Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 685

ตอนที่ 685

บทที่ 685 พวกเรายังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน

เพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่น เวินจิ้งก็ได้ยินเสียงหัวเราะที่คมชัดเป็นพิเศษ “พี่ชายวี่สิงกลับมาแล้ว!”

เวินจิ้งที่ได้ยินคำว่าพี่ชายวี่สิงอดที่จะขนลุกไม่ได้

แต่น้ำเสียงนี้อ่อนหวานไพเราะราวกับเด็กสาวไร้เดียงสา จึงยากที่จะทำให้คนรู้สึกรังเกียจ

เวินจิ้งเงยหน้ามอง เด็กสาวตรงหน้าดูค่อนข้างที่จะวัยรุ่น และยังให้ความรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก…

หนังตาของเธอก็กระตุกทันที

มู่ซี…ที่แท้ก็คือไป๋ซีหรอกเหรอ

ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นที่รู้จักไม่น้อย แต่มู่เฉิงรับหล่อนมาเลี้ยง…ส่วนวัตถุประสงค์นี้ไว้รอสืบหาดูอีกที

“คุณหนูเวิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” เด็กสาวยกยิ้มเป็นเจิดจ้า ตอนที่ยิ้มคิ้วเปลี่ยนเป็นทรงโค้ง ชวนใช้ทั้งรักทั้งเกลียด

พูดจบ เจ้าก็มองไปที่มู่วี่สิงอีกครั้ง ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ “พี่ชายวี่สิง”

มู่วี่สิงเพียงชำเลืองมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย จากนั้นก็จูงเวินจิ้งเดินไปทางโซฟา แล้วหยุดยืนตรงหน้ามู่เฉิง “คุณปู่”

เวินจิ้งเองก็เอ่ยปากกล่าวเสียงเรียบ “คุณปู่มู่”

มู่เฉิงเก็บสายตาที่กำลังทอดมองมู่ซีกลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“วี่สิง มู่ซีทักทายแกดี ๆ แล้วทำไมแกถึงทำทีแบบนั้น”

มู่วี่สิงเพียงพูดดูน้ำเสียงเรียบนิ่ง “แต่ไหนแต่ไรมาท่าทีของผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับไป๋ซีอยู่แล้ว แม้ว่าจะเคยมีเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็ไม่หลงเหลืออยู่แล้ว

แต่คิดไม่ถึงว่ามู่เฉิงจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้เพียงเพราะเหตุนี้

เขาขมวดคิ้วแน่น

“แก…” มู่เฉิงถลึงตามองเขาอย่างโมโห เห็นได้ชัดว่าโกรธมาก

เวินจิ้งคิดเบา ๆ หากเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาทำแบบนี้อย่างแน่นอน

“อย่าโมโหไปเลยนะคะคุณปู่” มู่ซีเดินเข้ามาในช่วงจังหวะที่เหมาะเจาะ ช่วยคุณปู่นวดไหล่อย่างรู้ใจ “นิสัยพี่ชายวี่สิงก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เขาไม่ได้มุ่งเป้าหนูไว้เป็นพิเศษหรอกค่ะ”

ก่อนหน้านี้เธอเองก็รู้จักนิสัยของมู่วี่สิงดี

เขาแสดงความอ่อนโยนต่อหน้าผู้หญิงที่ชื่อเวินจิ้งคนนี้เท่านั้น

ดูเหมือนมู่เฉิงจะได้ประโยชน์จากคำพูดของเธอไปมาก ในไม่ช้าความโกรธบนใบหน้าของเขาก็คลายลงไปไม่น้อย ยกมือเป็นสัญญาณให้พวกเขานั่งลงได้ จากนั้นก็พูดขึ้นมาทันที

“วี่สิง ฉันเห็นมู่ซีเป็นเหมือนลูกสาว และฉันก็หวังว่าแกจะมองเธอเป็นเหมือนน้องสาว”

มู่วี่สิงไม่แม้แต่จะเลิกคิ้ว เพียงแต่ตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างผ่านไปที

แต่เวินจิ้งกลับเห็นแสงวาบในดวงตาของมู่ซีอย่างชัดเจน จิตใต้สำนึกของเธอรู้สึกว่ามู่ซีชอบมู่วี่สิง

จู่ ๆ มู่เฉิงก็มองไปที่เวินจิ้ง เขาเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ สายตาสบมองเข้าไปในดวงตาของเธอโดยตรง “เวินจิ้ง เรื่องก่อนหน้านี้ฉันต้องขอโทษมากจริง ๆ ในเมื่อเธอยังยอมคบกับวี่สิง พวกเราก็ยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน ฉันหวังว่าเธอจะให้อภัยฉัน”

แม้ว่าดวงตาของมู่เฉิงในตอนนี้จะไม่อบอุ่น แต่ก็ไม่ได้นุ่มนวล ช่างแตกต่างกับที่เคยใช้มองเธออย่างเฉยเมยและรังเกียจโดยสิ้นเชิง ท่าทีครั้งนี้แม้จะเรียบนิ่ง แต่ก็ฟังดูจริงใจเป็นอย่างมาก

มู่ซีเองก็ยิ้ม “คุณหนูเวินกลับมาพร้อมกับพี่ชายแบบนี้แล้ว เธอจะต้องไม่โทษคุณปู่แล้วอย่างแน่นอนค่ะ คุณปู่ไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ”รอยยิ้มที่เหมือนกับคนเป็นแม่ทั้งอ่อนหวานและจริงใจ “คุณหนูเวิน ฉันพูดกับคุณปู่ว่าวันนี้ฉันจะเป็นคนทำมื้อเที่ยง เธอจะทำด้วยกันไหม”

เวินจิ้งฝืนใจยกยิ้มเล็ก ๆ “ได้สิ”

เธอดึงมือตัวเองออกมาจากมือมู่วี่สิง แล้วพูดด้วยเสียงเบา “ฉันจะไปช่วยงานที่ห้องครัว”

ชายหนุ่มก้มศีรษะลงประทับจูบบนแก้มของเธอ “เด็กดี ทำของที่เธอชอบก็พอ”

พอเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเดินจากไป มู่เฉิงก็หยิบชาบนโต๊ะขึ้น แล้วพูดเสียงราบเรียบว่า “ตอนนี้แกพอใจแล้วใช่ไหม เรื่องของโจวเซินฉันจะจัดการให้อย่างยุติธรรม เขาจะไม่มีโอกาสตามรังควานเวินจิ้งอีก”

แววตาดำลึกของมู่วี่สิงมองคุณปู่ของบ้านตัวเอง ดูเหมือนว่าตั้งแต่ครั้งนั้นที่เขาเกือบให้คนฆ่าเวินจิ้ง แล้วถูกเตะกระถางดอกเดซี่จนล้มคว่ำ ก็มีทีท่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“วี่สิง ปู่เองก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ”ราวกับมู่เฉิงเข้าใจความคิดของหลานชายตัวเองเป็นอย่างดี จึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ฉันก็อยู่มาจนแก่ขนาดนี้แล้ว ความปรารถนาก็ไม่ได้มากได้มาย ความต้องการเดียวที่มีก็แค่อยากให้ครอบครัวมารวมตัวกัน ตอนนี้มีมู่ซี เธอทั้งดีทั้งน่ารักน่าเอ็นดู เพื่อประโยชน์ของเวินจิ้งแล้ว แกก็อย่าเกลียดปู่อย่างฉันคนนี้นักเลย”

ในที่สุดใบหน้าราบเรียบและเย็นชาของมู่วี่สิงก็ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำและมีพลังว่า“คุณปู่ ผมรักเธอมาก ดังนั้นผมก็หวังว่าปู่จะสามารถยอมรับเธอได้จริง ๆ ”

ต่อให้คนทั้งโลกคัดค้าน เขาก็จะไม่ปล่อยมือจากเวินจิ้ง

ถึงแม้เขาจะไม่ใส่ใจ แต่เขารู้ว่าในใจของเวินจิ้ง ความเกลียดชังของมู่เฉิงจะเป็นอุปสรรคที่เธอยากลำบากจะก้าวผ่านไปได้

“เรื่องของโจวเซินผมจัดการเองได้ ปู่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรกับเรื่องนี้”

ที่ในห้องครัว เวินจิ้งกำลังตั้งใจล้างผัก เสียงที่ชัดเจนและละมุนหูของมู่ซีดังขึ้นเป็นครั้งคราว “คุณหนูเวิน เธอยัง…ยังเกลียดคุณปู่อยู่อีกไหม”

เวินจิ้งชะงัก ยังเกลียดอยู่ไหมอย่างนั้นเหรอ

ถ้าจะบอกว่าเกลียด แน่นอนว่าแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเกลียดมู่เฉิงเลยสักครั้ง

มู่ซีวางมีดหั่นผักลงแล้วพูดอย่างจริงจัง “คุณหนูเวิน ฉันหวังว่าคุณจะเลิกเกลียดคุณปู่ ถึงแม้ว่าท่านจะพยายามฆ่าคุณ แต่ความจริงแล้วเขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง เขาบริจาคเงินให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทุกปี และมักจะไปเยี่ยมเด็กพวกนั้นอยู่บ่อย ๆ ”

เธอหยุดมือแล้วพูดออกมากด้วยแววตาจริงใจ “ฉันคิดว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะการตายของซือซือกระทบกับเขามากเกินไป สามปีมานี้เขาก็ป่วยเป็นโรคเครียดมาโดยตลอด…”

“โรคเครียดอย่างนั้นเหรอ”เวินจิ้งชะงัก ตลอดมาเธอไม่เคยรู้เลยว่ามู่เฉิงเป็นโรคเครียด มู่วี่สิงเองก็ไม่เคยบอกเธอ

มู่ซีพยักหน้า “ใช่แล้ว”

สีหน้าของเธอดูทนไม่ไหวเล็กน้อย “ฉันรู้แค่ว่าตอนที่คุณปู่ส่งคนไปจัดการเธอ พี่วี่สิงก็กลับบ้านมาอย่างหัวเสีย แถมยังเตะกระถางดอกเดซี่ที่คุณปูดูแลอย่างทะนุถนอมมาโดยตลอดล้มกลิ้ง พูดว่าถ้าคุณปู่ยังเห็นเขาเป็นหลานชาย ก็อย่าได้ทำร้ายเธออีก”

เวินจิ้งรู้สึกช็อกอย่างรุนแรง เขาพูดกับคุณปู่แบบนั้นจริง ๆ เหรอ

มู่ซีพูดต่อ “ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเหตุการณ์นี้ คุณปู่เลยเริ่มที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อรับคำปรึกษาทางจิตวิทยา จากนั้นก็ติดต่อมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของฉัน เขาอยากจะหาที่ฝากฝังความหวังและอุดมการณ์ จากนั้นก็ปล่อยวางเรื่องก่อนหน้านี้ทั้งหมด”

เวินจิ้งเงียบไปนาน เธอเพียงก้มหน้าล้างผักอย่างช้า ๆ

“ดังนั้นแล้วคุณหนูเวิน” มู่ซีพูดอย่างจริงจัง “ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่คุณปู่พาฉันออกมา ทำให้ฉันได้ออกหนีจากวงการบันเทิงและความสับสนวุ่นวายพวกนั้นได้ ทั้งยังมอบบ้าน พี่ชายและพี่สะใภ้ในอนาคตให้กับฉัน ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกคุณจะยอมให้อภัย”

เวินจิ้งเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไปแล้ว ปฏิกิริยาแรกหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้คือการถามขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวว่า “เธอชอบมู่วี่สิงไม่ใช่เหรอ ถ้าพวกเราดีกันแล้วเธอจะไม่มีโอกาสแล้วนะ”

ใบหน้าของมู่ซีแดงก่ำ จากนั้นก็ตอบว่า “พี่ชายวี่สิงเป็นผู้ชายที่ดีมาก ๆ เด็กผู้หญิงทั่วไปต่างก็ชอบเขากันทั้งนั้น เพียงแต่ชอบแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีโอกาสเสมอไป ได้เป็นน้องสาวของเขาฉันก็ดีใจมากแล้ว ฉันโชคดีกว่าคนอื่นตั้งเยอะ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”

มู่ซียอมรับอย่างใจกว้าง แต่กลับทำให้ความไม่พอใจในช่วงแรก ๆ ของเวินจิ้งหายไปไม่น้อย

เธอนำผักในจากที่ล้างเสร็จแล้วใส่ลงในตะกร้า จากนั้นหยิบมะเขือยาวขึ้นมาล้างอีกครั้ง “นี่ก็สายแล้ว ผัดผักเถอะ”

มู่ซียิ้มหวาน “ได้เลย”

เวินจิ้งล้างผักในมือ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าก้อนหินที่กดทับหัวใจของเธอมาโดยตลอดดูเหมือนจะเบาลงไปมาก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท