บทที่ 619 เธอยังอยากอยู่กับฉันอยู่ไหม
เวินจิ้งกลับมาที่ห้องทำงาน เวยอานยังคงไม่เชื่อคำพูดของเวินจิ้ง
“เป็นแค่แพทย์โรงพยาบาลข้างๆจริงเหรอ พวกเธอรู้จักกันมาก่อนหน้าแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“อืม รู้จัก” เวยอานอยู่ข้างกายเธอนั้น เวินจิ้งปิดบังไม่ได้แล้ว
“ความสัมพันธ์อะไรกัน?”
“ดูตัวคู่รัก”เวินจิ้งเงยหน้ามอง เห็นเวยอานยังคงคิดไร้สาระ เธอพูดด้วยความเร่งขรึม“จะเปิดคลินิกแล้ว รีบไปเอาประวัติคนไข้มา”
“อ่อ” เวยอานตอบกลับอย่างมึนๆ แถมยังจำเรื่องนี้ไว้แล้วอีก
ตอนบ่าย เวินจิ้งไปประชุมที่โรงพยาบาลหนานเฉิง หยูจิ่งห้วนกลับมาแล้ว เธอจำเป็นต้องหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของการผ่าตัดในสัปดาห์หน้ากับเขา
เวยอานอาสาไปด้วย เวินจิ้งไม่ได้ปฏิเสธ เธอยังลังเลที่จะอยู่ตามลำพังกับหยูจิ่งห้วน
ห่างออกไปสองตำแหน่ง โรงพยาบาลหนานเฉิงอาคารสูงงดงาม ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลของรัฐ ได้ยินมาว่าทุกคนมาดูอาการป่วยที่นี่ ราคาไม่แพง แถมยังใกล้ชิดประชาชนมาก
ช่วงนี้เวยอานได้ยินข่าวโรงพยาบาลนี้ไม่น้อย พูดคุยข้างหูเวินจิ้งตลอดทาง
“ไม่รู้ว่ามู่วี่สิงจะอยู่ที่นี่อีกนานไหม ถ้าเขาย้ายมาประเทศF ฉันก็คงสามารถเห็นเขาได้หลายครั้ง”
ได้ยินมู่วี่สิงชื่อนี่ เวินจิ้งค่อยๆสั้น หน้าเริ่มไม่เป็นธรรมชาติ
“เธอคิดว่าตัวเองยุ่งยังไม่พอเหรอ?”เวินจิ้งพูดติดตลก
“ก็ถือว่ายุ่งกับการมองชายในฝัน ตอนแรกที่เลือกเข้าโรงพยาบาล คุณหมอมู่เป็นแรงจูงใจของฉัน” เวยอานพูดนึกย้อนความทรงจำ
มู่วี่สิงเป็นแบบอย่างและแบบอย่างของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคน
เวินจิ้งไม่รู้สึกอะไร ในเวลานี้เธอรู้สึกเสียงใจนิดหน่อยที่พาเวยอานมาด้วย
มู่วี่สิงชื่อนี้โดนพูดขึ้นมาอีกครั้ง
มาถึงห้องทำงานของหยูจิ่งห้วน เวยอานกลับถูกสั่งให้ไปพูดคุยกับหมอพยาบาลคนอื่น ดังนั้นในห้องทำงานมีแค่หยูจิ่งห้วนและเวินจิ้ง
“มือของคุณ….”
หยูจิ่งห้วนตาแหลมเห็นแผลที่ข้อศอกเวินจิ้ง ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยน
“ฉันยังไม่ทันจะได้สังเกตเห็น ไปโดนมาเมื่อไหร่………”เวินจิ้งพึมพำ
“ตอนเช้าชายคนนั้นพุ่งเขามานั้น น่าจะเป็นเวลานั้น” หยูจิ่งห้วนขมวดคิ้ว ไปเอากล่องยามาอย่างรวดเร็ว
เวินจิ้งอยากจะเอาหยิบยาฆ่าเชื้อบนมือเขา โดนหยูจิ่งห้วนขัดขวาง
“อย่าขยับ ฉันเอง”สีหน้าเขาเคร่งขรึม สายตาเต็มไปด้วยความกังวล
เวินจิ้งรู้สึกอบอุ่นที่ใจ
ของเหลวเย็นผ่านผิวเธอ เจ็บนิดหน่อย เวินจิ้งหลับตา กัดริมฝีปาก
“อดทนนะ ใกล้เสร็จแล้ว” หยูจิ่งห้วนเบามือ
พันแผลนั้น เวินจิ้งถึงได้เปิดตา กลับพบว่าหยูจิ่งห้วนยังคงมองเธอ
ระยะห่างทั้งสอง….ใกล้มาก
กลิ่นลมหายใจจากจมูกผู้ชายออกมา
เวินจิ้งหายใจไม่ออก ในเวลานั้นก็ผลักเขาออกอย่างไม่รู้ตัว
เธอหันหัวมา พูดด้วยเสียงเย็นชา“พวกเรามาคุยเรื่องผ่าตัดกันเถอะ”
“ใช่” หยูจิ่งห้วนพึงพอใจอย่างมากกับสายตาที่สับสนวุ่นวายเมื่อกี้ของเวินจิ้ง
ทั้งสองคนปรึกษากันจนฟ้ามืดแล้ว แถมเวยอานก็ไปตั้งนานแล้ว หยูจิ่งห้วนพูดขึ้นจะเลี้ยงข้าวเธอ
“ถ้าคุณปฏิเสธ งั้นผมก็จะกลับบ้านกับคุณ”
กลับบ้านกับคุณ
เวินจิ้งนึกถึงสายตาหลินเวยที่เห็นหยูจิ่งห้วนมาส่ง เร่าร้อนอย่างมาก
“พวกเราไปกินกันเถอะ”เวินจิ้งพูดอย่างรำคาญ
ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากห้องทำงาน กลับมีเงาที่คุ้นเคยเดินมา
“หมอหยู สักพักมีประชุมนะครับ”มู่วี่สิงสีหน้าเย็นชามาก
“ขาดประชุมไม่ได้เหรอ?” หยูจิ่งห้วนเกาหัว รู้สึกลำบากใจ
“ไม่ได้”
“งั้นคุณไปประชุมเถอะ ฉันกลับด้วยตัวเองได้”เวินจิ้งเอ่ยปาก
“อย่างนั้น…..งั้นถึงบ้านแล้ววีแชทมาให้ผมด้วย”
“อืม”เวินจิ้งหมุนตัว พึ่งจะเดินเข้าไปในลิฟต์ เงาสูงยาวก็เดินเข้ามา
เธอเงยหน้ามองด้วยความตกใจ สายตาอันน่ากลัวคู่นั้น
วินาทีต่อมา มู่วี่สิงบีบกรามของเธออย่างง่ายดาย สายตามองเห็นความกลัวในสายตาเธอ หลบตาอย่างรวดเร็ว
เขาก้มหน้าจูบริมฝีปากเวินจิ้งอย่างหนัก จนกระทั่งผลักเธอติดกับกำแพง
เขาจูบรุนแรงและน่ากลัว ไม่มีความทะนุถนอมเลยแม้แต่น้อย ไม่เชื่องช้าดูดดื่มเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนเป็นการแก้แค้นและลงโทษ
เวินจิ้งผลักมู่วี่สิงไม่ออก โดนบีบบังคับด้วยลมหายใจของเขา จมูกโดนแรงเขาชนจนเจ็บ
จูบนี้ไม่มีความหวานเลยแม้แต่นิดเดียว เธอรู้สึกว่าตัวเองเกือบหายใจไม่ออกแล้ว
ใช้แรงยกมือขึ้น อยากจะตบไปที่หน้าเขา แต่โดนมู่วี่สิงจับมือไว้อย่างง่ายดาย เขาชะงัก มองเธอด้วยความเย็นชา“เธอไม่ขัดขืนจะดีที่สุด”
เธอมองเห็นความเกลียดในสายตาเขา
ร่างกายของเวินจิ้งแข็งทื่อ ลืมตอบโต้
จนกระทั่งเสียง“ติ๊ง”ประตูลิฟต์เปิด กลับไม่ได้หยุดที่ชั้นหนึ่ง แต่อยู่ที่ชั้นบนสุด ที่นี่เป็นของส่วนตัวของมู่วี่สิง
หลังจากดึงเธออยู่ในลิฟต์ เขายิ่งจูบเธออย่างกำเริบเสิบสาน
“มู่วี่สิง!”
มือของชายเขามานั่น เวินจิ้งสั่นไปหมด ในที่สุดอดไม่ได้น้ำตาก็ไหลออกมา
ใบหน้าของมู่วี่สิงนิ่งเงียบ พาเธอเข้าไปในห้อง ทิ้งเธอบนเตียงขนาดKingsize
“มู่วี่สิง คุณเป็นบ้าแล้วใช่ไหม!”เวินจิ้งตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
พฤติกรรมของมู่วี่สิง ทำให้เธอกลัวจริงๆ
เขาไม่เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน ไม่เคยเลย……
เขาทำให้เธอรู้สึกแปลก เขาไม่ใช่มู่วี่สิง เขาไม่ใช่
“พฤติกรรมของคุณมู่ ทำให้ฉันคิดว่าคุณยังสนใจฉัน”เวินจิ้งพูดออกมา
ชายร่างสูงยืนอยู่ข้างเตียง มองความกลัวเวิงจิ้งที่พยายามทำท่าทางสงบ เม้มริมฝีปาก
“ฉันไม่เคยพูด ฉันหมดความสนใจเธอแล้ว” เขาก้มตัวลง แขนยาวล้อมเวินจิ้งทั้งสองด้าน ขังเธอไม่มีที่ให้หลบหนี
ปกคลุมด้วยลมหายใจของเขา เวินจิ้งรู้สึกเสียใจมาก
เธอเม้มปาก ไม่ให้ตัวเองร้องออกมา
เธอไม่สามารถน้ำตาไหลต่อหน้ามู่วี่สิง!
เขาไม่มีค่าพอ!
“ทำไมคุณต้องทำกับฉันแบบนี้ ข้างกายคุณก็มีหลิงเหยาแล้ว!”เวินจิ้งมองเขาอย่างหมดหวัง
สายตาแบบนั้น ทำให้หน้ามู่วี่สิงยิ่งเคร่งขรึม
แค่ ผู้ชายไม่พูด ริมฝีปากบางคล้ายกับเส้นแหลมคม เขาแค่เฝ้าดูเธอตัวสั่นอย่างไม่แยแส
เวินจิ้งเหมือนจะรู้ว่าเขาไม่ตอบ ยิ้มอ่อนๆ“คุณจะให้ฉันเป็นมือที่สามเพื่อให้ฉันอับอายเหรอ?”
มู่วี่สิงถอยห่าง หงุดหงิดเล็กน้อยแล้วจุดบุหรี่ จริงๆแล้วเขาไม่ต้องการอะไรที่จะทำให้ตัวเองมีสติมากขึ้นในตอนนี้ เขาแค่….ไม่อยากเห็นสีหน้าเศร้าของเวินจิ้งในตอนนี้
เขาค่อยๆเบิกตา มองเธอที่ยืนขึ้นข้างๆ วุ่นวายกับการจัดเสื้อผ้า ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยปากถาม“เธอยังอย่างอยู่กับฉันไหม? เหมือนเมื่อก่อน”