Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 603

ตอนที่ 603

บทที่ 603 เธอก็รู้ฝีมือของฉัน

สุดสัปดาห์ เวินจิ้งตื่นสายนิดหน่อย คลำโทรศัพท์ขึ้นมา เธอเคยชินกับการเปิดวีแชท แต่กลับเห็นคนแปลกหน้ามาขอเป็นเพื่อน

ตอนแรกตั้งใจจะเพิกเฉย แต่กลับเห็นหมายเหตุ

อีกสักพักเจอกัน

เวินจิ้ง??

สงสัยกดไปเปิดดูหมายเลขวีแชทของเขา เป็นผู้ชาย รูปโปรไฟล์พื้นหลังเป็นหน้าเผชิญกับทะเล รสนิยมของชีวิตไม่เลว

อีกสักพักเจอกัน…..เวินจิ้งใคร่ครวญถึงความหมาย เลิกคิ้วขึ้นมาทันที หรือว่าจะเป็นคนที่จะไปดูตัว?

เธอเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

รีบล้างหน้าบ้วนปาก มองเวลา ใกล้จะสิบเอ็ดโมงแล้ว

เวลานี้ โทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง คนที่จะไปดูตัวนั้นได้ส่งข้อความมา ให้เธอใส่เสื้อผ้าสบายๆ พยายามอย่าใส่กระโปรง

“กินข้าวเสร็จยังมีการแสดง?”

เธอตอบกลับข้อความ เธอแค่อยากกินข้าวเสร็จแล้วก็พอ ไม่มีอะไรต่อหลังจากนั้น

“อืม ได้ยินมาจากคุณน้าหลินบอกว่าคุณยุ่งมาก อยากให้พาคุณไปผ่อนคลาย”

เวินจิ้ง…….

หลังจากออกจากบ้าน หลินเวยโทรศัพท์หาเธอ กำชับให้เธอปฏิบัติต่อฝ่ายตรงข้ามดีๆ วันนี้สามารถกลับบ้านดึกหน่อยได้

เวินจิ้งตอบกลับ ไม่ได้คิดอะไร

ก็แค่ หลังจากถึงคฤหาสน์ เวินจิ้งรออยู่นายไม่เห็นคนที่จะมาดูตัว เมื่อถามเขาในวีแชทนั้น เขาก็ไม่ได้ตอบกลับแล้ว

เวินจิ้งไม่มีเลขโทรศัพท์เขา และก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะติดต่อเขาแล้ว

แต่ว่าเจอกันครั้งแรกก็สาย ทำให้เวินจิ้งไม่ค่อยประทับใจ

เวลานี้ โทรศัพท์ดังขึ้นมา เป็นสายไกลจากยุโรปโจวเซินโทรเข้ามาหา

“ฮัลโหล”

“เวินจิ้ง ไม่ต้องรอแล้ว เขาไม่มาหรอก”โจวเซินพูดด้วยเสียงเยือกเย็น ทำให้คนกลัว

เวินจิ้งขมวดคิ้ว รู้ทันที หรือว่าที่ผู้ชายคนนั้นมาไม่ได้ เพราะโจวเซินทำอะไรงั้นเหรอ?

“โจวเซิน มือคุณยืดยาวมากจริงๆ”เวินจิ้งพูดอย่างถากถาง

ไม่พอเขาไม่ใช่ครั้งแรกที่มายุ่งเรื่องเธอ เวินจิ้งชินแล้ว

“เป็นเด็กดีรอฉันที่ ประเทศF ฉันจะทำเรื่องทางนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด”

“ประธานโจว พ่อแม่ไม่ยินยอมให้พวกเราอยู่ด้วยกัน ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้”เวินจิ้งชินพูดอย่างใจเย็น

“เวินจิ้ง บนโลกใบนี้แค่ฉันคิด ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ฉันทำไม่ได้ ”

“ฉันไม่เชื่อ”เวินจิ้งโต้กลับ

“เธอก็รู้ฝีมือของฉัน”

วางสายโทรศัพท์ เวินจิ้งหงุดหงิดทำโทรศัพท์หล่น ในเวลานี้ยังหวังให้คนดูตัวมา ไม่อยากให้สมใจของโจวเซิน

กลับบ้านในตอนเย็น เวินจิ้งอารมณ์ไม่ดี ถึงแม้จะเป็นสุดสัปดาห์ แต่ยังต้องไปจัดการเรื่องที่โรงพยาบาล เวินจิ้งไปโรงพยาบาลทันที

มาถึงก็มีเคสเร่งด่วนที่เธอต้องช่วย เวินจิ้งเปลี่ยนเสื้อคลุมสีขาวแล้วเดินเข้าไป

คนป่วยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้กระดูกหักไปทั้งตัว เส้นประสาทบาดเจ็บหลายเส้น เวินจิ้งร่วมมือกับแพทย์กระดูกเพื่อทำการผ่าตัดทันที

ผ่าตัดเสร็จก็เช้าตรู่แล้ว เวินจิ้งร่างแทบทรุด คิดไม่ถึงกลับมาในช่วงสุดสัปดาห์จะมีการผ่าตัดครั้งยิ่งใหญ่ขนาดนี้

“คุณหมอเวิน วันนี้ทำได้ไม่เลว ชั่วโมงแห่งความตายไม่นั้น”ศาสตราจารย์แผนกกระดูกที่ประสบการณ์มาก พูดชื่นชม

ในสายตาเขา เวินจิ้งยังเป็นเด็กเล็ก แต่เวลาผ่าตัดนั้นกลับเป็นผู้ใหญ่แล้ว

เวินจิ้งยิ้มออกมา“ยังคงเป็นคำชี้แนะที่ถูกวิธีของศาสตราจารย์ค่ะ”

เธอถ่อมตัวเพิ่มความพอให้กับศาสตราจารย์

ด้านนอก ครอบครัวของคนไข้มา เวินจิ้งถอดหน้ากาก อธิบายอาการของคนป่วยอย่างสั้นๆ

แค่ เธอเงาร่างของแม่ ตกตะลึง หลินเวยเดินมา

“เสี่ยวจิ้ง”เธอถอนหายใจ“คิดไม่ถึงเด็กจิ่งห้วนจะประสบอุบัติเหตุรถยนต์ แม่ก็พึ่งจะรู้”

“อะไรนะ? ” จิ่งห้วน?

ชื่อนี้เหมือนได้ยินมาจากที่ไหน….คิดออกแล้ว คนที่เธอจะดูตัวด้วยชื่อหยูจิ่งห้วน ถึงว่าตอนทำการผ้าตัดรู้สึกคุ้นๆหน้า

“เขาพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

“เวยเวย นี้ลูกสาวของเธอเหรอ? ดูเหมือนเธอจะทำการผ่าตัดให้ลูกชายฉัน ถือว่าเป็นพรหมลิขิต”คุณน้าหยูพูดอย่างสนิทสนม

เวินจิ้งปากยิ้มออกมาอย่างแข็งๆ ทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย

ไม่นานก็มีเรื่องอื่น เวินจิ้งไปห้องคนไข้

หลินเวยและคุณน้าหยูไม่ได้เดินไปไหน เวินจิ้งใกล้จะเลิกงานแล้ว สักพักจะมีหมอเวรมาดูคนไข้ พรุ่งนี้เธอถึงค่อยมาอีก

เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมา คุณน้าหยู มองเธอด้วยรอยยิ้ม

“คุณน้าหยู”เวินจิ้งทักทายตามมารยาท

“เวินจิ้ง ขอบคุณนะที่หนูช่วยชีวิตลูกน้าไว้ บุญคุณนี้ ฉันจะจำไว้”

“คุณน้าหยู นี่มันเป็นหน้าที่ที่หนูต้องรับผิดชอบค่ะ ไม่ถูกว่าเป็นบุญคุณอะไรหรอกค่ะ”

“งั้นหนูกับจิ่งห้วนมีความสัมพันธ์มาตั้งแต่ครั้งบุพชาติ รอเขาตื่นแล้ว น้าจะให้เขาดูแลหนูอย่างดี”คุณน้าหยูกระตือรือร้นอย่างมาก

เวินจิ้งยิ้ม รับมือไม่ไหวกับความกระตือรือร้นของคุณน้าหยู

ออกจากโรงพยาบาล เธอกลับบ้านพร้อมหลินเวย

“เสี่ยวจิ้ง แม่ดูว่าพวกลูกสองคนนั้นมีพรหมลิขิตต่อกัน”

คำพูดนี้เวินจิ้งฟังจนเบื่อแล้ว……..

ไม่พอเธอนึกขึ้นได้ถึงสายโทรศัพท์ของโจวเซิน แถมหยูจิ่งห้วนก็เกิดอุบัติเหตุอย่างกะทันหัน หรือว่าเป็นแผนของโจวเซิน?

อาการบาดเจ็บหยูจิ่งห้วนหนักขนาดไหนเธอก็รู้ โชคดีร่างกายยังไม่เป็นไรมากเท่าไหร่ ดังนั้นถึงได้พ้นขีดอันตราย ไม่อย่างนั้น ผลลัพธ์เลวร้ายจนไม่อยากจะนึกถึง

คิดเท่านี้ เธอตกตะลึงจนเหงื่อท่วมตัว

รู้ว่าเป็นฝีมือโจวเซินมาตลอด แต่ความสยดสยองนี้ ยังทำให้เธอกลัว

นึกถึงเท่านี้ หลังจากเธอกลับบ้านก็โทรหาโจวเซิน

“แปลกจัง คุณโทรหาฉันก่อน”โจวเซินพูดอย่างเย็นชาพร้อมกับเสียงหัวเราะ

“โจวเซิน คุณทำเกินไปแล้ว มันจำเป็นทำร้ายชีวิตคนบริสุทธิ์ด้วยเหรอ?”เวินจิ้งถามด้วยเสียงเยือกเย็น

“คุณไม่เชื่อฟัง ฉันก็เลยทำแบบนี้”

“ที่บ้านจัดการ”

“เธอสามารถปฏิเสธได้ ปกติเธอก็ชอบปฏิเสธฉันไม่ใช่เหรอ?”

“ตอนนี้ฉันรู้สึกว่า อยากจะรู้จักผู้ชายคนอื่น ไม่แน่นี่ก็คือโอกาส”เวินจิ้งจงใจพูด

เธอซื้อความอยากของโจวเซินที่มีต่อเธอ น่ากลัวมาก

“เธอเจอหนึ่งคน ฉันก็ทำลายหนึ่งคน”

“เรื่องนี้ฉันจะบอกพ่อ”

ได้ยิน โจวเซินโกรธไปทั้งตัว อีกนิดเดียวจะปาโทรศัพท์ทิ้ง

ตอนนี้โจวเซิ่งยังไม่มอบตระกูลโจวให้กับเขาอย่างสมบูรณ์ เขายังต้องเชื่อฟังคนของเขา

“เธอกล้า!”โจวเซินพูดด้วยเสียงโกรธ

“โจวเซิน ทำไมคุณต้องบีบบังคับฉัน เมื่อสามปีก่อนเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงเย็นชา

วินาทีต่อมา โจวเซินก็วางสาย เสียงดังใหญ่ทางนั้น น่าจะเป็นความโกรธของโจวเซิน

วันต่อมา เวินจิ้งมาโรงพยาบาลแต่เช้า หยูจิ่งห้วนตื่นแล้ว เวินจิ้งเข้ามาตรวจห้อง

พบกับเวินจิ้ง เขาจำเธอได้

“คิดไม่ถึงพวกเราจะพบหน้ากันในโรงพยาบาล” หยูจิ่งห้วนยิ้มอ่อนโยนออกมา

ขณะนั้น เวินจิ้งตกตะลึง

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา มีความคล้ายคลึงกับมู่วี่สิง

ในเวลานี้หยูจิ่งห้วนได้สติไม่น้อย เวินจิ้งถึงได้สังเกตรูปร่างลักษณะเขาจริงจัง หล่ออ่อนโยนกว่าในรูป ดุจดั่งอาบลมในฤดูใบไม้ผลิ

ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดูดี แถมนิสัยเหมือนกับผู้ชายที่เธอคุ้นเคย เหมือนกันมาไปแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท