แกล้งทำเป็นผู้ใหญ่ แต่ในสายตาของมู่วี่สิง เธอยังคงเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท