Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 416

ตอนที่ 416

บทที่ 416 เขากับโจวหย่านไม่ได้แต่งงานกัน

เมื่อมาถึงประตูใหญ่ของโรงแรม เวินจิ้งพูดขอบคุณผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ“ขอบคุณค่ะ”

โจวเซินพยักหน้าอย่างไม่สนใจ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็ตวัดเข้ากับสายตาคม

ไม่ไกลกันมาก ก็มีสายตาของมู่วี่สิง กำลังมองมาที่เขา

เขาค่อยๆ ยกริมฝีปากบางขึ้น แล้วโจวเซิน ก็ได้เรียกเวินจิ้งไว้

“ต้องการให้ผมส่งคุณกลับไหมครับ?”

“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็รบกวนคุณมากแล้วค่ะ”เวินจิ้งอยู่ห่างออกมา

เมื่อพูดจบ ก็รีบเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว แต่ว่า มีรูปร่างหนึ่งที่เธอคุ้นเคย ทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง

ชุดสูทสีดำ ที่ด้านในสวมด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา รูปร่างที่หล่อเหลา และมีเสน่ห์

เขาได้มาขวางทางเธอไว้

ทำไม……เขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

ขณะนั้น ในหัวของเวินจิ้ง ก็เกิดความคิดขึ้นมามากมาย ท้ายที่สุดก็เหลือเพียงหนึ่งความคิด——เขากับโจวหย่านไม่ได้แต่งงานกัน

แต่ว่า เธอยังไม่กล้าที่จะเชื่อ

และสุดท้ายก็ได้พูดออกไป“ช่วยหลีกทางหน่อย ได้ไหมคะ?”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และยังคงไม่ขยับไปไหน

ดวงตาของเขามืดมนลง

บรรยากาศเริ่มชวนให้น่าอึดอัด นั่นทำให้เวินจิ้งเริ่มรู้สึกกลัว

“มู่วี่สิง”น้ำเสียงของเธอเย็นชาขึ้น

ตอนนี้ มีคนจำนวนหลายคนกำลังยืนอยู่ และมีคนจำนวนหนึ่งกำลังมองดูอยู่

“อืม”ช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอยออกมา และรถที่จอดรออยู่ที่ประตู ก็ได้จอดรอนานมากแล้ว

เวินจิ้งมองไปที่เขา ที่ค่อยๆ หันหลังเดินจากไปทีละก้าวๆ และเธอก็รู้สึกว่ามู่วี่สิงในตอนนี้ เขากำลังเหงามาก

แต่ทำไมเขาถึงมีความรู้สึกนี้อีกนะ

ในเวลานี้ เขาต้องไปอยู่ในห้องเรือนหอกับโจวหย่านไม่ใช่เหรอ?

ทำไมเขาถึงออกมาแค่คนเดียว……

เวินจิ้งเฝ้าดูเขา ค่อยๆ ก้าวห่างออกไป และในที่สุด เขาก็เดินจนลับตาเธอออกไป

ไม่ไกลกันนัก หลี่ซี่ก็เดินเข้ามาหาเธอ

“ไหนบอกว่าไม่เข้ามาไง?”

เวินจิ้งเมื่อเรียกสติกลับมาได้ ก็ไม่ตอบอะไร

ฝั่งตรงข้างเป็นป้ายรถเมล์ เธอมุ่งเดินข้ามไปทางนั้น

หลี่ซี่ยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะเดินตามเธอไป เวินจิ้งเดินไปถึงป้ายรถเมล์ หลี่ซี่ยังคงยืนอยู่ข้างๆ เธอ

“จะกลับมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ?”เขาถาม

เวินจิ้งพยักหน้า ในหัวของเธอตอนนี้ มีแต่ภาพที่มู่วี่สิงเพิ่งเดินจากเธอไปป,เธอถามพรึมพรำ“งานแต่งงานราบรื่นดีไหม?”

“ไม่ราบรื่น เจ้าสาวถูกพาตัวหนีไป”หลี่ซี่มองไปที่เธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้น แล้วหันหน้าไปมอง“คุณไม่ได้กำลังหลอกฉันอยู่ใช่ไหม?”

“คุณคิดว่าผมกำลังหลอกคุณอยู่เหรอ งั้นผมก็กำลังหลอกคุณอยู่”

แล้วระหว่างทั้งสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรต่อ ไม่นานนัก รถเมล์ก็มาถึง เวินจิ้งขึ้นรถ หลี่ซี่ก็ตามขึ้นไปยืนข้างๆ เธอ

ตลอดทางจนมาถึงมหาวิทยาลัย เวินจิ้งได้หันหน้าไปมองเขา“หลี่ซี่ ไม่ต้องตามฉันแล้วนะ”

“ได้ ผมมาส่งคุณแค่ตรงนี้นะ ว่าแต่ ผมยังไม่มีวีแชทของคุณเลย”หลี่ซี่ยื่นโทรศัพท์มาให้เธอ

“ฉันไม่ได้สนใจคุณ”

เวินจิ้งพูดอย่างไม่แยแส

เมื่อเธอกำลังจะหันตัว หลี่ซี่ก็จับข้อมือของเธอไว้“เวินจิ้ง ผมก็ไม่ได้สนใจในตัวคุณมากมายนักหรอก ถ้าพวกเราแต่งงานกัน มันก็เพื่อประโยชน์ของครอบครัวทั้งนั้นน่ะ”

ดวงตาของเวินจิ้ง เต็มไปด้วยสายตาที่ต่อต้านเขา ถึงแม้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ต้องการ

และถึงแม้ว่า มันจะเป็นความต้องการของหลินเวยก็ตาม

แล้วก็ใช้แรงดึงมือเธอกลับมา เธอไม่อยู่คุยต่อ

……

บ้านใหญ่ตระกูลมู่

มู่ซือซือ ไม่ได้ออกไปร่วมงานแต่งงาน ก่อนจะออกจากบ้าน เธอได้รับโทรศัพท์จากพี่ชาย เธอทำได้แค่รออยู่ที่บ้าน

งานแต่งงานครั้งนี้ ถือว่าไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาก ไม่มีสำนักข่าวไหนทราบเรื่อง สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง มู่ซือซือก็ไม่ทราบ

เมื่อเห็นพี่ชายกลับมา เขายังคงอยู่ในชุดสูท ดึงดูดคนให้หันมอง แต่ว่าข้างกายเขา กลับไม่มีโจวหย่าน

ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลานี้ พี่ชายไม่ควรที่จะกลับมาคนเดียว

“พี่คะ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ”

“งานแต่งงานถูกยกเลิกแล้ว”มู่วี่สิง สีหน้าเรียบนิ่ง

มู่ซือซือนิ่งเงียบ มองไปที่สีหน้าของพี่ชาย นอกจากใบหน้าที่เหนื่อยล้า เขาก็ไม่แสดงสีหน้าอื่นเลย

“พี่รู้แต่แรกแล้วใช่ไหม”มู่ซือซือน้ำเสียงมีความมั่นใจ

มู่วี่สิงไม่ตอบ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

มู่ซือซือ มองด้านหลังของพี่ชาย คิดถึงเมื่อก่อนที่พี่ชายให้เธอตีสนิทกับโจวหย่าน เรื่องของตระกูลโจว เมื่อได้นึกถึงช่วงเวลานั้น มันได้ถูกวางแผนมาก่อนแล้ว

เขารัก และเอาใจใส่เวินจิ้งอย่างมาก แล้วเขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง

เมื่อคิดขึ้นได้ มู่ซือซือก็ไม่รู้ว่าควรจะร้องไห้ หรือควรจะยิ้มกันแน่,ไม่คิดว่าคนที่ยังอยู่ในใจของมู่วี่สิงคนนั้น จะยังเป็นเวินจิ้ง

……

ที่หอพัก

เวินจิ้งหลังจากกลับมา เธอก็ผล็อยหลับไป หลิงเหยาไม่อยู่ จนถึงดึก เธอถึงตื่นขึ้นมา

หลิงเหยาโทรศัพท์มาหาเธอ แต่ไม่มีคนรับสาย รู้สึกเป็นห่วง จนรีบกลับมาก่อนเวลา

เมื่อเห็นเวินจิ้ง นั่งอยู่ด้านหน้าของโต๊ะอ่านหนังสือ ไม่เป็นอันตรายอะไร ถึงกับถอนหายใจออกมา

“เวินจิ้ง เธอทำให้ฉันตกใจนะ ทำไมไม่ยอมรับสายจากฉัน”

เมื่อเธอได้ยิน เวินจิ้งถึงนึกขึ้นได้ เปิดค้นกระเป๋าไปมา เธอไม่ได้ดูโทรศัพท์เลย

“ขอโทษนะ ฉันปิดเสียงโทรศัพท์น่ะ”

“วันนี้เธอออกไปไหนมาทั้งวันน่ะ?”หลิงเหยาถามลอยๆ

เธอรู้ว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของมู่วี่สิง แต่เธอมีเรียน และไม่ได้สนใจจะไปร่วมงานเลี้ยงนั้นด้วย เธอจึงไม่ได้ผ่านไป

แต่ว่าเวินจิ้ง……เธอเข้าใจความรู้สึกของเวินจิ้ง

กลัวว่า เธอจะผ่านวันนี้ไปไม่ได้

“ไปโรงแรมมาน่ะ”

“เธอไปงานแต่งงานมาแล้ว?”

“ใช่,แต่งานแต่งเหมือนว่า……ถูกยกเลิกกลางคัน”

หลิงเหยานิ่งเงียบ แล้วมองไปที่ใบหน้าที่นิ่งสงบของเวินจิ้ง ทุกอย่างเงียบไปช่วงเวลาหนึ่ง

ถูกยกเลิกเหรอ?

ส่วนเหตุผล เธอก็เลยคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวกับเวินจิ้ง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”หลิงเหยาถามอย่างสงสัย

“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ และเรื่องที่เกี่ยวกับมู่วี่สิง ฉันไม่ได้สนใจมันแล้ว”

คำพูดนี้ พูดให้ทั้งกับหลิงเหยา และพูดให้ทั้งกับตัวเอง

เรื่องนี้ หลิงเหยาแอบถามกับมู่ซือซือแล้ว แต่เธอรู้แค่ว่าโจวหย่านถูกพาตัวออกไประหว่างงานแต่งงาน โดยไม่มีใครทราบสาเหตุ

ตอนนี้ข่าวต่างๆ ก็ถูกสั่งให้ปิดข่าว

ต่อไปคือ ช่วงเวลาสอบปลายภาคที่แสนจะวุ่นวาย เวินจิ้ง ทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการอ่านหนังสือ และทบทวนเนื้อหา จนการสอบสิ้นสุดลง ก็ยังไม่ได้เจอกับมู่วี่สิง

ดูเหมือนว่า ผู้ชายคนนี้ จะได้หายไปจากโลกของเธออย่างสมบูรณ์

หลังจากการสอบวิชาสุดท้ายจบลง นักศึกษาเอกวิชาเดียวกัน ก็ได้กำลังวางแผนเพื่อจะไปท่องเที่ยวกัน แต่เวินจิ้งได้รับคำสั่ง ว่าปิดภาคเรียนนี้ ต้องเข้าไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เพื่อทำการวิจัยต่อ

ไม่ใช่เป็นการบังคับ เพราะคิดว่าเป็นเวลาวันหยุดของทุกคน ดังนั้นจึงเป็นสิทธิส่วนตัว ที่จะมีสิทธิเลือก

แต่ดูเหมือนว่า วันหยุดปิดภาคเรียนนี้ เธอไม่ได้วางแผนไปไหน

นอกจากนี้ นักศึกษาอีกสองคนที่มีส่วนร่วมในการวิจัยครั้งนี้ ก็ตัดสินใจร่วมทำงานวิจัยต่อ ในช่วงวันหยุดปิดภาคเรียน

แต่เธอ……

เวินจิ้งยังคงไม่ตอบตกลง และใช้เวลาหลายวันอยู่ที่มหาวิทยาลัย หลินเวยเรียกให้เธอกลับบ้าน ไปกินข้าว เธอถึงได้ก้าวเท้าออกจากหอพัก

หลิงเหยา ได้กลับไปที่บ้านหลิงตั้งนานแล้ว มหาวิทยาลัยเริ่มปิดเทอม ก็ดูเงียบสงบขึ้นมาเยอะมาก

ในขณะที่เดินผ่านห้องเรียน สายตาของเวินจิ้ง ก็ไปเห็นเข้ากับแท่นยืนที่คุ้นเคย

บรรยากาศระหว่างการบรรยายการสอนของมู่วี่สิง ค่อยๆ เข้ามาในใจ เขาจริงจัง น่าเกรงขาม แต่บางครั้งก็อ่อนโยน

เขาสามารถจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้เสมอ

ภาพที่คลุมเครือ ค่อยๆ หายไปจากใจของเธอ เวินจิ้งเรียกสติกลับมา เมื่อหันตัวกลับ ทันใดนั้นก็สบตาเข้ากับสายตาคู่หนึ่งที่เธอคุ้นเคย

ประมาณครึ่งเดือนได้ ที่ไม่ได้เจอกัน

แต่วันเวลาดูเหมือนจะผ่านมาเนิ่นนาน

ยังคงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว และกางเกงขายาวสีดำ ร่างสูงถูกปกคลุมด้วยแสงอาทิตย์ ทั้งหล่อ และสง่างาม

สายตาของเขา ดูเหมือนจะไม่ได้มองมาที่เวินจิ้ง เขาและเธอเพียงแค่เดินสวนทางกัน

และเธอมองเห็นเพียงด้านหลังของเขาเท่านั้น

เวินจิ้งกัดริมฝีปากของเธอ ความรู้สึกของการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กำลังท่วมท้นในใจ แต่เธอทำได้แค่ต้องระงับอารมณ์ไว้

เธอคิดถึงเขามากจริงๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท