Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 644

ตอนที่ 644

บทที่ 644 ทำไมพาฉันมาที่นี่

รุ่งขึ้น เมื่อเวินจิ้งตื่นขึ้นมาก็ค่อนข้างที่จะมึนเบลอ ไม่รู้ว่าเมื่อวานตัวเองหลับไปอีกทีตอนไหน

ที่นอนข้างกายว่างเปล่า และเย็นชืด บ่งบอกได้ชัดว่ามู่วี่สิงตื่นได้สักพักแล้ว

เมื่อหลับตาลงอย่างขี้เกียจอีกครั้ง เวินจิ้งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบย่ำขึ้นมาจากบันได

จากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูจากด้านนอก “เสี่ยวจิ้ง ตื่นหรือยัง?”

เวินจิ้งรีบไปล้างหน้า จากนั้นก็มาเปิดประตู

“โจ๊กนี่เพิ่งต้มเสร็จใหม่ๆเลย” คุณยายยิ้มตาหยีแล้วยกของกินมาวางไว้บนโต๊ะ “กินเสร็จแล้วค่อยกินซุปขิงต่อนะ เมื่อวานตากฝนมาทั้งวันเลยนี่”

เวินจิ้งนึกไปถึงซุปน้ำขิงเมื่อวาน ก็ยิ้มออกมา “รบกวนคุณยายแย่”

“ที่ไหนกันล่ะ ต้องโทษฉันเสียอีกที่ไม่เตือนคุณว่าอย่าไปทางเขาซีซาน เพราะมันหลงทางง่าย……เมื่อวานตอนที่เสี่ยวมู่กลับมาแล้วไม่เห็นคุณ ก็รีบร้อนออกไปตามหาทันทีเลย หลังจากนั้นคนที่ไปตามหาคุณกับเขาก็พากันกลับมาหมดแล้ว แต่เขาก็ยังยืนยันจะตามหาต่ออยู่ที่นั่น จนกระทั่งหาคุณเจอนี่แหละ”

เวินจิ้งกินโจ๊กเงียบๆ ส่วนคุณยายก็ยังคงพูดจ้อ “หลังจากนั้นก็กำชับฉันอยู่บ่อยๆว่าให้ทำซุปน้ำขิงไว้ให้คุณอีกด้วย…….”

“ฉันอิ่มแล้วค่ะ” จู่ๆเวินจิ้งก็พูดตัดบทขึ้นมา พูดยิ้มๆว่า “ขอบคุณนะคะ”

เพราะว่าตอนเย็นก็ต้องกลับแล้ว เวินจิ้งจึงรีบเก็บกระเป๋าไว้รอเลย

เธอค่อยๆพับเสื้อทีละตัว จากนั้นก็จัดใส่กระเป๋าให้เป็นระเบียบ

วางเสื้อผ้าของตัวเองเข้าไปก่อน แล้วค่อยตามด้วยเสื้อผ้าของมู่วี่สิง แต่ว่าในตอนที่กำลังหยิบเสื้อผ้าของเขาขึ้นมาพับ เธอก็ดึงทึ้งเสื้อผ้าของเขาอย่างโมโห

นึกไปถึงเรื่องที่มู่วี่สิงข่มขู่ตัวเอง เธอกับเขาถึงได้มีความสัมพันธ์ลับๆกันอย่างนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็รู้สึกได้แค่ว่าตรงช่วงอกคับแน่นไปด้วยความอึดอัด

และในตอนนี้เอง ที่มู่วี่สิงมานั่งลงตรงหน้าเธอ โดยที่ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหน เขานั่งมองเธอเงียบๆ สายตาดูลุ่มลึกคาดเดาได้ยาก

เวินจิ้งกัดริมฝีปากแน่น เธอไม่อยากหลุดอาการใดๆก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้ามู่วี่สิง จึงหันหลังให้เขา แล้วเริ่มจัดเสื้อผ้าอีกครั้ง

หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ มู่วี่สิงก็ไม่รีบร้อนกลับเสียเท่าไหร่ เขาเลิกคิ้วมองไปทางเวินจิ้ง แล้วถามเสียงทุ้มต่ำว่า “คุณเดินได้ไหม?”

เธอละเลียดดื่มชา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองเขา “ทำไม?”

คุณยายเหมือนจะรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีระหว่างเขาทั้งสอง จึงพูดเชียร์ขึ้นมาว่า “ไม่งั้นพวกคุณลองออกไปเดินเล่นกันไหมล่ะ วันนี้บรรยากาศดีมากเลยนะ ในเมื่อตอนเย็นๆพวกคุณถึงจะกลับ งั้นก็ออกไปเดินเล่นกันสักประเดี๋ยว พวกเราจะทำอาหารไว้ ตอนพวกคุณกลับมาก็คงได้กินพอดี”

เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นไปเห็นรอยยิ้มอบอุ่นของคุณยายเข้าพอดี จึงหลุดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็พยักหน้า

หลังจากผ่านการพักผ่อนมา ข้อเท้าของเวินจิ้งก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เธอก็ยังเดินได้ค่อนข้างช้า เขาเองก็ไม่ได้เร่งเธอ ทั้งสองคนเดินเรียบไปตามแม่น้ำช้าๆ

“เด็กคนนั้น เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอ?” จู่ๆเวินจิ้งก็ถามขึ้นมา

เธอได้ยินเสียงเด็ก ตอนที่หลิงเหยา โทรมาหามู่วี่สิง

แต่ว่าได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

มู่วี่สิงมุ่นคิ้ว เขาเอาแต่มองตามสายน้ำที่ไหลไปเงียบๆ บนใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ

“ผู้ชาย” เขาตอบ

เวินจิ้งยิ้ม ตอนแรกอยากถามว่าเขากับหลิงเหยาแต่งงานกันหรือยัง แต่ก็คิดว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร เธอไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรก็ตามเกี่ยวกับมู่วี่สิงอีกแล้ว

เธอยอมปิดหูปิดตายังจะดีกว่า

เมื่อเขาหันหน้ามา แล้วเห็นว่ามุมปากของเวินจิ้งในเวลานี้มีรอยยิ้มราวกับไม่แยแสกัน เขาก็ขบเม้มริมฝีปากในทันที

ทั้งสองเดินเล่นไปอย่างเงียบๆอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเวินจิ้งก็ช้อนตาขึ้น แล้วพึมพำถามขึ้นมาว่า “ทำไมคุณถึงพาฉันมาที่นี่?”

เขาไม่ตอบแต่กลับย้อนถามว่า “ชอบที่นี่ไหม?”

“อืม ที่นี่สบายมาก” อารมณ์ของเวินจิ้งในเวลานี้สงบลงอย่างเต็มร้อย ก็เหมือนกับแม่น้ำสายนี้ที่ไหลไปอย่างเงียบๆ

“ทุกครั้งที่มาที่นี่ ผมไม่อยากกลับเลย” มู่วี่สิงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่หาดูได้ยาก เมื่อมองไปยังต้นหลิวที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ สายตาก็เขาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและผูกพัน “ซือซือเติบโตมาจากที่นี่”

เธอไม่ได้เจอกับมู่ซือซือนานแล้ว ตอนนี้คงแต่งงานกับส้งวี่ไปแล้วล่ะมั้ง?

มู่ซือซือไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของมู่วี่สิง แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองกลับแน่นแฟ้นราวกับเป็นพี่น้องแท้ๆ

“ตอนนี้…..ซือซืออยู่ที่เมืองหนานเฉิงเหรอ?” เมื่อเวินจิ้งมองมู่วี่สิง เธอก็สังเกตได้ถึงสีหน้าเจ็บปวดของเขา

ว่าแต่ทำไมเขามีสีหน้าอย่างนั้นล่ะ และเธอก็พลอยสงสารเขาไปด้วย

“เธอไม่ได้อยู่ที่เมืองหนานเฉิง เธอไม่อยู่แล้ว” มู่วี่สิงช้อนตาขึ้นมาช้าๆ ใบหน้าด้านข้างที่สมบูรณ์ต้องแสงอาทิตย์ แต่กลับไม่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นเลยสักนิด กลับกันกลับดูหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก

เวินจิ้งอุทานออกมาอย่างเหนือความคาดหมาย ลังเลอยู่สักพักถึงได้เอ่ยถามขึ้น “เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”

มู่ซือซืออายุยังน้อยอยู่เลย เธอเพิ่งจะยืนได้โดยไม่ต้องใช้รถเข็นได้ไม่นาน ทำไมถึง…….

นัยน์ตาของมู่วี่สิงพลันแปรเปลี่ยนเป็นดุดันน่ากลัว จนเวินจิ้งสั่นกลัวและก้าวถอยหลังอย่างช่วยไม่ได้ และในตอนนั้นเองเนื่องจากเธอไม่ทันระวังจึงเหยียบก้อนหินจนข้อเท้าพลิก เธอเจ็บจนต้องมุ่นหน้า จากนั้นร่างกายก็ซวนเซจวนจะล้มลงบนพื้น

เธอคิดว่ามู่วี่สิงไม่มีทางมาพยุงเธอแน่ และเธอจะไม่ยอมแสดงท่าทีเจ็บปวดร้องขอให้เขาช่วยเด็ดขาด

เพียงแต่ว่าในตอนที่กำลังจะล้ม มือข้างหนึ่งของเขาก็ยื่นออกมารวบเอวบางของเธอเอาไว้ได้ จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามาในวงแขนได้อย่างทันท่วงที

สัมผัสแบบนี้ทำให้เธอแปลกใจมาก ราวกับว่าใครก็คาดคิดไม่ถึง

ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันแค่คืบ ลมหายใจเกี่ยวพันและใกล้ชิดเหมือนตอนที่คลอเคลียกันเมื่อไม่กี่วันก่อน

แต่แค่เวลาไม่กี่วิ มู่วี่สิงก็เก็บสีหน้าอาการ แล้วรีบปล่อยเวินจิ้งออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปตามแม่น้ำโดยหันหลังให้เธอ

แสงแดดยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของชายหนุ่มสูงตระหง่าน ผ่านไปพักใหญ่ เขาถึงได้หันหน้ามาแล้วกวักมือเรียกเวินจิ้ง “มานี่”

เวินจิ้งเดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า จากนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามาอยู่ในวงแขนอย่างแผ่วเบา แล้วโอบเอวของเธอไว้

เขาหยิบก้อนหินเล็กๆมาวางไว้บนมือของเธอ จากนั้นก็กุมมือเธอเดินไปโยนมันทิ้งลงในแม่น้ำ หินก้อนนั้นกระเพื่อมไหวอยู่บนผืนน้ำห้าถึงหกระลอก จากนั้นถึงได้ค่อยๆจมลงไปในก้นสระ

เวินจิ้งเบิกตากว้างอย่างแปลกใจในทันที

ข้างๆหูได้ยินเสียงหัวเราะของมู่วี่สิงเบาๆ เหมือนรู้ว่าเธอกำลังตกตะลึง เสียงหัวเราะขี้เล่นจึงดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

เวินจิ้งหลุบตาลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ดิ้นออกจากวงแขนของมู่วี่สิงอย่างเงอะงะ แต่เขากลับไม่คิดจะปล่อยเธอออก เวินจิ้งจึงรู้สึกไม่สบายใจและลุกลี้ลุกลน

แต่เรื่องที่ทำให้เธอไม่สบายใจก็คือ เรื่องที่มู่วี่สิงเพิ่งพูดถึง เรื่องที่ว่ามู่ซือซือจากโลกนี้ไปแล้ว

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลย และท่าทีของเขาก็ดูแปลกเอามากๆ

เพราะเมื่อก่อนเธอรู้ดีว่า มู่ซือซือสำคัญกับเขามาก

ในตอนนี้เอง ที่มู่วี่สิงวางคางลงบนไหล่ของเวินจิ้งอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะว่าสองสามวันมานี้เขาไม่ได้โกนหนวด ดังนั้นบริเวณไหล่จึงมีความแสบคันขึ้นมานิดหน่อย เขาพูดขึ้นว่า “กลับกันเถอะ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว รู้สึกไม่อยากไปจากที่นี่

“ไม่อยากกลับเหรอ?” มู่วี่สิงอ่านความคิดของเธอออก เขายกยิ้ม จากนั้นก็หอมลงบนแก้มของเธออย่างแผ่วเบา เหมือนเมื่อสามปีก่อนที่เขายังรักและเอ็นดูเธอ

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็เดินนำไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “แน่นอนว่า….อยากกลับ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท