Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 573

ตอนที่ 573

บทที่ 573 เพ้อฝัน

เวินจิ้งเม้มปาก ไม่พูดอยู่ครู่หนึ่ง

“เรื่องย้ายโรงพยาบาลฉันจะจัดการเอง นายวางใจเถอะ”

พูดจบ เธอก็ตั้งใจจะไปหามู่วี่สิงทันที

เจียงฉีมองแผ่นหลังของเวินจิ้งที่เดินจากไป ด้วยสายตาล้ำลึก

กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลหนานเฉิงก็เย็นมากแล้ว

เวินจิ้งลงมาจากรถแท็กซี่ และเดินไปที่ห้องทำงานของมู่วี่สิงทันที

ระหว่างทางก็เอาแต่คิดว่าจะเริ่มพูดยังไงดี แม้จะรู้ว่ามู่วี่สิงจะโกรธ แต่เจียงฉีก็เจ็บเพราะเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆได้

เธอเดินมาหยุดที่หน้าห้องทำงาน เวินจิ้งยังไม่ทันได้เคาะประตู ประตูก็เปิดออกมาเสียก่อน

เธอเกือบจะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมู่วี่สิงอยู่รอมร่อ อย่างหยุดไม่อยู่

สายตาของมู่วี่สิงอบอุ่นดังเดิม “มาหาผมหรอ”

“ไม่งั้นจะมาหาใครล่ะ” เวินจิ้งพึมพำ

“เข้ามาสิ” มู่วี่สิงหันกลับเข้าไปในห้องทำงาน

เวินจิ้งเดินตามเขาอย่างรักษาระยะห่าง พร้อมมองเขาไปด้วย ไม่ได้เจอกันแค่หนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ทั้งคู่ดูจะแปลกๆกันไปไม่น้อย

ตอนนี้เวินจิ้งไม่รู้จะพูดอะไรดี

“มาหาผม มีอะไร”

“ไม่มีอะไร มาหาคุณไม่ได้รึไง” น้ำเสียงของเวินจิ้งยิ่งไม่พอใจ

“ได้” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

ความน้อยใจถูกเขาหยุดเอาไว้

“วันนี้คุณยุ่งมากไหม” เธอพูดเสียงเบา

“ไม่ยุ่ง” มู่วี่สิงยังไม่มองเธอเลยตั้งแต่ต้น

เวินจิ้งรู้ ว่าเขายังโกรธอยู่

เธอก็โกรธเหมือนกัน

แต่ตอนนี้เธอจำเป็นต้องขอร้องเขา

แต่คำพูดที่จะพูดกลับพูดไม่ออก

“จิ้งจิ้ง มีอะไรก็พูดมา” มู่วี่สิงมองท่าทางกระอักกระอ่วนของเธอออก

ไม่ว่าเวินจิ้งจะรู้สึกยังไงก็ไม่อาจรอดพ้นสายตามู่วี่สิงไปได้

เธอกัดริมฝีปาก พร้อมนั่งลงตรงหน้ามู่วี่สิง

“เจียงฉี…แผลของเจียงฉีติดเชื้อ โรงพยาบาลนั้นรักษาไม่ได้ ตอนนี้รู้แค่ว่าโดนยาพิษ ให้เขาย้ายมาที่นี่ได้ไหม”

“คุณจะช่วยมันหรอ”

“แน่นอน” เวินจิ้งโพล่งออกไป

แต่สำหรับมู่วี่สิงแล้ว มันมีแต่ความเย็นชาส่งกลับมา

เธอแอบกำมือตัวเองแน่น

ในตอนนั้น เธอแทบไม่คาดหวังเลยว่ามู่วี่สิงจะตอบตกลง สายตาของเขานิ่งมาก นิ่งจนเธอรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงใจ

เธอยกยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา ก่อนที่จะเตรียมเดินจากไป แต่กลับได้ยินคำตอบของมู่วี่สิงก่อน

“เขาย้ายมาที่โรงพยาบาลหนานเฉิงได้”

“คุณจะเป็นคนรักษาใช่ไหม” เวินจิ้งถามเขาด้วยความกังวล

“คุณหวังว่าผมจะรักษาหรอ” น้ำเสียงของเขาเย็นชา

เวินจิ้งนิ่งไป เธอหวัง…

ในสายตาของเธอ ความสามารถของมู่วี่สิงไม่มีใครเทียบได้ มีแค่เขาเท่านั้นที่จะทำให้เธอวางใจได้

“แล้วแต่คุณ” เวินจิ้งปากไม่ตรงกับใจ

“อืม”

“มีเรื่องอื่นอีกไหม”

“ไม่มีแล้ว งั้นฉันไปแล้วนะ” เวินจิ้งยืนขึ้น

จนเดินออกไปจากห้องทำงาน มู่วี่สิงก็ไม่ตามเธอออกมา

เวินจิ้งยอมรับ ตอนนี้ใจของเธอว่างเปล่ามาก

เธอทำหน้าบึ้งอย่างหงุดหงิด และรีบเร่งฝีเท้าเดินไป จนกระทั่งเข้าไปในลิฟต์ เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมา

“ผมจะไปส่งคุณกลับ” น้ำเสียงอันคุ้นเคยดังอยู่ข้างหูเธอ

เวินจิ้งอึ้ง และค่อยๆพยักหน้าลงเบาๆ

จนกระทั่งมาถึงมหาวิทยาลัยF ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เวินจิ้งปลดเข็มขัดนิรภัยออก ก่อนที่เสียงของมู่วี่สิงจะดังขึ้นมาข้างๆหู “พรุ่งนี้ผมจะจัดการเรื่องย้ายโรงพยาบาลของเจียงฉีให้”

“ขอบคุณค่ะ” เวินจิ้งมองเขาด้วยความแปลกใจ

“ผมไม่อยากให้คุณสุงสิงกับมันเยอะ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเย็นชา

แต่เวินจิ้งก็ไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด

“พวกเราเป็นเพื่อนรวมคณะกัน ปกติไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะสุงสิงกันได้”

“คุณจะทะเลาะกับผมให้ได้เลยใช่มั้ย” มู่วี่สิงหรี่ตามอง

“คุณอยากหาเรื่องฉันแน่นอน ฉันกลับแล้ว” พูดจบ เวินจิ้งก็ลงจากรถไปอย่างไม่รีรอ

สีหน้าของมู่วี่สิงตกตะลึงไปครู่ใหญ่ ก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้นมาดึงความสนใจของเขาไป

“ประธานมู่ เราหาตัวคนที่ตั้งใจจะทำร้ายคุณเวินจิ้งได้แล้ว คุณหลิงเหยาเป็นคนสั่ง”

“อืม จัดการคนพวกนั้นให้เรียบร้อย”

เมื่อวางสาย และกลับถึงโรงพยาบาลก็เป็นเวลาหลายตีแล้ว แต่โจวหย่านก็ยังคงรอเขาอย่างดื้อดึง

“ฉันนึกว่าคืนนี้คุณจะไม่กลับมาแล้วซะอีก” โจวหย่านมองเขา

“คุณเป็นคนไข้ พักผ่อนให้ตรงเวลาทำได้ไหม” สายตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดี

“ถ้าคุณพักผ่อนตรงเวลา ฉันก็จะพักผ่อนตรงเวลา”

“กลับไปนอนได้แล้ว” พูดจบ มู่วี่สิงก็เดินเข้าห้องทำงานไป

แต่โจวหย่านกลับดื้อดึงตามมา

จนกระทั่งมู่วี่สิงปิดประตูกันเธอไว้นอกห้องทำงาน

เธอยืนอยู่นอกประตู จนรู้สึกวิงเวียนศีรษะ จึงต้องพิงตัวเองไว้กับพนัง จนกระทั่งถึงตอนที่เธอแทบจะทนไม่ไหวแล้ว มู่วี่สิงจึงออกมาพยุงเธอ

โจวหย่านลืมตาขึ้น ก่อนจะล้มเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนเขา

ชายหนุ่มพยุงเธอมาไว้ที่เตียงผู้ป่วยแถวนั้น ก่อนจะให้บุรุษพยาบาลมาเอาเธอไปส่ง

โจวหย่านยังคงดื้อดึงเสื้อเขาไว้ดังเดิม

“มู่วี่สิง คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อย”

มู่วี่สิงหันหลังให้อย่างเย็นชา โจวหย่านได้แต่ถอนหายใจ และปล่อยน้ำตาไหลอย่างกลั้นไม่อยู่

วันรุ่งขึ้น มู่วี่สิงมาที่โรงพยาบาลเขตตะวันตกด้วยตัวเอง เมื่อเจียงฉีเห็นหน้าเขา สีหน้าก็ดูลำบากใจไม่น้อย

“รบกวนคุณมู่แล้ว”

“อืม” สีหน้าของมู่วี่สิงยังนิ่งเหมือนเดิม

นอกจากตรวจแผลของเจียงฉีแล้ว เขาก็เอาผลการรักษากลับไปด้วย มู่วี่สิงจึงจะกลับไปที่โรงพยาบาลหนานเฉิงด้วยกัน

เมื่อออกมาจากห้องผู้ป่วย เวินจิ้งก็รีบมาทันที

เมื่อเห็นมู่วี่สิงอยู่ที่นี่ เธอก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย

“ทำไมคุณถึงมาอยู่นี่ล่ะ”

“เอาเอกสาร” น้ำเสียงของมู่วี่เฉิงนิ่ง

“อ๋อ งั้นก็รบกวนคุณด้วย” เวินจิ้งตอบเสียงเบา

เมื่อมองมู่วี่สิง ก็รู้สึกแต่วุ่นวายใจ

เจียงฉีถูกส่งไปที่โรงพยาบาลหนานเฉิงแล้ว เวินจิ้งจึงต้องนั่งรถของมู่วี่สิงไป

ระหว่างทาง ชายหนุ่มก็เอาแต่เงียบ

ในที่สุดเวินจิ้งก็ทนไม่ไหว จึงกอดแขนเขาไว้

“อาจารย์คะ วันนี้ฉันต้องอยู่โรงพยาบาล” น้ำเสียงเธออ่อนลงมาก

สีหน้าอันเคร่งขรึมของมู่วี่สิงก็ดูจะอ่อนลงไม่น้อย

“อืม อยู่ข้างๆผม”

ประโยคนี้ช่างทำให้คนอยากจะลอย

แต่คนที่พูดประโยคนี้กลับเป็นคนที่จริงจังมาก

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เวินจิ้งก็อยู่ข้างๆมู่วี่สิง แม้เขาจะเป็นอาจารย์ประสาท แต่เขาก็ต้องจัดการในด้านอื่นๆด้วย

หลังจากที่ตรวจแผลของเจียงฉีด้วยตัวเองแล้ว เขาก็เอาไปที่ห้องทดลอง

จนกระทั่งถึงเย็น ในที่สุดก็สามารถหาสารพิษที่ติดเชื้อได้

“มือของเจียงฉี…จะไม่เป็นไรใช่ไหม” เวินจิ้งถามอย่างประหม่า

“อืม แต่ว่าภายในหนึ่งปีจะใช้แรงมากไม่ได้” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

พอเขาบอกจบ เวินจิ้งก็ไปบอกต่อกับเจียงฉี แต่สีหน้าของเขาก็ยังนิ่งเหมือนเดิม

“ไม่เป็นไร แค่ไม่กระทบต่อการฝึกงานก็พอแล้ว”

“ไม่หรอก” เวินจิ้งตอบเสียงเบา

“ตอนเย็นนายอยากกินอะไร” เวินจิ้งถาม

ถ้ามีเวลา เธอจะไปซื้อของกินมาให้เจียงฉีเอง

“อะไรก็ได้ เวินจิ้ง เธอไม่ต้องไปๆมาๆแล้ว โรงพยาบาลสั่งอาหารได้”

“งั้นก็ได้”

ทันใดนั้น มู่วี่สิงก็เดินเข้ามา พร้อมกับสั่งยาให้เจียงฉี และกำชับว่าต้องกินยาให้ตรงเวลา

ตอนนี้แผลได้ถูกล้างพิษแล้ว อีกสามวันก็ออกจากโรงพยาบาลได้

ผลลัพธ์นี้ทำให้เวินจิ้งแปลกใจมาก

“มู่วี่สิง ขอบคุณนะคะ” เวินจิ้งพูดอย่างสัตย์จริง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท