Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 608

ตอนที่ 608

บทที่ 608 เขาน่ากลัวมากเท่าไหร่ เธอก็จะต่อต้านมากเท่านั้น

เวินจิ้งมาถึงสนามบิน ถึงพบว่าห้องรอเครื่องเต็มไปด้วยผู้คน

หน้าจออิเล็กทรอนิกส์ขึ้นข้อมูลเที่ยวบินใหม่ เพราะไอซ์แลนด์ภูเขาไฟระเบิด สายการบินส่วนใหญ่ต้องหยุดชั่วคราว

เวินจิ้งตุ๊บๆอยู่ในใจ เดินไปถามข้างหน้า พนักงานเหนื่อยล้าพูดคำว่า “ขอโทษ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอเดินออกมาจากฝูงชนอีกครั้ง มองอีกด้านของสนามบิน เจ้าหน้าที่จำนวนมากกำลังออกกำลังกายเป็นกองทัพ ถึงขนาดเธอไม่สามารถหาที่นั่งได้ ดังนั้นทำได้แค่นั่งบนกระเป๋าตัวเอง เปิดโทรศัพท์

เว็บไซต์ข่าวในประเทศหลายแห่งได้ลงข่าวนี้แล้ว สถานการณ์จราจรบนน่านฟ้าของยุโรปไม่ขยับ นักท่องเที่ยวนับไม่ถ้วนติดอยู่ที่สนามบิน แถมการฟื้นสภาพของเส้นทางการบินจนกระทั่งตอนนี้ดูแล้วคงอีกยาวไกล

โทรศัพท์ของสถานทูตสายไม่ว่างตลอดเวลา ข่าวบนอินเทอร์เน็ตยังคงคลุมเครือไปหมด มีคนบอกว่าเที่ยวบินจะกลับมาบินได้ภายในสามวัน บางคนบอกว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน เวินจิ้งยืนขึ้นอย่างกระวนกระวายใจ อยากได้ห้องน้ำล้างหน้าให้ได้สติ ทันใดนั้นดวงตามองเห็นข่าวหนึ่งเล็กๆที่ขึ้นอยู่บนจอ

หลับตาสูดหายใจเข้าลึกๆ เวินจิ้งยังคงควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วเปิดดู

เขาอยู่ยุโรปเหรอ?

เวินจิ้งตกตะลึง มีความทรงจำที่วุ่นวายในชั่วขณะ

“มู่วี่สิงหมอสาขาเส้นประสาทมีอำนาจมาถึงยุโรปหลายวันก่อน เข้าร่วมการประชุมวิชาแพทย์ศาสตร์ระดับนานาชาติ…….”

ความรู้สึกพึ่งพาที่ไม่คุ้นเคยและห่างไกลก็แผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ เวินจิ้งท้อใจและอับอายมาก แต่ในเวลานี้ ทำให้เธอคิดถึงผู้ชายที่ทำได้ทุกอย่างเมื่อสามปีก่อน

“ไม่ได้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง……”ราวกับว่าความอ่อนแอเมื่อสักครู่นี้ค่อยๆหายไป เวินจิ้งลากกระเป๋าออกจากสนามบินอย่างรีบร้อน

เธอต้องรีบไปก่อนบางทีไฟยังไม่ลามไหม้ไปถึงยุโรปตอนใต้ อ้อมกลับประเทศ

แค่มาถึงสถานีรถก็พบว่า มันไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิด

ฝูงชนหนาแน่นไปทุกที่ สถานการณ์นี้คล้ายกับการท่องเที่ยวในเทศกาลตรุษจีนจีน

เวินจิ้งเหมือนกับเรียงแถวในกองทัพอยู่ท้ายสุด จนกระทั่งนักท่องเที่ยวใจดีบอกกับเธอว่า ถ้าตอนนี้คุณจะไปทางใต้ จริงๆแล้วสนามบินในประเทศต่างๆก็ปิดแล้วด้วย ทำไมไม่อยู่รอที่สนามบินที่นี่

ดังนั้นเวินจิ้งรีบกลับไปสนามบินอีกครั้ง นั่งอย่างเหนื่อยล้าอยู่ที่หน้าประตู โจวเซิ่งโทรศัพท์มาอีกครั้ง ถามว่าเธอขึ้นเครื่องแล้วรึยังเวินจิ้งพูดอย่างจนปัญญา“ไม่รู้ว่าสายการบินจะบินอีกทีเมื่อไหร่”

พนักงานแจกน้ำและขนมปังทำได้แค่กลืนอย่างฝืนใจ เวินจิ้งนึกถึงหลินเวยที่ป่วยก็นั่งอย่างไม่เป็นสุข

เวลาผ่านไปแต่นาทีแต่ละวินาที คนที่สนามบินยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์หมดหวังและความหดหู่ลอยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

เธอนั้นรู้ดี ถึงแม้อากาศจะดีขึ้นอย่างกะทันหัน ตัวเองอาจจะยังไม่ได้ขึ้นเครื่องทันที

สงบสติลง เวินจิ้งคิดหาวิธีแก้ปัญหา

แค่ว่า เวินจิ้งเปิดเมลในโทรศัพท์ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เข้าชื่อผู้ใช้งานและรหัส

คิดไม่ถึงก็คือ คาดไม่ถึงเข้าสู่ระบบแล้ว

มีเวลาครึ่งค่อนวัน เวินจิ้งรู้สึกเวียนหัว ไม่นานเธอก็บอกตัวเองไม่สามารถคิดอีกแล้ว บางทีเขาอาจไม่เคยเปลี่ยนรหัสผ่าน บางทีเขาอาจจะไม่สนใจก็ได้

แต่เธอ จะต้องสตรอง!

คิดถึงแค่นี้ เธอรีบปิดหน้าเว็บอีกครั้ง สูดลมหายใจลึกๆ เธอพยายามโทรไปที่สถานทูตครั้งแล้วครั้งเล่า

ใกล้ท่าเรืออัมสเตอร์ดัม มู่วี่สิงยืนอยู่ด้านหลังหน้าต่าง ดูทั้งหมดด้วยความเย็นชา

เพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง เขาแค่อยากพักสักครู่ เกาเชียนโทรศัพท์เข้ามา

“ประธานมู่ มีคนเข้าเมลของท่านครับ”

บนโลกใบนี้ รู้รหัสผ่านนั้น มีแค่สองคน

“อืม”เขาวางแก้วน้ำลง สายตาหม่นนิด ๆ

“จะเปลี่ยนรหัสผ่านไหมครับ?”

“ไม่ต้อง”นิ้วเรียวยาวคลายเนคไท มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากบางจนมองไม่เห็น

“รับทราบครับ”เกาเชียนไม่มีเวลาถามเยอะ ถึงแม้จะรู้ว่าคนที่เข้ารหัสนั้นคือเธอ

“ประธานมู่ ยืนยันกับท่านหน่อยนะครับ กำหนดเดินทางพรุ่งนี้คือฟินแลนด์….”

“เลื่อนออกไปก่อน”มู่วี่สิงพูดอย่างไม่คิด “ฉันอยู่ที่นี่สักสองวัน”

วางโทรศัพท์ มู่วี่สิงกลับไปที่ห้องสมุด หลังจากโทรศัพท์ ตรวจสอบอีเมลอย่าไม่ใส่ใจ

ครู่ใหญ่ เขาเข้าสู่อีเมลด้วยความสนใจ เขียนที่อยู่อย่างอดทน จากนั้นก็ส่ง

ปิดคอม มู่วี่สิงริมฝีปากดูถูกอย่างเย็นชา“ฉันรอคอยที่จะได้พบเธอที่นี่ จิ้งจิ้ง”

เช้าตรู่ ประเทศF“อาการป่วยหนักขึ้น”ในที่สุดโทรศัพท์เกือบทำให้เวินจิ้งเสียสติ

เธอถูกขังอยู่ในสนามบินเจ้ากรรมนี้ ถึงแม้ดึกเส้นผมทุกเส้นก็ไม่สามารถกลับไปได้

คิดไปคิดมา แม้ว่าตระกูลโจวจะมีอำนาจเพียงพอ แต่ก็ไม่สามารถให้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปรับเธอได้ และเวลาที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้นานเกินไป

แต่โจวเซิน…..เธอรู้ว่าเขาอยู่ยุโรป แต่ถึงวินาทีสุดท้าย เธอไม่อยากไปขอร้องเขา!

เขาน่ากลัวมากเท่าไหร่ เธอก็จะต่อต้านมากเท่านั้น

ตาที่แดง เวินจิ้งนึกถึงข่าวอีกครั้ง ป้อนรหัสด้วยมือสั่น เปิดอีเมลนั้นหนึ่งครั้ง มองเห็นอีเมลใหม่ล่าสุดที่ด้านบน นั่นคือที่อยู่ และไม่ไกลจากที่นี่

เขาสามารถช่วยได้เหรอ? หรือว่าจะ ถ้าได้ละก็…..จะยอมช่วยไหม?

เธอไม่มีแรงที่จะคิดอีกต่อไป หลังจากจดที่อยู่ เธอก็ลากกระเป๋าเดินทาง ผ่าฝูงชนไปอย่างยากลำบาก ออกจากสนามบิน

เมฆหนาบดบังแสงของท้องฟ้า ที่มู่วี่สิงอยู่นั้นหาไม่ยาก เวินจิ้งลงจากรถแท็กซี่ ก้าวเดินเบาๆ อยู่สนามบินหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ตอนนี้เธอไม่มีความอยากอาหารแม้แต่น้อย

เอียงศีรษะเล็กน้อย เวินจิ้งริมฝีปากเย็น

ห่อเสื้อกันลมแน่น เธอก้มหัวลง ก้าวไปที่ประตูเหล็กสีดำที่ปิดสนิท กดออดประตู

ไม่นานก็มีคนมาตอบกลับอย่างสุภาพ“สวัสดีครับ ท่านมาหาใครครับ?”

เวินจิ้งบอกตัวตนและจุดประสงค์อย่างสั้น ๆ อีกฝ่ายหยุดชะงัก ตอบกลับอย่างสุภาพ “คุณมู่กำลังพักผ่อน ขอโทษด้วยครับ เวลาพักผ่อนเขาไม่อนุญาตให้คนมารบกวน หรือว่าเย็นๆหน่อยท่านค่อยมา”

เวลานี้เวินจิ้งไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอะไร อาจจะโล่งใจ คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะอยู่ที่นี่จริงๆ หรืออาจจะ……ยังมีความลำบากใจที่ฝังลึก

เห็นได้ชัดว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน แต่เธอมาที่นี่ ก็เพื่อขอร้องเขา

“งั้นฉันรอตรงนี้แหละค่ะ”เธอพูดอย่างเบาๆ

แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้เอ่ยปากขอให้เธอเข้ามา

“คุณมา ข้างนอกฝนตกครับ”

เมื่อพ่อบ้านเตือนนั้น มู่วี่สิงเพียงแค่เงยหน้าขึ้นเบา ๆ สายตามองอากาศข้างนอก สีหน้าซีด

“ข่าวบอกว่า ถ้าไฟภูเขาและฝนรวมด้วยกัน เป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว สายตาไม่เบามาหนักกวาดมองพ่อบ้านเต็มไปด้วยผมขาวแต่กระฉับกระเฉง

“ผมใส่ใจก็คือ ผู้หญิงข้างนอกดูเหมือนจะไม่เอาร่มมาด้วย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท