Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 663

ตอนที่ 663

บทที่ 663 พวกเราไม่กลับมาคบกัน

มู่วี่สิงไม่ได้มองเธอ กำหมัดแน่น ไม่พูดสักคำ

ทำไมตอนแรกเวินจิ้งต้องจากไปกับโจวเซิน เขาไม่มีเวลาไปสอบสวน ข่าวการตายของมู่ซือซือเป็นเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ทับอยู่ในใจเขา เขาถึงขนาดไม่รู้ว่าจะควรทำอย่างไร

ความเย็นชาจากตัวเขา ในเวลานั้นเหมือนจะพังทลาย แต่ไม่ว่าเวินจิ้งกับโจวเซินจะเป็นอย่างไร เขาก็จะไม่ไปใส่ใจอีก

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อน”เขาพูดน้ำเสียงเงียบสงบ

เวินจิ้งยิ้ม ตอนนี้ถึงได้มองชายเคยรักมากที่อยู่ต่อหน้าอย่างจริงจัง แล้วเอ่ยปากพูด“ความปรารถนาของฉันคือ หวังว่าต่อไปคุณจะไม่ปรากฏในชีวิตของฉันอีก”

น้ำเสียงของเธอเยือกเย็นยิ่งกว่าลมหนาว“ฉันอธิษฐานให้พระพุทธเจ้าคุ้มครอง ความปรารถนาของฉันอันนี้สามารถเป็นจริง”

ลมภูเขาอันเหน็บหนาวผ่านทะลุพื้นป่า ไม่มีที่สิ้นสุด สถานการณ์ยิ่งรุนแรง ในที่สุดสัตว์ปีกตัวหนึ่งตื่นตระหนก เงาดำร้องจากบนฟ้าอย่างรวดเร็ว

แสงในภูเขาค่อยๆมืดลง ตาของเวินจิ้งเหมือนกับถูกลมแรงขวางอยู่ ยิ่งนานยิ่งเจ็บ เจ็บจนอยากจะร้องไห้

เธอทำได้แค่หรี่ตา แต่มองรูปร่างและสีหน้าของมู่วี่สิงไม่ชัด

เขาในตอนนี้เสีหน้าเย็นชากว่าสามปีที่แล้ว

เธอยืนไม่ขยับ เขาก็เหมือนกัน จากที่เธอพูดเมื่อสักครู่นี้ เขาก็ไม่ขยับอีก

ดวงตาเขากำเงียบขรึมเหมือนหมึกสี แววตากลับเยือกเย็นเหมือนดาวที่อยู่ห่างไกล

ถึงตอนนี้ มองดวงตาดำของเขา เวินจิ้งยังเคลิบเคลิ้มอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เพียงแค่แสงขอบฟ้าค่อยๆเข้ม เธอไม่รอเขาตอบกลับ

เธอเม้มริมฝีปาก หมุนตัวอย่างเด็ดเดี่ยวไม่มองเขาอีก ลงเขาไปด้วยตัวคนเดียว

มู่วี่สิงอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากด้านหลังเธอ แต่หลังจากลงเขา เธอก็นั่งรถแท็กซี่กลับคนเดียว

เวินจิ้งกลับไปทำงานต่อที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แค่มาทำงานวันแรก เธอก็ได้เจอคนที่รู้จัก

ตรงข้ามห้องตรวจโรค หยูจิ่งห้วนมาเปิดห้องตรวจโรคแต่เช้า เวินจิ้งชะงักฝีเท้า สายตามองอยู่นานไม่ได้เรียกกลับมา

“คุณหมอเวิน ช่วงที่คุณไม่อยู่นี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ผมมาทำแล้ว……..”

“เขาเข้ามานานเท่าไหร่แล้ว?”เวินจิ้งขมวดคิ้ว

“หนึ่งอาทิตย์แล้ว”

แต่เวลานี้ หยูจิ่งห้วนมองเห็นเวินจิ้งได้ชัด ยิ้มเล็กน้อย เขาเดินไปทางเธอ บนใบหน้ายิ้มแย้ม

“กลับมาแล้วเหรอ?”เขาเหมือนไม่เห็นคนรู้จักทักทายกับเธอแบบนี้มานาน

“อืม ยินดีต้อนรับคุณเข้าทำงาน”เวินจิ้งยื่นมือออกไป

หยูจิ่งห้วนจับมือเย็นเฉียบของเธอ มองดวงตาดำของเวินจิ้ง รู้สึกข้างในนั้นมืดมน ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย

เธอยิ้มอยู่ แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีจิตวิญญาณ

ตอนเช้าไม่เหมาะสมที่ทั้งจะคุยเรื่องในอดีต ตลอดจนถึงเลิกงานตอนเย็น หยูจิ่งห้วนนัดเวินจิ้งไปกินข้าวด้วยกัน

เขาไม่ได้ถามหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอไปไหน อยู่กับเขา ยังคงผ่อนคลายเหมือนเมื่อก่อนเหมือนเดิม

“ทำไมถึงลาออกแล้วล่ะ?”เวินจิ้งถามเขา

“ทางนี้เงินเดือนสูง” หยูจิ่งห้วนหัวเราะ

เวินจิ้งมองชายที่อยู่ข้างกาย ถึงแม้ปกติหยูจิ่งห้วนจะแต่งตัวปกติไม่ได้หรูหรา แต่เขาไม่ใช่คนกระโดดมาเพื่อเงิน

“โรงพยาบาลหนานเฉิงค่าตอบแทนไม่ได้เลวนิ”เวินจิ้งพูด

“ทำไม? ไม่อยากทำงานโรงพยาบาลเดียวกันกับผมเหรอ?” หยูจิ่งห้วนพูดหยอกเล่น

“ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน ฉันละอยากมากๆ”

“ช่วงนี้ร่างกายฟื้นตัวดีรึยัง?”เขาถามด้วยความห่วงใย

“ดีขึ้นมากแล้ว ฉันพักผ่อน…..นานพอแล้ว”

ทั้งสองกินข้าวมื้อเย็นอย่างมีความสุข หยูจิ่งห้วนร่าเริงตลอด กวาดเอาความกระวนกระวายใจของเวินจิ้งก่อนหน้านี้ไป

อยู่จากนี้ไม่ไกล สายตาที่เคร่งขรึมมองมาที่ร่างผมบางนั้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย

จริงๆแล้วตอนนี้เธอ ก็มีความสุขได้ขนาดนี้

แค่คนที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่เขา

สายตาอันห่อเหี่ยวผ่านไป ทันใดนั้นเขาก็ไม่มีความรู้สึก ลุกขึ้นแล้วจากไป

เวินจิ้งฟังหยูจิ่งห้วนพูดว่าตัวเองเจอกับคนป่วยแปลกๆ ไม่ได้ทันเห็นมู่วี่สิง แต่หยูจิ่งห้วนนั่งตรงข้ามประตู ดังนั้นเลยเห็นมู่วี่สิงจากไป

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย มือจับแก้วแน่น

สายตามองกับเวินจิ้งนั้น สีหน้าไม่แตกต่างกัน

ในเวลานี้ โรงพยาบาลหนานเฉิง

เวินจิ้งพึ่งกลับมาที่ห้องทำงาน ลี่หนานเฉิงนั่งอยู่บนโซฟา เห็นได้ชัดว่ารอเขา

“มาได้อย่างไงเนี่ย?”

ก่อนหน้านี้ลี่หนานเฉิงอยู่เมืองหนาน แต่ช่วงนี้บริษัทลี่ซื่อจะบุกเบิกตลาดประเทศF เขาถึงมาชั่วคราว

ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทลี่ซื่อและโรงพยาบาลหนานเฉิงมีวิจัยร่วมกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เลยสนิทสนมกัน

“ฉันได้ยินมาว่าหยูจิ่งห้วนลาออกไปแล้ว?”ตอนแรกให้หยูจิ่งห้วนอยู่โรงพยาบาลหนานเฉิง เป็นคำแนะนำของลี่หนานเฉิง ตอนนี้อำนาจตระกูลหยูกำลังกระจาย แต่หยูจิ่งห้วนไม่ใช่คนเรื่องมาก

เอาชนะใจเขา เป็นเพื่อนที่ดีได้อย่างไม่ต้องสงสัย

“อืม”สีหน้ามู่วี่สิงเย็นชา

“เขาและเวินจิ้งอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ดูแล้วนายก็น่าจะรู้แล้ว”

“อืม”สีหน้ามู่วี่สิงยังคงไม่มีความรู้สึก

“พี่ชาย นายคิดอย่างไร? นายคงไม่คิดอยากกลับมาคบกับเวินจิ้ง? ช่วงเวลาพวกนายอยู่ที่เมืองหนานเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

“เธอท้องแล้ว”มู่วี่สิงหลับตาลึก แต่ช่วงเวลานี้ อารมณ์พังทลายอย่างกะทันหัน

“ทำไม? ท้อง? จริงเหรอ?”

“ลูกไม่อยู่แล้ว”มู่วี่สิงคลึงคิ้ว

ลี่หนานเฉิงยืนด้วยความตื่นเต้น เขาเป็นห่วงแทนมู่วี่สิงจริงๆ

“พวกเราไม่กลับมาคบกัน”

“บ้านหลิงทางนั้นนั่งไม่ติดแล้ว หลิงอี้ได้คุยกับคุณเฒ่าบ้านนายแล้ว หลังจากสามเดือนนายกับหลิงเหยาก็จะแต่งงาน”

“อืม”สีหน้ามู่วี่สิง ยังคงนิ่งสงบ

ลี่หนานเฉิงโกรธขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกเหมือนตัวเองร้อนใจ

“นายประนีประนอมแล้วเหรอ?”

“ฉันสัญญากับซือซือ จะขอหลิงเหยาแต่งงาน”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“แต่นายก็ไม่ชอบเธอ”ลี่หนานเฉิงเข้าใจมู่วี่สิงอย่างดี เขาครุ่นคิด แต่เวินจิ้งตั้งแต่แรก

“ใครก็ไม่สนใจ”

“ฉันจะไม่น่าเชื่อจริงๆนายจะไปขอเธอแต่งงาน”

มู่วี่สิงหัวเราะเสียงต่ำ “ไม่อย่างนั้น นายคิดว่าฉันต้องทำอย่างไร?”

ลี่หนานเฉิงนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรอีก

มู่วี่สิงตกอยู่สถานการณ์ไม่ดี เขารู้ดี สามปีก่อน เขาก็ไม่มีตัวเลือกแล้ว

“พ่อของเด็กคนนั้น รู้ไหมคือใคร?”

“เขาตายแล้ว”

“วี่สิง นายอย่าเอาเรื่องทุกอย่างมาไว้ตัวเอง นายสามารถเลือกด้วยตัวเองได้”ลี่หนานเฉิงไม่รู้จะกล่อมเขาอย่างไร แต่มองเห็นความเจ็บปวดของมู่วี่สิง เขาเสียใจ

ถึงอย่างไรก็เป็นพี่น้องที่โตด้วยกันมา เขาอยากช่วย

“คนเฒ่าไม่นานก็จะกลับมา นายช่วยฉันดูหน่อย ฉันควรกลับไปเมืองหนานแล้ว”

“อืม วางใจเถอะ นายให้ฉันช่วยดูเวินจิ้งเหรอ?”ลี่หนานเฉิงถาม

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ภาพเวินจิ้งกินข้าวกับหยูจิ่งห้วนแว๊บเข้ามาในสมอง เขาส่ายหัว“มีคนดูแลเธอแล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท