Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 639

ตอนที่ 639

บทที่ 639คุณเอาใจผม

เวินจิ้งยิ้มอย่างอึดอัด “คุณตื่นมาแล้วหรือ”

มู่วี่สิงเดินมาอยู่ตรงหน้าเธอด้วยร่างที่สูงยาว แววตาลุ่มลึก หน้าตาเรียบเฉย

“คุณนั่งอยู่ข้างนอกทั้งคืนหรือ”

เวินจิ้งถอยหลังเล็กน้อย ทำท่าพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหน้า “เปล่า ฉันแค่ออกมาดื่มน้ำแค่นั้นเอง”

มู่วี่สิงที่สีหน้าจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ที่หัวเตียงของคุณก็มีน้ำแก้วหนึ่ง”

เวินจิ้งชะงัก เลี่ยงสบสายตาของเขา แล้วหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเธอก็กอดเอวตัวเองพร้อมพูดเบาๆ “ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย คุณไปนอนต่อสักพักเถอะ”

ความจริงเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลกับมู่วี่สิงหรือเปล่า

แต่ว่าปฏิกิริยาของมู่วี่สิงทำให้เวินจิ้งถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่ได้ผลักเธอออก แต่กลับคว้าเอวบางของเธอมาโอบแล้วพาเธอกลับไปที่ห้อง

หลังจากที่ทอดกายลงบนเตียง เวินจิ้งรู้สึกง่วงนอนขึ้น เมื่อพลิกตัวแล้วขดตัวไปข้างเตียง เธอได้ยินเสียงเรียกเบาๆของมู่วี่สิง “จิ้งจิ้ง”

“หืม”

“คุณเอาใจผมหน่อย” น้ำเสียงที่มุ่งมั่นของเขา

อาการง่วงซึมนั้นทำให้เวินจิ้งได้ยินเสียงมู่วี่สิงที่ไม่ค่อยชัดเจน จึงถามพึมพำขึ้น “อะไร”

มู่วี่สิงกลับไม่มีการตอบใดๆ เพียงแต่เอื้อมมือไปกอดเธอแน่นๆไว้ในอ้อมกอด

เวินจิ้งดิ้นด้วยความอึดอัด สักพักก็หลับไปในที่สุด

แต่ในคืนที่มืดมิดเช่นนี้ มู่วี่สิงกลับยังลืมตาอยู่ เธอที่ขดตัวเล็กๆอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทั้งใบหน้าแทบจะซุกอยู่ในทรวงอก เช่นนี้ทำให้เขาเห็นสีหน้าของเธอได้ไม่ชัดว่ามีลักษณะอย่างไร

ครั้นแล้วเขาจึงค่อยๆขยับตัวเล็กน้อย แล้วยกหน้าเธอให้เงยขึ้น แสงจากภายนอกได้ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เขาจึงมองเห็นใบหน้าอันผุดผ่องของเธอได้อย่างชัดเจน

เขาสัมผัสได้ว่าช่วงนี้เธอมักจะนอนไม่หลับ

เวลานี้เหมือนมีของบางอย่างมากระทบเบาๆ ลึกๆภายในใจมู่วี่สิงเผยเห็นถึงความสุขความพอใจ

ความจริงแล้วเธอไม่ได้นอนหลับสนิทมานานแค่ไหนแล้ว

เขาไม่ได้กวนหรือปลุกเธออีก เพียงแค่ทำการขยับตัวออกเบาๆ

เมื่อจากไปแล้ว เขาก็ย้อนกลับมาหยิบโทรศัพท์เธอที่อยู่ใต้หมอน

หลังจากตื่นนอน เวินจิ้งมองดูนาฬิกาข้างหน้าต่างอยู่สักพัก ตกใจขึ้นโดยไม่มีปฏิกิริยาสนองใดๆ นึกว่าตัวเองนั้นตาฝาดไป

เธอได้ตั้งนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์แล้วไม่ใช่หรือ

เธอรีบควานหาโทรศัพท์อย่างเร่งด่วน ที่เดิมทีเธอวางไว้ใต้หมอนพร้อมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ กลับพบว่าได้ถูกยกเลิกนาฬิกาปลุกแล้วโทรศัพท์ถูกวางไว้บนโต๊ะอย่างสงบ

เธอไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับการกระทำของมู่วี่สิงว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะว่าอย่างไรตัวเธอนั้นได้สายไปแล้ว เธอจะต้องรีบเร่งกลับไปที่บริษัทหลินซื่อเพื่อเข้าร่วมประชุมในตอนเช้า

ขับรถมุ่งหน้าสู่บริษัทหลินซื่อ โชคดีที่เลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วนของเช้าวันจันทร์ได้

เวินจิ้งสวมใส่ด้วยรองเท้าส้นสูงก้าวเดินไปที่ห้องทำงาน บังเอิญพบเข้ากับเลขาที่เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ มองเธอด้วยความตื่นตกใจ

เวินจิ้งรีบเร่งไปที่ห้องทำงาน แต่ว่าไม่ทราบด้วยสาเหตุใดเธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลา แล้วเธอปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศลง

เวลานี้เลขาฯเดินเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนก “ประธานเวินคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ”

“เกิดเรื่องอะไร”

“ยามหน้าบริษัทกำลังทะเลาะกับคนอื่น มีคนได้รับบาดเจ็บด้วยค่ะ”

“เขาเป็นใคร”

“เป็นนักข่าวค่ะ พวกเขาไม่ได้นัดไว้ ดังนั้นยามจึงห้ามไม่ให้เข้ามา”

“นักข่าวมาทำอะไรกัน” เวินจิ้งสงสัยขึ้น

เลขาฯยิ้มทื่อขึ้น “ประธานเวิน คุณดูข่าวสารก่อน”

ปกติแล้วเวินจิ้งมักจะมีนิสัยชอบดูข่าวสารเป็นประจำ แต่ว่าวันนี้เนื่องด้วยตื่นสาย จึงได้พลาดกิจวัตรนี้ไป

เธอคลิกที่เบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ทันที เมื่อเธอเห็นหัวข้อข่าวแล้วก็ชะงักขึ้นทันที

เวลาผ่านไปสักพัก เมื่อเครื่องปรับอากาศได้เป่ามาทำให้เธอปวดหัวขึ้น เธอถึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์

เดิมทีเธอโทรออกหาแม่ของเธอ แต่ก็ได้กดวางสายอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่รับโทรศัพท์เป็นพยาบาลส่วนตัวของหลินเวย

“แม่คะ วันนี้ได้ตรวจสุขภาพหรือยัง”

“คุณเวินคะ คุณนายหลินทำการตรวจสุขภาพทุกเช้าของทุกวันค่ะ ตอนนี้ยังไม่มาค่ะ”

ได้ยินดังนั้นแล้ว เวินจิ้งถึงกับถอนหายใจโล่งอกออกมา หลังจากวางสายแล้วเธอก็โทรไปยังหมายเลขอื่น

กว่าอีกฝ่ายจะรับสายก็ใช้เวลานานพอสมควร

“ว่าไง”

เมื่อเวินจิ้งได้ยินเสียงนี้แล้ว ความโกรธจึงเข้าครอบงำอย่างรวดเร็ว

ความฉงนใจกับการพาดหัวข่าวที่อยู่ตรงหน้า “ความสัมพันธ์มู่วี่สิงกับหลิงเหยาสั่นคลอน เมื่อคนใหม่เข้ามาแทนที่”

เนื้อหาด้านล่างเป็นภาพที่นักข่าวแอบถ่ายไว้ ภาพแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ภาพกลุ่มแรกเป็นภาพที่เวินจิ้งเข้าออกคอนโด ภาพกลุ่มหลังเป็นภาพเกี่ยวกับหลิงเหยาที่อยู่เมืองหนาน ข้างกายเธอยังจูงเด็กน้อยไว้

ด้วยที่เป็นข้อเท็จจริง อีกทั้งมีรูปเป็นภาพประกอบ เวินจิ้งกลายเป็นมือที่สามอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ

“ทำไมนักข่าวพวกนั้นถึงถ่ายรูปได้” เวินจิ้งถามด้วยความกระวายใจ

เธอรู้สึกว่าหากไม่ใช่มู่วี่สิงที่รู้เห็นเป็นใจ นักข่าวพวกนั้นคงไม่กล้ารายงานข่าวแบบนี้ออกมา

“ผมเองก็ประหลาดใจเช่นกัน” น้ำเสียงมู่วี่สิงที่ยังคงเฉื่อยชาไม่ร้อนรน

“ประหลาดใจอย่างนั้นหรือ สำหรับทายาทผู้สืบทอดตระกูลมู่แล้ว ในโลกใบนี้มีอะไรที่ทำให้เขาประหลาดใจได้อีกด้วยหรือ” เวินจิ้งยิ้มอย่างเยือกเย็น

แสงสาดส่องเจิดจ้าที่นอกหน้าต่าง มู่วี่สิงนั่งอยู่ที่ห้องทำงาน นัยน์ตาดำหยีขึ้น สักพักก็พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “มีอย่างแน่นอน”

“คุณทำไมถึงทำแบบนี้” เวินจิ้งยืนกรานยืนยันว่านี่เป็นความตั้งใจของมู่วี่สิง

เพราะอย่างไรเขาก็ต้องการที่อยากจะทรมานเธอ

“ผมเคยได้บอกหรือว่าเรื่องของเราไม่สามารถเปิดเผยได้” มู่วี่สิงถามอย่างเย็นชา

เวินจิ้งชะงัก พวกเขาไม่ได้ตกลงเรื่องนี้กันก่อนจริงๆ

แต่ว่ามู่วี่สิงเคยบอกว่าจะไม่ให้หลิงเหยาทราบเรื่องนี้

และตอนนี้หลิงเหยาจะต้องทราบเรื่องอย่างแน่นอน

“ในเมื่อคุณไม่อยากให้คนอื่นทราบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา ก็แค่ปฏิเสธไปก็ได้นิ”

“คุณคิดว่าจะมีคนเชื่ออย่างนั้นหรือ” เวินจิ้งตอบด้วยความโกรธ

เรื่องราวอื้อฉาวเหล่านี้ถ้าได้แพร่กระจายออกไป สิบปากมาช่วยอธิบายก็ทำให้ไม่กระจ่างขึ้น

“อย่างนั้นก็เป็นปัญหาของคุณ”

เวินจิ้งโกรธจนตัดสายทิ้งไป ซาตาน! โรคจิต! สารเลว!

สามปีก่อนทำไมเธอถึงตาบอดไปชอบผู้ชายแบบนี้ได้นะ

แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จะให้ข่าวสารเหล่านี้แพร่กระจายไปมากกว่านี้ไม่ได้ จะต้องทำการระงับให้โดยเร็วที่สุด

หลังจากที่เธอได้ให้แผนกประชาสัมพันธ์ทำตามที่เธอสั่งแล้ว เธอจึงออกจากที่จอดรถชั้นใต้ดินของบริษัทหลินซื่อทันที มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลหนานเฉิง

เมื่อเห็นเวินจิ้งมาหา มู่วี่สิงไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใด หนำซ้ำยังนั่งอยู่ที่โซฟาอย่างสง่า ด้วยท่าทีกำลังรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น

“มู่วี่สิง ฉันต้องการให้คุณจัดการลบข่าวสารนี้ให้หมด!” เวินจิ้งจ้องหน้าเขาที่สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

ถ้าหากว่าแม่ฉันทราบเรื่องนี้ขึ้นมา อาจจะได้รับการกระทบกระเทือน แม่จะถูกกระทบกระเทือนอีกไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอคือประธานบริษัทหลินซื่อ เป็นหน้าเป็นตาเป็นตัวแทนของผู้ถือหุ้นส่วนบริษัทหลินซื่อ ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น บริษัทหลินซื่อจะได้รับผลกระทบไปด้วย

และสถานการณ์บริษัทหลินซื่อเพิ่งจะดีขึ้น เธอไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้อีก

เธอกำหมัดแน่นมองไปที่มู่วี่สิงอย่างเยือกเย็น

เขาที่จิบกาแฟช้าๆ แล้วพูดเบาๆขึ้น “คุณกำลังสั่งผมหรือ”

“ไม่ใช่ ฉันกำลังขอร้องคุณ” เวินจิ้งพูดอย่างใจเย็น

เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่มีค่าพอที่จะไปเจรจาต่อรองกับมู่วี่สิงได้ ถึงอย่างไรในสายตาของเขาเธอก็เป็นคนไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีไปตั้งนานแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท