Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 595

ตอนที่ 595

บทที่ 595 ระยะห่างระหว่างเธอกับเขา

วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า ว่าวันนี้มีประชุมพบปะกับแพทย์แผนกประสาทศัลยศาสตร์ที่โรงแรมซียี่ ผอ.โรงพยาบาลจึงส่งเธอไปเป็นตัวแทนเพื่อเข้าร่วม

ผู้ช่วยส่งตารางกำหนดการมาให้เธอ ซึ่งกำหนดการการประชุมในครั้งนี้ใช้เวลาแค่หนึ่งวัน แต่ว่าก็เป็นการประชุมหนึ่งวันที่อัดแน่นมากๆ

พลันก็ตัวแข็งค้าง เมื่อเห็นชื่อของมู่วี่สิงบนลิสต์รายชื่อ

เขา……

ใช่สิ เขาเป็นศาสตราจารย์แผนกประสาทศัลยศาสตร์นี่นา อีกอย่างเขาก็อยู่ที่ประเทศFพอดี ยังไงก็ต้องเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้อยู่แล้ว

เมื่อคิดได้ว่าบางทีอาจจะได้เจอกับมู่วี่สิง อารมณ์ของเธอก็เริ่มซับซ้อน

เธอค่อนข้างจะกลัว แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือดีใจ

เมื่ออาบน้ำเสร็จจึงลงมาข้างล่าง วันนี้หลินเวยกับโจวเซิ่งบินไปฮันนีมูนกันที่มัลดีฟส์ อีกครึ่งเดือนต่อจากนี้ก็จะมีแค่เธอและโจวเซินอยู่ที่บ้านด้วยกันตามลำพัง

“วันนี้ต้องกลับโรงพยาบาลเหรอ?” โจวเซินเอ่ยถาม

“ต้องเข้าร่วมประชุมที่โรงแรมซียี่น่ะ”

“เดี๋ยวผมไปส่ง”

เวินจิ้งพยักหน้า สามปีมานี้ รูปแบบความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เป็นแบบนี้มาตลอด เวินจิ้งแทบจะไม่ปฏิเสธโจวเซิน แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกก็ยังคงเฉยชาและห่างเหินมาตลอด

เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมใจอ่อน

เมื่อมาถึงโรงแรมซียี่ ทันทีที่เวินจิ้งลงจากรถก็เห็นร่างสูงของใครคนนั้นอยู่ไกลๆ

เขายังคงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสแล็กสีดำเหมือนอย่างเคย เห็นเพียงแผ่นหลังก็สามารถดึงดูดสายตาได้แล้ว รังสีที่ของเขากินขาดคนอื่นได้ง่ายๆ มองไปแค่แวบเดียวก็เข้ามาอยู่ในสายตาของเวินจิ้งแล้ว

เธอละสายตากลับมา แล้วรีบเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างรวดเร็ว

ภายในห้องโถงประชุมมีแพทย์และนักวิชาการที่มาจากเมืองอื่นรวมตัวกันอยู่เยอะมาก หลายปีมานี้เวินจิ้งเองก็ได้รู้จักเพื่อนร่วมอาชีพหลายคน พอข้างกายมีคนมาพูดด้วยก็พอที่จะกระจายจุดโฟกัสของเธอได้บ้าง

แต่ว่า คนที่กำลังเดินมาทางเธอเธอรู้สึกว่าคุ้นๆ

เธอคิดอยู่สักพักใหญ่ๆถึงนึกออก เจียงฉีนี่เอง…….

ตอนที่เธอถูกพาออกมาจากเมืองหนานเฉิง โจวเซินไม่ให้โอกาสเธอได้บอกลากับใครเลย นอกจากเพื่อนสนิทที่คุ้นเคยกันดี

“เวินจิ้ง? ผมนึกว่าผมตาฝาดไปซะอีก” รอยยิ้มของเจียงฉีสดใสมาก

สามปีผ่านไป ผู้ชายคนนี้ยิ่งเผยความหล่อเหลาแบบฉบับผู้ใหญ่ออกมา บุคลิกท่าทางก็เปลี่ยนไปบ้างพอสมควร

“ไม่เจอกันนานเลยนะ” เวินจิ้งยิ้มออกมาบางๆ

“นานมาก ตอนนั้นจู่ๆคุณก็ขาดการติดต่อไป ต่อมาก็ได้ข่าวว่าคุณย้ายที่เรียน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากนั้นจะไม่ได้เจอคุณอีก” เจียงฉีพูดออกมาอย่างเสียดาย

“อืม ตอนนั้นมันฉุกละหุกนิดหน่อยน่ะ ว่าแต่ตอนนี้คุณทำงานอยู่ที่ไหนเหรอ?” เวินจิ้งไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่าๆ จึงเปลี่ยนเรื่องบทสนทนา

“ในโรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยFน่ะ”

เมื่อเจียงฉีมองเวินจิ้ง ก็บีบเอกสารในมือเอาไว้อย่างเครียดๆ “เวินจิ้ง คุณยังคิดที่จะกลับเมืองหนานเฉิงไหม?”

ได้ยินแบบนั้น เวินจิ้งก็ตอบออกมาอย่างไม่คิดลังเล “คงไม่แล้วล่ะ”

หลินเวยแต่งงานกับโจวเซิ่งแล้ว ตอนนี้เธอก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลโจว รากฐานของตระกูลโจวอยู่ที่ประเทศF เพราะฉะนั้นก็คงไม่ต้องกลับไปที่เมืองหนานเฉิงแล้วล่ะ

เธอเองก็ไม่ค่อยอยากกลับไปด้วย หลังจากที่มู่วี่สิงแต่งงาน สำหรับเธอแล้ว เมืองหนานเฉิงก็เป็นเหมือนสถานที่แห่งฝันร้ายของเธอ

“แบบนี้นี่เอง” ดวงตาของเจียงฉีฉายแววผิดหวังออกมา

“ฉันยังมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อนนะ” เวินจิ้งยิ้ม จากนั้นก็เดินไปนั่งลงอีกฝั่งของห้องประชุมอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ว่า ทันทีที่นั่งลงก็มองเห็นชายหนุ่มรูปหล่อที่นั่งอยู่ตรงแถวแรกเพียงแค่มองไปแวบเดียว

เหมือนกับว่าไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน เวินจิ้งก็มักจะสังเกตเห็นเขาก่อนได้อย่างว่องไว

นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด

เธอส่ายหัว สลัดความคิดมากมายที่อยู่ในหัวทิ้ง สั่งตัวเองให้ตั้งสมาธิ

ห้ามสนใจมู่วี่สิงอีก

การประชุมในครั้งนี้มู่วี่สิงเป็นคนบรรยาย เวินจิ้งก้มหน้าลงเพื่อที่จะได้ไม่มองหน้าเขา แต่เธอก็ตั้งใจจดสิ่งที่มู่วี่สิงกำลังพูดอย่างเอาจริงเอาจัง

สามปีแล้ว ตำแหน่งของเขาในวงการแพทย์ก็ยังคงไม่มีใครสั่นคลอนได้เหมือนเดิม เขาเป็นไอดอลของนักศึกษาแพทย์หลายคน ทั้งยังเป็นศาสตราจารย์ที่มีอำนาจสูงสุดในแผนกประสาท ถึงขนาดที่ว่าชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายไปทั่วโลก

ระยะห่างระหว่างเธอและเขา เหมือนจะอยู่ไกลกันมากๆ

จนเมื่อถึงเวลาที่การประชุมสิ้นสุดลง เวินจิ้งก็ยังคงนั่งเหม่อ จนกระทั่งผอ.โทรมาหาเธอเธอถึงได้สติ

“หมอเวิน ผมส่งเอกสารไปในอีเมลของคุณนะ คุณช่วยเอาไปให้ศาสตราจารย์มู่เซ็นให้หน่อยสิ ผมพูดกับเขาไว้แล้วล่ะ”

คำพูดของผอ.ทำให้เวินจิ้งลำบากใจ ตอนนี้เธอไม่อยากจะติดต่ออะไรกับมู่วี่สิงทั้งนั้น

“นานๆทีศาสตราจารย์มู่จะมาที่นี่ คุณก็พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเขาเข้าไว้ล่ะ ต้องได้อะไรเยอะแน่ๆ” ผอ.กับมู่วี่สิงก็ถือว่าเป็นคนรู้จักกันมานาน ผอ.ถึงได้รู้สึกเคารพและนับถือความสามารถในวงการแพทย์ของมู่วี่สิงขนาดนี้

“ค่ะ” เวินจิ้งตอบรับอย่างไม่มีทางเลือก

เธอไปปริ้นท์เอกสารออกมาก่อน จากนั้นถึงได้วกกลับเข้ามาในห้องประชุม

แต่ว่า กลับไม่เจอมู่วี่สิง เจอเพียงเกาเชียน

เธอจึงทำได้แค่เดินเข้าไปสอบถาม “ผู้ช่วยเกา ฉันมีเอกสารต้องให้ศาสตราจารย์มู่เซ็นน่ะค่ะ”

เมื่อเกาเชียนเห็นเวินจิ้งก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร เพราะที่บอสเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เหตุผลก็เพราะเวินจิ้งอยู่ที่นี่ด้วย

“คุณเวิน ตอนนี้ประธานมู่อยู่ในห้องเพรสซิเดนท์สูท คุณขึ้นไปหาเขาด้วยตัวเองเลยครับ”

“ฉันไม่สะดวก คุณช่วยเอาไปให้เขาดีกว่าค่ะ” เวินจิ้งส่งเอกสารไปให้

เกาเชียนทำหน้าลำบากใจ เขาไม่กล้ารับงานที่ถูกมอบหมายมา……

“คุณเวิน ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

เวินจิ้งพอจะอ่านความรู้สึกของเกาเชียนออก เธอจึงค่อนข้างร้อนใจ

ความรู้สึกที่ถูกเขากดเอาไว้ในอ้อมกอดเมื่อวานตอนนี้เธอยังจำมันได้อย่างแจ่มชัด เขากลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว จนเธอไม่กล้าเข้าใกล้

แต่เมื่อนึกไปถึงคำพูดของผอ.แล้วก็……

ไม่กล้าขัดคำพูดของผอ.เลย

เธอจำต้องลากฝีเท้าเดินออกมาจากห้องประชุมอย่างอืดอาด จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นบนสุด

โทรศัพท์ในกระเป๋าส่งเสียงขึ้นมา เป็นเบอร์ของโจวเซิน

“ประชุมเสร็จหรือยัง? ผมจะไปรับ”

“ใกล้แล้วล่ะ”

“อืม ผมกำลังออกจากตระกูลโจว”

“อืม”

เมื่อวางสาย เวินจิ้งก็กัดริมฝีปากอย่างเครียดๆ จากนั้นก็เดินออกจากลิฟต์ไป

เมื่อมายืนอยู่หน้าประตูห้องที่ปิดสนิท หัวใจของเธอก็เต้นอย่างรัวเร็ว จนแทบจะทะลุออกมานอกอก

ยกมือขึ้นแล้วก็ลดมือลงอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าเคาะประตูเลยสักที

จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง เพราะโจวเซินมาถึงแล้ว

เธอขมวดคิ้ว จากนั้นก็เรียกความกล้าเพื่อที่จะเคาะประตู แต่ประตูกลับถูกเปิดออกมาจากข้างในแทน

คนที่ออกมาไม่ใช่มู่วี่สิง แต่เป็นหลิงเหยา

เวินจิ้งมองไปที่ขาของเธอโดยอัตโนมัติ ในงานแต่งงานของแม่ เธอสังเกตเห็นว่าหลิงเหยาสามารถยืนได้แล้ว แต่พอได้มาเห็นเธอปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าอย่างนี้ จึงค่อนข้างที่จะทำให้เวินจิ้งประหลาดใจ

อีกอย่าง เธอยังเดินออกมาจากห้องของมู่วี่สิง

เวินจิ้งหน้าซีด เมื่อเผชิญหน้ากับรอยยิ้มปานดอกไม้บานของเธอ จากนั้นเสียงหลิงเหยาก็พูดขึ้นมาว่า “วี่สิง เวินจิ้งมาหาน่ะ”

พูดจบ หลิงเหยาก็เดินเฉียดไหล่เธอออกไป กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆโชยเข้ามา แต่กลับทำให้เวินจิ้งรู้สึกไม่ชอบใจ

เธอยืนนิ่งอยู่หน้าประตู ไม่ว่ายังไงก็เหมือนก้าวเท้าเข้าไปไม่ได้

จนกระทั่งเสียงทุ้มหนักดังขึ้นมา “มีธุระ?”

เวินจิ้งช้อนตาขึ้นไปมอง ก็เห็นชายหนุ่มในเสื้อสีขาวกางเกงสีดำนั่งอยู่บนโซฟา สายตาไม่ได้มองมาที่เธอเลยสักนิด

“ใช่” เธอก้มหน้าลง จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ ตั้งใจว่าจะทำให้มันเสร็จๆไป

แต่เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูข้างหลัง เธอก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท