Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 711

ตอนที่ 711

บทที่ 711 เรื่องตลกที่เจ็บปวดที่สุด

ลี่หนานเฉิงจ้องมองไปทางห้องทำงาน “ถึงเวลาแล้วคุณเตือนเขาให้กลับไปพักผ่อนละกัน เขาบาดเจ็บ เหนื่อยมากไม่ได้”

กระทั่งช่วงเย็นมู่วี่สิงถึงจะออกจากโรงพยาบาล ถึงบ้านตระกูลมู่ก็เป็นเวลาอาหารค่ำพอดี

มู่ซีรีบเรียกเขา “พี่วี่สิง กินข้าวหรือยังคะ มานี่เร็วค่ะฉันจะตักข้าวให้”

เขาชายตามองไม่ใส่ใจ “เวินจิ้งกินข้าวหรือยัง”

มู่ซีตอบเสียงเบา “ฉันเรียกเธอแล้ว แต่เธอไม่สนใจฉัน…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายหนุ่มรีบขึ้นไปชั้นบนทันที มู่ซีสบตากับคุณปู่ ก้มหน้ากินข้าวต่อไปเงียบๆ

มู่เฉิงมองตามหลังเขาไป ถอนหายใจลึก

ขณะที่มู่วี่สิงเข้าไปในห้อง เวินจิ้งยังคงนอนบนเตียงในท่าเดิม ผมปรกดวงตา ดูไม่ออกว่าเธอหลับหรือไม่

ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา นิ้วมือที่อยู่ขอบเตียงขยับเขยื้อน

มู่วี่สิงเดินเข้าไปหยุดยืนข้างเธอ ก้มตัวมองใบหน้าของเธอครู่ใหญ่ จึงพูดขึ้นเสียงแผ่วเบา “จิ้งจิ้ง ลุกขึ้นไปกินข้าวเถอะ”

เวินจิ้งหลับตา ไม่ขานรับ และไม่ตอบสนองแต่อย่างใด

ชายหนุ่มรออยู่ราวหนึ่งนาที แล้วก้มตัวลงอุ้มเธอลงจากเตียง เวินจิ้งลืมตาขึ้นทันที มองเขาสายตาเย็นชา

เขาถูกแววตาของเธอทิ่มแทง พูดเสียงแหบต่ำ “คุณไม่ได้กินข้าวมาทั้งวันแล้ว เราลงไปกินข้าวกันดีไหม”

เขาถามเธอว่าดีไหมอย่างนั้นหรือ

เวินจิ้งรู้สึกว่าช่างน่าขันเหลือเกิน

เขาอุ้มเธอขึ้นมา เดินไปพลางพูดกับเธอ “เรื่องพี่ชายของคุณ ผมจะช่วยจัดการให้เรียบร้อย”

น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน จนเธอฟังออกถึงน้ำเสียงทุ้มต่ำที่เจือการเอาอกเอาใจไม่น้อย

เวินจิ้งหลับตาอีกครั้ง “แล้วคุณล่ะ มู่วี่สิง”

เธอไม่เคยถามมาก่อน ถ้าพี่ชายตายแล้ว มู่วี่สิงมีบทบาทอะไรกันแน่ ในเรื่องนี้

เขาหรือ

มู่วี่สิงอุ้มเธอเดินลงมา ยิ้มนิดๆ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววหมดหวังหนักอึ้งยิ่งกว่าเธอ “คุณไม่กระโดดลงทะเลแต่ตามผมกลับมา เพราะอยากแก้แค้นผมกับมือใช่ไหม”

เขาพูด ก้มหน้าจุมพิตดวงตาของเธอ น้ำเสียงเอาใจอย่างมาก “ผมจะรอดู รอดูคุณจะหาโอกาสฆ่าผม หรือจะทรมานผมช้าๆ”

มือของเวินจิ้งกำแน่น ยิ้มมองเขา “คุณมักทำให้ฉันรู้สึกว่าคุณรักฉันลึกซึ้ง แต่มู่วี่สิง ถ้าคุณรักฉันอย่างจริงใจสักหน่อย คุณก็คงไม่มีทางทำร้ายพี่ชายฉัน”

ที่จริงเธอไม่ชอบหรือถึงขั้นกลัวปู่ของเขา แต่เพื่อเขาแล้วเธอเรียนรู้ที่จะอดทนและยอมรับ

เพียงแต่รอดูว่าฉากจบของเธอคืออะไร

คือเรื่องตลกที่เจ็บปวดที่สุด

เวินจิ้งถูกชายหนุ่มวางลงบนเก้าอี้ในห้องรับประทานอาหาร เธอมองสีหน้าของมู่เฉิงและมู่ซี คนหนึ่งสีหน้าสงบแต่ก็ซับซ้อน ขณะที่อีกคนหนึ่งก้มหน้ากินข้าว จิตใจกลับเหม่อลอย

มู่เฉิงยิ้มให้เธอ ดูแล้วใจดีมีเมตตาอย่างมาก และยังมีความรู้สึกผิดไม่น้อยซึ่งเธอไม่เข้าใจมันนัก “เวินจิ้ง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ร่างกายสำคัญที่สุดนะ”

มู่วี่สิงเข้าไปตักข้าวในห้องครัวให้เธอเอง วางลงตรงหน้าเธอ “เด็กดี กินข้าวก่อน”

ไม่ว่าเธอคิดจะทำอะไรเกลียดเขามากแค่ไหน เธอต้องกินข้าว

เวินจิ้งมองข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า แล้วมองอาหารบนโต๊ะที่ยังแทบไม่ได้แตะ พูดขึ้นเสียงเรียบ “ฉันไม่กินกับข้าวเหลือทิ้ง”

ความเงียบงันฉับพลันเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร แม้แต่มู่ซีที่กำลังก้มหน้ากินข้าวเงียบๆ มาตลอดก็ยังชะงักไป

สีหน้าของมู่เฉิงเงียบขรึมลงแวบหนึ่ง

ขณะที่สีหน้ามู่วี่สิงยังคงเหมือนเดิม “ผมให้คนรับใช้ทำกับข้าวให้คุณใหม่”

มู่เฉิงอดกลั้น ไม่ปริปากอะไรออกมา

เวินจิ้งก็หลุบตานิ่งเงียบ เพียงแต่ยิ้มบางๆ

มู่วี่สิงยิ้มเช่นกัน ก้มหน้าจูบแก้มของเธอ “โอเค ผมไปทำให้ใหม่”

มู่วี่สิงลุกขึ้น ในที่สุดมู่เฉิงก็ทนไม่ไหว ออกคำสั่งเสียงเย็น “มู่วี่สิงปู่สั่งให้แกหยุดเดี๋ยวนี้”

เขามองสายตาของผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามที่มีแต่แววตาเยาะเย้ยและเย็นชา “หลินยี่สำคัญยังไง ต่อให้แกฆ่ามันแล้วยังไง มันสมควรตายอยู่แล้ว มันขับรถชนน้องสาวของแกตาย!”

มู่วี่สิงยังคงไม่หยุด

มู่เฉิงรู้สึกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร มู่วี่สิงก็ทำเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด

ความรับรู้เช่นนี้ทำให้เขาโกรธจัด อารมณ์หงุดหงิดที่มีทั้งหมดถูกระบายใส่เวินจิ้ง “พี่ชายเธอลักพาตัวฉัน พี่ชายเธอก่อเรื่องทั้งหมดก่อน มู่วี่สิงลงมือแล้วยังไง เธอมีเหตุผลอะไรทรมานเขาเพราะเรื่องนี้”

หลานชายของเขาพูดจาเอาอกเอาใจผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไรกัน

เวินจิ้งยังคงยิ้ม “ท่านเกลียดฉันขนาดนี้ ทำไมกลัวตายล่ะคะ”

จังหวะเสียงของเวินจิ้งเรื่อยๆ “ท่านแสดงละครเนียนขนาดนี้ แล้วยังแกล้งทำเป็นใจกว้าง แม้แต่เข้าครัวทำอาหารให้ศัตรู ก็แค่อยากให้หลานของท่านเกลียดฉันใช่ไหมคะ”

เธอช้อนตา ตั้งใจเผยเสน่ห์ออกมา “ทำไมตอนนี้มีโอกาสแล้วท่านถึงกลัว ในเมื่อเป็นคนไปหาพี่ชายฉันเอง ถ้าท่านตายในมือเขาจริง ก็ไม่แน่ว่าจะเข้าทางที่ท่านต้องการให้หลานชายสุดที่รักเกลียดฉัน แต่ตอนนี้ น่าเสียดายอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น แล้วยังกลัวความตายอีก”

มือของมู่เฉิงที่ยังคีบตะเกียบขาวซีดเพราะข้อต่อออกแรงมาก

เวินจิ้งเห็นเช่นนั้น ก็ยิ้มกว้างขึ้น “มองเห็นศัตรูที่ทำให้หลานสาวตายทรมานหลานชายต่อหน้าต่อตา ยิ่งรู้สึกเกลียดฉันใช่ไหมคะ อยากให้ฉันตายเสียเดี๋ยวนี้”

ทันใดนั้นเองตะเกียบกระแทกบนโต๊ะเสียงดัง เวินจิ้งยังคงมีรอยยิ้มที่แสดงความไม่เคารพ สายตาเย็นชาเยาะเย้ย “ฉันชอบเหลือเกินที่ท่านอยากจะให้ฉันตายไปเสียแต่ก็ทำอะไรฉันไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ”

มู่เฉิงหายใจหอบถี่ เขามองหน้าเธอสายตาโกรธจัด หลายปีมานี้เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้

มู่ซีก็วางตะเกียบในมือ “พี่เวินจิ้ง ทำเกินไปแล้ว! พี่วี่สิงเห็นใจที่พี่เพิ่งเสียญาติไปถึงได้ยอมให้ พี่อย่าได้คืบเอาศอกทำร้ายคุณปู่”

“เกินไปงั้นหรือ” เวินจิ้งยิ้มอ่อน “เทียบกับที่ท่านหลอกหลานชายว่าฉันท้องเพื่อทำให้พี่ฉันตาย นี่ก็นับว่าฉันใจดีมากแล้ว”

มู่ซีเถียงทันที “พี่เวินจิ้ง พูดอย่างนี้ได้ยังไง พวกเราทำอย่างนี้ก็แค่อยากให้พี่ได้กลับไปหาพี่ชาย เพียงแต่คิดไม่ถึงพี่วี่สิงจะขังพี่ไว้ก็เท่านั้น”

สายตาที่ว่องไวของเวินจิ้งจับได้ถึงความรู้สึกผิดลึกๆ ในสายตาของมู่ซี

เธอไม่พูดอะไรมาก เพียงแต่ยิ้มบางๆ “ครอบครัวคุณทุกคน ทำให้ฉันสะอิดสะเอียน”

แน่นอนว่าอาหารมื้อนี้กินไม่ลงแล้วมู่ซี ประคองคุณปู่กำลังจะเดินออกไป ไม่ลืมที่จะพูดกับเวินจิ้งน้ำเสียงเย็นชา “พี่เวินจิ้ง อย่าลืมว่าตระกูลหลินยังอยู่ในมือตระกูลมู่ ตอนนี้แม้แต่คนสนับสนุนพี่ก็ไม่มีสักคน บางทีตอนนี้พี่วี่สิงยังรู้สึกผิดกับพี่อยู่บ้าง แต่คิดหรือว่ามันจะอีกนานเท่าไร หรือพี่คิดว่า แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รักเขาจะเทียบกับญาติแท้ๆ ได้”

“อย่าลืมสิ ถ้าพี่เป็นคนสำคัญในใจของเขาจริง พี่ชายของพี่ก็คงไม่ตาย”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท