Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 479

ตอนที่ 479

บทที่ 479 เหนือกว่าเขาแล้ว

เหล่านักข่าวต่างก็พากันไปมุง บอดี้การ์ดจึงรีบวิ่งเข้าไปกันนักข่าวเอาไว้ ภายในงานค่อยๆวุ่นวายขึ้นมา

มู่เหิงเองก็ถูกนักข่าวล้อมเอาไว้ บนใบหน้าของเขาซีดขาวไปหมด คำพูดที่มู่เฉิงพูดมาเมื่อครู่สำหรับเขาแล้วมันคือการโจมตีที่แทบจะปลิดชีวิตได้เลย

เวินจิ้งถูกนักข่าวบังจนหมด จึงไม่รู้สถานการณ์บนเวทีเลยสักนิด จนกระทั่งเสียงรถพยาบาลดังขึ้นมา มู่เฉิงก็นำตัวขึ้นรถ เวินจิ้งจึงรีบเรียกรถตามไป

บริเวณด้านนอกห้องฉุกเฉิน ร่างสูงโปร่งของมู่วี่สิงเอนพิงอยู่กับผนัง ดวงตาเยือกเย็นไปทั้งแถบ

เมื่อเห็นเวินจิ้ง เขาก็ยกมือไปคว้าเธอเข้ามากอด ไอเย็นบนร่างกายของเขาถูกถ่ายทอดออกมา เวินจิ้งรู้ ว่าเขากำลังกลัว

“มู่วี่สิง คุณปู่จะต้องไม่เป็นอะไร”

มู่วี่สิงไม่ได้พูดอะไรมาตั้งแต่ต้น เขาทำเพียงกอดเวินจิ้ง ราวกับว่ากำลังกอดความหวังทั้งหมดเอาไว้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มู่เฉิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังห้องพักผู้ป่วยทั่วไป แต่ว่าอาการภาวะหัวใจล้มเหลวของเขากลับอยู่ในขั้นรุนแรง ประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาก็มีน้อย ทำได้เพียงพึ่งพาการควบคุมอารมณ์ให้ดีเพื่อค่อยๆปรับให้ดีขึ้นช้าๆ

มู่ซือซือกับส้งวี่ตามมาทีหลัง เมื่อรู้ว่าคุณปู่ไม่เป็นอะไรแล้วถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

นอกโรงพยาบาลมีกลุ่มนักข่าวมารวมตัวกันอยู่เยอะ ทุกคนมาเพื่อทำข่าวว่าที่มู่เฉิงพูดที่งานแถลงข่าววันนี้เป็นจริงหรือไม่ ตอนนี้ในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปยังไม่มีใครออกมาพูดความจริง นักข่าวที่อยู่ข้างนอกจึงแต่งเรื่องขึ้นมาเองไปตั้งเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

แม้ว่าจะทำการประชาสัมพันธ์แก้ปัญหาแล้ว แต่ว่าเรื่องราวก็ยังถูกส่งต่อออกไปอยู่เรื่อยๆ

“จิ้งจิ้ง เดี๋ยวผมไปส่งคุณกลับมหาลัยก่อนดีกว่า” มู่วี่สิงโอบเธอเดินลงมายังลานจอดรถ

“แล้วคุณจะอยู่ที่โรงพยาบาล หรือจะไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหรอ?” เวินจิ้งถามอย่างเป็นห่วง

“ผมจะไปที่บริษัท ตอนเย็นค่อยมาดูคุณปู่”

“อืม งั้นถ้ามีเรื่องอะไรคุณต้องบอกฉันนะ ฉันไม่สบายใจเลย”

เมื่อกลับมาถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ก็เห็นว่ามู่เหิงยังไม่ไปไหน ยังคงอยู่ที่งานแถลงข่าว

เมื่อเห็นว่ามู่วี่สิงกลับมา เขาก็มองไปที่มู่วี่สิงด้วยสายตาเย็นเยือก

มู่วี่สิงวางท่าเฉยเมย แต่มู่เหิงกลับวิ่งเข้าไปหาด้วยความรวดเร็ว แล้วขวางเขาเอาไว้

“ฉันมีเรื่องอยากพูดกับนาย”

มู่วี่สิงพยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็ขึ้นไปยังห้องประธาน

“ที่คุณปู่พูดเป็นเรื่องจริงไหม?” มู่เหิงถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

“คุณปู่ไม่พูดอะไรแบบนี้เล่นๆหรอก” มู่วี่สิงจุดบุหรี่ แต่ทำเพียงคีบเอาไว้ ไม่ได้ยกขึ้นสูบ

“นายรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว?”

“ฉันไม่รู้”

“ตอนนี้นายคงภูมิใจมากสินะ! บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นของนายแล้วนี่!” มู่เหิงคร่ำครวญขึ้นมา

วันนี้คือโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว มีนักข่าวและแขกเหรื่อมากมายอยู่ในงาน เขาคิดว่าตัวเขาคือผู้สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปซะอีก แต่ไม่คิดเลย ว่าจะมาได้ยินความจริงอะไรแบบนี้

เรื่องราวแย่ๆ มันต้องมาเกิดกับมู่เหิงคนนี้ตลอดเลย!

“ฉันไม่เคยภูมิใจ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่เคยพูด เหมือนที่เราเคยพูดกันในปีนั้น ฉันไม่คิดจะแย่งบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมา และตอนนี้ มันก็ยังเป็นอย่างนั้น เพียงแต่ว่าคุณปู่เลือกจะอยู่ข้างฉันเท่านั้นเอง” มู่วี่สิงไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา

เขาไม่เคยสนใจบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเลยสักนิด อุดมการณ์ของเขา แต่ไหนแต่ไรก็อยู่ที่โรงพยาบาลมาตลอด

“นายก็พูดแบบนี้ได้สิ ก็นายได้บริษัทไปแล้วนี่!

“ใช่ ฉันได้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และได้สิ่งที่นายต้องการมาแล้ว เพราะฉะนั้นมู่เหิง นายแพ้แล้วล่ะ”

มู่เหิงเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็หยกกำปั้นขึ้นมา แล้วซัดหมัดเข้าใส่อย่างรุนแรง แต่มู่วี่สิงกลับหยุดหมัดของเขาไว้ได้อย่างมือไว

วินาทีต่อมา หมัดหลุนๆก็โต้กลับไปอย่างรวดเร็ว

มู่เหิงถูกเขาชกจนเซล้มไปตรงหน้าต่าง ความโกรธเกลียดตีรวนขึ้นมาในดวงตา

มู่วี่สิงแสยะยิ้ม แล้วนั่งยองๆลงตรงหน้ามู่เหิง “ไม่คิดเลยว่าจะล้มนายได้ง่ายขนาดนี้”

มู่วี่สิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วต่อสายหาสถานีตำรวจ

“ผมมีหลักฐานชิ้นหนึ่งยากส่งมอบครับ”

ทันทีที่เสียงพูดถูกเปล่งออกมา มู่เหิงก็ลุกขึ้นมาแย่งเอาโทรศัพท์ของมู่วี่สิง “นายพูดบ้าอะไร!”

“ตอนที่นายเคยทำงานอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปนายเคยยักยอกเงินไปเท่าไหร่ล่ะ ฉันจดไว้หมดแล้ว”

“นาย——“ มู่เหิงเบิกตากว้าง

“มู่เหิง ในที่สุดนายก็มีวันนี้”

“ทั้งหมดเป็นเพราะนาย มู่วี่สิง เพราะนายคนเดียว! นายทำลายฉัน! ทำไมนายต้องคิดจะทำลายฉันด้วย——“

ได้ยินแบบนั้น มู่วี่สิงก็กระตุกริมฝีปากขึ้นมาอย่างเย็นชา ในดวงตาฉายแววโหดร้าย

ปลายนิ้วเรียวยาวบีบคางของมู่เหิงเอาไว้ จากนั้นน้ำเสียงที่ราวกับส่งเสียงขึ้นมาจากหุบเหวของเขาก็ดังขึ้นมาว่า “ทำไมน่ะเหรอ? อย่าลืมสิ ว่านายฆ่าแม่ของฉันยังไง”

มู่เหิงสั่นระริกไปทั้งตัว ฝ่ามือของมู่วี่สิงค่อยๆเลื่อนลงมาที่คอของเขา จากนั้นก็ค่อยๆบีบแน่นขึ้น จนมู่เหิงเกือบจะหายใจไม่ออก

วินาทีที่มู่วี่สิงปล่อยเขาออก ทั้งร่างของเขาก็เซล้มลงไปข้างหลัง มู่วี่สิงเหยียบเขาเอาไว้อย่างโหดร้าย จากนั้นก็ออกคำสั่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “เอาตัวไปส่งที่สถานีตำรวจ”

……

มหาวิทยาลัยหลินไห่

ถึงหลิงเหยาจะไม่ได้ไปร่วมงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป แต่คลิปงานแถลงข่าวก็ถูกเผยแพร่ออกมามากมายบนอินเทอร์เน็ต

เมื่อเห็นเวินจิ้งกลับมา เธอก็จับเวินจิ้งเอาไว้แล้วเอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า “มู่เหิงเป็นลูกนอกสมรสจริงเหรอ?”

คำพูดของนักข่าวเฉียบแหลมมาก ปัจจุบันบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปล้มไม่เป็นท่าจนแทบจะผงาดขึ้นมาไม่ได้ แล้วยิ่งเรื่องที่สถานะของมู่เหิงเปลี่ยนจากผู้สืบทายาทเป็นแค่ลูกนอกสมรสภายในแค่ชั่ววินาที ก็ยิ่งทำให้ชื่อเสียงป่นปี้ยิ่งกว่าเดิม

“มู่เฉิงไม่น่าพูดโกหก”

วันนี้มู่วี่สิงอารมณ์ไม่ดี เวินจิ้งเลยไม่ได้ถามอะไรมากมาย

“ก็ใช่ ในที่สุดมู่เหิงก็มีวันนี้ คิดจะสู้กับมู่วี่สิง แต่ไม่พิจารณาตัวเองเอาซะเลย” หลิงเหยาพูดขึ้นมา “ดูจากตอนนี้แล้ว มู่วี่สิงก็คงได้สืบทอดบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอย่างถูกต้องแล้วสินะ”

“อืม มู่เหิงคงไม่มีโอกาสกลับตัวแล้วล่ะ” เวินจิ้งพูดขึ้นมาเสียงเรียบ

เธอไม่สนใจเรื่องของคนอย่างมู่เหิงเลย ที่เธอเป็นห่วงที่สุดก็คือมู่วี่สิง

วันนี้ควรเป็นวันที่เขามีความสุข แต่เวินจิ้งกลับไม่เห็นสีหน้ายินดีอะไรบนหน้าของเขาเลยสักนิด กลับกันกลับมีแต่สีหน้าอึมครึม

“ฉันได้ยินซือซือบอกว่าคืนนี้เหมือนจะมีงานเลี้ยงฉลอง แกจะไปหรือเปล่า?”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่

“มู่วี่สิงเป็นตัวหลักในงานเลยนะ ฉันคิดว่าอีกหน่อยเดี๋ยวเขาก็มาบอกแกแน่ๆ”

“ตอนบ่ายฉันต้องไปโรงพยาบาล” เวินจิ้งส่ายหน้า

เธอลางานแค่ตอนเช้า เธอจึงเก็บกระเป๋าแล้วก็ออกไป

มู่เฉิงถูกส่งมาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยหลินไห่เหมือนเดิม ตอนนี้มู่เฉิงไม่ยินดีที่จะพบเธอ เวินจิ้งเลยไม่ได้ไปเยี่ยมเพื่อหาเรื่องลำบากใจให้ตัวเอง

ตอนที่มาถึง มู่ซือซือก็ออกมาพอดี

“เวินจิ้ง”

“จะกลับแล้วเหรอ?” เวินจิ้งเอ่ยถาม

“อืม คุณปู่สลบไปอย่างกะทันหันน่ะ โรคคนแก่ก็งี้ ค่ำๆเดี๋ยวพี่ก็จะมารับออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

เวินจิ้งพยักหน้า จากนั้นก็ตรงไปยังแผนกศัลยกรรมระบบประสาท

ทำงานจนถึงตอนค่ำถึงได้มีเวลาว่าง ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

และในขณะเดียวกัน ทางด้านห้องตรวจทั่วไป มู่วี่สิงก็เพิ่งทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้คุณปู่เสร็จ

มู่เฉิงค้ำไม้เท้าเอาไว้ ช่วงนี้ สภาพร่างกายของเขานับวันก็ยิ่งแย่ลงทุกวัน

“เรื่องวันนี้ คงถูกเผยแพร่ออกไปแล้วสินะ?” มู่เฉิง

มู่วี่สิงพยักหน้า “ครับ นักข่าวอยู่ที่นั่นกันหมด ทำการประชาสัมพันธ์เพื่อแก้ปัญหาก็แล้ว แต่ข่าวก็ยังถูกแพร่กระจายออกไปอยู่ดี”

“เรื่องนี้ถือเป็นข่าวคราวของตระกูลมู่เลยก็ว่าได้ ถ้าวันนี้มู่เหิงไม่ก่อเรื่อง ฉันก็คงไม่พูดออกไปแบบนั้น” มู่เฉิงถอนหายใจ

“บริษัทไม่ได้รับผลกระทบอะไร คุณปู่วางใจเถอะครับ”

“แบบนั้นก็ดี มู่เหิงจะได้เลิกราสักที”

“ตอนนี้เขาอยู่ที่สถานีตำรวจ หลักฐานเรื่องที่เขาทำผิดตอนที่ยังดำรงตำแหน่งในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแน่นหนามาก เขาคงไม่มีโอกาสออกมาแล้วล่ะครับ” เสียงของมู่วี่สิงเย็นยะเยือกจนถึงที่สุด

มู่เฉิงลูบคาง เมื่อมองสายตาของมู่วี่สิง ก็ยิ่งทอแววลุ่มลึก

ฝีมือของหลานชายคนนี้ เหนือกว่าเขาแล้วจริงๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท