Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 421

ตอนที่ 421

หน้าที่ 421 อิจฉาอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากผ่านไป2ชั่วโมงที่โรงพยาบาลหนานเฉิง

ที่นี่คือโรงพยาบาลส่วนตัวที่บริษัทหมู่ซื่อกรุ๊ปลงทุน เพื่อตัดขาดไม่ให้คนนอกเข้ามา หลิงอี้เลยต้องส่งเวินจิ้งมาที่นี่

หลี่ซี่ถูกเขาขวางไว้ให้อยู่ข้างนอกนานแล้ว ช่วงนี้หลินเวยไปทำงานนอกสถานที่ เรื่องเวินจิ้งสลบไม่ควรเปิดเผยให้ข้างนอกรู้ มู่วี่สิงได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว รีบไปโรงพยาบาลทันที อันที่จริงโรงพยาบาลจะไม่รับคนป่วยที่ไม่ได้ยื่นคำร้อง แต่เวินจิ้งได้รับการยกเว้น เดินมาที่ห้องผู้ป่วย หลิงอี้กลับขวางเขาไว้ กำคอเสื้อมู่วี่สิงไว้แน่น หลิงอี้ถามด้วยเสียงต่ำ “คุณรักษาเธอได้เหรอ?” เมื่อกี้ตอนที่เห็นสีหน้าซีดเซียวของเวินจิ้ง ที่ล้มอยู่ในห้องน้ำ ทำเอาเขาตกใจจริงๆ ถึงแม้ว่าหลายวันมานี้ ตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าเวินจิ้งจะแกล้งทำเป็นนิ่งใส่ แต่ยิ่งทำแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด เขาไม่อยากโกหกเธอ แต่ถ้าเวินจิ้งรู้อาการป่วยของตัวเอง สำหรับเธอมันเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไป

“ได้”

คิดไม่ถึงมู่วี่สิงจะตอบออกมาอย่างหนักแน่น

หลิงอี้มองเขาด้วยความแปลกใจ อย่างน้อยอาการที่เขารู้ เวินจิ้ง ณ เวลานี้ไม่ว่าจะเลือกรักษาวิธีไหนก็เสี่ยงอยู่ดี

“คุณแน่ใจ?” หลิงอี้หรี่ตา

“ผมจะรักษาเธอให้หาย” มู่วี่สิงยืนยันอีกรอบ พูดจบ ผลักหลิงอี้ออก เขาพากลุ่มทีมผู้เชี่ยวชาญเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย

เนื้องอกที่อยู่ในสมองเวินจิ้งเริ่มแพร่กระจาย ณ เวลานี้ต้องใช้วิธีการรักษาด้วยยา ถึงแม้โอกาสที่จะสำเร็จมีไม่มากก็ตาม แต่บางทีก็จำเป็นต้องลองดู มู่วี่สิงเขียนผลวินิจฉัยโรคทั้งหมดลงในประวัติเวชระเบียน ถ้าเวินจิ้งตื่นมาก็จะเห็นทันที เพียงแต่ผ่านไปสักพักกลับถือประวัติเวชระเบียนออกไปข้างนอก หลิงอี้เดินหน้ามาอย่างกังวล “เธอจะตื่นเมื่อไหร่?

“ภายใน3ชั่วโมง”

ส่วนจะเป็นเวลาไหน ก็ต้องดูปฏิกิริยาของร่างกายเวินจิ้ง

“คุณคิดว่าจะทำยังไง?” หลิงอี้ถามเสียงต่ำ ทางด้านการแพทย์หลิงอี้เชื่อมั่นในตัวมู่วี่สิงอยู่แล้ว เขามีอำนาจในด้านแผนกประสาท เวินจิ้งผ่าตัดครั้งนี้ ถ้าเขากับผู้เชี่ยวชาญด้านสมองผ่าตัดด้วยกัน ผลที่จะประสบความสำเร็จก็มีมาก

“ทำการผ่าตัด” เกี่ยวกับแบบแผนการผ่าตัดของเวินจิ้ง เขาศึกษามานานมาก อันตรายมันก็มี แต่ร่างกายเธอทรุดลงเรื่อยๆ ถ้าหากไม่ผ่าตัด กลัวว่าเวลาจะยิ่งน้อยลง

“โอกาสสำเร็จมีกี่เปอร์เซ็นต์?”

“ห้าเปอร์เซ็นต์”

“ไม่ได้” หลิงอี้โต้แย้งขึ้นทันที “เปอร์เซ็นต์น้อยขนาดนี้ ผ่าตัดไม่ได้”

“ผมจะทำสุดความสามารถ” มู่วี่สิงรับปากอย่างชัดถ้อยชัดคำ

หลิงอี้เม้มปากที่เย็นเฉียบ จ้องมองมู่วี่สิง แววตาทั้งสองคนกำลังขัดแย้งและหวาดกลัว เพราะผู้หญิงคนเดียวกัน

เพียงแต่ อารมณ์แบบนี้ครู่เดียวก็หายไป หลิงอี้พูดขึ้น “หากเธอเป็นอะไร ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”มู่วี่สิงที่เคยเย็นชา แววตาที่คมลึกของเขาแสดงความกังวลออกมา

กลับถึงห้องทำงาน พยาบาลก็ตามเข้ามาด้วย

ตอนนี้สีหน้าของมู่วี่สิงเยือกเย็นมาก เธอไม่กล้าเข้าใกล้เขาในทันที

“คุณหมอมู่ฉันสั่งอาหารให้คุณเรียบร้อยแล้วค่ะ คุณทานสักหน่อยนะคะ” พยาบาลอดถามไม่ได้

“ออกไป” มู่วี่สิงไม่ละสายตา จ้องมองแต่ผลการวิจัยโรคที่อยู่ในมือ

ในห้องผู้ป่วย หลิงอี้ยังคงยืนมองผู้หญิงที่ยังสลบอยู่ไกลๆ กำมือไว้แน่น

สักพัก ทุบกำปั้นไปที่กำแพงอย่างแรง แววตาแดงก่ำ

…… หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงเวินจิ้งตื่นขึ้นมา สิ่งแวดล้อมที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้แปลกตา

ที่นี่คือ…โรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลหมู่?

เธอยังจำได้คราวที่แล้วถูกมู่วี่สิงทำให้ง่วงอยู่ที่นี่

คิดมาถึงตรงนี้ แววตาปรากฏความหนาวเย็นขึ้นมา

สำหรับที่นี่รู้สึกขัดแย้ง

หลิงอี้ที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่ไกล เวินจิ้งหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจำได้ว่าเธออาเจียน ต่อมาก็ปวดหัวอย่างแรง…..หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว สีหน้าของเวินจิ้งดีขึ้นเยอะ เพียงแต่ร่างกายยังไม่มีเรี่ยวแรง ลุกนั่งยังไม่ไหว หลิงอี้พยุงเธอไว้ “นอนก่อน”

“คุณพาฉันมาส่งเหรอคะ?” เวินจิ้งถามอย่างอ่อนแรง

“อืม”

“ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลรัฐบาล” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

ที่นี่คือ…สถานที่ของมู่วี่สิง

“เวินจิ้ง มู่วี่สิงเขารู้อาการของเธอดี” หลิงอี้พูด

ถึงขั้นนี้แล้ว อาการป่วยของเวินจิ้งเขาก็ไม่อยากปิดอีกต่อไป เพียงแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง

เวินจิ้งชะงัก กัดริมฝีปากแน่นไม่ได้พูดอะไร

หลิงอี้พูดแล้วก็หยุดอั้มๆอึ้มๆ สรุปแล้วก็ไม่ได้พูดออกมา

ในห้องผู้ป่วยแผ่กระจายไปด้วยความอึดอัด

“ฉันรู้หมดแล้ว” สักพัก เวินจิ้งค่อยๆพูดออกมาอย่างเบาๆ

หลิงอี้เงยหน้า ประหลาดใจอย่างมาก

“เวินจิ้ง…” เขาพูดเสียงหนัก

“ฉันรู้อาการป่วยของตัวเอง พวกคุณไม่ต้องปิดบังฉันแล้ว” เวินจิ้งพูดคำพูดนี้ออกมาด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ

แต่ ..ไม่ควรเป็นแบบนี้

หลิงอี้คิดว่าเวินจิ้งจะเสียใจ แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น

เห็นความนิ่งสงบของเธอ ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด

“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถาม

“ครั้งที่แล้วตอนอยู่ที่นี่ ฉันก็รู้แล้ว”

“เวินจิ้ง มู่วี่สิงพูดแล้ว เขามีความมั่นใจที่จะรักษาเธอให้หายนะ”

เวินจิ้งยิ้มเบาๆ “ความสำเร็จในการผ่าตัดมีน้อยมาก ฉันก็รู้”

“เวินจิ้ง เชื่อผมนะ คุณต้องไม่ตาย!” หลิงอี้พึมพำพูดเหมือนคนบ้าคลั่ง แม้แต่ตายังแดงไปหมด

แต่เทียบกับเวิ้นจิ้งสีหน้าเธอกลับสงบนิ่งตลอด

“มีเวลาเหลือแค่5ปี ไม่ใช่หรอคะ?”

“อย่ายอมแพ้นะ” หลิงอี้จับมือเธอไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

“ฉันไม่ได้ยอมแพ้ แค่ตอนนี้ยังไม่มีวิธี ฉันทำใจไว้แล้ว” เวินจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากมีเวลาเหลือไม่มาก ถ้างั้นไม่กี่ปีที่เหลือ เธอก็จะเรียนปริญญาโทให้จบ มีโอกาสก็จะไปหาน้าเจี่ยน ยังไงเธอก็ยังคงอยากอยู่ใกล้ๆเขา

เพราะอยู่กับน้าเจี่ยน ถึงจะทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของบ้าน

“เวลานี้อาการของฉันเป็นไงบ้าง?” เวินจิ้งถามอย่างนิ่งสงบ

หลิงอี้ถึงได้สติกลับมา พึ่งนึกได้ว่ามู่วี่สิงเอาประวัติเวชระเบียนออกไปแล้วกำลังจะออกไปหาเขา ผู้ชายผลักประตูเข้ามาพอดี

ร่างที่แต่งชุดขาวของมู่วี่สิง ในสายตาของเวินจิ้งก็ยังคงหล่อเหลาสง่าน่าหลงใหล

เพียงแต่หน้าตาเขาก็ยังบึ้งตึงเหมือนเดิม

“ในเมื่อคุณเวินรู้อาการของตัวเองแล้ว ผมก็จะไม่ขอพูดมาก ตามแบบแผนของผมแนะนำให้รับการผ่าตัดให้เร็วที่สุด” คำพูดมู่วี่สิงเย็นชา

“ถ้าหากฉันไม่รับการผ่าตัดล่ะ?” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“จำเป็นต้องผ่าตัด” มู่วี่สิงน้ำเสียงหนักแน่น “ผมมีความมั่นใจ”

เวินจิ้งเม้มปาก สบตามู่่วี่สิง ตั้งนานโดยไม่ได้พูดอะไร ในใจก็ยังแปลกใจเสมอ เธอคิดว่า ตัวเองไม่มีความหวังแล้ว

ความคิดเห็นตรงกันหมดว่าเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งพิเศษ หากทำการผ่าตัดโอกาสเสี่ยงสูงมาก ทุกคนเตือนให้ล้มเลิก

แต่มู่วี่สิงขณะนี้กลับพูดกับเธออย่างนี้

“จริงเหรอคะ?”เธอถามอย่างตะลึง

“ใช่” มู่วี่สิงจ้องมองเธอ

หลิงอี้ไม่มีโอกาสแทรกเข้าไปพูดในระหว่างที่เขาสองคนกำลังคุยกัน ออกจากห้องผู้ป่วย เขาหลับตา วินาทีนี้รู้อย่างชัดเจนว่าตัวเองไม่มีทางที่จะได้อยู่กับเวินจิ้ง

ระหว่างเวินจิ้งกับมู่วี่สิงความรักผูกพันลึกซึ้ง ทำให้เขาอิจฉาจนบ้าคลั่ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท