Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 679

ตอนที่ 679

บทที่ 679 แค่เธอปลอดภัยก็พอ

รถสีดำยังคงจอดอยู่ในถิ่นทุรกันดาร มู่วี่สิงเบรกอย่างแรง เขาได้กลิ่นคาวเลือดที่ฟุ้งกระจายไปในอากาศ

ลี่หนานเฉิงนำลงจากรถ และรีบวิ่งอย่างรวดเร็วไปที่ศพทั้งสองที่นอนบนพื้น เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไม่ต้องกังวลผู้หญิงของนายไม่ได้อยู่ที่นี่”

การไม่เห็นศพก็ไม่ใช่ว่าจะดี

มู่วี่สิงเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าสงบ เหล่มองคนทั้งสองที่พื้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “คนขององค์กรหยินเฟิงทำ”

การซุ่มยิงที่สะอาด และระยะไกล เทคนิคดังกล่าวเป็นขององค์กรลับ——องค์กรหยินเฟิง

แม้แต่มู่วี่สิงก็ยังไม่สามารถหาฐานขององค์กรนี้ได้

“ องค์กรหยินเฟิง ดูเหมือนจะเป็นกองกำลังทหาร” ลี่หนานเฉิงก้มตัวลงเพื่อดูศพที่พื้น “เพื่อน ไม่ใช่ว่านายทำให้ใครขุ่นเคือง จนเขาต้องลงมือเวินจิ้งหรอกใช่ไหม”

มู่วี่สิงรีบหันกลับ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่เป็นมิตร “สั่งปิดสนามบินและเส้นทางการจราจรหลักๆด่วน และแจ้งให้เป็นวาระแห่งชาติด้วย”

มุมปากของลี่หนานเฉิงกระตุก ชายคนนี้จะใช้อำนาจของตัวเองเก่งจริงๆ

เวินจิ้งถูกบังคับให้นั่งบนเบาะหลัง โดยที่ประตูล็อกไว้ แลมโบกินี่กำลังขับรถกลับเข้าเมืองแล้ว เธอฟังชายที่ชื่อ อู๋ชิงรายงานชายคนนั้นทางโทรศัพท์

“นายบอกว่าตาแก่ตระกูลมู่ต้องการฆ่าเวินจิ้งหรอ” เพราะความโมโห เสียงของชายคนนั้นจึงเย็นยะเยือกขึ้น “เธอเป็นยังไงบ้าง”

“ไม่เป็นไร ตอนนี้เธออยู่ในรถ และถ้าเราไม่ได้ตามเธอ ป่านนี้เธอคงนอนเป็นปุ๋ยอยู่ในป่ารกร้างแล้ว”

อู๋ชิงพูดอย่างสบายๆ “ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารจริงๆ คุณยังมีโอกาส รีบกลับมาไถ่โทษสิ จะอยู่ข้างนอกอีกนานแค่ไหน”

โอกาสที่ดีเช่นนี้ เขาไม่รู้ว่าเจ้านายกำลังจะทำอะไรกันแน่ นอกจากคุยโทรศัพท์ทุกวัน เขาจึงไม่ได้ตามเจ้านายไป

“พาเธอกลับมา และดูแลเธอ ถ้าเธอไม่พอใจแค่นิดเดียว นายรอลดตำแหน่งได้เลย”

อู๋ชิงรู้สึกไม่เป็นธรรม “ผมไม่เคยดูแลผู้หญิงมาก่อน ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าจะดูแลยังไง …นี่ไม่ให้ความลำบากกับผมเกินไปหรอ”

ผู้หญิงของคุณแต่ให้ผมดูแล ล้อเล่นรึเปล่า

ไม่ได้ยินหรอ ที่เธอเพิ่งบอกว่ามู่วี่สิงมักจะมาด้วยตัวเองตลอด

จิตใจของผู้หญิงอ่อนไหว และละเอียดอ่อนมากๆ เจ้านายของเขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก แต่ทำไมไม่มีเหตุผลแบบนี้

“อย่าปล่อยให้มู่วี่สิงเข้าใกล้เธอ” ชายคนนั้นพูดอย่างไม่แยแส “ถ้าตาแก่ตระกูลมู่กล้าที่จะทำอะไรเธออีกครั้ง ฉันจะฆ่าซะ”

เขาพูดอย่างไร้ความปรานีและตรงไปตรงมา ”คุณแน่ใจหรือว่าต้องการทำอย่างนี้ แย่งผู้หญิงมาจากคนอื่น แถมยังฆ่าคุณปู่ของเขา คุณว่าองค์กรหยินเฟิงจะถูกตามล่าขนาดไหน”

ลูกน้องอย่างเขา ต้องการบอกว่าเขาไม่อยากถูกตามล่ากับเจ้านาย

นั่นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอย่างแน่นอน ยิ่งต้องต่อสู้กับมู่วี่สิงอีก เขายิ่งไม่กล้า….

เวินจิ้งไม่เข้าใจคำพูดก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคหลัง เธอก็รีบพูดทันที “คุณจะทำอะไรคุณปู่ไม่ได้”

ตอนนี้เธอไม่ได้เป็นหนี้ตระกูลมู่ แต่เธอก็ไม่อยากเป็นสาเหตุการตายของคุณปู่ของมู่วี่สิง

ทำไม่ได้….

ชายที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็ได้ยินเช่นกัน เขานิ่งไป และเปลี่ยนคำพูดโดยไม่ลังเล “โอเค ไม่ฆ่าก็ไม่ฆ่า อย่าตระหนกไป”

อู๋ชิงถ่ายทอดคำพูดของเจ้านายของเขากับเวินจิ้งอย่างใจเย็น “เจ้านายของเรารักคุณมากที่สุด ถ้าคุณยืนยันไม่ฆ่า เราก็จะไม่ฆ่า”

เวินจิ้งเม้มริมฝีปากของเธอโดยที่ยังมีอาการตื่นตัวเล็กน้อย

เธอถูกชอบด้วยคนใหญ่โตขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน

ในหนานเฉิงใครจะกล้าลักพาตัวคนจากมู่วี่สิงอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้กัน

แถมยังกล้าบอกว่าจะฆ่าคุณปู่มู่แห่งตระกูลมู่

ตอนนี้ ณ.บ้านเก่าตระกูลมู่

มู่วี่สิงสวมเสื้อคลุมสีเทาอ่อน ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม ดุดัน แผ่รังสีฆ่าอย่างน่ากลัว

คนรับใช้ที่พบเขาระหว่างทาง ต่างกลัวที่จะทักทายเขา

จนกระทั่งมาถึงสวน ก็พบกับมู่เฉิงที่นั่งบนวีลแชร์และรดน้ำดอกไม้ที่เพิ่งบาน

เขาเตะไปที่กระถางดอกเดซี่จนมันร่วงเป็นชิ้นๆ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “คุณส่งคนมาฆ่าผู้หญิงของผมหรือเปล่า”

มู่เฉิงมองไปที่ดอกเดซี่ที่หัก และค่อยๆลุกจากรถเข็นด้วยไม้เท้า พร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเขา “ดูจากสภาพแกสิ ถ้าฉันฆ่าจริงๆ ถ้าเธอโดนฉันฆ่าแล้วจริงๆ แกจะฆ่าปู่ตัวเองเพื่อนแก้แค้นให้เธอมั้ยล่ะ”

มู่วี่สิงยืนนิ่งราวกับรูปปั้นที่ไม่มีอารมณ์ “ซือซือตายแล้ว คุณยังอยากให้ผมใช้ชีวิตอย่างคนตายทั้งเป็นอีกหรอ”

มู่เฉิงตกตะลึง ก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจะค่อยๆจางลง เขามองไปที่หลานชายของเขา “แกกำลังบอกฉันว่า ถ้าเธอตายไปแล้ว แกจะสามารถมีชีวิตเหมือนคนตายได้เท่านั้นหรอ”

มู่วี่สิงเงียบไปสองสามวินาที จากนั้นก็ตะโกนว่า “ใช่ ผมรักเธอ ถ้างั้นผมสมควรตายมั้ย หรือจะบอกว่าผมอกตัญญู แล้วจะให้ทำยังไง ถึงจากนี้ผมจะตาย จะต้องตกนรก ผมก็ยังรักเธออยู่ดี”

เขายิ้ม แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และการถากถาง

ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เขาปล่อยให้ตัวเองมีชีวิตที่สมเหตุสมผล แต่เขาไม่สามารถทำเช่นนี้ต่อไปได้อีก

เขาทรมานตัวเองแค่นั้นไม่พออีกหรอ

เวลากว่าสามปีที่สูญเสียหัวใจของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ ถ้าตอนนี้เขายังไม่ก้าวออกมาจากอดีต ก็เหมือนจะทรมานตัวเองไปด้วย

เขาไม่สนใจว่าเขาอาจจะติดกับ แต่เวินจิ้งต้องอยู่กับเขา

เขาทอดทิ้งน้องสาว ปู่และความหมกมุ่นของเขาตลอดสามปีที่ผ่านมา เหลือเพียงเวินจิ้ง

เขาต้องการเธอเท่านั้น

เมื่อเห็นสภาพเขาเช่นนี้ มู่เฉิงก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาพูดไม่ออก

มู่วี่สิงพูดเบาๆว่า “ผมหวังว่านี่จะเป็นครั้งเดียวที่คุณจะฆ่าเธอ สิ่งที่เธอเป็นหนี้เรา เธอได้รับการชดใช้ไปแล้ว คุณปู่ ถ้าปู่ต้องการให้ตระกูลมู่ไม่มีคนสืบสกุล ก็จงฆ่าเธอซะ”

เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไปทันที

เสื้อคลุมสีเทาถูกพัดด้วยคลื่นลมที่รุนแรง

ลี่หนานเฉิงกำลังรอเขาอยู่นอกบ้านหลังเก่า ในที่สุดเขาก็โล่งใจ เมื่อเห็นเขาออกมา ตอนนี้มู่วี่สิงมีท่าทางที่น่ากลัวมาก เขากังวลจริงๆ

ตั้งแต่เจอกับเวินจิ้ง อารมณ์ของเขาก็ไม่เคยควบคุมได้เลย

แม้ว่าพวกเขาจะสนิทกัน แต่เขาก็ไม่สามารถปลอบโยนได้ ได้แต่กัดฟันพูดได้เพียงประโยคเดียวว่า “เพื่อน ในเมื่อเวินจิ้งถูกพาตัวไป แสดงว่าเธอต้องไม่เป็นอะไร แถมนานขนาดนี้ก็ยังไม่มีคนโทรมา อาจจะไม่ใช่คนบ้านแกก็ได้”

มู่วี่สิงนิ่งเงียบตลอดเวลาที่ขับรถออกไป เขาจ้องมองตรงไปข้างหน้า สิ่งที่เขากลัวที่สุดไม่ใช่ว่าจะมีใครมาพรากเธอไป … แต่เป็นเธอไม่ต้องการกลับมาอีกแล้ว

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท