Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 424

ตอนที่ 424

บทที่ 424 เธอคือคนที่เขารักสุดหัวใจ

“เมื่อ10ปีก่อน เขาผลักคุณแม่ของพวกเราลงจากตึกชั้นที่สิบแปดด้วยมือของเขาเอง” มู่วี่สิงพูดทีละถ้อยคำ นัยน์ตาค่อยๆแดงขึ้นมา

ครั้งนี้เวินจิ้งถึงกับตกตะลึงสุดๆ ภาพเหตุการณ์แบบนี้ เธอแค่คิดยังรู้สึกขนลุกเลย

นั่นคือแม่แท้ๆนะ มู่เหิงทำได้ยังไง!

เขาทำไมถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้!

“ผมเห็นกับตา แต่กลับขัดขวางไม่ได้” น้ำเสียงมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เวินจิ้งรู้สึกสงสารจากใจ เข้าไปกอดหมู่วี่สิงไว้ เธอไม่ควรพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเลย

เรื่องนี้ เป็นฝันร้ายของหมู่วี่สิง

ชั่วชีวิตนี้ก็ไม่อยากนึกขึ้น แต่เขากลับจำเป็นต้องจำ

ถึงจะแก้แค้นให้คุณแม่ได้

“เรื่องก็ผ่านไปแล้ว มู่วี่สิง มู่เหิงเขาต้องได้รับการลงโทษแน่นอน” เวินจิ้งกระซิบเบาๆ

เธอก็รู้สึกทรมานมาก นึกถึงเมื่อยี่สิบปีที่แล้วมู่วี่สิงยังเป็นเด็กอยู่เลย

กลับเห็นภาพแบบนี้กับตาตัวเอง ที่คุณแม่เจอเคราะห์ ร้ายต่อหน้าต่อตา

ถ้าหากเป็นเธอละก็ คงเป็นความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตที่ไม่อาจรับได้

เธอทนไม่ไหวจึงร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกสงสาร

“อืม” อารมณ์มู่วี่สิงเย็นลงทันที

ก่อนที่จะเจอเวินจิ้ง ภาพพวกนี้จะโผล่ขึ้นมาในความฝันทุกคืน

แต่หลังจากนั้นเธอก็กลับมาอยู่ข้างกายเขาอีกครั้ง

ในที่สุดเขาก็มีเธอมาอยู่เคียงข้างตลอดไป

ยกคางของเธอ เขาจูบลงเบาๆที่น้ำตาเธอ อย่างระมัดระวัง เธอคือคนที่เขารักที่สุด

และเป็นที่สุดของหัวใจเขา

เขาทำใจไม่ได้ ที่เห็นเธอร้องไห้

“ไม่ร้องนะ อืม?” เสียงแหบของเขาดังอยู่ข้างหูเธอ

เวินจิ้งพยักหน้า เธอไม่ร้องไห้ เธอจ้องมองมู่วี่สิงทั้งน้ำตา จับที่หน้าเขา

“มู่วี่สิง ต่อไปเมื่อไหร่ที่คุณเสียใจ ฉันอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”

เขาตอบรับด้วยการจูบเธอ เขากอดเธอไว้แน่นๆ แรงจนอยากขยี้ราวกับอยากให้เธอเข้าไปอยู่ในไขกระดูกของเขาปานนั้น

……….

หลินเวยพึ่งกลับมาจากบริษัทหลินซื่อ ในห้องรับแขกเต็มไปด้วยคนที่คุ้นเคย

เธอชะงักฝีเท้า เธอเงยหน้ามองฉีเซินด้วยความประหลาดใจ

ทั้งเมืองกำลังประกาศจับกุมเขา เขายังกล้ามา!

หลินเวยโกรธสุดขีด แต่พอเห็นสภาพที่น่าเวทนาของฉีเซิน ก็รู้สึกโกรธไม่ลง

“ฉีเซินเธอไม่ควรอยู่ที่นี่ ” หลินเวยมองเขาอย่างเย็นชา

ฉีเซินยิ้มอย่างเย็นชา อดีตคนที่เคยมีเกียรติและศักดิ์ศรีตอนนี้ไม่หลงเหลืออะไรแล้ว เเสื้อเชิ้ตยับยู่ยี่ หนวดเคราบนใบหน้าก็ไม่จัดการ

ลำบากสุดๆ

“คุณแม่ ผมอยู่ข้างกายแม่ตั้งหลายปี แม่จะใจดำเห็นผมถูกส่งเข้าไปอยู่ในคุกจริงเหรอครับ ” ฉีเซนตะโกน สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

หลินเวยเม้มปาก ถ้าบอกไม่ใจอ่อนก็เหมือนจะโกหก

แต่เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉีเซินหมดหนทางที่จะไปแล้ว

“ฉันเคยเตือนเธอแล้ว เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่วี่สิง” หลินเวยพูดด้วยอารมณ์โมโห

“ผมถูกใส่ร้าย!” ฉีเซินพูดอย่างบ้าคลั่ง

“เธอทำผิดกฎหมายจริงๆ” หลินเวยขมวดคิ้ว

ฉีเซินหน้าบึ้งตึง “นั่นก็เพราะมู่วี่สิงบังคับผม! ไม่งั้นก็คงไม่มีการลงทุนให้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปทางด้านการเงิน ต้องโทษคุณแม่ที่ละเลยไม่สนใจบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป!”

หลินเวยก้มหน้าลง นั่งบนโซฟา สีหน้าค่อยๆซีดลง

“เธอคิดจะทำยังไง”

“ช่วยผมให้ออกไปจากหนานเฉิง”

“อำนาจของหมู่วี่สิงคุมไปทั่วเมือง ฉันไม่มีหนทาง”

“ใช่เหรอ?”

วินาทีต่อมา ฉีเซินถึงกับหยิบมีดออกมา พุ่งเข้ามาหาหลินเวยอย่างรวดเร็ว เอามีดจ่อที่คอหลินเวย

“คุณแม่ ผมจะออกไปจากหนานเฉิง!”

หลินเวยกลับรู้สึกนิ่งสงบ ฉีเซินเป็นลูกที่อยู่ภายใต้การสั่งสอนของเธอ เธอยอมรับว่าเธอละเลยเขาขาดการเอาใจใส่ ทำให้เขาต้องกลายเป็นแบบทุกวันนี้

“ได้ เธอรอฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะรีบจัดการให้

“เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ดีแล้ว” ฉีเซินยิ้มอย่างเย็นชา

แต่ก็ยังไม่ปล่อยหลินเวย

“โทรไปจัดการ!” เขาสั่ง

หลินเวยหยิบมือถือออกมา กดเบอร์ผู้ช่วยโทรออก

เครื่องบินส่วนตัวก็จะมาลงที่บนตึกบ้านหลินทันที

ฉีเซินถึงยอมปล่อยเธอ

หลินเวยนั่งอยู่ที่โซฟา มองฉีเซินด้วยแววตาที่ผิดหวัง

“อย่ามองผมแบบนี้ นอกจากออกไปจากที่นี่แล้ว ผมยังต้องการเงินสักก้อน” เขาข่มขู่

“ได้”

เวลานี้หลินเวยไม่มีทางเลือก

“เพียงแต่เธอกับฉันตัดขาดไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป” หลินเวยพูดอย่างเย็นชา

อีกอย่างฉีเซินเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้เอง “ออกจากหนานเฉิง ผมก็จะไม่รบกวนแม่อีก” ฉีเซินหลับตาลง

ก่อนที่เขาจะฟื้นตัว เขาจะไม่ยอมกลับมาแน่นอน

หลินเวยเงียบ มองฉีเซินก้าวขึ้นบันไดทีละก้าวทีละก้าว เครื่องบินส่วนตัวได้มาถึงที่นั่นแล้ว

เบอร์แจ้งความโทรติดแล้ว ความลังเลแว๊บเข้ามาในสายตา แต่สุดท้ายก็บอกความเครื่องไหวของฉีเซินให้ตำรวจรู้

จ้องมองเครื่องบินส่วนตัวค่อยๆบินขึ้น ฉีเซินยื่นหัวออกมา “แม่ต่อไปพวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

ใบหน้าหลินเวยไม่มีความรู้สึกใดๆ หันตัวกลับ พ่อบ้านวิ่งเขามาอย่างรีบร้อน

“คุณนาย ท่านบาดเจ็บครับ”

หลินเวยได้สติ พึ่งรู้ว่าที่คอถูกมีดของฉีเซินกรีดจนเป็นแผล

“ไม่มีอะไร”

“ไปหาหมอก่อนดีกว่าครับ!”

หลิงอี้พึ่งมาถึงโรงพยาบาลหนานเฉิงก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านว่าหลินเวยได้รับบาดเจ็บ

ขณะนี้เวินจิ้งที่อยู่ห้องผู้ป่วย เธอเองก็ได้ยิน

“คุณแม่เป็นอะไร?” เวินจิ้งถามอย่างกังวล

“ฉีเซินมาที่บ้านหลิน มาจี้ตัวคุณนายหลิน” หลิงอี้สีหน้าหนักแน่นจริงจัง

“ให้คุณแม่มาที่โรงพยาบาลหนานเฉิงเถอะ?” เวินจิ้งบอก

“ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วง”

ทันใดนั้น ผู้ช่วยของหลิงอี้เคาะประตูจากข้างนอก

“คุณหลิง ข่าวพึ่งรายงานมาว่าฉีเซินถูกจับกุมแล้ว”

ได้ยินข่าว หลิงอี้ถึงกับโล่งอก

“คอยจับตาดูความเครื่องไหวของฉีเซินไว้ตลอดนะ” หลิงอี้ออกคำสั่ง

ในใจเวินจิ้งห่วงแต่หลินเวย เรื่องของฉีเซินจะเป็นยังไงเธอไม่อยากรับรู้

“ไม่นาน หลินเวยมาถึงโรงพยาบาล เวินจิ้งไป คลินิกมีหลิงอี้ไปเป็นเพื่อน

“แม่คะ!” เห็นเลือดที่คอของหลินเวย เวินจิ้งยิ่งเป็นห่วงมากขึ้น

คุณหมอทำแผลห้ามเลือดให้อย่างรวดเร็ว แต่สีหน้าหลินเวยซีดมาก

เวินจิ้งจับมือคุณแม่ รู้ได้ชัดเจนว่าแม่กำลังสั่นอยู่

” ไม่มีอะไรแล้วค่ะ แม่”

“ทำให้หนูเป็นห่วงแล้วนะ เสี่ยวจิ้ง” หลินเวยยิ้ม

“ฉีเซินทำไมถึงมาบ้านหลินได้คะ”

“เขาแอบพังประตูเข้ามา คงคิดไว้แล้วว่าแม่ต้องกลับมาเวลานั้น เวลานี้เขาคงถูกจับกุมแล้วมั้ง”

“คุณนายหลิน ฉีเซินถูกจับไปที่ศาลเรียบร้อยแล้วครับ ทางตำรวจยืนยันแล้วว่าห้ามประกันตัว คุณวางใจได้” หลิงอี้อธิบายอยู่ข้างๆ

“คิดไม่ถึงว่าเขาจะเกลียดฉันขนาดนี้” หลินเวยพูดเสียงเบาๆ

นึกถึงเมื่อกี้ตอนฉีเซินข่มขู่เธอด้วยอารมณ์โกรธแค้น ยังไงเธอก็รู้สึกสงสารเขา

เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก จะมากจะน้อยถึงยังไงก็มีความผูกพันอยู่

เวินจิ้งจับมือที่สั่งระริกของแม่ ปลอบใจ “ในเมื่อฉีเซินเขาทำผิดกฎหมาย ก็เพราะตัวเขาเป็นคนเดินผิดทางเอง”

“ตอนแรกที่เขาทำแบบนี้กับมู่ซือซือ แม่ก็ไม่ควรทำเป็นเมินเฉย” หลินเวยส่ายศีรษะอย่างผิดหวัง

ห่างจากนี่ไม่ไกล มู่วี่สิงมองพวกเขาสามคนอยู่ห่างๆ มันช่างเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ

สีหน้าเขาบึ้งตึง มืดขรึมที่สุด

สักพัก เลยเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไป

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท