Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 434

ตอนที่ 434

บทที่ 434 แพ้ให้กับความคิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ขยับอกของมู่วี่สิงเล็กน้อย อารมณ์เวินจิ้งค่อยๆเย็นลง

เพียงแต่ว่า เวลาชั่วขณะยังไม่ทราบว่าควรจะพูดอะไร

“หลายวันมานี้รู้สึกไม่ค่อยสบายหรือไม่?” มู่วี่สิงถาม

“ก็ดีค่ะ เหมือนเดิมค่ะ” เวินจิ้ง ไม่ค่อยมีอารมณ์ตอบ

“จำไว้นะครับให้กินยาตามเวลาที่กำหนด” มู่วี่สิง มองไปที่ขวดยากระพริบตาหนึ่ง

พยาบาลได้เปลี่ยนยาตามที่เขาบอกแล้ว

“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะเชื่อฟังนะคะ” เวินจิ้งเงยหน้า มองมู่วี่สีง ด้วยสายตาที่ชัดเจน

แผ่นสีเขียวที่อยู่ภายใต้สายตา ปลายนิ้วชี้สัมผัสเล็กน้อย “คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“อยากให้ผมอยู่ต่อไหม” มู่วี่สิงถาม

เมื่อคำพูดจบลง เขาก็เริ่มปลดกระดุมเม็ดแรกของสายเชื้อเชิ้ต ขายาวของเขาคร่อมขึ้นมาบนเตียง

เวินจิ้งเห็นท่าทีของเขา มุมปากกลั้นไม่ไหวยิ้มออกมา

“อยาก” เขาพยักหน้าอย่างหนัก

มู่วี่สิงขยี้แล้วปล่อยผมของเธอ ให้เธอเอนกายมายังอ้อมกอดของเขา กอดเธอไว้อย่างแน่น

สามวันแล้ว ที่เขาไม่กล้ามาหา

ครั้งแรก ที่เขาปรับอารมณ์ได้ยาก

เขาควรจะปกป้องผู้หญิงของเขา แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำให้เธอได้รับอันตราย

โทษตัวเองอยู่ลึกๆที่มีความรู้สึกที่จะหลีกเลี่ยงมัน

เพียงแต่ สุดท้ายแล้วก็พ่ายแพ้ให้กับความคิดที่ไร้ขอบเขต

“มู่วี่สิง คุณไม่ดีใจหรือ?” รู้สึกถึงความเหม่อลอยของผู้ชาย เวินจิ้งถาม

มู่วี่สิงส่ายหัว นอนลงข้างเธอ “ผมมีแฟนสาว ทำไมถึงไม่ดีใจล่ะ”

เวินจิ้งยิ้ม เห็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาอยู่ใกล้ เธอเริ่มจูบเขา

มู่วี่สิงแท้จริงแล้วเป็นคนที่เร่าร้อน ถูกเธอจุดประกาย ก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

ฝ่ามือประคองไปที่ท้ายทอยของเธอ เขาหลับตาลง เหมือนกับสายตาของหมาป่าราวกับจะกลืนกินเวินจิ้งเข้าไปทั้งตัว

สายตาแบบนี้ เวินจิ้งทั้งรักทั้งเกลียด

“มู่ลี่สิง ฉันยังเป็นผู้ป่วยนะ” เวินจิ้ง หยุดอารมณ์ได้ทันท่วงที

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มองรอยยิ้มเวินจิ้งที่เต็มไปด้วยร้อยเล่ห์มารยา ใต้ดวงตานั้นอดไม่ได้ที่จะแสดงออกมา

เธอมันนางปีศาจชัดๆ

แต่เขาก็ต้องมนต์เสน่ห์เธอไปแล้ว

“ฝันดีครับ จิ้งจิ้ง” เขาพูดข้างหูของเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งหลับตาลง ความสวยงามของวินาทีนี้ เธอชอบมันมาก

พอตื่นมาอีกทีเวลาค่อนข้างสายแล้ว ตำแหน่งด้านข้างลำตัวว่างอยู่

เวินจิ้งกระพริบตา ความหดหู่ใจค่อยๆลามไปในทันใด

ปลายที่แตะโดนราวกับกลิ่นอายของมู่วี่สิงยังอยู่ ทำไมถึงคิดถึงแบบนี้

ลุกขึ้นนั่ง เวินจิ้งกำลังจะไปล้างหน้า ได้ยอมรับความจริงเรื่องที่มู่วี่สิงเดินจากไปแล้ว

แต่คิดไม่ได้และเธอเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เงาคนที่เธอคิดถึงมากที่สุดกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ด้านหน้าวางเต็มไปด้วยอาหารเช้าที่เธอชอบกิน

เวินจิ้งตะลึง และขยี้ตาไปมา เพื่อจะให้มั่นใจว่ามู่วี่สิงยังไม่ได้จากไป

มู่วี่สิงหันไปหาแล้วโบกมือเรียกเธอ “มานี่ มาให้ผมนวดให้”

เวินจิ้งเดินตรงเข้าไป กอดผู้ชายที่ตัวเองชอบ ยังกระหน่ำจูบไปหลายครั้ง ถึงจะคิดได้ว่า “อ่อ ตัวจริงนี่”

“เดี๋ยวคุณต้องไปทำงานนะ?” ทานอาหารเช้าไปด้วย เวินจิ้งก็ถามผู้ชายที่อยู่ข้างกายไปด้วย

เขากำลังจัดการงานในบริษัทแล้ว

“อื่ม กลางคืนค่อยมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

“วันมะรืนนี้ฉันก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” เวินจิ้งคอยนับวันเวลา

“เหลือเวลาอีกครึ่งเดือนถึงจะเปิดเทอม ย้ายกลับมาที่การ์เด้นมูเจียวาน อื่ม?” มู่วี่สิงจ้องมาที่เธอ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ฉันจะกลับบ้านตระกูลหลิน”

วินาทีต่อมา สีหน้าของมู่วี่สิงก็คล้ำลงทันที

เวินจิ้งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังโกรธ

ใครบางคนที่กอดเอวอันบางเพรียวของเธอไว้ค่อยๆแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้สึกเจ็บ……

เธอได้เพียงแต่กระพริบตา “ความสัมพันธ์ของเราในตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาร่วมห้องหอด้วยกัน”

“รีบไปจดทะเบียน”

เวินจิ้ว……

เห็นหน้าผู้ชายที่มีความตั้งใจ เธอรู้ว่าเขากำลังพูดเล่นกับเธอ

“มีใครเหมือนคุณแบบนี้ พวกเราเพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน” เวินจิ้งพูดด้วยเสียงอ่อน

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นดึงเวินจิ้งเข้ามาในแขนของเขาอย่างแน่น

แรงที่กอดเธอราวกับว่าจะกอดเธอให้เข้าไปในกระดูกของเขา

เวินจิ้งถูกเขากอดจะจะหายใจไม่ออกแล้ว……

ตัวเขาราวกับมีกลิ่นอายของความทุกข์ใจอยู่บ้าง

เวินจิ้งเพียงคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง แต่ไหนแต่ไรมู่วี่สิงก็มีอารมณ์เฮฮาร่าเริง ไม่น่าจะมีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้

“อืม ผมเคารพการตัดสินใจของแฟนสาว” มู่วี่สิงพูดอย่างประนีประนอม

เวินจิ้งยิ้ม คำพูดของมู่วี่สิงเกินความคาดหมายของเธอ

“ดี” เธอเรียนน้ำเสียงของมู่วี่สิงที่เขาใช้ก่อนหน้านี้

สุดท้ายสร้างความหัวเราะก็คือเธอเอง

ทั้งสองรู้สึกเบื่อไปครู่หนึ่ง มู่วี่สิงกลับถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเวลาใกล้เที่ยงแล้ว

เกาเชียนโทรหาเขาตลอด มู่วี่สิงกดรับโทรศัพท์

“อื่ม?”

“ท่านประธานมู่ คุณปู่มู่มาแล้วครับ”

ได้ยินคำพูดแล้ว มู่วี่สิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ตามที่คาดคิด

ตามอารมณ์ของคุณปู่แล้ว จะต้องทนไม่ไหวแน่นอน

เดินเข้าไปในสำนักงาน มู่เฉิงนั่งลงบนโซฟา สีหน้าคล้ำมาก

เขามารอที่นี่นานถึง2ชั่วโมงแล้ว

“ไปโรงพยาบาลเหรอ?” เขาเปล่งเสียงถาม

“อื่ม” มู่วี่สิงนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“กลับมาก็ไม่บอกสักคำ ผมจะไปรับที่สนามบิน” น้ำเสียงมู่วี่สิงอ่อนๆ

“ฉันไม่อยากให้เธอทำฉันโกรธจนตายในสนามบิน” มู่เฉิงพูดพร้อมกับกระทืบไม้เท้าอย่างแรง

“คุณปู่ครับ อย่าพูดเรื่อยเปื่อยสิครับ”

“เธอยังรู้ว่าฉันเป็นปู่ของเธออีกเหรอ ลาออกจากตำแหน่งในโรงพยาบาลซะ และตำแหน่งศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ลาออกทั้งหมดเลย” มู่เฉิงพูดด้วยอารมณ์โกรธ

เขาเพียงแต่อยากให้การงานของหลานเขาไปอยู่ในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเพียงที่เดียว

มู่วี่สิงเงยหน้า สีหน้าเย็นชา “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ผมจะลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”

“เธอจะคิดกบฏแล้วใช่ไหม” มู่เฉินกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ ไม้เท้าถูกโยนไปที่ตัวมู่วี่สิง

เขาไม่หลบไม่หลีก

“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต้องให้เธอมาถืออำนาจ” มู่เฉิงพูด

“นั้นมันไม่ใช่คุณปู่ตัดสินใจเองได้” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เธอเป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป” ฉันพูดคำไหนคำนั้น

“คุณปู่ครับ ทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแต่ไหนแต่ไรก็ต้องเป็นลูกคนโตหรือหลานคนโต” มู่วี่สิงพูดเตือน

ตามกฎระเบียบนี้แล้ว ทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นมู่เหิงเพียงคนเดียว

มู่เฉิงก้มหน้าลง กฎระเบียบนี้เป็นทวดของมู่วี่สิง คนที่บุกเบิกบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นผู้ตั้งขึ้นมา

แต่ละรุ่นแต่ละสมัย ก็ไม่เคยเปลี่ยน

แม้ว่าตอนนี้มู่เฉิงจะเป็นประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ยังคงต้องปฏิบัติตามกฎข้อนี้

“เธอแน่ใจว่าจะให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกทำลายในมือของสาระเลวนั้น นั้นมันเป็นเลือดเนื้อของทวดเธอนะ” มู่เฉินโกรธจนใช้ไม้เท้ากระทืบพื้น

“คุณปู่ครับ ผมจะไม่ให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกทำลายครับ แต่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอาจไม่ต้องการฉัน”

มู่เฉิงไหนหรือจะฟังคำพูดของมู่วี่สิง ตอนนี้มู่วี่สิงยังไม่ได้เป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ตั้งใจที่จะเป็นทายาทของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่แล้ว

มีแต่เพียงเขา ถึงจะสามารถกุมอำนาจของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เขาไม่ยินยอมให้บุคคลอื่นเข้าแทรกแซงอำนาจของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้

“ในเมื่อเธอไม่ฟังฉัน อย่างนั้นเธออย่ามาโทษฉันแล้วกัน” คำพูดจบลง มู่เฉิงเดินออกไปด้วยอารมณ์โกรธ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มือที่จับปากกาอยู่ก็ค่อยๆแน่นขึ้น

เวลาผ่านไปนานพอสมควร ถูกท่านบดขยี้เลย

เกาเซียนที่เพิ่งเข้ามาตกใจจนไม่กล้าจะพูดอะไร

“พูดสิ” มู่วี่สิงรีบเก็บอารมณ์ในตอนนั้น

เกาเชียนกัดฟันเข้าไปรายงานสิ่งต่างๆตามปกติ สุดท้ายได้เตือนว่า “ท่านประธานมู่ คืนพรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงเปิดบริษัทใหม่บริษัทผลิตยายูเหิงของมู่เหิง”

“เตรียมชุดงานเลี้ยง”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท