Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 411

ตอนที่ 411

บทที่ 411 ไม่กลัวฉันไปพังงานเธอเหรอ

หลินเวยดีใจเป็นที่สุด ที่ได้เจอเวินจิ้ง และรู้ว่าเวินจิ้งนั้นยุ่ง และไม่ได้โทรมาหาเธอนานมากแล้ว

“หลิงอี้ ขอโทษที่รบกวนนะ”

“ผมมาทางเดียวกันพอดีครับ เวินจิ้ง วันพรุ่งนี้ผมมารับคุณกลับมหาวิทยาลัยนะ” หลิงอี้พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แล้วพูดเบาๆ ว่า“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้”

หลินเวยเห็นสีหน้าหมางเมินของลูกสาว ก็ได้แต่แอบถอนหายใจออกมาเบาๆ

หลังจากหลิงอี้จากไป เธอและเวินจิ้งก็นั่งบนโซฟา และถามด้วยความกังวล “เร็วๆ นี้ มู่วี่สิงกับโจวหย่านกำลังจะแต่งงานกัน มันเป็นเรื่องจริงไหม?”

“หนู……หนูไม่ทราบค่ะ”เวินจิ้งสีหน้านิ่งเรียบ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา

“หลิงอี้ เด็กคนนั้น เขาจริงใจต่อลูกนะ”หลินเวยพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“แม่คะ ครั้งหน้าไม่ต้องพูดอีกนะ เมื่อก่อนหนูไม่ได้ชอบเขา ตอนนี้ก็ไม่ได้ชอบ ในอนาคตก็ไม่คิดจะชอบเขา หรือแม่จะให้หนูแต่งงานกับเขาเพื่อประโยชน์ของครอบครัวคะ ?”เวินจิ้งพูดด้วยความอดกลั้น

หลินเวยหยุดนิ่ง และไม่พูดอะไรต่อ

เพื่อผลประโยชน์ของครอบครัวเหรอ……ตอนนี้ตระกูลหลินแข็งแกร่งพอที่จะไม่ต้องทำอย่างนี้

เธอก็แค่ไม่ต้องการที่จะเห็นลูกสาวของเธอ ยังคงคิดถึงมู่วี่สิง

“แม่ไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ หรือหนูชอบผู้ชายแบบไหน เดี๋ยวแม่แนะนำให้”

“แม่คะ ตอนนี้หนูยังไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานค่ะ”เวินจิ้งกดคิ้วลงอย่างเหนื่อยล้า

“หนูขึ้นไปพักผ่อนแล้วนะคะ”พูดจบ ก็เดินนำขึ้นไปข้างบน

วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งถูกปลุกให้ตื่นแต่เช้า ด้วยเสียงโทรศัพท์ เป็นสายจากโรงพยาบาลโทรมา ให้เธอรีบเข้าไปหาทันที

วันนี้เป็นวันทำงานวันแรกของมู่วี่สิง โรงพยาบาลกำลังขาดบุคลากร ในระยะเวลานี้ต้องการให้เวินจิ้งมาแทนในตำแหน่งผู้ช่วยแพทย์

“ฉัน……”เวินจิ้งนิ่งเงียบ

ผู้ช่วยของมู่วี่สิง?

เนื่องจากเป็นความต้องการของโรงพยาบาล จึงไม่มีทางปฏิเสธได้ ยิ่งไปกว่านั้นไป๋สือก็ได้รับการยินยอมแต่แรกแล้ว

เมื่อเธอได้เป็นผู้ช่วยของมู่วี่สิง เธอจะได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

เธอขยี้ผมอย่างหงุดหงิด หลังจากเวินจิ้งล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ยังไม่ทันจะได้ทานอาหารเช้ากับหลินเวย ก็ได้ออกจากบ้านไปแล้ว

หลิงอี้ได้รออยู่ข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว

ระยะทางจากที่นี่ไปถึงป้ายรถเมล์ถือว่าไกลพอสมควร แต่เธอไม่มีเวลาแล้ว มีแค่ทางเดียวคือหลิงอี้ต้องไปส่งเธอ

“ขอโทษที่รบกวนนะ”

“ออกมาเร็วกว่าที่ผมคิดไว้นะ”หลิงอี้เม้มริมฝีปาก ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น“ไม่ได้ทานข้าวเช้าเหรอ?”

“ไม่ทานแล้ว ไปโรงพยาบาลกันเถอะ”เวินจิ้งพูด พร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัย

แต่กลับเห็นหลิงอี้หยิบแซนด์วิชและนมออกมาหนึ่งชุด เหมือนกับมันถูกเสกขึ้นมา

เวินจิ้งกระพริบตา ไม่ได้คาดคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ทานระหว่างทางละกันนะ ทานหมดก็คงจะใกล้ถึงที่หมายพอดี”พูดจบ เขาก็รีบสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที

“ขอบคุณนะ”

และก็เป็นจริงอย่างที่ว่า พอดื่มนมอึกสุดท้ายจนหมด ก็มาถึงโรงพยาบาลพอดี

เวินจิ้งเรียกว่าแทบจะวิ่งเข้าโรงพยาบาล มู่วี่สิงมาก่อนเวลาแต่เช้าแล้ว เวินจิ้งหลังจากเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมสีขาวก็มาที่ห้องทำงาน

มู่วี่สิงได้เริ่มการรักษาผู้ป่วยไปแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น รอบตัวเขายังถูกห้อมล้อมไปด้วยแพทย์ฝึกหัดจำนวนไม่น้อย ที่กำลังยุ่งอยู่กับการเป็นผู้ช่วยเขา

เมื่อเห็นเวินจิ้ง เขาก็ให้เธอมาอยู่ข้างๆ เขา

“นั่งลงสิ”

เวินจิ้งรู้สึกชาทั้งหัวศีรษะ,สายตารอบด้านที่มองมาที่เธอให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็มแหลม

ทั้งอิจฉา ทั้งริษยา และความไม่พอใจ

ถัดไปเป็นช่วงเวลารักษาคนป่วย เพราะความยุ่ง จึงทำให้เวินจิ้งค่อยๆ ผ่อนคลายลง ทุ่มเทให้กับงาน โดยไม่ค่อยได้ใส่ใจหรือสนใจตัวเอง ผู้ชายคนนั้นก็คือ มู่วี่สิง

ตั้งแต่เช้า เวินจิ้งแทบจะไม่มีเวลาพักเลย เวลาเกือบจะบ่ายสองโมงแล้ว มู่วี่สิงเพิ่งจะตรวจผู้ป่วยทั้งหมดเสร็จ ทั้งยังมีพยาบาลได้สั่งอาหารไว้ให้สำหรับทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว

ภายในห้องทำงาน เวินจิ้ง จงใจนั่งให้ห่างจาก มู่วี่สิงให้ไกลมากที่สุด

เมื่อเห็นผู้ชายคนนั้นยังคงดูบันทึกทางการแพทย์อย่างตั้งใจ เธอค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น

กล่องอาหารที่วางอยู่ข้างๆ เขา ยังคงไม่ถูกแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายเลย

“คุณหมอมู่คะ ทานข้าวก่อนไหมคะ”เวินจิ้งทนไม่ไหวที่จะเริ่มพูดก่อน

เมื่อเขาได้ยิน มู่วี่สิงก็เงยหน้าขึ้นมอง ถึงแม้ใบหน้าเขาจะดูเหนื่อยล้า แต่ก็ยังคงแสดงออกถึงความมุ่งมั่น

“มาอยู่ข้างๆ ผมหน่อยสิ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้ยินประโยคที่มู่วี่สิงพูด เธอจะเริ่มกังวลก็ถูกแล้ว!

เมื่อมองดูเวลา ก็ถึงเวลาที่เธอใกล้จะต้องกลับไปที่มหาวิทยาลัยแล้ว ไม่สามารถอยู่ต่อได้

แต่มู่วี่สิง ก็เรียกเธอไว้“ข้อมูลของผู้ป่วยเหล่านี้ ให้คุณจัดการแยกข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดให้เรียบร้อย ในคาบเรียนวันศุกร์ผมจะต้องใช้”

“นี่ไม่ใช่งานที่ฉันต้องทำ!”เวินจิ้งสวนตอบ

“ตอนนี้ คุณคือผู้ช่วยของผม”มู่วี่สิงเตือนเธอ

เวินจิ้งโกรธ แต่ก็ไม่สามารถตอบโต้เขาได้

นี่คือคำสั่งการของคณบดี แต่ตำแหน่งผู้ช่วยของมู่วี่สิง มองยังไงก็ยังไม่น่าจะถึงรอบของเธอ……

อันที่จริง เมื่อตะกี้ เธอเห็นแพทย์ฝึกหัดจำนวนไม่น้อย ที่อยากจะอยู่กับมู่วี่สิง

แต่ก็แค่ปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียว

“ก่อนวันศุกร์ฉันจะส่งให้คุณค่ะ”เวินจิ้งทำได้แค่ตอบกลับไป

ในเวลานี้ โจวหย่านในชุดพยาบาลได้ผลักประตูเข้ามา เมื่อได้เห็นเวินจิ้ง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ

แต่เพียงไม่นานสีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ เธอเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ มู่วี่สิง“วี่สิง ฉันผ่านการทดลองงานแล้วนะ แล้วก็ได้สมัครกับผู้บริหารแล้วด้วย ว่าจะมาอยู่ข้างๆ คุณน่ะค่ะ”

สีหน้าของมู่วี่สิงเฉยเมย และก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

โจวหย่านกัดริมฝีปากของเธอ แล้วหมุนตัวออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับเวินจิ้ง ที่ได้เดินออกมาแล้ว

เธอดึงการ์ดแต่งงาน ออกมาจากกระเป๋าของเธอ

“งานแต่งของฉันกับวี่สิง ถ้าเธอว่างก็มาได้นะ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้รับมา

“ไม่กลัวฉันไปพังงานเธอเหรอ?”เธอพูดน้ำเสียงเยือกเย็น

“ไม่กลัว พังได้ก็ตามฝีมือ”โจวหย่านยักคิ้ว

ปัจจุบันของโจวหย่าน ท้ายที่สุดก็ได้ถอดความไร้เดียวสาออกไป ตั้งแต่หนึ่งปีที่แล้ว โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก

การเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เวินจิ้ง คาดไม่ถึง

เมื่อก่อนคิดว่าเธอเป็นแค่เด็กสาวคนหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ กลับคิดว่าเธอเหมือนกับผู้ใหญ่คนหนึ่ง

“รับไปเถอะน่า ฉันไม่ได้อาฆาตพยาบาทนะ แค่หวังว่างานแต่งงาน จะมีคนเยอะหน่อย ให้มันคึกครื้นน่ะ”แล้วก็ยัดการ์ดเชิญใส่ไว้ในมือของเวินจิ้ง แล้วโจวหย่านก็รีบกลับเข้าไป ที่ห้องทำงานของมู่วี่สิงทันที

เธอพูดด้วยความตื่นเต้นว่า“รายละเอียดของงานแต่งงาน ฉันได้ตรวจสอบกับผู้ช่วยเกาแล้วนะคะ เวลาก็ช่างผ่านไปเร็วเนอะ เหลืออีกแค่หนึ่งอาทิตย์ พวกเราก็จะแต่งงานกันแล้วค่ะ”

มู่วี่สิงสีหน้าเรียบนิ่ง“โจวหย่าน นี่คือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ใช่ไหม?แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักคุณเลย”

คำพูดของมู่วี่สิง ตรงไปตรงมา และไม่ได้ใส่ใจ

โจวหย่านนิ่งงัน แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการ

ตราบใดที่ได้อยู่ข้างๆ เขา แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

เธอจะทำให้เขาตกหลุมรักเธออย่างช้าๆ

“มู่วี่สิง นี่คือความปรารถนาของฉันมาตลอด”โจวหย่านพูดอย่างมั่นใจ

มู่วี่สิงกระตุกริมฝีปากบาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหม่นหมอง

……

การสอบปิดภาคเรียนใกล้เข้ามาถึงแล้ว เวินจิ้ง วิ่งไปวิ่งมา ระหว่างโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย รอจนถึงเช้าวันพฤหัส ถึงจะจัดการทำเอกสารที่มู่วี่สิต้องการ แล้วส่งเข้าเมลล์เขาทันที

หลังจากจัดการเรื่องนั้นเสร็จ เวินจิ้งก็ได้รับสายโทรศัพท์จากหลินเวย ว่าให้ไปทานอาหาร ที่ร้านอาหารยุโรปในใจกลางเมือง หลังจากเธอเลิกเรียน รถของตระกูลหลินก็ได้มารอรับเธอก่อนแล้ว

เธอคิดว่าจะเป็นมื้อเย็นสำหรับสองคน แต่ไม่คิดว่าทั้งโต๊ะจะมีคนจำนวนหนึ่ง

“เสี่ยวจิ้ง มานั่งนี่มา ท่านนี้คือคุณน้าหลี่ และนี่คือลูกชายของน้าเขา ชื่อหลี่ซี่จ๊ะ”

“สวัสดีครับ”หลี่ซี่ยื่นมือออกมา

เวินจิ้งสีหน้านิ่งเรียบ ใช้เวลานาน กว่าจะยื่นมือไปจับมือเขา

ตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยนั้น เธอยุ่งมาก ยุ่งจนลืมถามหลินเวยว่า อาหารเย็นคืออะไร!

ถ้ารู้ว่านัดมาหาคู่ เธอก็คงไม่มาแล้ว!

แต่ตอนนี้ ได้แต่ฝืนใจนั่งลงไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท