Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 505

ตอนที่ 505

บทที่ 505 หรือนี่จะเป็นชะตาของเราสอง

เวินจิ้งและอั้ยเถียนมาที่ห้องคนไข้ ซูยิงฟื้นแล้ว แต่ลี่หนานเฉิงไม่ได้เข้ามาด้วย

เห็นหญิงสาวนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพโรยรา เวินจิ้งหวนนึกอยู่ว่าเมื่อครู่พวกหล่อนยังเฝ้ารอให้ทารกน้อยลืมตาขึ้นมาดูโลกอย่างสุขสันต์หรรษากันอยู่เลย ทว่าผ่านไปไม่เท่าไร ทารกน้อยผู้นี้ก็จากไปเสียแล้ว

“ยิงยิง เมื่อตะกี้หมอบอกว่า เธอเหมือนจะกินยาทำแท้งน่ะ” อั้ยเถียนเอ่ยขึ้นอย่างหวั่นใจ

สีหน้าซีดเผือดของซูยิงพลันเปลี่ยนสี เอามือกุมท้อง ไม่เอ่ยอะไรไปครู่หนึ่ง

หล่อนจะใจดำอำมหิตถึงขนาดฆ่าลูกของตัวเองได้อย่างไรกัน

นอกเสียจากว่า… อาหารการกินประจำวันของหล่อนจะผิดปกติ

“คนที่อยากฆ่าลูกของฉัน มีมากเหลือเกิน” ซูยิงหลับตาแน่นสนิท

สิ่งที่หล่อนไม่ได้บอกเวินจิ้งและอั้ยเถียนก็คือ ตั้งแต่หล่อนเริ่มตั้งท้องลูกคนนี้ หล่อนก็หวาดหวั่นพรั่นใจอยู่เสมอ

คุณปู่ลี่มือไม้ยาวนัก เขาหมายที่จะเอาชีวิตลูกของหล่อนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

อันที่จริงยันมาได้ถึงสี่เดือน ก็เหนือความคาดหมายของซูยิงมากแล้ว

“ยิงยิง” เวินจิ้งพึมพำ แต่แล้วก็ไม่พูดอะไร

ดูภายนอกรักหวานชื่นระหว่างลี่หนานเฉิงกับซูยิง ดูราบรื่นเหมือนเมื่อแรก และก็ได้รับการยอมรับจากตระกูลลี่แล้ว แต่อันที่จริง เกรงว่าจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ยามนี้ เสียงฝีเท้าสายหนึ่งดังเข้ามาจากหน้าประตู ลี่หนานเฉิงเดินเข้ามา เวินจิ้งกับอั้ยเถียนจึงเดินออกไปอย่างรู้สถานการณ์

ซูยิง หลุบตาลงต่ำ ในดวงตาเต็มไปด้วยแววหม่นหมองเศร้าสร้อย

ขอบตาแดงรื้น แต่อย่างไรเสียหล่อนก็ยังขบริมฝีปากแน่นไม่ยอมให้ตนหลั่งน้ำตาออกมา

“ยิงยิง ผมขอโทษ…” ลี่หนานเฉิงว่าพลางแทบจะทิ้งตัวลงคุกเข่าอยู่ข้างเตียง

มือน้อย ๆ ของซูยิงถูกเขาเกาะกุมเอาไว้แน่น หล่อนสัมผัสถึงความทุกข์ใจของเขาได้อย่างแจ่มแจ้ง

“เมือหนานเฉิง หรือนี่จะเป็นชะตาของเราสอง” ซูยิงพลันยิ้มขื่น

แต่สิ่งที่ค่อย ๆ ตามมาหลังรอยยิ้ม คือน้ำตาอุ่น ๆ ที่ไหลพรากเต็มดวงหน้า

ลี่หนานเฉิงโผเข้ามา ก่อนจะค่อย ๆ ประจงจูบซับน้ำตาบนใบหน้าของหล่อนอย่างทะนุถนอมจนเกลี้ยง

ทว่าซูยิงยิ่งร้องก็ยิ่งเกรี้ยวกราด กอดลี่หนานเฉิงไว้แน่น หล่อนกล่าวอย่างแข็งขืน “ฉันจะแก้แค้นให้ลูกของฉันให้ได้”

ด้านนอก เพราะยังเป็นห่วงซูยิงอยู่ เวินจิ้งจึงไม่ยอมจากไปไหน

จนกระทั่งดึกสงัดลี่หนานเฉิงถึงได้เดินออกมา ซูยิงหลับไปแล้ว ความเหน็ดเหนื่อยบนใบหน้าของเขาปิดเอาไว้ไม่อยู่แล้ว

“พวกคุณกลับไปเถอะ นี่ก็ดึกมากแล้ว”

มู่วี่สิงโอบปลอบเวินจิ้ง ก่อนจะหันไปทางลี่หนานเฉิงแล้วกล่าว “ถ้าต้องการให้ผมช่วยอะไร ก็บอกมาได้เสมอ”

ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทว่าเวินจิ้งยังคงเสียใจอยู่

ระหว่างทางที่พาซูยิงมาส่งโรงพยาบาลเมื่อครู่ หล่อนพยายามรักษาทารกในครรภ์เอาไว้ตลอดทาง แต่นึกไม่ถึงว่า ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้

“มู่วี่สิง คุณรู้หรือไม่ว่าใครต้องการฆ่าลูกของซูยิง?” พอขึ้นรถ เวินจิ้งก็หันไปมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างกาย

“คนของ ตระกูลลี่” มู่วี่สิงขมวดคิ้วมุ่น

เด็กคนนี้ เกิดมาผิดเวลาจริง ๆ

ตอนนี้ฐานะของซูยิงในตระกูลลี่ยังไม่มั่นคง คนใจดำอำมหิตของตระกูลลี่ พวกนั้นไหนเลยจะยอมทนดูหล่อนคลอดลูกออกมาแย่งสมบัติหน้าตาเฉย

แต่เห็นได้ชัดว่าขณะที่ทั้งสองกำลังดื่มด่ำความสุขในช่วงตั้งท้องนั้น มีหลายเรื่องที่ไม่ได้คิดป้องกันไว้

“แต่… ที่อยู่ในท้องซูยิงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลลี่ นะ!” น้ำเสียงของเวินจิ้งเดือดดาล

นั่นมันหนึ่งชีวิตนะ ชีวิตคนเป็น ๆ เลยนะ!

ทำไมคนตระกูลลี่ถึงได้ใจทมิฬหินชาติขนาดนี้

มู่วี่สิงยื่นมือเข้ามา ย่นคิ้วเล็กน้อย

“เดิมทีตระกูลลี่ก็เหมือนทะเลลึกที่มองไม่เห็นก้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นที่ ๆ กลืนคนไม่คายกระดูก” มู่วี่สิงกล่าวเสียงเรียบ

เขารู้จักกับลี่หนานเฉิงมาตั้งหลายปีแล้ว ย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางใน ตระกูลลี่อยู่ไม่น้อย

แต่ว่า เขาไม่อยากให้ลี่หนานเฉิงกลับไปที่ตระกูลลี่อยู่แล้ว

เพียงแต่ ความแค้นบางอย่างก็มิอาจละวางได้ เขาจำต้องสั่งสมบ่มแค้นรอวันชำระ

หลังจากนั้นมา ถ้าเวินจิ้งและอั้ยเถียนมีเวลาว่างก็มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนซูยิง ร่างกายของหล่อนก็เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ลี่หนานเฉิงกลับมาหาหล่อนน้อยลง

“ช่วงนี้ลี่หนานเฉิงยุ่งเรื่องอะไรอยู่น่ะ หรือว่างานสำคัญกว่าเมียอย่างนั้นเหรอ?” เวินจิ้งบ่นอุบอิบอย่างไม่สบอารมณ์

“ระยะนี้เขารับช่วงสืบทอดกิจการของตระกูลลี่อยู่ไม่น้อย ปกติก็ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างอยู่แล้ว ฉันเข้าใจดี”ซูยิงกล่าวเสียงเรียบ ราวกับคุ้นชินกับสถานการณ์เช่นนี้อยู่แล้ว

“แล้วเธอล่ะ ตอนนี้คิดได้หรือยังว่าจะไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไหน?” ซูยิงเอ่ยถามยิ้ม ๆ

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ได้ยินว่าช่วงนี้บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยF ในเมืองหนาน ใกล้จะได้ฤกษ์เปิดทำการแล้ว สาขาวิชาแพทยศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยF ก็อยู่อันดับต้น ๆ ของโลก หล่อนเลยอยากจะลองสมัครดู

ถ้าหากสอบติด อย่างนั้นก็จะได้ไม่ต้องไปจากเมืองหนานแล้ว

“ตอนนี้ฉันกำลังดูมหาวิทยาลัยF อยู่ ช่วงนี้ก็กำลังเตรียมตัวเรื่องสัมภาษณ์นี่แหละ”

เรื่องนี้หล่อนเคยคุยกับหลินเวยเอาไว้แล้ว เจ้าหล่อนถึงกับติดต่อมหาวิทยาลัยก่อนเจ้าตัวจะติดต่อเองเสียอีก เพื่อให้เวินจิ้งได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ ซึ่งก็คือเดือนหน้า

แต่ตอนนี้หล่อนยังไม่ได้เตรียมตัวเลยสักนิด

“ทั้งชื่อเสียงและคำบอกเล่าเกี่ยวกับ มหาวิทยาลัยF นี่ไม่เลวเลยนะ เผลอ ๆ ยังสูงกว่ามหาวิทยาลัยหลินไห่ด้วยซ้ำ เวินจิ้ง ฉันสนับสนุน”

“ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะ ฉันจะลองดู”

“แต่ มหาวิทยาลัยF อยู่ที่ ประเทศF นี่ เรื่องของเธอกับมู่วี่สิงไม่กลายเป็นรักระยะไกลหรอกเหรอ?” ซูยิงพลันนึกขึ้นได้

“ก็ฉันดู ๆ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยF ในเมืองหนาน ไว้อยู่ ถึงได้ว่าจะลองดูไงล่ะ”

“ห่างจากมู่วี่สิงไม่ได้เลยสินะ เวินจิ้ง ฉันล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ” ซูยิงพลันกล่าวอย่างทอดถอน

ในสายตาหล่อน ความรักระหว่างเวินจิ้งกับมู่วี่สิงดูจะราบรื่นอยู่เสมอ แต่ของหล่อนกับลี่หนานเฉิงนี่สิ เหมือนสวรรค์จะชอบส่งอุปสรรคมาขัดขวางพวกหล่อนอยู่ไม่น้อย ขลุกขลักเหลือเกิน

หล่อนไม่นึกเลยว่า หล่อนกับลี่หนานเฉิงจะยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ได้

แต่การแท้งครั้งนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกอยากจะถอนตัวจริง ๆ

“ฉันกับเขาเหรอ? ตอนนี้คุณปู่มู่ไม่ยอมให้พวกเราอยู่ด้วยกัน เราสองคนเองก็ลำบาก” เวินจิ้งหน้าสลด

ตอนนี้มู่วี่สิงไม่ยอมกลับบ้านใหญ่เลย เกรงว่าคุณปู่มู่คงยิ่งชังน้ำหน้าหล่อนเข้าไปอีก

“ฟู่ คุณปู่คงจะคิดได้สักวันแหละ ขอแค่เธอกับมู่วี่สิงไม่ยอมแพ้” ซูยิงกล่าวให้กำลังใจ

เวินจิ้งรั้งอยู่จนตกค่ำถึงออกมา เป็นเพราะเรื่องมหาวิทยาลัยหลินเวยเลยให้หล่อนกลับไปที่ ตระกูลหลิน สักครั้ง แต่ตอนนี้มู่วี่สิงมารับหล่อนแล้ว

พอรู้ว่าเวินจิ้งจะกลับตระกูลหลิน มู่วี่สิงก็ไม่ได้ว่าอะไร

ดูออกว่า ช่วงนี้มู่วี่สิงคงจะยุ่งมาก หลายวันมานี้เขาเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องทำงานจนดึกดื่น ตอนเวินจิ้งหลับไปแล้ว มู่วี่สิงก็ยังไม่ได้มานอนข้างกายด้วยซ้ำ

สิ่งที่หล่อนทราบก็คือ เขาเพิ่งคืนสู่ตำแหน่งในโรงพยาบาลได้ไม่นาน ทั้งยังต้องรับช่วงดูแลอาการของโจวหย่านอีก เทียวไปเทียวมาระหว่างบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับโรงพยาบาล มู่วี่สิงทำแบบนี้แทบจะไม่ได้พักผ่อนเลยด้วยซ้ำ เวินจิ้งยิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่

“ถ้าผ่าตัดโจวหย่านเสร็จ คุณจะว่างขึ้นบ้างไหม” เวินจิ้งกอดเขาพลางเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

มู่วี่สิงลูบศีรษะหล่อนอย่างเอ็นดู “ว่าง”

“การผ่าตัดรักษาหล่อนยุ่งยากไหม?”

อย่างน้อย ก็มีแต่มู่วี่สิงที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดนี้

“อื้อ ยุ่งยากมาก”

แม้แต่มู่วี่สิงยังบอกว่ายุ่งยาก เวินจิ้งก็รู้แล้ว

“หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีนะ” หล่อนพึมพำ

ไม่เช่นนั้น ต่อไปสิ่งที่โจวหย่านจะมีมากขึ้นก็คือเวลาในการตอแยมู่วี่สิง

หล่อนไม่ชอบเลย

กลับมาถึงตระกูลหลิน คืนนี้เวินจิ้งกะว่าจะค้างที่ คฤหาสน์หลิน แล้วให้มู่วี่สิงกลับไป

เขาดูไม่ค่อยสบอารมณ์นัก พลางเดินตามเวินจิ้งเข้ามา

“ถ้าคุณจะค้าง ผมก็จะค้างที่นี่เป็นเพื่อนคุณ”

เวินจิ้งยู่ปากน้อย ๆ เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร

ถึงอย่างไร ตอนนี้หลินเวยก็รู้สึกดีต่อมู่วี่สิงอยู่เสมอ อีกทั้ง คฤหาสน์หลิน ก็ไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่

“วี่สิงก็มาด้วยเหรอ น้าเฉินยกชาดอกไม้มาอีกถ้วยค่ะ” หลินเวยสั่งกำชับ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท