Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 480

ตอนที่ 480

บทที่ 480 เรื่องน่าหัวเราะเยาะที่สุด

ณ ตระกูลโจว ในห้องทำงานท่านประธาน

บริเวณหน้าต่าง แสงแดดสาดส่องผ่านกระจกใสเข้ามา แต่รังสีในร่างกายของชายหนุ่มกลับเย็นยะเยือกไปทั้งแถบ

ไฟที่ปลายบุหรี่ส่องแสงขึ้นมาวูบวาบ โจวเซินสูบบุหรี่เข้าไปอึกใหญ่ มือข้างหนึ่งสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าเย็นชาขมวดมุ่น

ผ่านไปพักใหญ่ เขาถึงได้หันมา แล้วถีบผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายออกไป

“มู่เหิงอยู่ที่ไหน? แล้วสถานการณ์ทางบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปเป็นยังไงบ้าง”

“ประธานโจว มู่เหิงถูกคนของมู่วี่สิงนำตัวไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจ ส่วนบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปตอนนี้วุ่นวายไปหมด นับว่าหมดตัวแล้วครับ”

“ไสหัวออกไป”

ผู้ช่วยรีบวิ่งออกไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน ไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว

ประธานโจวน่ากลัวเกินไป

นานพอสมควร เขาถึงได้หยิบเอาบัตรเชิญที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วต่อสายหาโจวหย่าน “เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วรอฉันอยู่ที่บ้าน”

ช่วงใกล้ค่ำ เวินจิ้งก็ได้รับสายโทรศัพท์จากมู่วี่สิง เธอยังอยู่ที่โรงพยาบาล

วันนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมีงานเลี้ยงฉลอง มู่วี่สิงเลยมารับเธอ

“ฉันไม่ไปหรอก อีกสักพักฉันก็ต้องอยู่เวร”

“ผมเลี่ยงดื่มเหล้าไม่ได้หรอกนะ แล้วถ้าผมเมา ใครจะพาผมกลับบ้านล่ะ?”

เวินจิ้งชะงัก คอของมู่วี่สิง…..เหมือนจะไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่

ภาพที่เขาเมาเมื่อเดือนก่อนยังติดตาอยู่เลย

รู้ทั้งรู้ว่ามู่วี่สิงจงใจพูดแบบนี้ แต่เวินจิ้งก็ยังรู้สึกไม่วางใจ

“แต่ฉันไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลยนะ”

“ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้ว ออกไปกันเถอะ”

“งั้นรอเดี๋ยว ฉันจะไปขอแลกเวรกับคนอื่น”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เวินจิ้งก็รีบวิ่งออกมาอย่างรีบเร่ง ตอนนี้ใกล้จะสายแล้ว

เมื่อครู่ในห้องน้ำเวินจิ้งเพิ่งจะแต่งหน้าบางๆมา เมื่อมู่วี่สิงเห็นใบหน้าข่าวผ่องของเธอ รอยยิ้มก็ยิ่งขยายกว้าง

“แล้วไหนชุดล่ะ?” เมื่อขึ้นมาบนรถ มู่วี่สิงก็เอาแต่จ้องมองเธอ ใบหน้าของเวินจิ้งก็ยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ

“เดี๋ยวถึงโรงแรมผมจะพาไปเปลี่ยน”

ครึ่งชั่วต่อมา รถหรูก็ขับเข้ามายังโรงแรมในเครือของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

เมื่อลงจากรถ จู่ๆก็มีนักข่าวพุ่งเข้ามาล้อมเอาไว้ ทั่วทั้งลานจอดรถจึงเต็มไปด้วยแสงแฟลชวูบวาบ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ใช้แขนโอบเวินจิ้งเอาไว้ เกาเชียนกำลังเตรียมบอดี้การ์ดให้เข้ามาช่วย

แต่ตอนนี้มู่วี่สิงกับเวินจิ้งกลับขยับไปไหนไม่ได้เลย

“ประธานมู่ ขอถามเรื่องของพี่ชายของคุณหน่อยครับ เขาเป็นอย่างที่ประธานคนก่อนพูดมาหรือเปล่า เรื่องที่ว่าเป็นลูกนอกสมรสน่ะครับ?”

“ประธานมู่ ที่ประธานคนก่อนสาดโคลนใส่มู่เหิง เป็นเพราะว่าอยากให้คุณสืบทอดบริษัทได้อย่างราบรื่นหรือเปล่าคะ?”

“ทราบมาว่าวันนี้มู่เหิงถูกจับกุม คุณเป็นคนแจ้งความหรือเปล่า?”

“………”

คำถามของผู้สื่อข่าวดังขึ้นมาเรื่อยๆ เวินจิ้งมองไปยังมู่วี่สิงโดยอัตโนมัติ เขามีใบหน้าเฉยชามาตั้งแต่ต้น

เขายกมือขึ้นมาบังกล้องที่จ่อเข้ามาใกล้ “เรื่องเกี่ยวกับมู่เหิง ผมไม่มีอะไรจะพูด แต่เรื่องที่เขาแอบยักยอกเงินของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ในฐานะผมที่เป็นผู้กุมอำนาจของบริษัท ผมจะตามล่าเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด!”

มู่วี่สิงมีกลิ่นอายน่าหวาดกลัวมาก น้ำเสียงก็แข็งกร้าวและเยือกเย็น ทันทีที่เปล่งเสียงออกมานักข่าวก็พากันเงียบไปพักใหญ่

และในตอนนี้เองบอดี้การ์ดก็ตามมาพอดี มู่วี่สิงโอบเวินจิ้งเดินเข้าลิฟต์ไป เสียงรอบด้านค่อยๆเบาลง จากนั้นก็กลับมาตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

เวินจิ้งย้อนกลับไปคิดถึงคำพูดของมู่วี่สิงเมื่อครู่ วันนี้มู่เหิงจนตรอกขนาดไหนเธอจำได้เป็นอย่างดี จากหลานชายคนโตของตระกูลมู่ จู่ๆกลับถูกเปิดโปงว่าเป็นแค่ลูกนอกสมรส

“ตอนนี้มู่เหิงอยู่ที่….สถานีตำรวจเหรอ?” เวินจิ้งเอ่ยถาม

วันนี้ในโรงพยาบาลมีแต่คนพูดเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป หลังจากงานแถลงข่าวจบได้ไม่นาน มู่เหิงก็ถูกจับกุม อีกอย่างวันนี้เวลาห้าโมงเย็น บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปก็ประกาศล้มละลายอย่างเป็นทางการ ซึ่งกิจการของบริษัท ดำรงอยู่ได้แค่สองเดือนเท่านั้น

“อืม เขาทำเรื่องไม่ดีไว้เยอะ” มู่วี่สิงพูดเสียงเย็น

แม้ว่าก่อนหน้านี้มู่เฟิงจะไถ่โทษให้เขาแล้ว แต่มู่วี่สิงก็จับพิรุธเขาได้อยู่ดี ทุกเรื่องที่สะเทือนออกมา ก็เพียงพอที่จะทำให้ชื่อเสียงของมู่เหิงป่นปี้

เมื่อมาถึงชั้นบนสุด ภายในห้องแต่งตัวก็มีช่างแต่งหน้าผู้หญิงมารออยู่ก่อนแล้ว ข้างๆมีชุดราตรีสวยๆวางอยู่หลายชุด

“คุณไม่บอกฉันตั้งแต่แรกเล่า” เวินจิ้งพึมพำ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รีบแต่งหน้าเองหรอก

เวินจิ้งแต่งหน้ามาแค่บางๆ ช่างแต่งหน้ามีฝีมือสูงมาก แต่งเพิ่มให้เธอแค่นิดหน่อยโดยไม่กระทบต่อที่เมคอัพเธอแต่งมาบางๆก่อนหน้าเลยสักนิด จนทำให้เวินจิ้งดูสวยยิ่งกว่าเดิม

เธอเลือกชุดราตรีสีฟ้าคราม ที่ท่อนบนประดับไปด้วยดาวระยิบระยับ เมื่อสวมใส่รองเท้าส้นสูง เวินจิ้งก็มายืนอึ้งอยู่ตรงหน้ากระจก

รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกร่ายมนตร์ใส่

ผมนุ่มสลวยถูกช่างแต่งหน้าทำให้เป็นลอนเล็กๆ แผ่สยายอยู่บนไหปลาร้า ยิ่งทำให้ดูงดงาม

และในตอนนี้เอง ที่ความรู้สึกเย็นๆจู่โจมเข้ามาที่คอ เมื่อเวินจิ้งช้อนตามอง สายตารักใคร่ของมู่วี่สิงก็ประทับเข้ามาในดวงตา

ในมือของเขาถือสร้อยเพชรสีฟ้าเอาไว้ จากนั้นก็สวมใส่ลงบนคอของเธอ แล้วก็ตามมาด้วยจูบอันแผ่วเบาบริเวณห้างหูของเธอ

จั๊กจี้จัง

เวินจิ้งมองกระจกอย่างเขินอาย เพชรสีฟ้าเข้ากันกับสีของชุดราตรีมาก ขับผิวขาวผ่องของเธอให้สว่างมากยิ่งขึ้น ดวงตาก็ยิงขยายใหญ่ขึ้นด้วยความตกตะลึง

รู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลย

“มู่วี่สิง นี่ฉันจริงๆเหรอ……” เวินจิ้งรู้สึกไม่ชิน

“ครับ ผู้หญิงของผม” พูดจบ มู่วี่สิงก็รวบจับท้ายทอยของเธอ ให้หันมาด้านข้างแล้วดันเธอไปแนบชิดกับกระจก จากนั้นก็จูบลงบนริมฝีปากสีแดงที่เพิ่งทาลิปสติกของเธอ

ช่างแต่งหน้ากับผู้ช่วยออกไปอย่างรู้จังหวะ ภายในห้องแต่งตัวจึงตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงแค่เสียงลมหายใจของทั้งสองที่สอดประสานกัน

เวินจิ้งรู้สึกทั้งเนื้อทั้งตัวอ่อนปวกเปียก มู่วี่สิงมักจะมีวิธีมาทรมานเธอเสมอ

“สายมากแล้ว คุณยังไม่ลงไปอีกเหรอ” เวินจิ้งดันหน้าอกของเขาออก กลัวมู่วี่สิงจริงๆ

คนมักมากที่มีอารมณ์ได้ทุกที่ทุกเวลา……..

ดวงตาของมู่วี่สิงลึกล้ำ ในสายตาของเขา ต่อให้ตอนนี้เวินจิ้งจะสวมใส่ชุดราตรีอยู่ แต่ก็เหมือนกำลังเปลือยอยู่ดี

เปลวไฟในดวงตายิ่งแผ่ขยาย

แต่เวินจิ้งก็ออกแรงผลักเขาออกไป

“เกลียดคุณชะมัด สีปากของฉันถูกคุณกินไปหมดแล้ว” เวินจิ้งเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง จากนั้นก็แต่งหน้าเพิ่ม

ร่างสูงใหญ่ของมู่วี่สิงเดินเข้าไปประชิด กอดเอวบางของเธอเอาไว้จากด้านหลัง จากนั้นก็กดจูบย้ำๆลงบนไหล่ของเธอ “อืม กินสีปากของคุณก่อน จบงานแล้วค่อยกินคุณแล้วกัน”

“มู่วี่สิง!” เวินจิ้งถลึงตาใส่อย่างเคืองๆ

“ครับๆ ลงไปกันเถอะ” มู่วี่สิงหัวเราะ แล้วกุมมือของเวินจิ้งเอาไว้

ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองคนออกงานด้วยกัน หลายคนก็รู้ถึงสถานะของเวินจิ้ง แต่เรื่องที่ทั้งสองเคยแต่งงานและหย่ายังไม่ถูกเผยแพร่ออกไป ด้วยเหตุนี้ในความคิดของใครหลายๆคน สถานะของเวินจิ้งก็เป็นเพียงแค่แฟนของมู่วี่สิงเท่านั้น

ภายในโถงงานเลี้ยง เวินจิ้งได้เจอคนคุ้นหน้าอยู่หลายคน ทั้งเสี้ยงหง ทั้งลี่หนานเฉิงและผองเพื่อนของมู่วี่สิง ทุกคนต่างใส่สูทเดินเข้ามาชนแก้วกับเขา

ส่วนซูยิงไม่ได้มาเพราะกำลังตั้งครรภ์ พวกผู้ชายอยากสังสรรค์กัน อั้ยเถียนที่มากับเสี้ยงหงจึงชวนเวินจิ้งออกไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้

ทั้งสองไม่ชอบงานเลี้ยงสังสรรค์สักเท่าไหร่ กลับกันถ้าเป็นงานเงียบๆกลับทำให้พวกเธอรู้สึกสบายใจมากกว่า

“ถ้ารู้แต่แรกว่าวันนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปมีอะไรสนุกๆให้ดู ฉันก็คงไปที่งานด้วยแล้ว” อั้ยเถียนพูดยิ้มๆ

เรื่องของมู่เหิงที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในวันนี้ถูกตัดต่อเป็นคลิปหลากหลายเวอร์ชั่นพร้อมทั้งถูกเผยแพร่ไปทั่ว ถือเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะที่สุดในแวดวงของคนรวยในช่วงหลายปีมานี้เลย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท