Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 623

ตอนที่ 623

บทที่ 623 เธอเหมือนคุณมาก

“อืม สวยมาก” เวินจิ้งพยักหน้า

“ก็สวยดี แต่หมอมู่ไม่ค่อยสนใจผู้หญิงมาตลอด”หยูจิ่งห้วนแสดงความคิดเห็นตามความจริง แต่มองเวินจิ้งรอบๆ “แต่ฉันคิดว่า … เธอดูเหมือนคุณมาก”

ครั้งนี้เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันจะสู้เธอได้ยังไงล่ะ ถึงเธอจะไม่แต่งหน้าก็สวยพอ ถ้าฉันไม่แต่งหน้า นี่ก็เต็มไปด้วยริ้วรอยแล้ว”

หยูจิ่งห้วนโน้มตัวเข้ามาอย่างจริงจัง มองที่มุมตาของเธออย่างระมัดระวังและส่ายหัว”ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย ตอนที่ฉันเจอคุณครั้งแรกในโรงพยาบาล ฉันคิดว่าคุณเป็นแค่แพทย์ฝึกงานด้วยซ้ำ”

เวินจิ้งแค่ยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ แล้วหันตัวจะออกไป

มีกระจกอยู่ไม่ไกล สายตาของเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่นั่น หญิงสาวเข้าไปกอดมู่วี่สิงเอง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ผลักเธอออกไป

เมื่อเธอเก็บสายตาไว้ เสียงกังวลของหยูจิ่งห้วนก็ดังมาจากด้านหลัง แล้วเวินจิ้ง้ก็ถูกชน เธอปิดจมูกโดยไม่รู้ตัวเธอ เจ็บปวดมากจนพูดอะไรไม่ได้ แค่รู้สึกทั้งเจ็บทั้งบวม ของเหลวที่อุ่นเยิ้มไหลออกมาจากต้นจมูก

ก่อนหน้าที่เมื่อร่างกายประสบอุบัติเหตุผ่าตัด เธอไม่ค่อยมีสติโดยตลอด ไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกที่เลือดไหลออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วมาก่อน

เธอตกตะลึงไปชั่วขณะ ตราบใดที่เธอเงยหน้าขึ้นเบาๆ เลือดก็จะไหลกลับเข้าไปในลำคอทันที แม้แต่กระโปรงก็เต็มไปด้วยเลือด

บริกรที่ชนเธอล้มลง ขอโทษอยู่ตลอด ไวน์ที่เขาถืออยู่ก็ถูกเทออกมาหมด พื้นก็เละเทะมาก

แต่เวินจิ้งไม่มีพลังไปสนใจเขา

หยูจิ่งห้วนรีบเดินเข้ามาและหยิบทิชชู่ไปส่งให้เธอ เวินจิ้งไม่มีมือไปหยิบมันเลย เธอแค่เอามือปิดปากโดยเปล่าประโยชน์ และเห็นได้ชัดว่ามีของเหลวเหนียวไหลลงมาจากนิ้วจนถึงตำแหน่งข้อศอก

“เราไปโรงพยาบาลกันเถอะ”หยูจิ่งห้วนยังพูดไม่จบ ก็มีเสียงดังมาจากข้างหลังอย่างกะทันหัน ราวกับมีอะไรบางอย่างพลิกไป

เขาหันหน้าไป มู่วี่สิงกำลังเทน้ำแข็งทั้งหมดในถังน้ำแข็งที่อยู่ข้างๆลงบนผ้าเช็ดเปียก คว้ามันและวางไว้เหนือกระดูกจมูกของเวินจิ้ง พูดอย่างเคร่งขรึม “จับมันเอง”

เวินจิ้งถูกกระตุ้นด้วยน้ำแข็งและอดไม่ได้ที่จะโดนประคบเย็นๆ

วินาทีถัดมารู้สึกตัวเบาขึ้น ร่างกายก็ถูกยกขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว

เธอมองใบหน้าของมู่วี่สิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างลุกลี้ลุกลน เขาเดินไปที่ประตูและพูดอย่างรวดเร็วว่า “ปิดจมูกไว้ อย่าเงยหน้าขึ้น”

เวินจิ้งจับก้อนน้ำแข็งแน่นๆ และวางไว้ที่จมูก ได้ยินเขาถามอีกครั้งว่า “ซ้ายหรือขวา”

หยูจิ่งห้วนซึ่งอยู่ข้างๆอึ้งไป แต่ได้ยินเวินจิ้งตอบเบาๆว่า “ขวา”

มู่วี่สิงขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”

เขาไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบๆตัว แค่กอดเธอไว้และเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว คนขับจอดรถรอที่หน้าประตูแล้ว เปิดประตูของเบาะหลัง

เมื่อกำลังจะค่อยๆวางเธอไปที่เบาะหลัง ลูกวัวของเวินจิ้งก็วางอยู่ข้างประตู พยายามหลายครั้งก็วางเข้าไปไม่ได้

มู่วี่สิงใจร้อนเล็กน้อย เขาถอดรองเท้าส้นสูงออกจากเท้าของเธอ งอเข่าเธอเบาๆแล้วสอดเข้าไป

เขาหันหลังเดินไปอีกด้านของรถ เมื่อเขาเห็นหยูจิ่งห้วนที่กำลังวิ่งออกมา ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันจะไปส่งเธอไปโรงพยาบาล”

ประตูรถถูกปิดอย่างรวดเร็ว มู่วี่สิงนั่งอยู่ข้างเวินจิ้ง เมื่อมองใบหน้าซีดของเธอ เขาผลักมือเธอออกไปและช่วยเธอกดจมูกสองข้างไว้

น้ำแข็งและการกดไม่ได้ทำให้เลือดไหลช้าลง เวินจิ้งก้มหัวลงมองคอเสื้อของเธอ มันเต็มไปด้วยเลือดแล้วเธอได้ยินเสียงต่ำของมู่วี่สิงว่า “ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็หยุดมันได้แล้ว”

เวลาเหมือนจะหยุดไป

เวินจิ้งมองเขาอยู่ตลอด สายตาทั้งสับสนและทั้งไม่รู้จะทำยังไง

มู่วี่สิงไม่เคยปล่อยมือเธอ เม้มปากอย่างแน่น โดยไม่พูดสักคำเลย

เมคอัพบนใบหน้าของเวินจิ้งพังไปหมดแล้ว แถมเลือดเต็มหน้า ผมก็ผูกปม ท่าทางดูไม่ได้เลย

แต่ดวงตาที่ไร้เดียงสา อาจจะเป็นเพราะความกลัว ก็เหมือนกวางที่หวาดกลัว สดใสมาก ดูแล้วน่าสงสารเหลือเกิน

หัวใจของมู่วี่สิงหวั่นไหว รีบหันหน้าหนีมองไปทางอื่น

หน้าต่างเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง มีฝนเข้ามาเรื่อยๆ นิ้วของเวินจิ้งโดนน้ำแข็งเย็นจนไม่มีความรู้สึกแล้ว ทั้งใบหน้าก็เหมือนหน้ากาก

เธอพูดด้วยเสียงสั่นๆ “ฉันทำเอง”

มู่วี่สิงค่อยๆปล่อยมือและหันไปมองไปข้างนอกรถ โดยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

รถขับเร็วมาก ใช้เวลาแค่สิบกว่านาทีก็ถึงโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแล้ว และมีแพทย์รออยู่ที่ประตู

มู่วี่สิงพิงหลัง และสติของเขาก็ค่อยๆฟื้นตัวในขณะนี้ เขามองเวินจิ้งผลักประตูรถอยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้ช่วยเธอ

สุดท้ายเป็นพยาบาลที่มีประสบการณ์อุ้มเธอลงบนเตียงฉุกเฉิน และผลักเธอเข้าไปในโรงพยาบาล

ข้างนอกห้องฉุกเฉิน พยาบาลเอาแบบฟอร์มมาให้กรอกอย่างรวดเร็ว “เป็นญาติไหมคะ กรุณาเขียนชื่อที่นี่ด้วยค่ะ”

แสงไฟในโรงพยาบาลซีดมาก ร่างของมู่วี่สิงสูงยาว พิงอยู่กำแพงสีขาวอย่างหิมะ ใบหน้าของเขาขุ่นมัวเรื่อยๆ

เขาไม่ได้รับกระดาษมา แค่ถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยไม่ได้ตั้งใจและพูดกับพยาบาลว่า “ฉันไม่ใช่ญาติ”

มีคนอยู่ในห้องฉุกเฉินโผล่หัวออกมาพอดี และพูดว่า “รีบเตรียมตัว คนไข้จะต้องได้รับการผ่าตัดเล็กๆ”

นางพยาบาลเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า “คุณสามารถติดต่อญาติคนไข้ได้ไหมคะ”

มู่วี่สิงส่ายหัวอย่างเย็นชา

นางพยาบาลรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ในขณะนี้มีร่างหนึ่งเดินมาอย่างรีบ หลินเวยและโจวเซิ่ง กำลังเดินมาทางนี้

กรามของมู่วี่สิงยกขึ้นเล็กน้อยและพูดเบาๆว่า “มาแล้ว”

ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว พยาบาลผลักเวินจิ้งออก เธอนอนอยู่บนเตียงแบบนี้ หลับตาอยู่ ใบหน้าของเธอซีดราวกับสีของผ้าปูที่นอนเลย

มู่วี่สิงยืดตัวขึ้นเล็กน้อย เม้มปากบางๆเป็นเส้นตรง

หลินเวยเดินเข้ามาหาเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชามาก “ถ้าลูกสาวของฉันเป็นอะไรไป ฉันจะไม่ปล่อยคุณแน่นอน”

ไม่รอให้มู่วี่สิงอธิบาย หลินเวยก็เดินไปที่ด้านข้างของเวินจิ้งอย่างรวดเร็ว พูดด้วยเสียงต่ำว่า “ลูกแม่ เสี่ยวจิ้ง ตอนนี้ไปทำการผ่าตัดเล็กๆ เดี๋ยวก็จะหายแล้วนะ”

เวินจิ้งลืมตาขึ้น แต่ก็ได้พบกับดวงตาที่เย็นชาของมู่วี่สิงทันที

เธอค่อยๆหันหน้าไปมองแม่ของเธอและยิ้มเบาๆ “คุณแม่ ฉันไปโดนคนอื่นเองค่ะ”

สีหน้าของหลินเวยรีบเปลี่ยนไปทันที เธอไม่คิดว่าเวินจิ้งยังปกป้องมู่วี่สิงอยู่ในขณะนี้

แต่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ แต่บอดี้การ์ดที่คอยปกป้องเวินจิ้งแจ้งว่าเวินจิ้งเกิดอุบัติเหตุไปโรงพยาบาลแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจึงรีบไปทันที

เมื่อเห็นมู่วี่สิง เธอก็คิดว่าเขาทำร้ายเวินจิ้ง

ประตูห้องผ่าตัดปิดไปอย่างรวดเร็ว หลินเวยไม่ได้มองมู่วี่สิงอีกเลย โจวเซิ่งยืนอยู่ไม่ไกลและสูบบุหรี่อย่างเย็นชา

ใบหน้าของมู่วี่สิงเย็นชาเหมือนเดิม ไม่นานก็ออกไป

สายตาของหลินเวยตกลงอยู่ที่เขา มืดมัวเบาๆ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท