Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 465

ตอนที่ 465

บทที่ 465 ใครก็ไม่กล้าคิด

สำหรับเวินจิ้ง มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากถ้ามู่วี่สิงรับมือบริษัทมู่ซือกรุ๊ปเพื่อเธอจริงๆ

“พี่ชายของฉันเป็นเจ้าหลงกับความรักเหลือเกิน”มู่ซือซือกล่าวอย่างไม่รู้ทำยังไง

“ซือซือ ในสายตาของคุณ คิดว่าฉันจีบคุณนานเท่าไหร่”ส้งวี่จับหน้าของมู่ซือซือ

มู่ซือซือคายลิ้น แซวเขาว่า”แค่สามปีเอง ยังมีหน้าจะถามอีก”

เวินจิ้งมองคู่รักที่แซนเล่นกัน มียิ้มบนใบหน้าโดยที่เธอไม่รู้ตัว

ผ่านไปไม่นาน มู่วี่สิงฏ้ก็ปฏิเสธแขกหลายคนและนั่งอยู่ข้างๆเวินจิ้ง

“คืนนี้คุณปู่มีความสุขมาก”เวินจิง้มองรอยยิ้มแสนสดใสของคุณปู่ ท่าทางที่กระฉับกระเฉงกว่าเมื่อก่อน

“อื่ม เขาชอบงานที่มีชีวิตชีวา แถมมีเพื่อนที่รู้จักกันมาด้วย”

“ซือซือ ใกล้จะสอบแล้ว เตรียมตัวสอบได้ยังไงบ้าง”มู่วี่สิงถามเธอ

อีกหนึ่งเดือนซือซือก็จะเข้าสอบเข้าวิทยาลัยผู้ใหญ่แล้ว ช่วงนี้ส้งวี่ดิวสอบให้เธอตลอด

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ฉันมีความมั่นใจในตัวเอง”มุ่ซือซือพูดอย่างมั่นใจ

“สมที่เป็นคนในตระกูลมู่ของเราจริงๆ”

เมื่องานเลี้ยงจะจบ ไม่คิดว่ามู่เหิงก็มาด้วย

มู่เฉิงไม่ได้เชิญมู่เหิงเลย

เมื่อเห็นหลานชายที่ดื้อรั้นอย่างมู่เหิง สีหน้าของมู่เฉิงก็ดูหดหู่

“คุณปู่ ฉันมาอวยพรวันเกิดคุณครับ”มู่เหิงเอากล่องของขวัญเหมือนมาอวยพรจริงๆ

มู่เฉิงไม่แม้แต่จะดูเลย”ออกไป”

มู่เหิงไม่ไปอยู่แล้ว เขาเปิดกล่องของขวัญ มันเป็นเหล้าขาวที่มู่เฉิงชอบที่สุด

“คุณปู่ ขอให้ท่านอายุยืนยาวครับ… ”

“คุณคงอยากให้ฉันตายเร็วๆ”มู่เหิงยังพูดไม่เสร็จ มู่เฉิงก็ขัดจังหวะเขาอย่างโกรธ

แขกที่อยู่รอบๆค่อยๆออกจากงานไปแล้ว แต่มู่เฉิงอยู่กลางห้องจัดเลี้ยง เขาทำแบบนี้ทำให้แขกหลักหลายหยุดการเดิน

เมื่อเร็วๆนี้ มู่เหิงเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองใหม่ เพื่อจะสู้กับบริษัทมู่ซือกรุ๊ปชัดๆเลย ในช่วงเวลานี้การพัฒนาของบริษัทใหม่นี้ไปได้ด้วยดีมาก มู่เฉิงเลยยิ่งโกรธไปอีก

“คุณปู่ครับ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นแน่นอน ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นคุณค่าของฉัน และรักน้องชายมากกว่า ในใจของฉัน คุณก็ยังเป็นคุณปู่ที่น่านับถือที่สุดของฉันอยู่ดี”

คำพูดของมู่เหิงดูดีมาก และเขาเอาของขวัญให้บริกร คิดจะช่วยจับมู่เฉิงไว้

“เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทใหม่ของฉันเปิดตัวยาใหม่ที่สงบอารมณ์ คุณปู่ ฉันคิดว่าคุณต้องการยานี้ครับ”พูดเสร็จ

เขาก็สั่งให้ผู้ช่วยเอายามา

มู่เฉิงมองอย่างเย็นชาและรับไปก็ทิ้งไปทันที

“อารมณ์รุนแรงในปัจจุบันของฉัน ก็เพราะถูกกระตุ้นจากคุณ คุณออกไป อารมณ์ของฉันจะสงบลงเอง”

สีหน้าของมู่เฉิงซีดไปเรื่อยๆ อ้าปากกว้างๆหายใจลึกๆ มือที่จับไม้ค้ำกำลังสั่นอยู่

มู่เหิงไม่สนใจ ริมปากบางของเขามีรอยยิ้มที่เย้ยหยัน”คุณปู่ ฉันเป็นหลานชายของคุณ ทำไมคุณถึง … ”

เขายังไม่ได้พูดเสร็จ มู่เฉิงก็หมดสติอยู่ล้มไปบนพื้นแล้ว มู่วี่สิงและเวินจิ้งรีบวิ่งไป ห้องจัดเลี้ยงวุ่นวายไปหมด และมีคนรีบโทรหารถพยาบาลทันที

มู่วี่สิงทำการปฐมพยาบาลให้มู่เฉิงอย่างรวดเร็ว แต่มู่เฉิงก็มีอาการหัวใจล้มเหลวนานแล้ว รับกระตุ้นไม่ได้

มู่เหิงก็ตกใจเหมือนกัน เขาไม่คิดว่าคุณปู่ของเขา … จะเป็นลม

เขาคุกเข่าลงอยากจะดูอาการของคุณปู่ แต่ถูกมู่วี่สิงเตะออกไปอย่างหนัก

“มู่เหิง ถ้าคุณปู่เป็นอะไรไป ฉันจะทุบบริษัทใหม่ของคุณทันที” เสียงของมู่วี่สิงนั้นเย็นชาเหมือนมาจากนรก

มู่เหิงสั้นไปทั้งตัว บริษัทใหม่ของเขา …มันจะถูกทำลายไม่ได้เป็นอันขาด

“มู่วี่สิง คุณมีความสามารถนี้ค่อยพูดแบบนี้แล้วกัน”มู่เหิงกล่าวอย่างโกรธ

มู่วี่สิงไม่ได้สนใจเขาต่อ แต่ความโหดร้ายของเขาก็ทำให้มู่เหิงกลัวเบาๆ

ฝีมือของน้องชายคนนี้ เขารู้อยู่แล้ว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่โรงพยาบาล

มู่วี่สิงใส่เสื้อคลุมสีขาวเข้าร่วมในการปฐมพยาบาล เวินจิ้งถูกบล็อกอยู่ข้างนอก

ส้งวี่และมู่ซือซือตามมาอย่างรวดเร็ว และมู่ซือซือพูดตลอดว่า”มู่เหิงกล้าดียังไง กล้าพูดกับคุณปู่แบบนี้ด้วย

ถ้าคุณปู่เป็นอะไรไป ฉันจะฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ”

ส้งวี่กอดแขนของเธอไว้เพื่อปลอบอารมณ์ของเธอ แม้ว่าเธอจะสาปแช่งเช่นนี้ แต่มู่ซือซือก็เป็นห่วงมาก

ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและน้ำตาไหลลง

ส้งวี่รู้สึกสงสารมากขึ้น ลูบไหล่ของมู่ซือซือเบาๆ เขาก็กลัวเหมือนกัน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มู่เฉิงได้รับความเจ็บป่วยที่รุนแรงมาหลายครั้ง ร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถ้าเป็นอะไรจริงๆ …

ไม่มีใครกล้าคิดเลย

เวลาค่อยๆผ่านไป หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ไฟสีแดงในห้องฉุกเฉินก็ดับลง

มู่วี่สิงออกมาเป็นคนสุดท้าย เวินจิ้งและมู่ซือซือรีบเดินเข้าไป”คุณปู่เป็นยังไงบ้าง”

“พ้นจากอันตรายแล้ว”เสียงของมู่วี่สิงต่ำมาก

ถึงจากเป็นแบบนี้ แต่สภาพร่างกายของมู่เฉิงก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่

เวินจิ้งเดินเข้าไปและจับมือของเขาอย่างแน่ๆ ปลอบใจเขาว่า”คุณปู่ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอนค่ะ”

“ครับ”ถอดหน้ากากออก ใบหน้าของมู่วี่สิงนั้นดูซีดมาก

เวินจิ้งไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน ความกังวลและความกลัวทำให้เขาดูเหมือนเปลี่ยนคนไปเลย

เขาใจเย็นและสงบมาตลอด แต่เมื่อเผชิญกับความเจ็บป่วยและความตาย เขาก็แค่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเฉยๆ

กอดเวินจิ้งไว้อย่างแน่นๆ มู่วี่สิงพูดอย่างเสียงสั่นว่า”เมื่อกี้หัวใจของคุณปู่หยุดเต้นหนึ่งวินาที”

น้ำตาของเวินจิ้งก็ไหลลงไม่หยุด และเธอเข้าใจอารมณ์ของมู่วี่สิง

“ค่ะ ตอนนี้คุณปู่ก็พ้นจากอันตรายแล้ว มู่วี่สิง … ”

ด้านนอกของห้องผู้ป่วย เวินจิ้งและมู่วี่สิงกำลังยืนอยู่ที่ทางเดิน มู่ซือซือนั่งอยู่ข้างเตียง ร้องไห้ตลอด การปลอบใจของส้งวี่ก็ไม่มีประโยชน์

ผ่านไปสักพัก มู่วี่สิงค่อยเดินเข้ามา

มู่ซือซือมองเขาด้วยตาที่พร่ามัว มู่วี่สิงหยิบทิชชู่ออกมาและเช็ดน้ำตาให้น้องสาว

“ส้งวี่ พาซือซือกลับไป คืนนี้ฉันจะเฝ้าอยู่ที่นี่เอง ”

“ฉันไม่กลับ เมื่อไหร่คุณปู่จะตื่นล่ะ “มู่ซือซือถามอย่างตื่นเต้น

“คืนนี้ก็จะตื่นขึ้นมาล่ะ ในเมื่อพ้นจากอันตรายแล้ว คุณปู่ก็มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ถึงใบหน้าของเขาเหนื่อยแต่ก็เครียด

ยังไงมู่ซือซือก็อยากกลับไป เธอมองพี่ชายอย่างน่าสงสาร”ฉันไม่กลับ”

“ช่วงนี้น้องนอนดึกเพื่อเตรียมสอบคงเหนื่อยมากแล้ว พี่จะดูแลคุณปู่เองนะ”

มู่ซือซือก้มหัวลง แต่ในเวลานี้ส้งวี่ผลักรถเข็นของเธอออกไปแล้ว

“วี่สิง มีอะไรรีบบอกเรา”เขาพูด

มู่วี่สิงพยักหน้า ห้องผู้ป่วยเงียบลง เขานั่งลงที่ข้างๆคุณปู่ของเขา

เวินจิ้งมองมู่วี่สิงอยู่ห่างๆ คืนนี้เธอก็คิดจะอยู่โรงพยาบาลเหมือนกัน

เพียงแต่ว่ามู่วี่สิงไม่ได้ให้โอกาสเธอ

“เกาเชียนมาแล้ว คุณกลับไปโรงเรียนเถอะ”

“ไม่ ฉันจะอยู่ที่นี่”เวินจิ้งพูดอย่างดื้อรั้นและนั่งลงบนโซฟา

มู่วี่สิงเดินมาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า”ฉันเฝ้าคุณปู่ก็พอแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนนะ ฟันฉันนะ”

“ไม่ ฉันไม่ฟัง ฉันอยากอยู่กับคุณปู่ อยากอยู่กับคุณ”เวินจิ้งดื้อขึ้นมา ใครก็เอาไม่อยู่

“มู่วี่สิง นอกจากว่าคุณจะไปพักผ่อนกับฉัน ไม่งั้นเราจะอยู่เฝ้าคุณปู่ด้วยกัน”เวินจิ้งพูดอย่างไม่ยอม

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท