บทที่ 449 ดูแลคุณนายมู่ในอนาคต
ทั้งสองกินมื้อดึกอยู่แถวนี้ ในระหว่างทางที่มู่วี่สิงส่งเวินจิ้งกลับไปตระกูลหลิน เธอเหนื่อยล้าจนนอนหลับแล้ว
หลินเวยโทรหาเวินจิ้ง มือถือเธอดังขึ้น
มู่วี่สิงมองสักพัก ไม่รบกวนเวินจิ้งตื่นแล้วรับสายเอง
“คุณนายหลิน เวินจิ้งอยู่กับผม “ มู่วี่สิงพูด
หลินเวยเป็นห่วงร่างกายเวินจิ้งตลอด ถามอย่างกังวล “มู่วี่สิง คุณบอกฉัน แผ่นชิปในสมองของเวินจิ้งเอาออกมาได้ไหม ? “
“ในหัวสมองของเวินจิ้งไม่มีชิปอะไรทั้งนั้น คุณนายหลินไว้ใจได้ เรื่องนี้ผมได้สืบละเอียดแล้ว “
“คุณว่าอะไรนะ? “ หลินเวยคิดไม่ถึง
เรื่องนี้ฉีเซินเป็นคนบอกเธอเอง ตอนฉีเซินโดนตัดสินจำคุกเธอก็ตกใจนัก แต่เชื่อมู่วี่สิง จึงไม่ได้ทำอะไร
แล้วตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นอีก ….
“ผมหาคุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้เวินจิ้งเจอแล้ว ผมเคยช่วยลูกชายของหมอคนนนั้น เขาไม่ทำอะไรกับเวินจิ้ง คุณนายหลินไว้ใจได้ “
ได้ยินเช่นนี้ ใจที่ตึงเครียดของหลินเวยก็สบายใจลงมาเล็กน้อย แล้วรวบรวมสติอารมณ์ใหม่
ไม่เป็นอะไรแล้ว …. แค่ลูกสาวเธอไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว
“คุณมั่นใจว่าเป็น ….” หลินเวยถามอย่างกังวล
“อืม ผมแน่ใจ ผมได้ตรวจสมองให้เวินจิ้งใหม่แล้ว คุณนายหลินไว้ใจได้ “
“งั้นก็ดีแล้ว เด็กคนนี้ลำบากมากแล้ว เธอไม่ควรจะมีเรื่องอีก “ หลินเวยพูดอย่างดีใจ
เป็นห่วงนานขนาดนี้ ถ้าเวินจิ้งทำการผ่าตัดอีก เธอก็ต้องรู้ว่าเธอต้องมีอันตรายอยู่แล้ว
ดีแล้ว ดีแล้ว
“มู่วี่สิง ในเมื่อลูกสาวฉันก็ยังเลือกคุณ ถ้าคุณยังทำให้เธอผิดหวัง ฉันไม่ปล่อยคุณไปแน่ “ หลินเวยใจเย็นลงมา น้ำเสียงก็จริงจังขึ้นมาไม่น้อย
เมื่อก่อนเธอรู้สึกไม่เห็นด้วยกับมู่วี่สิง คนในตระกูลมู่ เธอไม่อยากให้เวินจิ้งเข้าใกล้
แต่แค่ตอนนี้ สำหรับเรื่องที่ผู้ชายคนนี้ทำเพื่อเวินจิ้ง เธอก็เห็นแล้ว และไม่อยากจะขัดขวางแล้ว
“คุณนายหลิน ผมรักเวินจิ้ง “ มู่วี่สิงพูดเป็นคำเป็นคำ และมีความจริงใจเป็นอย่างมาก
เวลานี้ หนังตาเวินจิ้งค่อยๆยกขึ้น ในความมองไม่ชัดเจน มองเห็นใบหน้าหล่อสง่าของมู่วี่สิง
คำพูดนี้ จบอยู่ที่ข้างหูเธอ ทำให้เธอช็อคนัก
ขอบตาเริ่มร้อนขึ้น เวินจิ้งหลับตาลง มู่วี่สิงที่อยู่ข้างพูดอะไร เธอก็ฟังไม่เข้าหูแล้ว
เขารักเธอ
พอใจแล้ว
น้ำตาไหลลงอย่างทนไม่ไหว มู่วี่สิงวางสาย มองหญิงสาวที่เต็มไปด้วยน้ำตา รอยยิ้มที่รักและตามใจก็เผยออกมา
มือใหญ่ของเขาจับไปที่มือเล็กของเธอ
“ซึ้งขนาดนี้เลย ? “
เขารู้ว่าเวินจิ้งได้ยินคำพูดเขาเมื่อกี้แล้ว
เวินจิ้งไม่ได้แกล้งหลับต่อ ลืมตาขึ้นมามองมู่วี่สิงอย่างชัดเจน วินาทีต่อมา ขยับขึ้นมาจูบปากของเขาลง
หลายครั้งที่จูบ ก็เป็นมู่วี่สิงที่เป็นคนเริ่มก่อน เวินจิ้งจูบอย่างไม่มีเทคนิคใดๆ กอดคอเขาไว้เหมือนจะกินเขาลงไป
มู่วี่สิงหัวเราะ จับหลังคอเธอไว้ เสียงที่นุ่มนวลพูดที่ข้างหูเธอ “ ฝึกไว้””
พูดจบ ก็เป็นกระทำที่อ่อนโยนสุดขีด ทำเอาร่างกายเวินจิ้งจะอ่อนไปทั้งตัวแล้ว
หยดน้ำตาบนใต้ตาเปล่งประกาย เวินจิ้งพิงในอ้อมกอดของมู่วี่สิง “ ไปฝึกมาจากไหน”
เหมือนเริ่มแรกที่ยังไม่รู้จักมู่วี่สิง เทคนิคการจูบของเขาก็ดีนัก
เธอก็ชอบโดนเขาแกล้ง
“ไม่ต้องสอน ก็รู้เอง “ มู่วี่สิงพูดอย่างมั่นใจ
“เชอะ “
กลับถึงแถวตระกูลมู่ เวินจิ้งไปอาบน้ำก่อนแล้ว มู่วี่สิงดูข้อมูลของบริษัทสักพัก ยกสายตาขึ้น เวินจิ้งสวมชุดนอนลูกไม้สีขาวเดินออกมา
ผมของเธอยาวขึ้นไม่น้อย ยาวถึงกระดูกไหปลาร้า แก้มขาวยังมีหยดน้ำ สายตาค่อยๆมองมา เหมือนว่ากำลังเชิญชวนเขา
ความรู้สึกเหมือนไฟพุ่งขึ้นมา ลูกคอไม่อยู่เฉย มู่วี่สิงวางเอกสารลง ขายาวเดินมาใกล้ๆ
เวินจิ้งตั้งใจ
เมื่อกี้ ตอนหาชุดนอน เธอเจอชุดนอนตัวนี้โดยบังเอิญ เหมือนจะเป็นเมื่อก่อนที่เที่ยวห้างกับซูยิงแล้วเธอเป็นคนซื้อให้เธอ
เธอเหมือนจะไม่เคยใส่เลย
ผิวพรรณของเธอขาวอยู่แล้ว ชุดนอนสีขาวกลับทำให้ผิวพรรณของเธอขาวเหมือนมีแสงออร่ามากขึ้น เหมือนแกะเปลือกไข่ออก
สบสายตาของเขาที่เหมือนจะกินเธอลง เวินจิ้งมีความกลัวเล็กน้อยแล้วหันไป
แต่วินาทีต่อมา หน้าอกของมู่วี่สิงได้แนบเข้ามาแล้ว แขนยาวโอบตัวเธอไปทั้งตัว ให้เข้ามาในอ้อมกอดเขา ผลักไปที่กำแพง
อะไรบางอย่างทำให้ตัวเธอเกร็งไปหมด
แก้มของเธอก็แดงขึ้นมาเหมือนลูกมะเขือเทศทันที
ความรู้สึกแบบนี้ คุ้นชินมากพอแล้ว
“จิ้งจิ้ง เธอกำลังยั่วฉัน “ เสียงของมู่วี่สิงเหมือนมีไฟ
เวินจิ้งกัดปากไปมา ไม่กล้าหันหัวแล้ว
พูดจบ จูบของมู่วี่สิงก็ทนไม่ไหวที่จะหยุดที่ใบหูของเธอ จนถึงข้างล่างไปเรื่อยเรื่อย ทั้งตัวเวินจิ้งเหมือนมีไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัว รู้สึกชาไปหมด
ได้แต่พิงมู่วี่สิงไว้ ถึงจะยืนนิ่งได้
“อืม ….” เวินจิ้งตอบรับ
เสียงนี้จะทำให้ผู้ชายมีความอยากมากขึ้น แขนยาวยกขึ้น เวินจิ้งโดนเขาอุ้มมาถึงบนเตียง แสงไฟในรอบข้างค่อยๆมืดลง …
……
จนถึงเที่ยงของวันที่สอง เวินจิ้งถึงพึ่งตื่น
ภาพต่างๆของเมื่อวาน __วนอยู่ในหัวสมอง เธออายจนมุดเข้าไปในผ้าห่มแล้ว
ทั้งสองไม่ได้เป็นแบบนี้นานแล้ว หายไปนาน แต่ก็ยังไม่ลืม
เวินจิ้งชอบมาก
ในระหว่างการย้อนกลับไปคิด ผ้าห่มโดนดึงออก มู่วี่สิงที่แต่งตัวชุดสบาย มองแก้มที่แดงของเธอ ยิ้มออกมา “ คิดอะไรอยู่ หน้าแดงขนาดนี้ “
เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่กระพริบสายตา ผู้ชายคนนี้ …. ยิ่งมองก็ยิ่งหล่อ
ยิ่งอยู่ยิ่งทนไม่ได้แล้ว
“คิดถึงคุณ “ อยู่ข้างมู่วี่สิง เหมือนจะยิ่งอยู่ยิ่งกล้าแล้ว……
ที่ตอบรับเธอคือจูบที่เอาแต่ใจและตามใจของมู่วี่สิง
เที่ยงแล้ว มู่วี่สิงทำอาหารกลางวันเสร็จแล้ว ไม่ได้ชิมฝีมืออาหารของมู่วี่สิงนานแล้ว เวินจิ้งคาดหวังเป็นอย่างมาก
ดื่มซุปเข้มข้นแล้ว สายตาของเวินจิ้งก็ไม่ออกจากมู่วี่สิงเลย
“ระวังร้อน “ มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ถือถ้วยเธอออก แล้ววางลงให้เย็น
“อืม “ เวินจิ้งตอบรับอย่างเชื่อฟัง
ทานอิ่มอย่างพอใจ เวินจิ้งง่วงอีกแล้ว …
วันนี้ไม่ใช่วันหยุด เวินจิ้งถึงพึ่งนึกขึ้นได้ มองไปทางผู้ชายที่อยู่ข้าง “ คุณไม่ไปทำงานหรอ “
“เพื่อเธอ ขาดงาน “ มู่วี่สิงพูดอย่างจริงจัง
“พูดไปมั่ว คุณไปทำงานตอนนี้ก็ได้ “ เวินจิ้งพูดอย่างไม่พอใจ
เกี่ยวอะไรกับเธอ …..
“ฉันต้องดูแลคุณนายมู่ในอนาคต ห่างจากเธอไม่ได้ “
เวินจิ้งเผยรอยยิ้มออกมา เก็บภาชนะอาหาร เธอมองเวลา ควรกลับไปตระกูลหลินแล้ว
หนังสือของเธออยู่ที่ตระกูลหลินหมด อีกไม่กี่วันก็เปิดเรียนแล้ว ไม่มีอะไรทำ เธอก็อยากอ่านหนังสือบ้าง
“ช่วงนี้ อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนฉัน คุณนายหลินก็ไม่ว่าอะไร “ มู่วี่สิงกลับไม่ให้โอกาสเธอจากเขาไป
ที่จริงเวินจิ้งก็ไม่อยาก ……
“บ้า “
“ง่วงก็ไปนอน ฉันไปจัดการงาน “ มู่วี่สิงลูบหัวเธอ เหมือนลูกหมา
เวินจิ้งรีบตอบรับกลับ “ ฉันไม่นอน พึ่งทานเสร็จแล้วนอนจะอ้วนได้ “
“อืม อ้วนขึ้นก็ดี เธอเล็กไป” มู่วี่สิงขมวดคิ้วพูด