Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 669

ตอนที่ 669

บทที่ 669 ทำไม่ได้ก็วางมือ

มู่วี่สิงมองข่าวทั้งสองคนลองชุดแต่งงานนั้น เป็นเย็นของวันนั้น

ภาพบนแท็บเล็ตหยุดอยู่ที่ด้านหลังทั้งสองคน เวินจิ้งยืนอยู่ข้างโจวเซิน เส้นด้ายยาว แต่งตัวสวยงดงาม

เพียงแค่เป็นภาพด้านหลัง ก็ทำให้ความเงียบทั้งหมดของมู่วี่สิงเกือบพังทลาย

หลิงเหยาเคาะประตูเข้ามา มู่วี่สิงถึงได้สติกลับคืน

“เวินจิ้งจะแต่งงานแล้วเหรอ?”เห็นได้ชัดเอเห็นข่าวแล้ว นั่งอยู่ข้างๆมู่วี่สิง

“เรื่องอะไร?”มู่วี่สิงไม่ได้ตอบ ปิดแท็บเล็ต

“คุณปู่ได้วันที่พวกเราจะแต่งงานแล้ว อาทิตย์หน้าคุณปู่กลับมา พวกเราไปรับท่านพร้อมกันนะ?”

“อืม”

“รายชื่อแขกบ้านหลิงทางนั้นกำหนดเรียบแล้ว รายชื่อของตระกูลมู่คุณต้องเอามาให้ฉัน”

“ตอนเย็นหน่อยเกาเชียนจะส่งให้เธอ”มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นชา

หลิงเหยาโกรธกับท่าทางแบบนี้ของมู่วี่สิง ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้ใส่ใจ แต่ถึงเวลาจริงนั้น เธอยังคงหดหู่

“มู่วี่สิง เมื่อไหร่สายตาคุณจะมีฉัน”

“ฉันรับปากเธอ ฉันจะทำให้ได้ แต่เรื่องอื่น หลิงเหยา ยังต้องบันยะบันยัง”

……

กลับมาถึงคฤหาสน์โจวก็พลบค่ำแล้ว จริงๆโจวเซินอยากกินข้าวข้างนอกกับเวินจิ้ง แต่เวินจิ้งปฏิเสธ

มองท่าทางเธอเหมือนเหนื่อยล้า โจวเซินไม่ได้บังคับเธอ

กลับมาถึงเวินจิ้งก็ไปที่ห้องนอนตัวเอง ตอนนี้โจวเซินกลับมาแล้ว ห้องสมุดทางนั้นก็ไม่อยากไป

ไม่นาน โทรศัพท์ก็สั่นอย่างต่อเนื่อง เป็นหยูจิ่งห้วนที่โทรเข้ามาหาเธอ

ช่วงเวลานี้หยูจิ่งห้วนค่อยๆรับคนไข้ช่วงต่อจากเธอ ทั้งสองยังคงติดต่อกันเสมอ

“เวินจิ้ง ฉันมาดูงานที่ลอนดอน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงมากินข้าวด้วยกันไหม?”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว กลัวว่าตอนนี้โจวเซินยังไม่ให้เธอออกไปข้างนอกคนเดียว

“เวินจิ้ง?”

“ฉันไม่ว่าง”

“คุณไม่อยากเห็นผมแล้วใช่ไหม” หยูจิ่งห้วนถอนหายใจลึก

“คุณหมอหยู ขอโทษจริงๆ”

“ผมไปหาคุณโอเคไหม?” หยูจิ่งห้วนดื้อที่จะถาม

“เวินจิ้ง พวกเราเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่เหรอ? จริงๆผมเป็นห่วงคุณ ไม่ได้เห็นคุณผมไม่วางใจ”

ตัวเองรู้ข่าวว่าเวินจิ้งจะแต่งงาน เขารู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี

ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ เวินจิ้งยอมที่จะพัฒนากับเขาแล้ว แต่ตอนนี้กลับแต่งงานกะทันหัน แถมผู้ชายคนนั้นไม่ใช่มู่วี่สิง

“พรุ่งนี้ฉันค่อยตอบกลับคุณ แต่ฉันไม่แน่ใจตัวเองจะมีเวลาไหม”

วันถัดมา เวินจิ้งได้รับข้อความของหยูจิ่งห้วนแต่เช้า เขาส่งที่อยู่ร้านอาหารมาให้เธอ เวินจิ้งแต่งตัวเรียบง่ายลงมาด้านล่าง โจวเซินนั่งอยู่บนโซฟามองสมุดจดบันทึก คงจะจัดการเรื่องงาน

เห็นเวินจิ้งลงมา เขาวางงานในมือทันทีแล้วมากินข้าวเช้าเป็นเพื่อนเธอ

“ฉันเที่ยงฉันจะไปข้างนอก”

“ไปที่ไหน?”

“เจอเพื่อน”

“เพื่อนคนไหน?”

เวินจิ้งเงยหน้ามองอย่างไม่พอใจ “หยูจิ่งห้วน”

เป็นไปตามที่คิดไว้ ในเวลานั้นสีหน้าของโจวเซินก็เย็นชา

เวินจิ้งรู้ ถึงแม้ตัวเองไม่พูด ก็ไม่พอใจโจวเซินอยู่ดี

“แม้แต่การเข้าสังคมคุณก็จะควบคุมเหรอ?”เวินจิ้งวางช้อน

“สักพักฉันไปส่งเธอ”

บนถนน ทั้งสองคนไม่พูดกันมากมาย

จนกระทั่งรถเก๋งหยุดที่หน้าประตูร้านอาหารฝรั่ง บริกรเปิดประตูรถให้เธอ

“กินข้าวเสร็จแล้วมาหาฉันที่ตระกูลโจว”เวลานี้น้ำเสียงของโจวเซินอบอุ่นไม่น้อย

“โอเค”เวินจิ้งตอบกลับ

เห็นเวินจิ้งลงรถ โจวเซินก็ลงรถ สั่งคนขับรถ “นายรอเธออยู่ตรงนี้”

สิ้นคำพูด ตัวเองก็ไปรถเก๋งด้านหลัง

ตำแหน่งใกล้หน้าต่าง หยูจิ่งห้วนเก็บฉากนี้

จนกระทั่งเวินจิ้งเดินเข้ามา สีหน้าเขาถึงกลับมาสงบ

“คุณหมอหยู”

“ถึงแม้พวกเราไม่สามารถเป็นคู่รักกัน แต่ยังดีที่ยังเป็นเพื่อน หรือเรียกผมว่าจิ่งห้วนเถอะ”

เวินจิ้งยิ้ม เผชิญหน้ากับหยูจิ่งห้วนนั้น ใจเธอรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย

“โจวเซินปฏิบัติกับเธอ ดีมากอยู่ไหม”สายตาหยูจิ่งห้วนมองไปนอกหน้าต่าง

เขาไม่รู้จักโจวเซิน รู้จักคนนี้มาจากปากเวินจิ้ง

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันต้องแต่งงานกับเขา”เวินจิ้งมองต่ำลง จับโทรศัพท์แน่น

“เป็นความต้องการของคุณนายหลินเหรอ? หรือว่า……”

“จิ่งห้วน ไม่เกี่ยวกับคนอื่น เป็นฉันที่อยากแต่งงานกับเขาเอง”

“ผมไม่เชื่อ!”น้ำเสียงของหยูจิ่งห้วนนั้นตื่นเต้นเล็กน้อย

“เวินจิ้ง คุณบอกฉัน คุณต้องมีเรื่องในใจที่อยากพูดอย่างแน่นอน โจวเซินบีบบังคับคุณใช่ไหม……”หยูจิ่งห้วนยื่นมือออกมา อย่างไม่รู้ตัว จับมือเวินจิ้งแน่น

วินาทีต่อมา เวินจิ้งสะบัดออกทันที

นึกถึงเมื่อก่อนเพราะเธอต้องดูตัวกับหยูจิ่งห้วน โจวเซินถึงขนาดทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ นึกถึงขึ้นมามันทำให้เธอรู้สึกกลัว

ใบหน้าสีขาวของเธอ หายใจลึก พูดช้าๆ“จิ่งห้วน ต่อไปพวกเราอย่าได้เจอกันอีกเลย”

สิ้นคำพูด เวินจิ้งจะลุกขึ้น เพียงแต่หยูจิ่งห้วนตาม แล้วขวางหน้าเวินจิ้ง

“คุณบอกผม ถ้าโจวเซินบีบบังคับจริงๆ ผมจะพาคุณกลับเมืองหนานเดี๋ยวนี้!” หยูจิ่งห้วนพูดเสียงเหวี่ยง

สายตาดื้อของเขาทำให้เวินจิ้งใจลอย

เธอไม่มีค่าพอที่เขาจะทำอย่างนี้

สายตาที่เปราะบาง เธอส่ายหน้า“จิ่งห้วน ใครก็บีบบังคับฉันไม่ได้ เชื่อฉัน ฉันไม่เป็นไรจริงๆ”

แต่หยูจิ่งห้วนขวางเธอ ค่อยๆ สายตาเขาปกคลุมไปด้วยความเศร้า

เจ็บที่ใจอย่างมาก

เขารู้สึกว่าเวินจิ้งโกหกเขาอย่างแน่นอน เธอต้องไม่เต็มอกเต็มใจแต่งงานกับโจวเซินอย่างแน่นอน

แต่เวลานี้ เขาไม่อยากบีบบังคับเธอ

แต่กลับทำไม่ได้ก็วางมือ

ทั้งสองคนอยู่ในท่าทางแข็งทื่อ จนกระทั่งเงาข้างนอกค่อยๆเดินเข้ามา เวินจิ้งตกตะลึง จนกระทั่งโจวเซินเดินเข้ามา ดึงเธอไว้ในอ้อมกอด

“กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ?”เขาขมวดคิ้ว

“อืม พวกเราไปเถอะ”สิ้นคำพูด เวินจิ้งก้าวเท้าไปก่อน

มือของหยูจิ่งห้วนอยากจะจับเวินจิ้ง แต่ว่า เรี่ยวแรงเหมือนกับหมดลง ไม่ได้ยกมือขึ้น

วินาทีต่อมา เขากระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะอาหารข้างๆอย่างแรง ทันใดนั้นผู้คนในร้านอาหารต่างก็แตกตื่น

เวินจิ้งเกือบจะเดินออกจากประตูได้ยินเสียงการกระทำ แต่เธอก็ไม่ได้หันกลับ เพียงแต่เพิ่มความเร็วฝีเท้า

จนกระทั่งขึ้นรถ เวินจิ้งถึงได้ผ่อนลมหายใจ เพียงแต่ผู้ชายที่นั่งข้างๆสีหน้าบึ้งตึงมาก

“ฉันไม่ควรให้เธอมาเจอกับเขา”โจวเซินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันไม่ได้สนิทสนมกับเขามากขนาดนั้น วางใจเถอะ”น้ำเสียงของเวินจิ้งอำพรางความประชดประชันไม่อยู่

“เวินจิ้ง เธอมีเสน่ห์มากเกินแล้ว เธอรู้ไหม? ฉันไม่มีความรู้สึกปลอดภัยเลย”ทันใดนั้นโจวเซินเข้ามาใกล้ ระยะห่างทั้งสองคนนั้นถูกดึกเข้ามาใกล้

เวินจิ้งได้กลิ่นบุหรี่จางๆบนตัวเขา รังเกียจอย่างมาก

เธอดันไหล่เขา แต่กลับเป็นเธอที่ชิดประตูรถ ไม่มีทางถอย

“คุณคิดมากไปแล้ว ฉันและหยูจิ่งห้วนเป็นแค่เพื่อนธรรมดา”เวินจิ้งหันหน้า

โจวเซินไม่เชื่ออย่างที่เธอเข้าใจ เรื่องที่เธอคบหากับหยูจิ่งห้วนที่เมืองหนาน เขานั้น——เข้าใจดีทั้งหมด

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท