Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 612

ตอนที่ 612

บทที่ 612 มีลูกแล้ว

เบ้าตาแดง เวินจิ้งกัดริมฝีปากจ้องไปที่มู่วี่สิง

ยกมือขึ้นแล้วใช้แรงจะฟาดบนใบหน้าที่เย็นชา แต่มู่วี่สิงนั้นจับข้อมือเธอไว้อย่างเร็วเสียก่อน

“คุณปล่อยฉันนะ”ในขณะนี้เวินจิ้งต่อต้านอย่างมาก พฤติกรรมของมู่วี่สิงในสายตาเธออันตรายอย่างร้ายแรง

เขาคิดอยากทำอะไรเธอรู้ดี ร่างกายร้อนผ่าวของเขาโดนเธอ รุกรานอย่างมาก

“เธอจะถอดเอง หรือให้ฉันช่วยเธอ?”มู่วี่สิงเมินเฉยกับการต่อต้านของเธอทั้งหมด นิ้วเย็นเฉียบเข้าไปสำรวจชายเสื้อคลุมของเธอ ลูบไล้ท้องน้อยที่แบนเรียบและอบอุ่นของเธอ

เวินจิ้งตัวสั่นไปหมดทั้งตัว มองชายที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่คุ้นเคยเหมือนมู่วี่สิงที่เธอรู้จักมาก่อนหน้านี้

เขาจะไม่บังคับเธอแบบนี้ ไม่เคยเลย

เวลาผ่านไปไม่รู้ตัว ใบหน้าเวินจิ้งนั้นเต็มไปด้วยน้ำตา เธออยากหลบหนีจากผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ อยากจะหนีเขาไปให้ไกลๆ

เธอรับไม่ได้ที่มู่วี่สิงและหลิงเหยาอยู่ด้วยกันแล้ว คาดไม่ถึงยังจะสัมผัสเธอ

เขาต่ำทรามเกินไปแล้ว มันเกินไปแล้ว

“คุณไสหัวไปจากฉันเดี๋ยวนี้ มู่วี่สิง! คุณไสหัวไป!”เวินจิ้งตีโพยตีพาย เธอรู้ตัวเองทนต่อไปไม่ได้แล้ว

ใบหน้าของมู่วี่สิงก็ยังเหมือนเดิม มองเวินจิ้งดิ้นรนอย่างสบายใจ ร้องคำราม แต่ไม่มีกำลังพอทำอะไรได้

สายตามองเธออย่างลึกซึ้ง การกระทำของเขากำเริบเสิบสานมากขึ้นเรื่อย ๆ มองเวินจิ้งแสดงสีหน้าคุ้นเคยอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้น

เวินจิ้งดิ้นรนอยู่ตลอด ทันใดนั้น กัดเข้าไปที่ไหล่ของมู่วี่สิงอย่างแรง เลือดไหลออกมา เธอใช้แรงอย่างมาก

มู่วี่สิงร้องด้วยความเจ็บปวด ในเวลานั้นเวินจิ้งถึงได้ผลักเขาออก วิ่งไปที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว

เธอพยายามที่จะหมุนลูกบิดประตูสุดชีวิต กลับพบกับความสิ้นหวัง ประตูนั้นถูกล็อค

“เปิดประตู!”

มู่วี่สิงกัดริมฝีปาก ยิ้มหน่อยๆแล้วก็พูด“เธอสามารถลองหน้าต่างได้นะ”

เวินจิ้งตาแดงแล้ว หันไปรอบ ๆ และรีบวิ่งไปที่หน้าต่างโปร่งใส

จากมู่วี่สิงดูแล้ว เวินจิ้งสวมแค่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่เท่านั้น ด้านล่างเป็นขาเรียวยาว เขย่งเท้า มองแล้วยิ่งเรียวยาว

ความร้อนวิ่งขึ้นมา เขาลุกขึ้นยืนก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปใกล้ขอบหน้าต่าง ทันใดนั้นก็กอดที่เอวเธอ ล็อคเธอไว้ในอ้อมกอดแน่นๆอีกครั้ง

ทันใดนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทันที การเคลื่อนไหวของมู่วี่สิงซิงหยุดลงชั่วคราว สักพัก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

ตอนแรกอยากจะตัดสายทิ้ง แค่เห็นว่าหลิงเหยาโทรเข้ามา เขาก็ยังคงรับสาย

“มีอะไร?”

เวินจิ้งหันหัวกลับไป เวลาที่มู่วี่สิงพูดนั้นลมหายใจโดนที่ใบหน้าของเธอ เธอสามารถมองเห็นเส้นขากรรไกรล่าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะอ่อนโยนลง

เป็นเพราะหลิงเหยา เขาถึงอารมณ์เปลี่ยนไปแบบนี้เหรอ?

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”เขายิ้มเบาๆ“ขอโทษนะ ลูกป่วยผมไม่ได้อยู่ข้างๆ”

ทันใดนั้นประโยคนี้ทำให้เวินจิ้งเลือดเย็นไปทั่วตัว หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ไม่รู้แรงมาจากไหน คาดไม่ถึงเธอจะผลักมู่วี่สิงออก แค่เธอหนีออกไปไม่ได้ ติดที่ประตู ตอนนี้เธอรู้สึกหมดหวังจริงๆ

มู่วี่สิงวางสายโทรศัพท์แล้ว เดินไปด้านหน้าของเธอ ก้มหน้ามองอารมณ์ของเธอ สักพัก เขาหมุนตัวไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าออกมาใส่ จัดการตัวเองเรียบร้อย เสื้อผ้าเรียบร้อยสู่สภาพเดิม

“ถ้าตอนนี้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย อาจจะยังสามารถไปที่สนามบิน เย็นนี้มีเที่ยวบินหนึ่งบินกลับประเทศF ”

ในที่สุดสายตาของเวินจิ้งมีปฏิกิริยาเล็กน้อย

มู่วี่สิงใช้ปลายนิ้วเปิดประตู เดินออกไปที่ประตูนั้น ทันใดนั้นเวินจิ้งเรียกให้เขาหยุด น้ำเสียงแหบแห้งเหมือนคนไม่ได้ดื่มน้ำมานาน “คุณกับหลิงเหยา….มีลูกแล้วเหรอ?”

บนใบหน้าของมู่วี่สิงซ่อนอารมณ์ไว้ทั้งหมด พูดแค่เสียงเย็นชา“อืม”

ดูเหมือนคำพูดจะหยุดชะงัก ริมฝีปากแห้งขยับ เวินจิ้งเพียงแค่พยักหน้าอย่างทื่อๆ ลุกขึ้นยืนแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า

มู่วี่สิงหันหน้ามองเธอ ร่างของเธอสวยงามพอแล้ว แค่อารมณ์โกรธไม่มีแม้แต่น้อย

ขณะนั้น เขาตกอยู่ในภวังค์ เธอปิดประตูอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างอยู่นาน จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น

เธอไม่ได้หันหัว และก็ไม่ได้เอ่ยปาก หลังจากผ่านไปนานเสียงเคาะประตูก็หยุดลง

เสียงพ่อบ้านที่สุภาพ “คุณเวิน ควรจะออกไปที่สนามบินได้แล้วครับ”

สนามบิน……ในที่สุดเธอสามารถกลับไปได้แล้วเหรอ?

ทันใดนั้นเหมือนเวินจิ้งเรียกสติกลับมาได้ หยิบสัมภาระที่ไม่เยอะด้วยความรวดเร็ว ตามพ่อบ้านออกไป

มู่วี่สิงไม่อยู่ตั้งแต่เช้า

แม้รู้ว่ามู่วี่สิงไม่รอเธออยู่ตรงนี้ แต่เมื่อเธอเดินผ่านทุกห้องนั้น ยังคงหดตัวอย่างไม่ได้ตั้งใจ

พ่อบ้านเดินไปข้างหน้าไม่เหล่ตามองเธอ พูดอย่างไม่ตั้งใจ“คุณมู่ไปประชุมแล้ว”

เวินจิ้งยังคงเม้มริมฝีปากแน่น ไม่ได้ตอบ เสียงรองเท้าส้นสูงดังตามขั้นบันได

ในเวลานี้ในโรงแรมระดับหกดาวไม่ไกลจากที่พัก การประชุมวิจัยทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นอย่างกระตือรือร้น

ตอนนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเป็นธุรกิจนาและการรักษาระดับโลก หลังจากส้งวี่แล้วคนที่เข้ามามีแต่ความสามารถ แน่นอนขาดไม่ได้คือมู่วี่สิงเป็นทายาทรุ่นหลังของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป

ปัจจุบันบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปกำลังค้นคว้ายาผลลดผลข้างเคียงของระบบประสาท ในขณะนี้เหล่านักวิจัยกำลังรวมตัวพูดคุยความคิดเห็นของตัวเอง

การประชุมครั้งนี้ไม่เหมือนการประชุมปกติทั่วไป นักวิจัยส่วนมากเป็นวัยรุ่น ทุกคนมีทั้งนั่งและทั้งยืน บรรยากาศการปรึกษาหารือเป็นไปอย่างอิสระมาก

เกาเชียนเดินเข้ามานั้น ก็มานั่งด้านหลังสุดของมู่วี่สิง กระซิบเสียงต่ำข้างหูเขา เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

เวลาครึ่งวัน มู่วี่สิงไม่ค่อยตั้งใจฟัง ทำให้ประธานการประชุมอย่างหยูจิ่งห้วนไม่ค่อยพอใจ

หลังจากรอให้ผู้ช่วยเดินจากไป เขาเข้ามาใกล้ แล้วพูดเสียงต่ำ“ผลการสรุปวันนี้ คุณไม่พอใจเหรอ?”

มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้นอย่างเย็นชา “ก็น่าสนใจดีนิ”

“ผมมองไม่เห็นความแน่นอนของสายตาคุณเลยสักนิด” หยูจิ่งห้วนกึ่งพูดเล่น กึ่งพูดด้วยความโกรธ

มู่วี่สิงถือปากกาอยู่ในมือ เขาเหมือนจะหมุนปลายปากกาอย่างไม่รู้ตัว พูดอย่างช้าๆ“จิ่งห้วน ถ้าฉันจำไม่ผิด คุณได้รับปริญญาเอกสองใบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด”

หยูจิ่งห้วนพูดอีกอย่าง“ทำไมถึงพูดถึงเรื่องนี้”สายตามองที่มู่วี่สิง

“ผมกล้าพูด วันนี้คนที่มาประชุมที่นี่ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิจัยที่ฉลาดที่สุดในโลก แต่ต้องเป็นหนึ่งในนักวิจัยที่ฉลาด”

เขายิ้มอย่างเย็นชา “ผมเชื่อในความสามารถของพวกคุณ พวกคุณมีประสบการณ์ที่มากพอ สำหรับผม อยากจะทำนั้นไม่เหมือนกับพวกคุณ ตอนนี้ผมต้องการอยู่เบื้องหลังการวิจัยของพวกคุณ ให้โอกาสพวกคุณได้พัฒนาความสามารถของตัวเองทำให้วงการแพทย์ทั้งหมดตกตะลึงกับความสำเร็จของพวกคุณ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท