Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 420

ตอนที่ 420

บทที่ 420 ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไป

“ฉีเซิน นี่โง่จริงๆ”หลิงอี้ส่ายหน้าไปมา บนใบหน้าแสดงถึงความเย้ยหยัน

“เขาจะถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงใช่ไหม”เวินจิ้งพูดเบาๆ

“อืม เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาทำอะไรไม่ได้แล้ว”หลิงอี้ตอบ“อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่ามันคงยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้หรอก บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปเพิ่งจะได้รับเงินทุนมาเอง”

เรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ เวินจิ้งไม่ค่อยเข้าใจมากนัก เกิดเรื่องขึ้นกับฉีเซิน ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ

แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่อาจสามารถคาดเดาได้

เมื่อเห็นว่า มู่วี่สิงได้เข้าไปในตึกแล้ว ไม่มีคำพูดไหนหลุดออกมาจากปากเขา เวินจิ้งก็ลงจากรถ

หลิงอี้ก็ได้เรียกเธอ“เลิกงานแล้วผมจะมารับคุณนะ”

“คุณหลิงคะ ขอรบกวนคุณ จอดรถให้ไกลจากที่นี่หน่อยนะคะ”เวินจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

หลิงอี้หัวเราะ“ผมจะพยายาม”

ชั้นบนสุดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เกาเชียน เขามาถึงก่อนตั้งแต่เช้า เมื่อเห็นว่าboss กลับมาแล้ว ก็รีบเปิดหน้าข่าวให้เขาดูทันที

“ประธานมู่,นี่เป็นข่าววันนี้ของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปครับ”

มู่วี่สิงหยิบมันขึ้นมา และมองมันอย่างเงียบขรึม

“ใครเป็นคนโพล่งเรื่องนี้ออกมา?”

ถึงแม้ว่า บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่ในเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่จะเอาชนะกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป

“น่าจะมี คนภายในของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปไปรายงานเขาครับ”

“เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเงินลงทุน”

เพียงครู่หนึ่ง มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“โจวเซินยังอยู่หนานเฉิงไหม?”มู่วี่สิงถาม

“ตระกูลโจวเขาอยู่ที่ประเทศCครับ ประธานมู่ โจวเซินขอพบคุณเป็นการส่วนตัว”

เมื่อเขาได้ยิน ปลายนิ้วเรียวของมู่วี่สิง ก็ถูคางของเขาไปมา ความเย็นชาแพร่กระจายไปทั่วดวงตาของเขา

“โจวเซิน”เขาพึมพำ เพียงครู่หนึ่ง มุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างเย็นชา

ในตอนกลางคืน เวินจิ้งออกมาจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็เกือบจะเวลาสี่ทุ่ม

หลิงอี้โทรหาเธอหลายครั้ง เธอเลิกงาน ถึงจะเห็นว่าเขาโทรหา

เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ แล้วโทรกลับไปหาเขา เธอไม่ได้สังเกตว่ายังมีร่างสูงร่างหนึ่งอยู่ด้วย

“หลิงอี้”

“เลิกงานหรือยัง?”น้ำเสียงดุของหลิงอี้ดังขึ้นมา

เวินจิ้งก็แค่ กล้าทำให้เขารอเธอถึงสี่ชั่วโมง

“เพิ่งเลิกน่ะ ตอนนี้คุณคงจะอยู่ที่ตระกูลหลินแล้วใช่ไหม?”เวินจิ้งถาม

เธอไม่คิดว่าหลิงอี้จะยังรอเธออยู่

“ผมอยู่ด้านหน้าของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังไม่ได้รับคุณกลับด้วย ผมจะกลับไปได้ยังไง”

เวินจิ้งนิ่งเงียบ และไม่รู้จะพูดอะไรไปสักพัก

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ตอบกลับไปเบาๆ“ฉันกำลังลงไปแล้ว”

หลังจากวางสาย แล้วเงยหน้าขึ้น เวินจิ้งก็มองสบตาเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งโดยไม่ได้ตั้งตัว

มู่วี่สิง……เขาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!

เมื่อตะกี้นี้เธอคุยโทรศัพท์มาตลอดทาง จึงไม่ได้สังเกตเขาเลย……

“ประธานมู่”เธอเรียกชื่อเขาอย่างสุภาพ

และก้าวถอยหลังออกมานิดหน่อย เพื่อรักษาระยะห่างจากเขา

มู่วี่สิงสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

จนลิฟต์มาหยุดอยู่ที่ชั้นล่างสุด เวินจิ้งถึงเรียกสติกลับมาได้ ว่าตัวเองลืมกดลิฟต์……

“หลิงอี้มารับคุณเหรอ?”มู่วี่สิงยังไม่ได้ออกไป และหันมามองเวินจิ้ง

สายตาของเขาเหมือนไม่ได้สนใจหรือแยแส แต่มันทำให้เวินจิ้งกลัวจนขนลุกขนพอง

“อืม”เธอตอบสั้นๆ

วินาทีต่อมา มือของผู้ชายก็มาจับที่ข้อมือของเธอทันที เวินจิ้งถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ผมไม่อนุญาต”มีเพียงสี่คำนี้ที่หลุดออกมาจากปากเขา และก็พาเวินจิ้งไปขึ้นรถของเขา

เมื่อเธอมีสติกลับมา เวินจิ้งก็ขัดขืนทันที แต่ว่าฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นมู่วี่สิง

“มู่วี่สิง ฉันจะลงรถ!”เธอจ้องมองเขาด้วยความโกรธ

มู่วี่สิงทำเป็นไม่ได้ยิน และล็อคประตูรถ เขาขยับมาใกล้เธอ เพื่อจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้ สีหน้ายังคงบึ้งตึง

ลักษณะแบบนี้ของเขา ทำให้เวินจิ้งรู้สึกกลัว

แต่ว่า เธอไม่ต้องการที่จะอยู่กับเขา……

เธอใช้ฝ่ามือดันไปที่หน้าอกผู้ชาย แล้วใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกไป“คุณอย่าทำเกินไปหน่อยเลย”

“เวินจิ้ง เป็นคุณที่กำลังยั่วยุอารมณ์ผม ผมเคยบอกคุณแล้วนะ ว่าห้ามเข้าใกล้หลิงอี้”ปลายคางของเธอถูกบีบแรงขึ้น สีหน้าของมู่วี่สิงช่างเย็นชา

“ทำไมคุณต้องมาสนใจฉัน นี่มันเป็นเรื่องของฉัน”

“ทำไมน่ะเหรอ……ก็คุณเป็นผู้หญิงของผมไง”

เมื่อพูดจบ ก็ก้มลงไปจูบอย่างร้อนแรง และปิดกั้นไม่ให้เวินจิ้งมีทางหนีได้

มือของเขากดไปที่ไหล่ของเธอ ทำให้เวินจิ้งถูกกดไว้บนเบาะที่นั่งข้างคนขับ ร่างกายของเขาทั้งหมดถูกออร่าของความดุร้ายครอบงำอยู่

เวินจิ้งนิ่งเงียบ……

เธอกับมู่วี่สิง……ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบนั้นแล้ว!

กัดไปที่ปากของเธออย่างโหดร้าย สัมผัสได้ถึงกลิ่นเลือดที่ปนมา และมู่วี่สิงยังคงทำต่อไม่ถอยออกไป

จนกระทั่งได้ลิ้มรสเค็มแปลกๆ เล็กน้อย……

เธอร้องไห้ออกมา

เวินจิ้งมองไปที่เขาอย่างเย็นชา ใบหน้าซีดเผือด สายตากำลังกล่าวหาเขาอย่างชัดเจน

เขาเกิดความรำคาญขึ้นมาในทันที มู่วี่สิงถอยออกห่างไปเล็กน้อย แล้วหายใจเข้าลึกๆ เพียงชั่วครู่ก็ทำใจให้สงบได้ขึ้นเล็กน้อย

เมื่อได้ยินว่าหลิงอี้จะมารับเธอ เขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมา และเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จึงตัดสินใจทำมันลงไปทันที

เขาไม่อนุญาต

ดวงตาของเวินจิ้งแดงก่ำ มือของเธอยังคงดันไปที่หน้าอกของเขา เธอหอบหายใจ แล้วก็ถามเขาด้วยเสียงต่ำ“ประธานมู่ เมื่อไหร่ฉันถึงจะลงรถได้”

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากบาง,แล้วตวัดสายตามองไปที่เธอ

“ถ้าผมไม่อนุญาตล่ะ”

“งั้นฉันก็คงต้องโดดลงจากรถ”เมื่อพูดจบ เธอก็เลื่อนกระจกรถลง

มู่วี่สิงมองด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วจับไปที่ข้อมือของเธอ จ้องมองเข้าไปในสายตาของเวินจิ้ง แล้วค่อยๆ คลายมือของเขาออก

“ผมกับโจวหย่าน ไม่ได้แต่งงานกัน”เขาพูดคำต่อคำ

“แล้วยังไงเหรอ?”เวินจิ้งยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ผมจะไม่ยอมปล่อยคุณไป”เขาพูดสาบานอย่างจริงใจ

แต่เวินจิ้งก็หัวเราะขึ้นมาทันที“มู่วี่สิง ยิ่งคุณทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้ฉันคิดว่า คุณชอบฉันมาก”

มู่วี่สิงหรี่ตาลง ไม่ได้พูดอะไร

ดวงตาของเขาลึกดั่งทะเล ทำให้เธอไม่สามารถเดาความรู้สึกได้

“คุณเคยพูดกับฉัน ว่าคุณจะไม่มีวันชอบฉัน มู่วี่สิง ฉันไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณพูดไว้”เวินจิ้งมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

แล้วใช้มือผลักเขาออกไป เมื่อเห็นเขาไม่ทันได้ตั้งตัว เธอก็รีบผลักประตูรถออกมา

มู่วี่สิงมองปฏิกิริยาของเธอ ความเจ็บปวดผ่านเข้ามาในดวงตา

เมื่อเรียกสติกลับมาได้ ก็ไม่สามารถที่จะหยุดมันได้แล้ว

เขาเปิดลิ้นชักรถหยิบบุหรี่ขึ้นมา คีบไว้ที่ปลายนิ้ว กำลังที่จะจุดไฟ แต่เขาก็โยนมันทิ้งไปซะก่อน

แล้วเลื่อนไปหยิบประวัติคนไข้ชุดหนึ่งที่อยู่ในลิ้นชักรถออกมา เขาอ่านตัวหนังสือที่อยู่ด้านบน แล้วหลับตาลง

ความมุ่งมั่นในดวงตาปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง เขาผลักประตูรถลงมา

ไม่ไกลกันนัก เวินจิ้งได้ขึ้นรถของหลิงอี้แล้วเรียบร้อย

เมื่อมองผ่านกระจกมองหลัง เธอสามารถมองเห็น มู่วี่สิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล กำลังยืนอย่างโดดเดี่ยว

ปลายเล็บของเธอ จิกฝังอยู่เข้าไปในฝ่ามือของเธอ เธอรู้สึกเจ็บมาก

แต่มันก็ยังน้อยกว่าเศษหนึ่งส่วนห้าภายในใจของเธอ ที่เจ็บมากกว่า

หลิงอี้มองไปที่เวินจิ้ง ที่แสดงอารมณ์ถึงความเจ็บปวด แต่ก็ยังไม่ยอมเคลื่อนรถไปข้างหน้า

เขาบีบพวงมาลัยรถแน่น บีบแน่นจนคิดว่ามันจะแตกละเอียดคามือเขา

เขาเหยียบคันเร่งอย่างแรง เวินจิ้งถึงมีสติกลับมา และมองไปที่กระจกมองหลังอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ในที่สุด ร่างของเขาก็ค่อยๆ เบลอมากขึ้นในสายตาของเธอ

เมื่อกลับมาถึงตระกูลหลิน ไม่คาดคิดว่าภายในห้องนั่งเล่น จะมีร่างๆ หนึ่งที่เวินจิ้งไม่อยากเจอ

หลี่ซี่เห็นเธอกับหลิงอี้กลับมาด้วยกัน ก็กำมือแน่น และรู้สึกโกรธ

“พวกคุณไปเดทกันมาเหรอ?”

เวินจิ้งไม่สนใจเขา เธอรู้สึกหิวมาก แล้วเดินตรงไปที่ห้องทานข้าว

หลิงอี้ก็เหมือนกัน ไม่ได้สนใจคำพูดของหลี่ซี่ไม่พอ ยังเดินผ่านเขาไปที่ห้องทานข้าวเหมือนกัน

ภายในห้องทานข้าว ทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะใหญ่เดียวกัน อาหารที่อยู่บนโต๊ะ ถึงแม้จะเย็นแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นของที่เวินจิ้งชอบ แต่เมื่อเธอกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้นก็อยากจะอ้วกออกมา

เธอวางตะเกียบลง เธอรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที ชายทั้งสองคนก็รีบวิ่งเข้ามาดู

หลี่ซี่สีหน้าเปลี่ยนไป,แต่หลิงอี้สีหน้าเป็นกังวล

“เวินจิ้ง——”ทั้งสองเรียกชื่อเธอ

เวินจิ้งโบกมือให้พวกเขา แล้วก็ปิดประตูทันที

ขมับของเธอรู้สึกปวดอย่างมาก เธอไม่สามารถพยุงตัวลุกขึ้นได้ แล้วสติของเธอก็ค่อยๆ เลือนราง……

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท