Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 660

ตอนที่ 660

บทที่ 660 ชีวิตที่ชะตากำหนดไม่ให้ถือกำเนิด

เวินจิ้งคิดอย่างเลอะๆ เลือนๆ เธอหลบหนีจากมู่วี่สิงพ้นเด็ดขาดแล้วหรือ เธอเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน ไม่อยากแบกรับความแค้นของเขาที่กดทับเธออีกต่อไป

ไม่รู้ผ่านไปเนิ่นนานเท่าไร เวินจิ้งอดไม่ได้ที่ร้องออกมาเบาๆ หลังจากอาการปวดเกร็งท้องก็มีของเหลวร้อนๆ ไหลออกมาจากร่างกาย ในที่สุด ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว

สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ชีวิตที่ถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่อาจลืมตาดูโลกได้ บริสุทธิ์ไร้เดียงสา

หยดน้ำตารินไหลอาบหน้า สติสัมปชัญญะของเธอรางเลือนลงทุกที เสี้ยววินาทีสุดท้าย เธอได้ยินเสียงประตูถูกเปิดออก จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีก

เปลือกตาหนักอึ้ง เธอคลับคล้ายคลับคลาว่าได้ยินเสียงรถพยาบาล และยังได้ยินเสียงโหวกเหวกสับสน มือซ้ายของเธอ เหมือนกับถูกใครสักคนจับมือไว้แน่นตลอดเวลา

บัดนี้คือฤดูร้อนแล้ว เพราะเสียเลือดและความเจ็บปวด มือของเธอเย็นเฉียบ แต่มือที่จับมือของเธอนั้นเย็นเยียบยิ่งกว่า

ความเย็นเยือกของฝ่ามือชายหนุ่มสัมผัสผิวของเธอ รอบตัวมีแต่เสียงของหมอพยาบาลดังข้างหู แต่กลับไม่ได้ยินเสียงคุ้นหูที่จดจำได้แม่นยำ

เธอใกล้จะตายหรือเปล่า…ไม่เช่นนั้นทำไมเธอเหมือนจะรู้สึกถึงความหวาดกลัวของชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ

ราวกับเธอหลับฝันไปนานแสนนาน ขณะผ่าตัด ก่อนเธอฟื้นขึ้นมา เธอตกอยู่ในความฝัน

ณ ริมทะเลแห่งหนึ่ง เงาเล็กๆ สองเงายืนเผชิญหน้ากัน

“ฉันได้ยินว่าที่บ้านมารับแล้ว เธอจะไปจากที่นี่หรือ”

“อึม ต้องกลับบ้านแล้ว”

“แต่ว่า เธอไม่มีบ้านให้กลับไม่ใช่หรือ”

“ฉันไม่อยากกลับไป ฉันไม่ชอบที่นั่นซะหน่อย” เสียงแหบของเด็กชายหงุดหงิด

เด็กหญิงย่นคิ้วโก่ง กอดเด็กชายเบาๆ “มีบ้านให้กลับไป ต้องรักษาให้ดีนะ”

“ฉันอยากอยู่ที่นี่ต่อ”

“ทำไมล่ะ เพราะฉันเหรอ” เด็กหญิงยิ้มเจ้าเล่ห์ พูดออกไปโดยไม่คิดอะไร

แวบหนึ่งเด็กชายหลบสายตา ไม่พูดอะไรอีก

เพียงแต่ใบหน้าเล็กๆ ที่คมคายของเด็กชาย ค่อยๆ กลายเป็นใบหน้าของมู่วี่สิง…

เวินจิ้งลืมตาขึ้น แต่ยังจำความฝันทั้งหมดเมื่อครู่ได้ดี ราวกับความจริงขนาดนั้น

เธอคิดถึงที่มู่วี่สิงเคยเล่าให้เธอฟัง ตอนเด็กๆ เขาเคยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าช่วงหนึ่ง อายุตอนนั้น ไล่เลี่ยกับอายุของเด็กชายที่เธอรู้จัก

เขานั่นเอง

เธอหลับตาลงช้าๆ อีกครั้ง ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง

เธอกับเขา เหลือแต่ความสิ้นหวังเท่านั้น

เวลานี้เอง พยาบาลผลักประตูเข้ามาพอดี “ตื่นแล้วหรือคะ”

เธอก้มลงตรวจดูน้ำเกลือที่ข้อมือของเธอ พลางพูดกับเธอ “คนรับใช้ของคุณออกไปซื้อของ สักพักหนึ่งถึงจะกลับมา รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม ปวดท้อง หรือหิวน้ำไหมคะ”

เวินจิ้งนิ่งเงียบอยู่นาน ค่อยส่ายหน้าเหม่อลอย

มือใต้ผ้าห่มขยับตามจิตใต้สำนึก แล้วหยุดที่ตรงเอว ไม่ขยับเขยื้อนอีก

พยาบาลปรับความเร็วของหยดน้ำเกลือ เห็นริมฝีปากเวินจิ้งแห้งผาก จึงพูดกับเธอ “ฉันรินน้ำอุ่นให้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เมื่อพูดออกไปเวินจิ้งถึงรู้สึกว่าเสียงของตัวเองแหบพร่า และอ่อนล้ามาก บางทีเป็นเพราะสลบไปนาน หรือเป็นเพราะความทรงจำนั้นทำให้เธอประหลาดใจมากเกินไป กำลังกายราวกับถูกสูบจนหมด แม้แต่หายใจยังยากลำบาก

เธอนอนบนเตียงสักพัก ไม่นานก็เห็นป้าเฉินหอบถุงใบใหญ่เข้ามา

เมื่อเห็นเวินจิ้งตื่นแล้ว ป้าเฉินก็อดไม่ได้ที่จะตาแดง

สี่ปีก่อนเธอเริ่มมาเป็นแม่บ้านที่การ์เด้นมูเจียวาน มู่วี่สิงกับเวินจิ้งดีกับเธอมากมาตลอด หลายปีมานี้แม้ทั้งสองจะเลิกกันแล้ว บ้านไม่มีคนอยู่ แต่มู่วี่สิงก็ยังให้เธอมาทำความสะอาดเสมอ เห็นได้ถึงความรักลึกซึ้งของนายผู้ชายคนนี้

แต่ตอนนี้เห็นเวินจิ้งในสภาพนี้ เธอทั้งรู้สึกสงสารและเสียใจ

ไม่รู้ว่าทำไมทั้งสองคนถึงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้

“คุณเวิน…ทำไมไม่ระวังอย่างนี้” ครู่ใหญ่ป้าเฉินพูดขึ้นด้วยความรักสงสาร แต่กลัวว่าเวินจิ้งจะคิดมาก พูดแค่ครึ่งเดียวก็ไม่พูดต่อ

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” กลับเป็นเวินจิ้งที่ฝืนยิ้ม

“ไม่เป็นไรได้ยังไง นี่มันหนักมากนะคะ” ป้าเฉินปลอบใจ “ฟังป้าเฉิน นะ ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดมาก รักษาตัวให้หายก่อน รู้ไหมคะ”

ป้าเฉินหยิบของในถุงที่บรรจุผลไม้และน้ำแกงร้อนๆ ออกมาทีละอย่าง แล้วเทน้ำแกงใส่ชามเล็กรอให้เย็น ถึงป้อนให้เวินจิ้ง

หลังกินยาแล้วเธอหลับตาพักผ่อนอีกครั้ง แต่ยากที่จะหลับลงอีกครั้ง ตาสว่างจนกระทั่งรุ่งเช้า

มู่วี่สิงเพิ่งจะมาในวันรุ่งขึ้น เวลานั้นเวินจิ้งเพิ่งกินยาเสร็จ จึงรู้สึกง่วงนอนหลับไป

กระทั่งเธอตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็เป็นเวลาที่คุณหมอมาตรวจอาการพอดี

การฟื้นตัวหลังจากผ่าตัดเป็นไปด้วยดี แต่หมอยังคงซักถามอาการของเธออย่างละเอียด

ด้านหลังคุณหมอมีนักศึกษาแพทย์ติดตามมาด้วยหลายคน กลุ่มคนมากันอย่างคึกคัก และก็จากไปอย่างคึกคัก สุดท้ายเหลือเพียงพยาบาลที่รินน้ำให้เวินจิ้งวันก่อน เธอเป็นพยาบาลประจำห้องป่วยเดี่ยวห้องนี้ เมื่อญาติคนไข้ไม่อยู่ เธอมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลคนไข้

นับแต่เวินจิ้งฟื้นจากผ่าตัด พยาบาลก็เป็นเพื่อนเธออย่างอดทนและกระตือรือร้น อีกอย่างทั้งสองคนก็อายุไล่เลี่ยกัน ป้าเฉินอยู่เป็นเพื่อนเธอตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้ เวินจิ้งจึงอยู่กับพยาบาลเพียงสองคนวันละหลายชั่วโมง

พยาบาลสาวยิ้มเก่ง ลักยิ้มที่แก้มสองข้างอ่อนหวาน แม้แต่เสียงก็อ่อนหวาน พูดคุยกับเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน

เวินจิ้งรู้สึกถูกชะตากับเธอ ถ้าไม่ได้หลับไปก็จะคุยเล่นกับเธอ

หลังจากหมอออกไปกันหมดแล้ว เวินจิ้งเพิ่งจะมองโต๊ะหัวเตียง สอบถามเบาๆ “เมื่อครู่มีคนมาหรือคะ”

บนโต๊ะนอกจากแท็บเล็ตและหนังสือสองสามเล่นที่ป้าเฉิน ทิ้งไว้ให้ ยังมีบุหรี่ซองหนึ่งและไฟแช็ก ในห้องพักที่ห้ามสูบบุหรี่มันไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้

ตั้งแต่กลับมาพบกับมู่วี่สิงอีกครั้งเธอเพิ่งรู้ ดูเหมือนชายหนุ่มจะติดบุหรี่แล้ว

แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะสูบบ้าง แต่ก็นานๆ ที ทว่าตอนนี้ เขากลับสูบหนักขึ้น

พยาบาลครางเสียงเบาๆ “อึม” ตอบเธอ “ลืมบอกค่ะ…เมื่อครู่มีคนมาเยี่ยมคุณ”

ที่จริงในใจเวินจิ้งคาดเดาได้อยู่แล้ว แต่ยังคงถามเสียงต่ำ “ใครกัน”

“รู้สึกว่าจะแซ่มู่ค่ะ” พยาบาลคิด “เมื่อวานซืนตอนที่คุณถูกส่งมาโรงพยาบาล เขาเฝ้าคุณตลอด แฟนหรือคะ”

เธอไม่เดาว่าเขาเป็นสามีก็มีเหตุผลอยู่ ในเมื่อประวัติการรักษาของเวินจิ้งเขียนชัดเจนว่า “โสด” แต่ถ้าไม่สนิทสนมกันมากพอ ทำไมชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นถึงกุมมือของเวินจิ้งตลอดเวลา แถมตอนที่เวินจิ้งผ่าตัดยังเฝ้ารอไม่ไปไหน

เวินจิ้งส่ายศีรษะเบาๆ “ไม่ใช่ค่ะ”

เธอกับมู่วี่สิง ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบนั้น

เขากับหลิงเหยาถึงจะถูก

“หรือคะ” พยาบาลแปลกใจเล็กน้อย นิ่งไปครู่แล้วพูดขึ้น “แต่ว่าตอนที่คุณหลับเมื่อครู่ เขานั่งอยู่ที่นี่นานมาก”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท