Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 709

ตอนที่ 709

บทที่ 709 ไม่ต้องกังวล ฉันจะอยู่ดีๆ

เวินจิ้งก้มหัวลงอย่างไม่รู้เรื่อง เห็นแขนเสื้อย้อมเป็นสีแดงหมดเลย ดูเหมือนว่ามีเลือดไหลออกเยอะอยู่ แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บเลย

มู่วี่สิงก้มหัวลงและดวงตาของเขาก็สั่นไปเบาๆ เธอต้องใช้แรงหนักแค่ไหนถึงจะทำให้มีเลือดบนแขนเสื้อด้วย

เขายื่นมือออกและอุ้มเธอขึ้นทันที เขาบอกมู่ซีว่า”ไปเอากล่องยามา”

เวินจิ้งถูกกอดไว้ในอ้อมแขนของเขา คิ้วซีดของเธอเปื้อนด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีอุณหภูมิ เธอได้รับบาดเจ็บที่มือไม่ใช่ขาสักหน่อย เขาถึงขนาดต้องอุ้มเธอเดินด้วยหรอ

อีกอย่าง บาดเจ็บแค่นี้ เลือดเพียงเล็กน้อยนี้ ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย

บนโซฟาในห้องนั่งเล่น มู่เฉิงเห็นหลานชายอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าหล่อเหลาก็ตึงเครียดอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาตกตะลึงและลึกล้ำ

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เดี๋ยวมีเดี๋ยวหายบนหน้าซีดของผู้หญิง หัวใจของมู่เฉิงก็อดไม่ได้ที่เกิดความหนาวเย็น

มู่ซีมีแต่หากล่องยามาวางไว้บนโต๊ะกาแฟตามคำสั่ง และมองคุณปู่อย่างกังวล แต่มู่เฉิงก็ไม่ได้พูดสักคำ

ไม่ว่าจะเป็นมู่วี่สิงหรือเวินจิ้งก็ตาม สองคนไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ได้มองหน้ากันด้วยซ้ำ

ผู้ชายค่อยๆยกแขนเสื้อของเวินจิ้งขึ้นอย่างระมัดระวัง ข้อมือขาวของเธอเปื้อนเลือดไปหมด และจุดที่หนักที่สุดเห็นกระดูกด้วย

เขามองอย่างไม่ขยับตาหลายวินาที

“จิ้งจิ้ง” เขาเรียกชื่อเธอเบาๆ”เจ็บไหม”

เขายังจำได้ว่าเมื่ออยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อก่อน แม้จะได้รับบาดเจ็บแค่เบาๆเธอร้องไห้อย่างตกใจกลัวว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเจ็บแผลอยู่

เวินจิ้งยิ้มเบาๆ “เจ็บ”

เธอพูดว่าเจ็บ แต่ไม่มีความเจ็บปวดใดๆบนใบหน้าของเธอ และดวงตาของเธอก็เงียบงัน ไม่มีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆเลย

มู่วี่สิงทายาให้เธอโดยไม่พูดสักคำ มือของเธอเย็นมาก และไม่มีอุณหภูมิใดๆ

ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อแล้วทายา และใช้ผ้าพัวพันแผลอย่างระมัดระวัง มู่ซีเฝ้าดูอยู่เสมอ แม้ว่าใบหน้าของผู้ชายจะไม่มีการแสดงออกใดๆ แต่ความสงสารและความอ่อนโยนอยู่ในสายตาซ่อนไม่อยู่เลย

แน่นอนอยู่แล้วว่า เขาก็ไม่เคยคิดที่จะซ่อนอยู่แล้ว

ทายาเสร็จ มู่ซีก็รีบเข้าไปช่วยหยิบกล่องยาไป มู่วี่สิงไม่สนใจเธอ ค่อยๆลุกขึ้นยืนและเอนตัวจ้องมองเวินจิ้ง

ใบหน้าของเธอสงบนิ่งมาก สงบจนเหมือนอยู่ในโลกอื่นแล้ว ไม่รู้ทำไม เขาอยากจะจับหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัว

แต่เมื่อเวินจิ้งเงยหน้าขึ้น มือของเขาก็หยุดทันที

เธอยิ้มเบาๆว่า”มู่วี่สิง เป็นเพราะพี่ชายของฉันยังไม่ตาย คุณก็เลยจับตัวฉันกลับมาขังอยู่ในบ้านต่อใช่มั้ย”

สายตาของเธอมองไปที่มู่เฉิงและมู่ซียิ้มเบาๆว่า”คุณไม่กลัวฉันจะเฉยโอกาสฆ่าคุณปู่และน้องสาวของคุณหรอ”

ไม่มีเจตนาฆ่าในน้ำเสียงของเธอ แต่มันทำให้มู่ซีรู้สึกหนาวสั่น

ในที่สุดเสียงเย็นชาของมู่เฉิงก็ดังขึ้น”วี่สิง คุณพาเธอกลับมาทำไม เธอได้รับผลกระทบทางจิตใจ คุณควรพาเธอไปหานักจิตวิทยาสิ”

มู่วี่สิงไม่สนใจคำพูดของคุณปู่ แต่นิ้วของเขาก็ไม่ได้สัมผัสเวินจิ้ง แค่พูดอย่างใจเย็น”คุณเหนื่อยมากแล้ว

ฉันจะอุ้มคุณขึ้นไปนอนสักพัก”

เวินจิ้งไม่ดิ้นรน ปล่อยให้เขาอุ้มเธอ คางของเธอวางอยู่บนไหล่ของเขา มู่เฉิงขมวดคิ้วอย่างเย็นชา แต่เมื่อ

เขาเงยหน้าขึ้น ก็พบกับสายตาของเวินจิ้ง

รอยยิ้มที่เย็นชา เหมือนจะมีหนาม มู่เฉิงรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว”วี่สิง”

เขาพูดโดยไม่รู้ตัว”พาเวินจิ้งออกไป”

มู่วี่สิงไม่ได้หันตัวไป น้ำเสียงเย็นชาเหลือเกิน”ไม่มีทาง”

เวินจิ้งพิงไหล่ของผู้ชาย มองมู่เฉิงยิ้มขึ้นมาทันที

คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจิตใจจะอ่อนแอกว่าหรอ

เขาคิดว่าเขาสามารถอยู่อย่างสบายได้ เมื่อฆ่าคนหนึ่งไปเหรอ

อายุสูงขนาดนี้แล้วยังจะใช้วิธีนี้อีก กลัวจริงๆแล้วสิ

ในห้องนอนบนชั้นสอง เวินจิ้งถูกวางลงบนเตียง ผู้ชายกอดเธออยู่ในอ้อมแขนอย่างแรงมาก แรงมากจริงๆเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะหลอมรวมเป็นกระดูกของเขาแล้ว

“พี่ชายของฉันตายยัง”เธอถามอย่างใจเย็น

ห้องนอนเงียบจนสามารถได้ยินอย่างชัดเจนเลย

เวินจิ้งยิ้ม”ในเมื่อคุณทำไปแล้ว ตอนนี้ไม่กล้าพูดเลยเหรอ มู่วี่สิง เมื่อเป็นคนขี้กลัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

แขนที่กอดเธอไว้แน่นๆก็ค่อยๆปล่อยไป เธอได้ยินเสียงแหบแห้งที่ไม่มีอารมณ์ของเขาจากหู”เขาถูกยิง

และตกลงไปในทะเล”

“มีแนวปะการังเต็มไปหมดอยู่ใต้ทะเล คุณก็รู้”

เธอรู้ เธอรู้อยู่แล้ว เธอมองเห็นมัน

“มู่วี่สิง”เธอยิ้มเบาๆ”ฉันพบคุณในชีวิตนี้ มันเป็นเวรกรรมจริงๆ แบบตายโดยไม่หลับตา”

ร่างกายผู้ชายที่คุกเข่าอยู่ข้างเตียงแข็งไปทันที ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีคล้ำเย็นชาทันที นิ้วบีบคางของเธอ เสียงเย็นเยียบออกมาจากปาก”จิ้งจิ้ง เก็บคำว่าตายไว้”

เมื่อกี้ตอนที่เธออยู่ที่ชายหาด เขามีภาพลวงตาว่าเธอจะกระโดดลงไปต่อหน้าต่อตาตลอดเวลา ไม่มีใครรู้เลยว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วแค่ไหน ถ้าหยูจิ่งห้วนไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ …

เธอไม่พูดอะไร ร่างกายของเขาก็เข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ”จิ้งจิ้ง ฉันเคยบอกว่า ถึงเธอจะตาย ก็ยังเป็นของฉันอยู่ดี”

ลมหายใจที่มืดมิดของผู้ชายห่อหุ้มการหายใจของเธอ ราวกับปีกขนาดใหญ่พัดลมหนาวเย็นอยู่ แต่เวินจิ้งกลับยิ้มหนักกว่าเดิม ราวกับว่าเขาพูดเรื่องตลก”ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะอยู่ดีๆ ไม่ตายหรอก”

ตายเหรอ

เมื่อลมทะเลพัดมา กระดูกก็เจ็บไปด้วย เธอคิดจะตายก็จริง เพราะว่ามันเจ็บเหลือเกิน เจ็บจนไม่สามารถหาวิธีอื่นที่จะแก้ความเจ็บปวดนี้ได้นอกจากตาย

ตอนนี้เธอคิดว่า ถ้าคนที่เธอเกลียดเจ็บปวดมากกว่าเธอ ความเจ็บปวดของเธอก็จะน้อยลงหรือเปล่า

มู่วี่สิงกอดไว้เธออีกครั้ง เธอเย็นเกินไป ดวงตาและน้ำเสียงของเธอก็เย็นไปหมด แม้กระทั่งร่างกายก็เหมือนลอยออกมาจากน้ำเย็น เขาอดไม่ได้ที่จะกอดเธอไว้แน่นๆ

เวินจิ้งยังเฉยเมยเหมือนเดิม ไม่ดิ้นรนเมื่อเขากอดเธอเหมือนก่อนหน้านี้ มู่วี่สิงแค่รู้สึกว่าปากแผลที่เปิดอยู่ในใจของเขากำลังรั่ว เขาจึงก้มหัวลงจูบแก้มเธออย่างไม่หยุด

“มู่วี่สิง”ในที่สุดเวินจิ้งก็ทนไม่ได้ ผลักอกของเขาแรงๆด้วยมือที่มีผ้าพันแผลของเธอ”อย่ามาทำให้ฉันขยะแขยง”

เธอใช้ความพยายามอย่างมากในอดทันการกอดของเขา ตอนนี้เขาจูบเธอ เธอสั่นไปทั้งตัวเลย

มู่วี่สิงหยุดการกระทำทันที ดูเหมือนจะมีคอร์ดในหัวของเขาที่แทบจะแตก

เขาก้มหัวลงจูบปากของเธออย่างแรงๆ ท่าทางของเขาดูเหมือนหมาป่าหิวโหย เขาไม่สนใจปฏิกิริยาของผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน แค่อุทานและไปปล้นตามสัญชาตญาณ

หัวใจของเขาว่างเปล่า ว่างเปล่าจนเขาต้องกอดเธอแน่นๆถึงจะเติมเต็มให้ได้

ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีกว่าใครๆ อาจไม่มีทางที่จะเติมเต็มได้แล้ว

ปฏิกิริยาของเวินจิ้งรุนแรงมาก หลีกเลี่ยงการจูบและลมหายใจของผู้ชายตลอด รสชาติและสัมผัสแบบนี้ทำให้เธออึดอัดมากกว่าความตาย

เธอหาเจอสิ่งของที่ซ่อนอยู่ตัวเธอ เธอหยุดไปพักหนึ่ง เธอทนไม่ได้กับพฤติกรรมที่เคยชินในอดีต

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท