Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 475

ตอนที่ 475

บทที่ 475 ปากไม่ตรงกับใจ

ในตอนที่ไป๋สือและเวินจิ้งอธิบายอาการของคนไข้ เวินจิ้งก็เอาแต่พูดผิดพูดถูก จนทำให้ไป๋สือเริ่มรู้สึกโมโห

“เวินจิ้ง วันนี้คุณเป็นอะไรไป?”

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก พูดขึ้นมาอย่างเสียใจว่า “ขอโทษค่ะศาสตราจารย์ ฉันไม่เป็นอะไร”

เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากห้องคนไข้ ก็เห็นมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู แต่เวินจิ้งกลับไม่มองไปที่เขาเลยสักนิด

ไป๋สือเข้าใจในที่สุด จากนั้นก็มองไปทางเวินจิ้ง “คุณจัดการเรื่องของคุณให้เรียบร้อยก่อนแล้วกัน แล้วค่อยมาหาผม”

เวินจิ้งมองชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า จากนั้นก็เงียบอยู่นาน

“มีอะไร” นานพอสมควรถึงได้พูดขึ้นมาเสียงเบา

มู่วี่สิงจับข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วพาเธอตรงไปยังห้องทำงานของเขา

“อย่าเก็บคำพูดของคุณปู่มาใส่ใจเลยนะ” มู่วี่สิงมุ่นคิ้ว

เมื่อได้ยินถ้อยคำเมื่อครู่ของมู่เฉิง ก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้คุณปู่ไม่ชอบเวินจิ้ง พอจะนึกได้แล้วว่าเมื่อวันจันทร์ คุณปู่พูดไม่น่าฟังกับเวินจิ้งขนาดไหนถึงทำให้เธอไม่รับสายของเขา

“ฉันไม่เก็บมาใส่ใจหรอก” เวินจิ้งปากไม่ตรงกับใจอย่างเห็นได้ชัด

มู่วี่สิงจับใบหน้าเล็กๆของเธอให้เงยขึ้นมา จากนั้นก็ขมวดคิ้ว แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยปลอบเธอมาก่อน ตอนนี้เวินจิ้งกำลังโกรธ เขาจึงค่อนข้างที่จะร้อนอกร้อนใจ

“มู่วี่สิง ที่คุณปู่สงสัยฉันมันก็ดูมีเหตุผลนะ เพราะถึงยังไงมู่เหิงก็เป็นหลานของท่าน” เวินจิ้งพูดขึ้นมานิ่งๆ

เธอเข้าใจแบบนั้น……ก็ได้

“ขอโทษนะ เรื่องนี้ผมจัดการได้ไม่ดีเลย”

“มู่วี่สิง มันไม่เกี่ยวกับคุณ ทางที่ดีต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด แต่ถ้าตรวจสอบไม่ได้ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”

มู่เฉิงมีอคติกับเธอไปแล้ว และตอนนี้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็คงดูน่ารำคาญไปหมด

เธอปล่อยวางแล้วล่ะ

ตอนนี้มู่เฉิงไม่สามารถรับการกระตุ้นได้ทุกรูปแบบ ดังนั้นเธอก็จะไม่ไปโต้แย้งให้มันกระทบถึงอารมณ์ของเขา

“ผมจะจัดการมู่เหิงเอง”

“คืนนี้จะเลิกงานตอนไหน?” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงบ้างแล้ว

“ประมาณสามทุ่ม”

“คืนนี้ไปการ์เด้นมูเจียวานไหม? หืม?”

“ฉันรับปากแม่ไว้แล้วว่าจะกลับตระกูลหลินน่ะ” เวินจิ้งตั้งใจจะหลบหน้ามู่วี่สิง

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ความไม่พอใจในดวงตาพรั่งพรูออกมา

“จิ้งจิ้ง อย่าหลบหน้าผม เราคบกันแล้วนะ มีเรื่องอะไรก็พูดกันได้ ผมอยากรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”

เวินจิ้งช้อนตามอง จู่ๆกรอบตาก็ชื้นขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

“ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีจริงๆ ฉันอยากอยู่คนเดียว” เวินจิ้งพูดอย่างตรงไปตรงมา

โดนใส่ร้ายขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องอารมณ์เสียกันทั้งนั้น เธอไม่สามารถทำเป็นนิ่งเฉยได้เลย

“ไว้ผมจะมารับคุณตอนเลิกงาน” มู่วี่สิงโค้งตัวลงไปจูบริมฝีปากของเวินจิ้ง

เมื่อกลับมาถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มู่วี่สิงก็สั่งให้เกาเชียนเข้ามาหา

“สามารถกู้คืนกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาลได้ไหม?”

เกาเชียนส่ายหน้าอย่างลำบากใจ “ไม่ใช่แค่ตัวกล้องวงจรปิดถูกล็อกอย่างเดียวนะครับ ตัวที่ติดอยู่ตรงแผนกโรคหัวใจก็ถูกทำลายทิ้งหมด เมื่อวานเลยไม่มีอะไรถูกบันทึกไว้เลยครับ”

มู่วี่สิงทำหน้าถมึงทึง สีหน้าค่อยๆโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ

เกาเชียนไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดนอกโรงพยาบาลมา เมื่อวานมู่เหิงมาด้วยกันกับผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นพยาบาล ไปสืบหาตัวตนของผู้หญิงคนนั้นมา”

“รับทราบครับ”

เวลาสามทุ่ม เมื่อเวินจิ้งออกมาจากโรงพยาบาล ก็เห็นรถคันคุ้นเคยจอดรออยู่

เมื่อเธอขึ้นรถ กลับพบว่ารถไม่ได้ขับมุ่งไปยังตระกูลหลิน

“ไปไหน?”

“ไปกินข้าวก่อน”

วินาทีต่อมา ท้องของเวินจิ้งก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา……

มู่วี่สิงรู้ว่าเธอชอบกินอะไร เลยพาเธอมาที่ร้านหม้อไฟแถวๆถนนหนิงอัน

เมื่อก่อนต้องงดกินเพราะต้องผ่าตัดและนอนที่โรงพยาบาล เวินจิ้งจึงห่างหายจากการกินหม้อไฟไปนานมาก!

เมื่อเข้ามาในร้าน อารมณ์จึงดีขึ้นมาภายในชั่วพริบตา

มู่วี่สิงจองไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งสองจึงเดินเข้าไปในห้องที่สามารถจุคนได้ถึงสิบคนเต็มๆ

เธอรู้ว่ามู่วี่สิงไม่กินเผ็ด ก็เลยสั่งแบบหม้อไม่เผ็ดมาด้วย

เมื่อเวินจิ้งสั่งเสร็จก็ส่งเมนูไปให้มู่วี่สิง เขาจึงพูดอย่างเอาใจว่า “คุณสั่งแทนผมได้เลย”

“อือ ก็ได้” เพราะถึงยังไงเธอก็รู้ว่ามู่วี่สิงชอบกินอะไร

ทั้งสองคบกัน และรู้ใจกันภายในสองปี

และในตอนนี้เอง ที่เสียงโทรศัพท์ของมู่วี่สิงดังขึ้นมา

“พี่คะ คุณปู่ยืนกรานว่าจะออกจากโรงพยาบาลให้ได้ พอกลับมาบ้านก็ไม่กินยาเลย ใครโน้มน้าวก็ไม่ฟัง พี่กลับมาพูดกับคุณปู่หน่อยสิ…..”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงก็วางโทรศัพท์ลง ความเยือกเย็นในดวงตาแผ่กระจายไปทั่ว

เวินจิ้งไม่รู้ว่าในสายพูดว่าอะไรบ้าง แต่พอเห็นสีหน้าของมู่วี่สิงดูขุ่นมัวลง เธอจึงถามอย่างเป็นห่วงว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”

“คุณปู่แอบออกจากโรงพยาบาลโดยพลการ”

“งั้นคุณก็รีบกลับไปดูเถอะ” เวินจิ้งยังคงเป็นห่วงอยู่

แม้ว่าท่าทีที่คุณปู่มีต่อเธอจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็ตาม

มู่วี่สิงพยักหน้า แต่ก็ยังไปส่งเวินจิ้งที่ตระกูลหลินก่อนอยู่ดี ถึงได้วนรถกลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลมู่

ในตอนที่เวินจิ้งกลับมาถึงบ้าน สีหน้าก็หงอยเหงาอย่างไม่อาจห้ามได้

“เสี่ยวจิ้ง ใครแกล้งอะไรแก?” หลินเวยวางแก้วน้ำชาลง จากนั้นก็มองลูกสาวอย่างเป็นห่วง

“ใครจะกล้ามาแกล้ง” เวินจิ้งฝืนยิ้มออกมา

“อย่าทำเป็นฝืนยิ้มหน่อยเลย มาหาแม่นี่มา ไหนบอกสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เวินจิ้งมองหลินเวย ครึ่งปีมานี้ เธอรู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่หลินเวยมีต่อเธอ

แม้ว่าช่วงชีวิต25ปีที่ผ่านมาเธอจะขาดแคลนมันไป แต่ว่าตอนนี้ เวินจิ้งรู้ดีว่าแม่กำลังพยายามชดเชยความรักให้กับเธออยู่ตลอด

“มู่วี่สิงแกล้งแกใช่ไหม?”

“เปล่าค่ะ เรื่องเรียนน่ะ”

“ศาสตราจารย์ไป๋หาเรื่องยากให้แกเหรอ?”

“ไม่ใช่ค่ะ”

“งั้นก็ต้องเกี่ยวกับมู่วี่สิงแล้วล่ะ”

“ช่วงนี้คุณปู่มู่สุขภาพไม่ค่อยดี” เวินจิ้งพูดขึ้นมาช้าๆ

“คุณปู่มู่ท่านอายุเยอะแล้ว พอแก่โรคภัยไข้เจ็บก็ถามหาเป็นธรรมดานั่นแหละ” หลินเวยพูดอย่างปลงๆ

เวินจิ้งไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อหลินเวยเห็นว่าลูกสาวมีท่าทีหนักอกหนักใจ ก็วางใจไม่ลงจริงๆ

เธอจึงโทรหาผู้ช่วย “ช่วยไปสืบสภาพการณ์ช่วงนี้ของคุณมู่เฉิงให้หน่อย”

ตระกูลมู่

ตอนที่มู่วี่สิงกลับมา มู่ซือซือกับส้งวี่ก็รออยู่ในห้องรับแขก ด้วยใบหน้าร้อนใจ

“พี่คะ กลับมาสักทีนะ” มู่ซือซือเชิดปากเล็กๆขึ้น

“คุณปู่ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้” มู่วี่สิงพูดขึ้นเสียงหนัก “ใครเป็นคนอนุญาต?”

“คุณปู่ออกเอง ท่านแจ้งกับผอ.โรงพยาบาลน่ะ” ส้งวี่เดินเข้ามาหา

“คุณปู่กำลังโกรธฉัน ท่านคงไม่อยากเจอฉันหรอกมั้ง”

“พี่คะ พี่ทะเลาะอะไรกับคุณปู่อีกเหรอ?”

“มู่เหิงคิดจะเล่นงานคุณปู่ แต่คุณปู่ดันไปสงสัยเวินจิ้ง” มู่วี่สิงพูดเสียงหนัก

“เมื่อวานเวินจิ้งก็อยู่ด้วยเหรอ?” ส้งวี่เอ่ยถาม

“อืม เธอขัดขวางมู่เหิงเอาไว้”

“ความสัมพันธ์ของคุณปู่และเวินจิ้งดีมาตลอด ทำไมถึงได้ไปสงสัยเวินจิ้งล่ะ?”

“มันเกี่ยวกับฉัน”

มู่ซือซือกับส้งวี่มองตากัน เหมือนจะมีเรื่องอะไรที่พวกเขายังไม่รู้

“คุณปู่ไม่ยอมกินยา แล้วก็ไม่ยอมเปิดประตูให้คนรับใช้เอาอาหารเข้าไปให้ด้วย ขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง” มู่ซือซือพูดขึ้นมา

เพราะฉะนั้นเธอถึงต้องเรียกพี่ชายกลับมา

“เดี๋ยวพอคุณปู่หิวก็จะเปิดประตูเองนั่นแหละ” มู่วี่สิงพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ

มู่ซือซือ&ส้งวี่ “……..”

“ฉันกลัวว่าร่างกายของคุณปู่จะไม่ไหวเอาน่ะสิ”

“ไปเอากุญแจมาให้ฉัน” พักใหญ่ มู่วี่สิงถึงได้ออกคำสั่งกับแม่บ้าน

มู่เฉิงนั่งอยู่ตรงระเบียง ข้างๆมีขวดเหล้าและซองบุหรี่วางอยู่

ในตอนที่มู่วี่สิงเดินเข้ามา กลิ่นเหล้าฉุนๆก็ปะทะจมูกเข้าอย่างจัง

“ตาแก่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!” มู่วี่สิงโกรธสุดๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปแย่งแก้วเหล้าในมือของมู่เฉิงมา

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท