บทที่533 ห้ามโกรธแบบไม่มีเหตุผลอีก
เวินจิ้งตัวสั่นเบาๆ ไม่ได้พูดสักพัก
มู่วี่สิงก็ปล่อยเธอวินาทีนั้น แล้วหันหลังเดินเข้าไปในลิฟต์
“มู่วี่สิง” เวินจิ้งรีบตามไป แต่ทำได้เพียงมองประตูลิฟต์ที่ปิดไปต่อหน้าต่อตาเธอ
มู่วี่สิงโกรธแล้ว
เธอรีบกดปุ่มลิฟต์ แต่เมื่อเธอลงไปถึงชั้นหนึ่ง ก็ไม่เจอมู่วี่สิงแล้ว
วิ่งออกจากโรงพยาบาล ท้องฟ้าเพิ่งเริ่มสว่าง คนที่เดินบนถนนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เวินจิ้งมองถนนทั้งสองข้างและดวงตาของเธอก็ค่อยๆเปียก
ทั้งๆที่เธอกับเจียงฉีไม่ได้มีอะไรกัน อารมณ์ของมู่วี่สิงไร้เหตุผลเหลือเกิน
กลับไปที่โรงพยาบาลอย่างโกรธ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดิน นึกถึงทัศนคติของมู่วี่สิงในเมื่อกี้นี้ รู้สึกทั้งเสียใจและไม่ได้รับความเป็นธรรม
ไปหาเขาแล้วกัน
แต่เรื่องนี้เธอไม่ได้ทำผิด
ลังเลตั้งนาน เวินจิ้งถึงจะตัดสินใจไปหามู่วี่สิง แต่เธอเพิ่งลุกขึ้นยืน มีเงาร่างสูงปกคลุมอยู่ตรงหน้าเธอและเธอก็เข้าไปในอ้อมกอดที่คุ้นเคย
ทันใดนั้นเบ้าตาของเธอก็ร้อนขึ้นและน้ำตาไหลลงเต็มสองแก้ม
ยกมือขึ้น เธอกอดเขาแน่นๆ
“จิ้งจิ้ง “เสียงทุ้มก็ดังขึ้น
เขาอยู่ในรถที่จอดอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลตลอด เห็นเวินจิ้งวิ่งออกไปแล้ว วิ่งกลับเข้าไปในโรงพยาบาลอีก
รอให้อารมณ์ของตัวเองสงบลงแล้ว เขาถึงจะเข้ามา
“เกลียด ไอ้สารเลว” เวินจิ้งอาละวาดเบาๆ
“มู่วี่สิง คุณหึงอะไรของคุณ ฉันแค่ส่งเจียงฉีมาโรงพยาบาลจริงๆ แต่ก็มีคนเฝ้าอยู่ข้างนอก ฉันถึงอยู่ต่อสักพัก” เวินจิ้งอธิบายอย่างมีความอดทน
“อืม”มู่วี่สิงพยักหน้าและกอดด้านหลังหัวของเธอไว้แน่นๆ
“คุณห้ามโกรธแบบไม่มีเหตุผลอีก” เวินจิ้งผลักเขาออกไป
เห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้าของมู่วี่สิง เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่ได้นอนทั้งคืนแน่
“ถ้าครั้งหน้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ฉันก็ยังจะโกรธ”มู่วี่สิงตามตรง
ผู้หญิงของเขาอยู่ในหอผู้ป่วยกับผู้ชายคนอื่นจนถึงเช้า ยังไงเขาก็สงบลงไม่ได้ …
“คราวหน้าคงไม่เป็นแบบนี้แล้วมั้ง” เวินจิ้งเกาหัว
“อย่าไปสนใจเจียงฉี” มู่วี่สิงจับมือพาเธอออกจากโรงพยาบาล
“เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน” เวินจิ้งอธิบาย
“ฟังฉันนะ อย่าไปยุ่งเรื่องเขากับหลิงเหยาแล้ว” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นลง
เวินจิ้งมองมู่วี่สิง อยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูด
เธอไม่สามารถเข้าใจความหมายในดวงตาของเขาในขณะนี้
กัดริมฝีปาก เธอหันหน้าไปอย่างหงุดหงิด
คำพูดของโจวเซิน คำพูดของผู้ชายคนนั้นเมื่อคืน อยู่ในสมองของเธอตลอด
เดี๋ยวมีเรียน มู่วี่สิงส่งเธอกลับมหาวิทยาลัย” ตอนเช้าลาเรียนก่อน นอนพักสักพักแล้วตอนบ่ายค่อยไปเรียนนะ”
“ไม่ได้ ฉันจะขาดเรียนไม่ได้” เวินจิ้งวางแผนจะไปห้องเรียนโดยตรงเลย
สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชาลงทันที
จับแขนของเวินจิ้งไว้ กอดเธออยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ถ้าไม่เชื่อฟัง ฉันจะพาคุณกลับไปการ์เด้นมูเจียวานเดี๋ยวนี้” มู่วี่สิงพูดคำไหนคำนั้นมาโดยตลอด
เวินจิ้งพองกระพุ้งแก้ม ดูเวลาและลังเลเบาๆ
“ได้ กลับบ้าน” เมื่อเห็นมู่วี่สิงสตาร์ทเครื่องยนต์จริงๆ เวินจิ้งรีบห้ามเขาไว้ทันที
“ฉันจะกลับหอไปนอนเดี๋ยวนี้”
“ติดต่อกับฉันตลอด”
เวินจิ้ง …
“รับทราบ”
มองเวินจิ้งจากไป รอยยิ้มของมู่วี่สิงก็ค่อยๆหายไป ในเวลานี้โทรศัพท์ดังขึ้น สายโทรมาของหลิงเหยา เขาไม่ได้สนใจ และขับรถกลับไปโรงพยาบาล
เมื่อมาถึงห้องทำงาน ส้งเชนรอเขาตั้งนานแล้ว
“ตอนนี้อยากเจอศาสตราจารย์มู่มันยากจริงๆ ” ส้งเชนแซวเล่น
มีข่าวลือว่าคิวคนไข้ของมู่วี่สิงยาวถึงหลังสามปีนู้นแล้ว และนักขายตีราคาถึงหลักหมื่นด้วยซ้ำ
“ถ้าคุณอยากเจอฉัน ฉันจะเพิ่มคิวให้คุณได้ตลอดเวลา” มู่วี่สิงยิ้มอย่างอ่อนโยน
“งั้นฉันจะฟังไว้ก่อน เข้าเรื่องเถอะ มหาวิทยาลัยได้อนุมัติกรณีความร่วมมือกับบริษัทมู่ซือกรุ๊ปแล้ว ต่อไปคุณจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างแล้วนะ” ส้งเชนกล่าว
“อืม แต่ฉันต้องการนักศึกษาของคุณ”
“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ที่ฉันแนะนำให้คุณเป็นนักศึกษาที่เก่งที่สุดของมหาวิทยาลัยFไปหมด”ส้งเชนยื่นเอกสารให้
มู่วี่สิงอ่านไป เหลือบตาขึ้นมองส้งเชนและพูดอย่างจริงจัง “ฉันแค่ต้องการเวินจิ้งเพียงคนเดียว”
“โอ้ มีแต่แย่งเวินจิ้งกับฉัน “ส้งเชนโพล่งพูดออกมา
ตอนแรกเธอจะสอนนักศึกษาคนนี้ด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าโจวเซินซึ่งไม่เคยสอนนักศึกษาฝึกงานขอเวินจิ้งด้วยเขาเอง เธอเพิ่งให้คนนี้กับเขา
ไม่คิดว่า ตอนนี้มู่วี่สิงบอกเธอแบบนี้เหมือนกัน
“นี่คุณคงต้องถามเวินจิ้งเองล่ะ ตอนนี้เธอกำลังฝึกงานกับนักศึกษาปริญญาเอกของฉัน มีเวลาไม่มากนะ” ส้งเชนเตือน
เธอได้ยินข่าวลือมากมายบอกว่าสองอยู่ด้วยกัน แต่มู่วี่สิงยังไม่ได้แต่งงาน เธอก็เลยไม่เชื่อ
“ครับ ผมจะคุยกับเธอ”
“สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมประชาสัมพันธ์ข้ามประเทศ ถ้าเวินจิ้งมีเวลา คุณก็พาเธอไปด้วยเถอะ มันเป็นเรื่องยากที่นักศึกษาของฉันจะได้รับความสนใจจากศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงแบบนี้”ส้งเชนกล่าวอย่างตั้งใจคลุมเครือ
มู่วี่สิงไม่ได้โต้ตอบ เมื่อมองตารางงานต่อมา ริมฝีปากบางๆของเขาก็มีรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน
คืนนั้น มู่วี่สิงมาที่มหาวิทยาลัย Fเร็วมาก
เวินจิ้งนอนหลับอย่างสบายตามคำสั่งทั้งเช้า ตอนบ่ายเลิกเรียนแล้ว เธอคิดจะกลับที่หอพัก แต่ไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะมาด้วย
วันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์ เธอไม่คิดจะกลับการ์เด้นมูเจียวาน
“ทำไมคุณถึงมาเหรอ” นั่งอยู่ในรถ เวินจิ้งมองผู้ชายหน้าตาหล่อที่อยู่ข้างๆ
“กินข้าวกับคุณไง” มู่วี่สิงสตาร์ทเครื่องยนต์
“วันนี้คุณว่างมากเหรอ”
“เดือนหน้าก็จะไม่ได้ยุ่งมาก” มู่วี่สิงกล่าว
“อ๋อ มีคนไข้เยอะมากรอต่อแถวเข้าผ่าตัดอยู่ไม่ใช่เหรอ” เธอเคยสอบถามงานของมู่วี่สิง และตอนนี้เขายังมีการผ่าตัดอย่างน้อยสิบครั้ง
“จะฝากให้แพทย์รับผิดชอบแทนในชั่วคราว”
“คุณจะไปทำอะไร”
มู่วี่สิงยื่นเอกสารชุดหนึ่งมาให้ เวินจิ้งอ่านอย่างตั้งใจ
บริษัทมู่ซือกรุ๊ปเพิ่งสร้างความร่วมมือด้านยากับมหาวิทยาลัยFอย่างสำเร็จ และการประชุมการประชาสัมพันธ์ของช่วงแรกใน1เดือนต่อมา มู่วี่สิงจะเป็นผู้รับผิดชอบหลัก
และเธอ … อยู่ในรายชื่อนี้ด้วย
เวินจิ้งรู้สึกประหลาดใจมาก เธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้เธอกำลังฝึกงานกับโจวเซิน ดูเหมือนเธอจะไม่มีเวลามาก
“เดือนหน้าเธอจะอยู่กับฉัน ทางโจวเซิน ต้องการให้ฉันช่วยจัดการให้มั้ย” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเย็นลงเมื่อพูดถึงโจวเซิน
“ฉันจะคุยกับเขาเอง” เวินจิ้งส่ายหัวและแอบมองมู่วี่สิง เธอรู้มาตลอดว่าเขาไม่ชอบให้เธอฝึกงานกับโจวเซิน
นี่ก็เป็นโอกาสที่จะออกจากโจวเซินด้วย
ถึงแม้ว่าทำงานกับเขาก็ไปได้ค่อนข้างดี แต่ว่าเธออยากอยู่กับมู่วี่สิงมากที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว
“ฉันจะคุยกับเขาเมื่อฉันกลับไปที่โรงพยาบาลในพรุ่งนี้” เวินจิ้งตอบ
“โจวเซินคงไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆหรอก” มู่วี่สิงหยุดสักพัก
นิสัยของโจวเซิน ตอนนี้เขาก็รู้จักอย่างดีแล้ว
ในเมื่อเขาตั้งใจย้ายเวินจิ้งไปอยู่ข้างๆเขา ก็จะให้เธออยู่ต่อให้ได้แน่นอน
“เอ่อ นี่ก็ได้รับอนุญาตจากศาสตราจารย์ส้งแล้วไม่ใช่เหรอ”เวินจิ้งมองเขา
“อืม แต่ศาสตราจารย์ส้งเชนก็บอกว่า ให้คุณคุยกับโจวเซินก่อน”
เวินจิ้งเงียบ ประหม่าเล็กน้อย โจวเซินกับมู่วี่สิงดูเหมือนจะมีความเกลียดชังอะไรกัน เธอนึกได้เลยว่าโจวเซินจะปฏิเสธเธอโดยตรงอย่างแน่นอน