Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 413

ตอนที่ 413

บทที่ 413 คำสั่งบัญชาการสูงสุด

เสียงฝีเท้าของมู่วี่สิง หยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอ“เมื่อกี้เธอเครียดเหรอ?หืม?”

อารมณ์เมื่อกี้ของเวินจิ้ง เขามองมันตลอด

“ก็ดีค่ะ”เวินจิ้งพูดเสียงแผ่วเบา

เธอไม่ต้องการที่จะยอมรับความจริงต่อหน้ามู่วี่สิง

“วันนี้ขอโทษที่รบกวนคุณนะ คุณหมอเวิน”มู่วี่สิง รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้ง เมื่อได้ยินคำเรียกแบบนั้น ก็รู้สึกมึนงง

นี่เป็นครั้งแรก ที่มีคนเรียกเธอแบบนั้น

เธอยังคงเป็นแพทย์ฝึกหัดภายในโรงพยาบาล ยังเป็นนักศึกษา แต่มู่วี่สิงเรียกเธอแบบนี้ เป็นการเรียกความมั่นใจให้กับเธอมากๆ

รอยยิ้มบนริมฝีปากเธอ กว้างขึ้น

แต่ในวินาทีต่อมา โจวหย่านก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ผู้ป่วยยังคงต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล คืนนี้เธออยู่เฝ้าเวรก็แล้วกันนะ”

น้ำเสียงของเธอ เหมือนเป็นคำสั่งบัญชาการสูงสุด

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอรู้หน้าที่ ความรับผิดชอบของตัวเองอยู่เสมอ แต่เฝ้าเวรคือหน้าที่ของโจวหย่าน ไม่ใช่หน้าที่ของเธอ

“คุณพยาบาลโจวคะ ตารางเวลาของฉันคือ วันพรุ่งนี้เช้า แต่ว่า ถ้าเธอต้องการให้ฉันฟังคำสั่งของเธอ ก็ช่วยพิจารณา ไตร่ตรอง สถานะตำแหน่งของตัวเองด้วยนะคะ”

เมื่อพูดจบ ก็รีบเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ทำบันทึกรายงานการผ่าตัดของวันนี้

เธอกำลังจะเตรียมตัวจะออกไป มู่วี่สิงก็ได้เดินเข้ามา และในมือก็ถือเสื้อคลุมสีขาวที่เขาเพิ่งถอดออก

เวินจิ้ง ก็ได้ถือโอกาสส่งรายงานให้เขา“ศาสตราจารย์มู่ นี่คือบันทึกรายงานการผ่าตัดของวันนี้ค่ะ”

“อืม”มู่วี่สิงตอบกลับ และรับไป แต่ก็ไม่ได้ดูรายงานในทันที

“อีกเดี๋ยว คุณจะไปทานข้าวกับผมไหม?”น้ำเสียงของเขาดูปกติ ราวกับเพียงแค่ถามเฉยๆ

เวินจิ้งสีหน้าเรียบนิ่ง และรีบส่ายหน้าทันที

“ฉันต้องรีบกลับมหาวิทยาลัย”

“ผมไปส่งคุณได้”

“แต่มันไม่ใช่ทางเดียวกัน”เวินจิ้งหาข้ออ้าง

จัดเก็บกระเป๋าหนังสือของเธอเรียบร้อย ก็รีบเดินออกมาอย่างรวดเร็ว

มู่วี่สิง ได้แต่ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง ก็ไม่เห็นร่างของเวินจิ้งแล้ว

สีหน้าของเขา หดหู่ลงทันที

ไม่นานนัก โจวหย่านก็เดินเข้ามา เหลืออีกแค่สามวัน ก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว แต่ในส่วนการเตรียมงานในช่วงแรกนั้น มู่วี่สิงไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ เลย

ภายในใจเธอ เริ่มรู้สึกเป็นกังวล

ความสุขอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม แต่ทำไมยังรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นของเธอ

ใบหน้าแห่งความผิดหวังก็ปรากฏขึ้น โจวหย่านมองไปที่ใบหน้าของผู้ชายที่ไม่ได้สนใจเธอเลย ลังเลที่จะพูดออกไป

“วี่สิง เหลืออีกเพียงแค่สามวันก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว……ฉัน……ฉันรู้สึกประหม่ามาก”โจวหย่านกระวนกระวายใจ

เมื่อได้ยิน มู่วี่สิงก็เงยหน้าขึ้นจากกองประวัติผู้ป่วย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“ให้คนของตระกูลโจวมาอยู่เป็นเพื่อนคุณสิ ช่วงนี้ก็ไม่ต้องมาทำงานแล้วก็ได้ อยู่ที่บ้านทำใจให้สบาย”

โจวหย่านเม้มริมฝีปาก และไม่พูดอะไรต่อ

คนในตระกูลโจวเหรอ วันแต่งงานนู่นแหละ ถึงจะโผล่ออกมาให้เห็น แต่เธอก็ไม่อาจทำใจให้สบายได้ ให้อยู่ที่บ้าน ยิ่งทำให้คิดฟุ้งซ่าน สู้ให้มาทำงานที่โรงพยาบาล ยังมีโอกาสได้เห็นมู่วี่สิงด้วย

“ฉันคิดว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีแล้วล่ะ วี่สิง คุณได้ลองชุดเจ้าบ่าวชุดใหม่หรือยังคะ?”โจวหย่านถาม

ในดวงตามู่วี่สิง เปล่งประกายความเยือกเย็นออกมา“ไม่มีเวลา”

เมื่อพูดจบ ก็ได้รีบร้อนออกไปจัดการกับงานอื่นๆ ต่อ

โจวหย่านจับปลายคางของเธอ ในสายตาของเธอ เห็นถึงความเมินเฉย ที่มู่วี่สิงได้ทิ้งไว้

รู้สึกเสียใจมาก

ด้านนอก เกาเชียนก็ได้ขับรถมาจอดรอเรียบร้อยแล้ว

มู่วี่สิงนั่งที่เบาะหลัง,ใบหน้าของเขาหม่นหมอง

เกาเชียน เงอะๆ งะๆ ถือถุงที่วางไว้ที่นั่งข้างคนขับขึ้นมา“ประธานมู่ ชุดนี้ วางไว้ในห้องทำงานนานแล้วนะครับ……”

น้ำเสียงของเกาเชียน เบาลงเรื่อยๆ เป็นเพราะสายตาของมู่วี่สิง ที่เยือกเย็นขึ้นเรื่อยๆ ……

วางถุงนั้นลง แล้วเกาเชียนก็รีบดึงมือเขากลับทันที

สายตาของผู้ชาย มองลงไปยังชุดเจ้าบ่าว ที่อยู่ภายในกล่อง และด้านบนกล่อง มีข้อความที่โจวหย่านได้เขียนทิ้งไว้——ไม่รู้ว่าคุณใส่ชุดไซต์ไหน ฉันจึงเตรียมไว้สองชุดนะคะ

“ประธานมู่,ตอนนี้คุณจะกลับไปที่ไหนดีครับ?”เมื่อผ่านไปสักพัก ยังไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากboss,เกาเชียนถามอย่างกระวนกระวายใจ

“บ้านใหญ่”

มู่ซือซือ ได้แต่รอพี่ชาย เมื่อเห็นว่าเขากลับมาแล้ว ก็เลื่อนรถเข็นไปข้างหน้า

“พี่คะ อาทิตย์นี้เป็นวันแต่งงานแล้ว ช่วงนี้พี่ก็ยังไม่หยุดพักผ่อนอีกเหรอคะ?แต่ละวันกลับมาดึกอย่างงี้”มู่ซือซือ พูดด้วยความเป็นห่วง

“ทำไมเธอยังไม่นอนห๊ะ?”มู่วี่สิงไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับ

“หนูนอนไม่หลับ”

“มีเรื่องกวนใจเหรอ?”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มองน้องสาวด้วยความเป็นห่วง

“หนูก็เป็นห่วงเรื่องพี่นี่แหละ เหลืออีกแค่สองวัน ก็จะแต่งงานแล้ว”มู่ซือซือกระวนกระวายใจ“คุณปู่คงจะไม่มาร่วมงานจริงๆ ”

คนเดียวที่ปรากฏตัวในตระกูลมู่ มีแค่เธอ สิ่งแวดล้อมต่างๆ ชวนให้โดดเดี่ยว และอ้างว้าง

และเธอรู้ว่า พี่ชายของเธอไม่ได้สนใจเลย หลังจากที่โจวหย่านได้ทำความรู้จักจนคุ้นเคยกับเธอ เธอก็ได้มีส่วนร่วมในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้ด้วย

แต่รายละเอียดงานทั้งหมดนั้น มู่วี่สิงไม่ได้ทราบรายละเอียดของงานเลย

“อืม”มู่วี่สิงสีหน้าซีด

“หนูได้ถามโจวหย่านและนะ,คนของตระกูลโจว จะมาถึงก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน,แต่มีแค่เพียงพี่ชายของเธอเท่านั้น ที่มาร่วมงาน”มู่ซือซือขมวดคิ้ว“ไม่คิดว่า ทางตระกูลโจวจะมีคนน้อยเหมือนกัน”

เมื่อได้ยิน มู่วี่สิง สีหน้าคิดหนัก

เพียงไม่นาน เกาเชียนก็เข้ามาภายในห้องหนังสือ และรายงานต่อมู่วี่สิง

“นี่คือตารางการเดินทางช่วงนี้ของเลี่ยวหยงครับ ผมคิดว่า เธอไม่คงทราบเรื่องของโจวหย่านมาก่อน”

“แจ้งเรื่องงานแต่งงานของโจวหย่าน ให้เธอทราบที”

“ถึงแม้ว่า พรุ่งนี้เธอจะต้องไปเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ แต่ข่าวก็ได้ถึงหูเธอแล้วครับ”เกาเชียนจัดการเรื่องต่างๆ เรียบร้อยเสมอ

มู่วี่สิงหลี่ตาลง ดึงบุหรี่ออกมาคีบไว้ที่ปลายนิ้ว ยืนอยู่ตรงหน้าบานหน้าต่างใหญ่ ความรู้สึกทั้งอ้างว้าง และโดดเดี่ยว

……

ใกล้จะปิดภาคเรียนแล้ว มู่วี่สิงได้หยุดการสอนเรียบร้อย อาทิตย์หน้าจะเริ่มการสอบแล้ว

วันเสาร์ เวินจิ้งต้องเข้ามาที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นประจำ ผู้บริหารระดับสูง ได้แจ้งให้ทราบว่า มีวิจัยที่ต้องทำเร่งด่วน และวันทั้งวัน เวินจิ้งแทบจะไม่มีเวลาพักเลย

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลินไห่ทั้งสองคน เริ่มบ่นกันแล้ว

แม้ว่าการสอบของมหาลัยตอนนี้ จะเป็นงานหนักแล้ว สำหรับหลักสูตรนอกตำราพวกนี้ก็ไม่อาจหลีกหนีไปได้ ขอแค่เพียงทำงานนี้ให้เสร็จ ก็จะได้จากไป

แต่คนที่ได้รับผิดชอบงานนี้ บางครั้งในวันอาทิตย์ ทุกคนก็ต้องมารับผิดชอบงาน

เวินจิ้งไม่ได้ขัดข้องอะไร และพรุ่งนี้ก็เป็นงานแต่งงานของมู่วี่สิง เธอ……ไม่อยากไปร่วมงาน

ณ เวลานี้ ชั้นบนสุดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

หลังจากมู่วี่สิง เสร็จสิ้นจากการประชุม ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ก็ได้นำรายงานการวิจัยในวันนี้มาส่งให้

“คนทำมีเพียงพอไหม?”เขาถาม

ตอนนี้ต้องเร่งทำให้ด่วนที่สุด ในทุกวัน ทีมผู้ร่วมงานวิจัยทุกคนก็ได้ทำงานล่วงเวลากัน

“ยังดีค่ะ ประธานมู่คิดว่า……”ผู้รับผิดชอบ ไม่กล้าคาดเดาความหมายของมู่วี่สิง

“นักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลินไห่จำนวนหนึ่ง ใกล้จะปิดภาคเรียนแล้ว เมื่อปิดภาคเรียนแล้ว ก็ให้พวกเขาเข้ามาช่วยได้เยอะขึ้น ยาชนิดนี้ คาดว่าจะพัฒนาเสร็จภายในปีหน้า”

“ฉันทราบค่ะ”

จนกระทั่งตอนค่ำ เวินจิ้งก็ออกมาจากห้องทดลอง ตอนนี้เหลือแค่เธอเพียงคนเดียว

ตอนนี้ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว

หลังจากเก็บของเรียบร้อย เวินจิ้งจะปิดประตูเพื่อออกไป

แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาออกมา ก็มีร่างสูงร่างหนึ่ง ที่สะดุดเข้ากับสายตา มู่วี่สิงจะผลักประตูเข้ามา

เวินจิ้งตัวแข็งทื่อ มองไปที่เขา ตาไม่กระพริบ

ในเวลานี้……ทำไมเขายังอยู่ที่นี่

โดยไม่ทันรู้ตัว เวินจิ้งกดปิดประตู ทำให้มู่วี่สิงติดอยู่ข้างนอก

ผู้ชายได้แต่ขมวดคิ้ว สีหน้าเศร้าหมอง

นิ้วยาวปลดล็อคประตูได้อย่างง่ายดาย ขายาวก้าวเข้ามาใกล้ทีละน้อยๆ

เวินจิ้งสีหน้าค่อยๆ ซีดลง

“ประธานมู่ มีอะไรไหมคะ?”เวินจิ้งพยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติที่สุด

“มีสิ”มู่วี่สิง ใบหน้าเรียบนิ่ง แล้วมองไปยังตัวของเวินจิ้ง

เธอถูกเขามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งผิดปกติ……

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท