Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 489

ตอนที่ 489

บทที่ 489 พวกเขาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

มู่วี่สิงมองเห็นความเขินอายของเวินจิ้ง รอยยิ้มในดวงตาซ่อนลึกขึ้น จงใจพูดว่า”แดดร้อนเกินไปหรือเปล่า หน้าแดงอย่างนี้”

ฟังออกความจงใจของมู่วี่สิง เวินจิ้งไม่ได้สนใจเขา เดินไปข้างหน้าเอง

เดินบนชายหาดด้วยเท้าเปล่า น้ำทะเลสีฟ้าลอยมาตามคลื่น และมีความรู้สึกเย็นๆมาจากข้อเท้า

มีสาหร่ายทะเลจำนวนมากลอยอยู่ในน้ำทะเลใกล้กับฝั่งน้ำ มันจะพันรอบเท้าของเวินจิ้งไปเรื่อยๆ และติดกับขาของเวินจิ้งด้วย ทั้งคันทั้งสบาย

มู่วี่สิงเดินอยู่หลังเวินจิ้ง ถามเธอว่า”คุณว่ายน้ำเป็นมั้ย”

“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันเคยเป็นสมาชิกทีมว่ายน้ำของโรงเรียนด้วย”เวินจิ้งพูดอย่างภาคภูมิใจ

“ว่ายช้าสุดเหรอ”มู่วี่สิงแซวเล่น

เวินจิ้งจ้องเขาอย่างหงุดหงิด”เราแข็งว่ายน้ำกัน”

“ได้”มู่วี่สิงยิ้มด้วยความรัก

เวินจิ้งใส่สน็อกเกิ้ล คลื่นค่อยๆไหลผ่านหัวไหล่เบาๆ และไหลผ่านศีรษะเธอไป

เวินจิ้งรู้สึกราวกับตัวเองกลายเป็นนางเงือก โอบกอดโดยน้ำทะเล

เธอไม่ได้ว่ายน้ำนานแล้ว มู่วี่สิงอยู่ข้างๆเขาตลอด เห็นได้ชัดว่าผู้ชายว่ายตามความชาของเธอ

ผ่านสน็อกเกิ้ลและน้ำทะเล เวินจิ้งมองผู้ชายรูปงามหน้าหล่อที่อยู่ข้างเธอโดยไม่กะพริบตา เขาว่ายเร็วกว่าเธอนิดหน่อย เธอก็พยายามว่ายเร็วตาม สองคนว่ายไล่ตามแบบนี้ตลอด

แต่สายตาตกอยู่ตัวมู่วี่สิงตลอด เวินจิ้งม่ได้สังเกตว่าเธอชนกับสิ่งแปลกบางอย่าง เธอหายใจไม่ทันก็เลยสำลักน้ำอย่างรวดเร็ว

มีน้ำทะเลเค็มวิ่งเข้ามาในปากของเธอ สำลักจนจมูกของเวินจิ้งเจ็บมาก

เธอดิ้นรนตามสัญชาตญาณ แต่พบว่าเธอถูกอุ้มขึ้นมาแล้ว

ถอดสน็อกเกิ้ลออก เวินจิ้งก็มองมู่วี่สิงอย่างอับอายเบาๆ จมูกมีอาการปวดเสียวซ่านอีก เธออดไม่ได้น้ำตาไหล

มู่วี่สิงจูบลงโดยตรง เลียน้ำตาของเธอให้สะอาด

“เมื่อไหร่จะทำให้ฉันได้โล่งใจหน่อยนะ”

“ก็ปล่อยให้คุณต้องเป็นห่วงล่ะ”เวินจิ้งพูดอย่างจงใจ

กอดคอของมู่วี่สิงไว้ ขาของเธอก็โอบรอบตัวเขา แขวนอยู่บนตัวมู่วี่สิงเหมือนหมี

มู่วี่สิงอุ้มเธอค่อยๆเดินไปฝั่งน้ำ คลื่นซัดสาดเข้ามาเรื่อยๆ อ่อนโยนแต่ไม่กลัว

ด้วยการลอยตัวของทะเล มู่วี่สิงอุ้มเวินจิ้งไปที่ฝั่งน้ำอย่างง่ายๆ

เมื่อยืนขึ้นจากน้ำ จุดศูนย์ถ่วงของเวินจิ้งก็ไม่มั่นคง และมีคลื่นซัดสาดมาพอดี คลื่นกระทบลงมา เวินจิ้งถอยหลังมาหน่อยโดยไม่รู้ตัว

แขนที่มีแรงของมู่วี่สิงจับเธอไว้”ระวัง”

เสียงและลมหายใจของเขาอยู่ใกล้กับหู”มีก้อนหินเล็กๆเยอะมากอยู่ใต้ฝ่าเท้า จะเจ็บหน่อย จับฉันไว้”

เวินจิ้งพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขย่งเท้าจูบแก้มของมู่วี่สิง

แสงแดดส่องลงมา ยืดเงาของสองคนอย่างยาว

มู่วี่สิงพาเวินจิ้งมานั่งลงที่กลางหาดทราย ทรายที่นี่ไม่เปียก ไม่เปียกเหมือนของชายฝั่ง แห้งนุ่มสบายมาก

“เมื่อก่อนคุณทะเลบ่อยๆเหรอ”เวินจิ้งถามอย่างชิลๆ

มู่วี่สิงมุ่งเน้นคุณภาพชีวิตอยู่เสมอ เมื่อก่อนคงไปเที่ยวพักผ่อนบ่อยๆมั้ง งั้นทะเลจะเป็นตัวเลือกแรกโดยปกติ

“ไปไม่เยอะ ตอนเรียนแพทย์ไม่มีเวลาว่างเลย เรียนจบก็ทำงานแล้ว ยิ่งไม่มีเวลาไปอีก”คำตอบของมู่วี่สิงทำให้เวินจิ้งประหลาดใจเบาๆ

เธอคิดว่ามู่วี่สิงจะเที่ยวทั่วไปเหมือนคนร่ำรวยโดยส่วนใหญ่

แต่จริงๆแล้ว เวลาของเขาถูกบีบถึงจะมีว่างบ้าง

“แล้วจิ้งจิ้งล่ะ” มู่วี่สิงถาม

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ฟื้นความทรงจำอย่างจริงจัง”ตอนสมัยเด็กมากแล้ว น่าจะ… ยังในโรงเรียนอนุบาล”

“ยังจำเรื่องตอนนั้นได้เหรอ”

“แน่นอน ตอนนั้นคุณพ่อยังไม่ได้ไปจากฉันกับเจียนอี สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คุณทำงานอยู่ก็ริมทะเล ตอนนั้นยังมีเด็กผู้ชายที่โตกว่าฉันนิดนึงคนหนึ่งอยู่ข้างๆ พวกเราสร้างปราสาทและเหยียบเงาบนชายหาดด้วยกันเสมอ”

“แล้วยังไงต่อ”ดวงตาขอมู่วี่สิงดูเหมือนจะค่อยๆสว่างขึ้น

“ยังไงต่อเหรอ”เวินจิ้งหยุดสักพักและส่ายหัว”ไม่มีอะไรแล้ว แค่ช่วงเวลานั้นไปที่ชายหาดบ่อยๆ แต่หลังโตขึ้นก็ไม่ค่อยได้ไปชายหาดเลย”

เธอชอบอยู่บ้านตั้งแต่เด็ก ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดที่เรียนการแพทย์ เธอไม่มีเวลาส่วนตัวเท่าไหร่เลย

“คุณยังจำเด็กผู้ชายคนนั้นได้ไหม”มู่วี่สิงถามเหมือนไม่ได้ตั้งใจ

“ต่อให้จำได้ก็คงนึกเขาไม่ออกแล้วมั้ง ตอนนั้นเรายังเด็กเกินไป ฉันไม่รู้ชื่อของเขาด้วยซ้ำ”

“คุณไม่หึงเหรอ”เวินจิ้งกะพริบตามองมู่วี่สิง

“ฉันจะไม่หึงกับเด็กน้อยหรอก”มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นเยือก

“ตอนคุณยังเล็ก คุณไม่ใช่เด็กน้อยหรือไง”เวินจิ้นทำหน้าบึ้งอย่างจงใจ

ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ มองเวินจิ้งเหมือนว่าเวลาจะกลับไปเมื่อเขายังเป็นเด็กอยู่ เขาจับมือเล็กๆของเธอ แล้วค่อยๆเดินอยู่ในชายหาด ราวกับว่าจะไปถึงจุดสิ้นสุดของโลก

เมื่อเห็นมู่วี่สิงนอนลง เวินจิ้งผ่อนคลายตัวอย่างเต็มที่ นอนลงบนชายหาดด้วยกัน

แสงอาทิตย์ไม่ได้ร้อนมาก ส่องแสงบนใบหน้าของทั้งสองคน

เวินจิ้งหลับตาไม่พูดอะไร มู่วี่สิงก็ไม่พูดเหมือนกัน

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงพัดลมทะเล เสียงเพลงของคลื่นกระทบกับโขดหินชายหาด

พระอาทิตย์ตกดินค่อยๆตกไปทางทิศตะวันตก เวินจิ้งหันหน้ามาและแอบเปิดตา ใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงก็อยู่ใกล้ๆ

ผมสั้นที่ถูกตัดแต่งอย่างประณีต คิ้วดวงตาลึก ฟีนิกซ์ด้วยขนตาที่โค้งอยู่ปิดอย่างแน่น ใต้จมูกดั้งโด่ง ริมปากที่สวยงามคันขึ้นอยู่ ท่าทางชิลมาก

สักพัก ม่วี่สิงขยับขนตาเบา เวินจิ้งรีบหันหัวไปทางอื่นทันที แล้วหลับตาอีกครั้ง

ในวินาทีต่อมา มือถูกจับเบาๆ อุณหภูมิที่คุ้นเคย เธอจำทุกบรรทัดบนฝ่ามือของเขาได้อย่างชัดเจนด้วย

เธอยังหลับตาอยู่ แต่การคันปากก็เผยอารมณ์ดีของเธอแล้ว

ทะเลแห่งนี้ เป็นทะเลที่สวยที่สุดที่เธอเคยเห็น

เพราะมีมู่วี่วิงและเธอด้วย

พวกเขาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

กลับถึงห้อง มู่วี่สิงเริ่มทำงานบริษัท เวินจิ้งเข้าใจว่าในฐานะประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มีงานต้องทำในทุกๆวัน

เธอนั่งอยู่หน้าหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน จับโทรศัพท์ตอบข้อความของหลิงเหยาและอั้ยเถียน แล้วโทรหาไป๋สือด้วย เพราะว่าจริงๆแล้วเธอต้องจัดการงานของโรงพยาบาลหลายวันนี้ แต่เธอมาเที่ยวกับมู่วี่สิงล่วงหน้าโดยไม่ได้วางแผนเลย

ในตอนเย็น อาหารเย็นสำหรับสองคนเป็นอาหารเย็นใต้แสงเทียนโรแมนติกริมชายหาด

อาหารเป็นอาหารฝรั่งที่ยอดเยี่ยม เวินจิ้งไม่ค่อยสนใจอาหาร สายตาตกอยู่กับมู่วี่สิงตลอด

ผู้ชายคนนี้ … มองยังไงก็ไม่เบื่อ …

“คุณจะกินข้าวหรือกินฉันเหรอ”มู่วี่สิงคันปาก

พูดเสร็จ เวินจิ้งรีก้มหัวลงทันที ต้องกินข้าวสิ

มู่วี่สิงขำเบาๆ ถือแก้วไวน์ด้วยมือ เขย่าไปเรื่อยๆ

“ถ้าคุณเต็มใจที่จะแต่งงานกับฉัน สิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือขอแต่งงาน”เสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนมาก

เขาคอยรอวันแต่งงานเหลือเกิน

เวินจิ้งยิ้มและแกล้งเขาว่า”คุณคิดว่าตัวเองอายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นจึงรีบแต่งงานหรือเปล่า”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท