Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 503

ตอนที่ 503

บทที่ 503 หล่อนคงจะคิดถึงเขามาก

เดิมคิดว่ามู่วี่สิงจะพาตนไปส่งที่ ตระกูลหลิน ทว่าคิดไม่ถึงว่าจะกลับไปที่ การ์เด้นมูเจียวาน

เวินจิ้งนิ่งอึ้ง แต่ได้ยินมู่วี่สิงกล่าวว่า “ฉันเคยบอกแล้วว่า จะไม่ให้เธอจากฉันไปแม้แต่ครึ่งก้าว”

เวินจิ้ง “…”

หล่อนต้องอยู่ในสายตาของเขาตลอด

“หรือคุณจะให้ฉันไปทำงานกับคุณด้วยหรือไง” เวินจิ้งบ่นอุบอิบ

“ผมกำลังคิดอยู่เลย” ทว่ามู่วี่สิงกลับพยักหน้ารับ

“ช่วงนี้ฉันต้องติดต่อมหาวิทยาลัยอื่น ๆ คงไม่มีเวลาว่างนักหรอก” เวินจิ้งย่นคิ้ว

“คุณอยากเรียนที่มหาวิทยาลัยไหน ผมจะช่วยติดต่อให้ เรื่องทุกเรื่องให้ผมจัดการเอง” มู่วี่สิงกล่าวตอบแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เวินจิ้งมองชายหนุ่มตรงหน้า หน้าหล่อ ๆ ที่ดูตึง ๆ ของเขา กับสีหน้าที่บอกว่าไม่อาจต่อรองได้

“แต่ว่า ฉันอยากจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” เวินจิ้งกล่าวพึมพำ

“คุณควรจะรู้ว่า ในเมืองหนาน นอกจากมหาวิทยาลัยหลินไห่แล้ว ก็ไม่มีมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกแล้วในเมืองหนาน” มู่วี่สิงกล่าวด้วยเสียงนุ่มทุ้ม

ไม่ว่าเวินจิ้งจะไปเรียนต่อที่ไหนก็ตาม อย่างไรเสียก็ต้องไปจากเมืองหนานอยู่ดี

“อือ…” เวินจิ้งหน้านิ่วคิ้วขมวด

นี่เป็นจุดที่หล่อนลังเลมาโดยตลอด

“พวกเราต้องแยกกันอยู่คนละที่” มู่วี่สิงกล่าว

“ฉันรู้ แต่หลายปีมานี้ ฉันอยากจะให้ความสำคัญกับการเรียนมาเป็นอันดับแรก” เวินจิ้งกล่าวเสียงเครือ

มิเช่นนั้น หล่อนคงไม่ได้สมใจเสียที

“ผมสนับสนุนทุกการตัดสินใจของคุณ แต่สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด ก็คือมีคุณอยู่ข้างกายผม” พอมู่วี่สิงระบายถ้อยคำออกมา ก็ปล่อยมือก่อนจะเข้าไปในห้องทำงาน

เขารู้ว่าเวินจิ้งต้องใช้ความคิด เขาต้องให้เวลาแก่หล่อน

เขาสามารถบังคับให้หล่อนอยู่ต่อได้ อยู่ข้างกายเขาต่อไป แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

เขาคลำบุหรี่มวนหนึ่ง มู่วี่สิงเอามือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หันหน้าเข้าหาหน้าต่างติดพื้นบานใหญ่ แต่ยามนี้ในสายตา กลับไม่เห็นเวินจิ้ง

เมื่อคิดได้ว่าต่อไปหล่อนจะไม่ได้อยู่ข้างกายตนเป็นระยะเวลายาวนาน แค่วินาทีเดียว เขาก็รู้สึกไม่อาจทนรับได้แล้ว

แต่เวินจิ้งมิใช่นกน้อยที่ถูกขังไว้ในกรงทองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว หล่อนต้องการโบยบินไปบนท้องฟ้าที่กว้างกว่า

ในห้องรับแขก เวินจิ้งนั่งอยู่บนโซฟา พักนี้หลินเวยมองหามหาวิทยาลัยไว้ให้หล่อนหลายแห่ง มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ที่อยู่ใกล้ที่สุดแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองเป่ยเฉิง หากเดินทางจากเมืองหนานด้วยเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่อันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่ถ้าจะให้หามหาวิทยาลัยที่ดีกว่านี้ ด้วยสถานการณ์ของหล่อนในปัจจุบัน เกรงว่าจะเป็นไปได้ยาก

หลินเวยแนะนำให้หล่อนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศ อย่างน้อยผลคะแนนของเวินจิ้งก็ยังยอดเยี่ยมพอ ถ้ายื่นสมัครไปก็คงไม่ยาก ทั้งยังไม่มีระเบียบข้อจำกัดหยุมหยิมเยอะแยะเหมือนมหาวิทยาลัยในประเทศอีกด้วย

เวินจิ้งเห็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ตนชอบมาก อยู่แถบยุโรป แต่เวลาบินกลับมาที่เมืองหนาน ต่อให้บินตรงก็ต้องใช้เวลาถึงสิบสองชั่วโมงเลยทีเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นหล่อนเข้าใจสภาพการณ์เรียนของนักศึกษาแพทย์ดีว่าหนักหนาสาหัสแค่ไหน แม้แต่หาเวลาว่างกลับประเทศ ก็เกรงว่าจะน้อยยิ่งกว่าน้อยเสียอีก

ถ้าไม่ได้เจอมู่วี่สิง… หล่อนคงจะคิดถึงเขาน่าดู

ขมวดปมความคิดอยู่นานสองนาน ความง่วงก็เริ่มแผ่คลุม เวินจิ้งบอกกับหลินเวยผ่านทางโทรศัพท์ว่าระยะนี้จะพักอยู่ที่การ์เด้นมูเจียวาน ไปก่อน ก่อนจะไปอาบน้ำ

ครั้นออกมา กลับพบมู่วี่สิงที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด นั่งอยู่บนโซฟา ท่อนขายาวใหญ่ไขว่ห้างกันอยู่ ท่วงท่าค่อนข้างเกียจคร้านแต่ดูสง่างาม

วันนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้า ไม่มีท่าทีเคร่งขรึมเย็นชาเหมือนเคย ทว่าดูอ่อนโยนลงไม่น้อย

สติสตังของเวินจิ้งถูกเขาดึงไปจนหมด

นิ่งอึ้งไม่ขยับอยู่หน้าประตูห้องน้ำเป็นนานสองนาน

“มานี่” จนกระทั่งน้ำเสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงดังขึ้น

เวินจิ้งขบริมฝีปาก เดินเข้าไปหาอย่างนวยนาด

ขณะที่ยังห่างกันอยู่ครึ่งเมตร แขนของมู่วี่สิงก็พลันเกี่ยวข้อมือของหล่อนเอาไว้ เป็นเพราะเวินจิ้งคุ้นชินเลยเสียหลักเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

ลมหายใจอันคุ้นเคยที่เป่ารดอยู่ห่างออกไปไม่กี่กระเบียดทำให้หล่อนหลงรักอย่างเต็มเปา

หล่อนเกาะเกี่ยวลำคอของมู่วี่สิง พลางได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นอย่างมั่นคงได้ชัดเจน

ยังไม่ทันได้สติกลับมา รสจูบอันร้อนแรงก็ประทับลงมาแล้ว

จนกระทั่งทั้งสองเก็บเกี่ยวความหวานของกันและกันเสร็จแล้ว เวินจิ้งก็ถูกมู่วี่สิงโอบไว้ในอ้อมอก เหนื่อยจนแค่ปิดตาก็ผล็อยหลับไปได้เลย

ผ่านไปนาน เขาขบใบหูของหล่อน ก่อนจะกล่าวพึมพำ “จิ้งจิ้ง ผมไม่ให้คุณไปจากผม”

วันต่อมา เวินจิ้งตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเที่ยงแล้ว วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ แต่มู่วี่สิงก็ไม่ได้ไปทำงาน

พออาบน้ำเสร็จออกมา ในห้องอาหารก็จัดเตรียมอาหารกลางวันอันแสนประณีตไว้พร้อมสรรพแล้ว

เวินจิ้งยังไม่ค่อยคุ้นชินกับชีวิตแบบนี้ ราวกับย้อนกลับไปอยู่ในช่วงที่ทั้งสองยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ทุกสุดสัปดาห์หล่อนจะนอนทอดตัวอยู่บนเตียงจนถึงเที่ยง ส่วนเวลานี้มู่วี่สิงก็เตรียมอาหารกลางวันไว้พร้อมแล้ว พอหล่อนตื่นขึ้นมาก็กินได้เลย

“คุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?” เวินจิ้งมองชามหนุ่มรูปงามที่แต่งตัวสบาย ๆ

“อีกเดี๋ยวเกาเชียนก็มา ผมจะสะสางเอกสารในห้องทำงาน” มู่วี่สิงประคองดวงหน้าน้อย ๆ ของหล่อนเอาไว้ ระบายถ้อยคำออกมาก่อนที่จะประทับจุมพิตอันดูดดื่มตามลงไป

เวินจิ้งยกมือขึ้นโอบเอวของชายหนุ่มเอาไว้ ยันตัวไว้ในอ้อมกอดของเขา

“เอาเถอะ ฉันอยู่คนเดียวก็ได้ คุณอย่าเสียงานเสียการเพราะฉันก็พอ” เวินจิ้งกล่าวพึมพำ

ช่วงที่อยู่ที่ ประเทศB ก่อนหน้านี้ก็นานอยู่ หล่อนทราบดีว่ามู่วี่สิงมีงานมากมายเพียงใด หลังจากกลับมาย่อมต้องยุ่งเอามาก ๆ

“ห้ามพูดเรื่อยเปื่อย การที่คุณอยู่กับผม ทำให้ผมมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานต่างหาก” มู่วี่สิงลูบคลำศีรษะของเวินจิ้งอย่างทะนุถนอม

ดวงหน้าของเวินจิ้งเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

แสงตะวันสาดลอดเข้ามา ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่น

รับประทานอาหารเสร็จไม่นานเกาเชียนก็มาถึง เวินจิ้งอ่านหนังสืออยู่ตรงระเบียง ช่วงนี้อั้ยเถียนกลับว่าง ทั้งสองเลยนัดกันออกไปเดินถนนหาของกินกันตอนกลางคืน

ทว่าตอนบ่ายมู่วี่สิงก็ออกไปข้างนอก พร้อมทั้งกำชับให้เวินจิ้งโทรหาเขาก่อนกลับบ้านตอนค่ำ เขาจะได้ไปรับ เวินจิ้งรับคำ

โรงพยาบาลหลินไห่

ตอนที่มู่วี่สิงมาถึง เลี่ยวหยงก็มาถึงแล้ว

“คุณนายโจว” มู่วี่สิงพยักหน้าให้เบา ๆ

“คุณหมอมู่ ข้อตกลงที่ฉันรับปากคุณไว้สำเร็จแล้ว”

“อื้อ ตอนนี้อาการของโจวหย่านต้องรอดูอีกสักระยะ เรื่องผ่าตัดผมจะเตรียมตัวอีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง”

กล่าวจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยของโจวหย่าน

พักนี้ โจวหย่านอารมณ์ไม่ดีเอาเสียเลย เจอใครเข้าก็เอาแต่อาละวาด หงุดหงิดใส่

“ฉันไม่กินยา… อย่าเข้ามารบกวนฉัน!” พอได้ยินเสียงฝีเท้า โจวหย่าน เลยนึกว่าเป็นพยาบาล

“หย่านหย่าน อย่าเพิ่งโวยวาย คุณหมอมู่มาตรวจอาการ” เลี่ยวหยงเอ่ยขัดพลางตีหน้าดุใส่

ได้ยินดังนั้น โจวหย่านก็นิ่งอึ้งไป ก่อนจะพลิกตัวหันกลับมา

เมื่อแน่ใจว่าเป็นมู่วี่สิง สีหน้าท่าทางจึงได้อ่อนโยนลง

แต่ไม่นาน ก็ตีหน้างอแงใส่

“ช่วงนี้ คุณหนูโจว รู้สึกไม่สบายตรงส่วนไหนหรือเปล่าครับ?” มู่วี่สิงกล่าวอย่างชืดชาห่างเหิน

“ตรงขมับปวดไปหมดเลยค่ะ แขนขาก็ไม่มีแรง” โจวหย่านกล่าวเสียงอ่อน

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ก่อนจะเข้าไปตรวจอาการให้โจวหย่าน วินาทีต่อมา โจวหย่านกลับอุกอาจเข้ามากอดมู่วี่สิงเอาไว้

“คุณกอดฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท