Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 594

ตอนที่ 594

บทที่ 594 ปะทะเข้ามาในสายตาของเธอโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

ทันทีที่เสียงเพลงในงานดังขึ้นมา เวินจิ้งก็เดินตามมารดาออกมาจากประตูส่วนกลางของโรงแรมที่ฉลุลวดลาย ซึ่งหันหน้าสู่ทะเลสาบสีฟ้าคราม เป็นภาพวิวที่งดงามเอามากๆ

เวินจิ้งไม่ได้ก้าวเดินตามมารดาต่อ เดินมาได้ครึ่งทางเดินก็หยุดฝีเท้าลง ข้างกายของเธอนั้นมีโจวเซินอยู่ด้วย

เมื่อเธอค่อยๆละสายตาออกจากแม่ หางตาของเธอก็มองเห็นร่างกายที่คุ้นเคยของใครบางคน

ร่างกายของเธอสั่นระริก จนเกือบจะยืนไม่อยู่

โชคดีที่โจวเซินโอบเธอเอาไว้ได้ทัน เวินจิ้งถึงได้รีบเก็บสายตากลับมา

ใบหน้าหล่อเหลาที่เธอเอาแต่ฝันถึงตลอดสามปีที่ผ่านมา สุดท้ายก็ทำให้เธอเสียการควบคุม

ณ ตำแหน่งไม่ใกล้ไม่ไกล สายตาของมู่วี่สิงกลับไม่ได้มองมาเวินจิ้ง ข้างกายเขาคือหลิงเหยาที่สวมใส่ชุดเดรสสีดำ ทั้งสองคนยืนอยู่ใกล้กันมาก

“คืนนี้เราจะกลับไปที่เมืองหนานเฉิงไหม?” เสียงของหลิงเหยาดังขึ้นมาข้างๆหูของเขา

“คุณกลับไปก่อนเลย ผมยังมีธุระต้องทำอยู่ที่นี่” มู่วี่สิงเอ่ยเสียงเย็นชา

“ฉันอยู่ด้วยได้ไหม?” หลิงเหยามองเขาอย่างคาดหวัง

“คุณใกล้จะสอบแล้ว” มู่วี่สิงเตือนความจำเธอ

หลิงเหยากัดริมฝีปาก กวาดตามองไปทางเวินจิ้งอย่างแนบเนียน จากนั้นก็รีบเก็บสายตากลับมา

เวินจิ้งอยู่ที่นี่ แล้วเธอจะกลับไปที่เมืองหนานเฉิงอย่างสบายใจได้ยังไง

เพียงแต่ว่า เธอเองก็ไม่กล้าขัดคำพูดของมู่วี่สิง

“งานเลี้ยงจบ พรุ่งนี้ฉันจะรีบกลับ”

หลังจากที่พิธีแต่งงานจบลงอย่างเป็นทางการ แขกทั้งหมดก็เคลื่อนย้ายกันเข้ามาในงานเลี้ยง

เวินจิ้งสาละวนอยู่รอบกายมารดา กว่าจะถึงตอนดื่มแสดงความยินดีให้กับคู่บ่าวสาวเธอก็เหนื่อยเอามากๆแล้ว โจวเซินรับเอาแก้วในมือของเธอมาถือไว้ “คุณกินอะไรสักหน่อยแล้วไปพักเถอะ”

“แต่ว่า…..” เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“ไม่มีแต่ ผมไม่ให้คุณชนแก้วหรอก”

ถ้าไม่มีแก้วเหล้า เวินจิ้งก็ดื่มแสดงความยินดีไม่ได้

เธอจึงนั่งลงบนโต๊ะ สายตาก็อดสอดส่องมองหาร่างกายของใครคนนั้นอย่างช่วยไม่ได้

เธอไม่รู้เลยว่ามู่วี่สิงจะมาร่วมงานด้วย มันเป็นอะไรที่น่าแปลกใจเอามากๆ

และที่ทำให้เธอแปลกใจเข้าไปใหญ่ก็คือ ผู้หญิงข้างกายของมู่วี่สิงไม่ใช่โจวหย่าน แต่กลับเป็นหลิงเหยา

แต่เขาแต่งงานกับโจวหย่านไม่ใช่หรอกเหรอ?

เธอส่ายหน้าสั่งให้ตัวเองหยุดคิดมาก เรื่องของมู่วี่สิงไม่เกี่ยวกับเธอสักหน่อย

เธอยกไวน์แดงตรงหน้าขึ้นมา แล้วดื่มเข้าไปรวดเดียวจนหมด

ณ มุมมุมหนึ่ง สายตาคมปลาบคู่หนึ่งมองมาที่เวินจิ้งตลอด นัยน์ตาลึกล้ำค่อยๆเครียดเขม็งขึ้นมา

“ผมจะออกไปสูบบุหรี่” มู่วี่สิงทิ้งคำเอาไว้ จากนั้นก็ออกมาจากงานเลี้ยงอย่างรวดเร็ว

หลิงเหยากำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนที่รู้จัก พอหันกลับมาอีกที ก็ไม่เห็นร่างของมู่วี่สิงแล้ว

แต่เมื่อมองไปแล้วเห็นว่าเวินจิ้งยังอยู่ในงาน เธอจึงเบาใจลงบ้าง

แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้น เวินจิ้งที่ดื่มเยอะพอประมาณ ก็ตั้งใจว่าจะไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ แต่ว่าเดินจนสุดทางเดินก็ยังไม่เห็นห้องน้ำ แต่กลับเดินมาถึงสระว่ายน้ำกลางแจ้งแทน และภาพร่างสูงใหญ่ของใครบางคนก็ปะทะเข้ามาในสายตาของเธอโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

เธอและเขา ไม่ได้อยู่ใกล้กันเหมือนอย่างนี้มานานเท่าไหร่แล้ว

สิบเมตร แปดเมตร ห้าเมตร ฝีเท้าของเวินจิ้งเดินเข้าไปใกล้เขาเรื่อยๆ

จนสุดท้าย ในตอนที่อยู่ห่างเขาแค่หนึ่งเมตรเธอก็หยุดฝีเท้าลง

ปลายนิ้วของเขากำลังคีบบุหรี่เอาไว้ แล้วยกขึ้นมาสูบและปล่อยควันสีขาวออกมาจนเกิดแสงวูบวาบ แผ่นหลังของเขาทำให้เวินจิ้งรู้สึกราวกับเป็นคนแปลกหน้า

ชั่วทันใดนั้นเธอก็ได้สติ จึงหันหลังกลับเตรียมที่จะเดินออกไป

เธอเข้ามาหาเขาทำไม

แต่ทันทีที่หันหลังกลับ เสียงแหบพร่าของเขาก็ดังขึ้นมา

“จิ้งจิ้ง” เสียงของเขา ทุ้มต่ำและนิ่งสงบ

เหมือนจะยังมีความรู้สึกหลงใหลหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย

เวินจิ้งคงรู้สึกไปเองมากกว่า เขาจะยังมีน้ำเสียงแบบนั้นให้เธอได้ยังไง

เธอไม่หยุดฝีเท้า เดินออกไปอย่างไม่คิดหันหน้ากลับมา เพียงแต่ว่าฝ่ามือที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นบุหรี่อยู่จู่ๆก็ยื่นออกมา รู้ตัวอีกที เธอก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคยเสียแล้ว

น้ำตาใกล้จะไหลออกมาเต็มที แต่เธอก็กัดริมฝีปากกลั้นมันเอาไว้

“คุณมู่ ระมัดระวังท่าทีของคุณด้วย!” เวินจิ้งพูดออกมาอย่างโมโหน้อยๆ

แต่มู่วี่สิงไม่เพียงแค่ไม่ปล่อย ตรงกันข้ามกลับดันเธอเข้ากำแพงอย่างแรง นัยน์ตาสีดำขลับหรี่ลงอย่างลุ่มลึก มือเรียวยาวที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่บีบคางของเธอเอาไว้

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” มู่วี่สิงพูดขึ้นมาอย่างนึกสนุก

มู่วี่สิงที่เป็นแบบนี้ ทำให้เวินจิ้งรู้สึกแปลกหน้ามากจริงๆ

เธอดันอกของเขาออก เพื่อห้ามไม่ให้เขาขยับเข้ามาใกล้

แต่เมื่อริมฝีปากของเขายิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กลิ่นบุหรี่หนักๆที่ปะปนไปกับกลิ่นกายเฉพาะตัวของเขา ก็แทบจะพรากวิญญาณของเธอไป

เธอต้านทานเขาได้ที่ไหนกัน

เธอหลับตาลงอย่างคล้อยตาม และมันแทบจะเป็นการกระทำที่ทำไปโดยอัตโนมัติ

แต่ยังไม่ทันจะได้จูบ ริมฝีปากบางของเขาก็เอ่ยพูดขึ้นมาข้างๆหูของเธอด้วยประโยคล้อเลียน “เวินจิ้ง คุณกำลังรออะไรอยู่งั้นเหรอ?”

ตอนที่ลืมตาขึ้นมา มู่วี่สิงก็เดินออกไปไกลแล้ว

แต่กลิ่นเฉพาะตัวของเขายังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆปลายจมูก ไม่จางหายไป

อย่างกับฝันไป

น้ำตาไหลลงมาทันที หัวใจของเธอมันเจ็บปวดเหลือเกิน

ในตอนที่โจวเซินเดินมาเจอเวินจิ้ง ก็เห็นว่าเธอกำลังนั่งอยู่บริเวณขอบสระ แสงจันทร์ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนปกคลุมใบหน้างดงามของเธอเอาไว้ จนทำให้เจ็บปวดหัวใจไปด้วย

เธอตกอยู่ในอารมณ์นี้ได้ยังไง?

เพราะว่าเจอมู่วี่สิงหรือเปล่า?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โจวเซินก็กำหมัดแน่น ผ่านไปนานพอสมควรถึงได้เดินเข้าไปหา

“งานเลี้ยงจบแล้ว พ่อกับแม่ขึ้นห้องไปแล้วนะ”

“อืม คืนนี้คงรบกวนคุณแย่” เวินจิ้งคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

โจวเซินช่วยกันเธอออกมาจากการดื่มเหล้าแสดงความยินดี เธอจึงผ่อนคลายลงเยอะมาก

“คุณก็รู้ว่าผมไม่อยากได้ยินคำพูดที่ดูเกรงใจแบบนี้” โจวเซินกดเสียงต่ำ

“ขอโทษที ฉันชินน่ะ”

“งั้นก็เปลี่ยน เวินจิ้ง มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เวินจิ้งไม่ได้พูดอะไร เธอรู้ว่าโจวเซินต้องการอะไร แต่เธอก็ไม่รู้จะตอบเขากลับยังไงดี

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงคฤหาสน์โจวเพราะเวินจิ้งดื่มมานิดหน่อยจึงรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว โจวเซินจึงสั่งคนใช้ให้ไปทำซุปแก้แฮงค์มาให้เธอ แต่เวินจิ้งกลับไม่กิน

ไหนๆตอนนี้ก็เมาแล้ว งั้นขอคิดถึงผู้ชายคนนั้นตามที่ใจต้องการจะได้ไหม?

ไม่ปฏิเสธ ว่าสามปีมานี้ เธอคิดถึงเขามากๆ

แต่เมื่อนึกถึงคำพูดสั่งเสียของผู้เป็นแม่ นึกถึงคำพูดล่าสุดที่มู่วี่สิงพูดกับเธอ เธอก็ไม่กล้าที่จะบากหน้าไปหามู่วี่สิงเลยจริงๆ

ที่สำคัญก็คือ เขาแต่งงานแล้ว

ทุกอย่างมันมาถึงขั้นที่เอาอะไรคืนมาไม่ได้แล้ว

เมื่อความรู้สึกเจ็บปวดปานใจจะขาดจู่โจมเข้ามา เวินจิ้งก็หลับตาลง ปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งอยู่กับความเจ็บปวดเหล่านี้ เจ็บนั่นแหละถูกแล้ว

ขณะเดียวกัน ณโรงแรมกุยลี่

มู่วี่สิงพักอยู่ในห้องพักชั้นบนสุด เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมา ก็มีเสียงคนเคาะประตู เขาจึงใส่ชุดลำลองสบายๆจากนั้นก็เดินไปเปิดประตู

“วี่สิง ฉันเห็นว่าเมื่อเย็นคุณยังไม่ได้กินอะไรเลย ฉันเลยเอาขนมมาให้” หลิงเหยายื่นกล่องขนมสวยๆเข้าไปให้

“อืม ขอบคุณ” เขารับมา

“คุณจะกลับเมื่อไหร่เหรอ?” หลิงเหยายังไม่กลับ

“วันจันทร์หน้า”

“ยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอ?” ดวงตาของหลิงเหยาไม่สามารถปกปิดความเหงาหงอยเอาไว้ได้

“อืม ดึกมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

พูดจบ มู่วี่สิงก็ปิดประตูลง

หลิงเหยายืนอยู่หน้าประตู ตั้งแต่วินาทีที่มู่วี่สิงได้เจอเวินจิ้ง เธอก็สังเกตได้อย่างชัดเจนว่าอารมณ์ของเขาเปลี่ยนไป

แต่ว่า เธอก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ ว่ามู่วี่สิงจะไม่กลับไปหาเวินจิ้งอีกแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท