Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 710

ตอนที่ 710

บทที่ 710 ใครทำร้ายมู่วี่สิงได้

กริชที่เร่าร้อนอย่างแหลมคมแทงไปในทิศทางหนึ่ง แสงที่สะท้อนจากใบมีดทำให้ตาละลานมาก มู่วี่สิงตกใจหนึ่งวินาทีถึงจะตอบสนองว่าไปแยกมีดจากเธอ แต่มันก็สายเกินไป ใบมีดแทงทะลุไหล่ของเขาเรียบร้อยแล้ว

เลือดย้อมเสื้อผ้าเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งหอบและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเล็กๆของเธอซีดอย่างไม่มีเลือด สิ่งเดียวที่เธอทำก็คือการหลบหลีกและป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอ

มู่วี่สิงมองแก้มของเธอ หัวใจของเขาชัดเจนมาก เขารู้ว่าเธอเกลียดเขา และเขาก็รู้ว่าเธอกำลังอดทนอยู่ เขารู้ดีว่า เมื่อที่เธอแทงเข้าเข้ามาในเมื่อกี้ เธอไม่ได้ล้างแค้นเพื่อหลินยี่ แค่ทนความใกล้ชิดและสัมผัสของเขาไม่ได้ต่างหาก

เขาเริ่มเข้าใจว่าเมื่อเขาถามเธอว่าเจ็บไหม คำตอบของเธอมีเพียงคำเดียวนั่นคือเจ็บ

เธอไม่ได้เจ็บข้อมือ เหมือนตอนนี้เขาไม่ได้เจ็บไหล่

มันเจ็บใจ แม้ว่ามันไม่มีเนื้อและเลือด แต่มันจะทำให้เจ็บทรมานมาก

เขารู้ เขารู้ทุกอย่าง

มือของเวินจิ้งที่ถือกริชอยู่ไม่ยอมปล่อย มีความตื่นตระหนกในดวงตาของมู่วี่สิง ถามอย่างเสียงต่ำ”เอามีดมาให้ฉัน เดี๋ยวคุณจะทำร้ายตัวเอง”

อารมณ์ของเธอไม่มั่นคง เธออาจทำร้ายตัวเองได้

ปลายมีดยังมีเลือดไหลอยู่ เวินจิ้งก็ถอยหลังเรื่อยๆ อยู่ในระยะห่างกับเขา มือของเธอสั่นอย่างไม่หยุด

แม้ว่าจะไม่ชัดเจน แต่ควบคุมไม่ได้

เธอมองเขาอย่างตื่นตัว การหายใจของเธอกระวนกระวายใจมาก

มู่วี่สิงไม่กล้าเข้าใกล้เธออีก แค่พูดด้วยเสียงต่ำว่า”วางมีดลงนะ ฉันจะไม่แตะต้องตัวเธอ”

เขามองใบหน้าตกใจจนซีดเซียวของเธอ พูดอย่างเสียงเบาอีกครั้งว่า”เจิ้งจิ้ง ฉันสัญญา ฉันจะไม่แตะต้อง

คุณเด็ดขาด แค่คุณวางมีดลง”

เวินจิ้งแค่รู้สึกตลก มีดอันนี้เธอเอามาจากรถของหยูจิ่งห้วน เธอแค่ใช้มันป้องกันตัวเท่านั้น แต่ท่าทางของเขาดูเหมือนว่าเธอจะทำร้ายตัวหรือฆ่าตัวตาย

เธอจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด

เลือดบนไหล่ของเขาไหลลงเยอะมาก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัว ดวงตาของเขามองเธออยู่ตลอด

จนกระทั่งเธอถอยไปอีกด้านหนึ่งของเตียง ห่างไกลจากลมหายใจของเขา และไม่รู้สึกถึงแรงกดดันจากตัวเขา ประสาทของเธอถึงค่อยๆผ่อนคลายลง และมือของเธอก็ไม่สั่นมากนักแล้ว

เธอพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณออกไปเถอะ”

มู่วี่สิงมองเธอ แต่ไม่ได้ขยับตัว

เวินจิ้งยิ้มอย่างเย้ยหยัน”ฉันจะอยู่ที่นี่ คุณไม่ต้องเป็นกังวลว่าฉันจะวิ่งหนี ไม่ใช่ สบายใจได้เลย ฉันจะไม่วิ่งหนีแน่นอน”

“โอเค”ผ่านไปสักพัก เขาถึงจะพูดว่า “ฉันจะออกไป แต่คุณอย่าจับมีดอีกนะ”

เมื่อกี้เธอเอามีดป้องกันตัว ถ้าครั้งหน้าเธอทำร้ายตัวเองอย่างหมดสติจะทำไงล่ะ

เวินจิ้งเห็นเขาออกจากห้องนอนและปิดประตูด้วย ประสาทที่ตึงเครียดอยู่ตลอดถึงค่อยๆผ่อนคลายลงและนอนลงบนเตียงอย่างหมดแรง

ไม่มีแรงสักนิดเลย

เธอนอนขดตัวอยู่บนเตียง ราวกับว่าสติสัมปชัญญะของเธอหายไปหมด หลับตาและนิ้วจับผ้าห่มแน่นๆอย่างแรง แรงจนแผลมีเลือดไหลอีก

มู่ซีได้ยินเสียงเดินก็รีบวิ่งไปทันที เมื่อเธอเห็นบนไหล่ผู้ชายเต็มเลือด ตกใจจนแทบจะกรีดร้องออกมาด้วย

“พี่วี่สิง ทำไมคุณถึงได้รับบาดเจ็บล่ะ”

เมื่อมู่เฉิงได้ยินเสียง ก็มองมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นสีแดงขนาดใหญ่บนไหล่ของมู่วี่สิงก็ตกใจขึ้นมา”คุณเป็นอะไร”

มู่วี่สิงไม่มีการแสดงออกใดๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดึงอยู่ตลอด ไม่ได้มองพวกเขาเลย

หยิบกล่องยามาโดยตรง มู่ซีรีบเข้าไปช่วย มู่วี่สิงไม่ได้เงยหน้าขึ้น”ออกไป”

มู่ซีเม้มปากอย่างเสียใจ “แต่คุณบาดเจ็บอยู่ ให้ฉันช่วยทายาให้คุณนะ เมื่อก่อนฉันเคยเรียนรู้วิธีทายามาฉันช่วยคุณได้นะคะ”

มู่เฉิงเดินมาพร้อมกับไม้เท้าและเป็นห่วงมาก”ไปโรงพยาบาลเถอะ… ”

แต่วินาทีต่อมานึกถึงอะไรขึ้นมา กัดฟันพูดว่า”เวินจิ้งทำร้ายคุณใช่ไหม เธอเอามีดแทงคุณใช่หรือเปล่า”

เธอทำได้ยังไง เธอทำร้ายหลานชายของเขาแบบนี้ได้ยังไง

มู่ซีอยากเข้าหาเขา แต่ก็ไม่กล้า เธอไม่สงสัยเลยว่ามู่วี่สิงจะทำให้เธอออกไปได้จริงๆ

ตอนนี้ทั้งตัวของเขาเย็นชาไปหมด ดวงตาของเขาไม่เคยมองพวกเขาเลย ความห่างไกลทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้

เขาถอดเสื้อผ้าออก และทายาให้ตัวเองอย่างไม่ชินมือ มู่ซีอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลขณะที่เห็นบาดแผลที่น่ากลัวของเขา

เธอพึมพำอย่างไม่พอใจ”เธอจะทำมากไปแบบนี้ได้ยังไง พวกคุณเป็นสามีภรรยากัน เธอใช้มีดแทงคุณได้ยังไง พี่วี่สิง … ถ้าคุณยังอยู่กับเธอต่อ สักวันเธออาจอยากฆ่าคุณอย่างหมดสติก็เป็นไปได้นะคะ”

เธอยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ตอนนี้เวินจิ้งเป็นคนบ้าจริงๆ

มู่เฉิงยิ่งกังวลไปอีก”วี่สิง คุณอยู่กับเธอต่อไม่ได้แล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรอีกเลย”

สีหน้าของมู่วี่สิงยังเย็นชาเหมือนเดิม”พวกคุณประหลาดใจกับผลลัพธ์แบบนี้เหรอ”

มู่เฉิงโกรธมากจนพูดไม่ออก และออร่าก็อ่อนลงไปบ้าง”คุณหมายความว่ายังไง”

ผู้ชายก้มหัวลงไม่พูดอะไรอีก มู่เฉิงอยากจะพูดอะไรต่อ ร่างหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือลี่หนานเฉิง

“เพื่อนรัก เราไปกันได้แล้ว … ”

แต่เมื่อเขาเดินเข้าใกล้ก็ตกใจขึ้นมา”คุณได้รับบาดเจ็บได้ยังไง”

ทั้งๆที่เมื่อเข้าเจอกับหลินยี่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลย และเห็นได้ชัดเลยว่านี่เป็นบาดแผลมีด ใครจะสามารถทำร้ายมู่วี่สิงได้ล่ะ

มู่วี่สิงพันผ้าพันแผลเรียบร้อยและพูดอย่างเย็นชาว่า”ให้ลูกน้องที่เก่งที่สุดของคุณมาเฝ้าเวินจิ้ง”

ลี่หนานเฉิงเดาออกได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”อืม รู้แล้ว”

พวกเขาต้องทะเลาะเพราะเรื่องของหลินยี่แน่ เขาไม่ได้คิดมากและรีบออกไปคุยโทรศัพท์

เมื่อเขากลับมา มู่วี่สิงได้พันผ้าพันแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากใส่เสื้อโค้ทแล้ว มู่ซีก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า”พี่วี่สิง คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่จะดีกว่าไหมคะ”

มู่วี่สิงเดินออกไปโดยตรง มู่เฉิงตะโกนมาจากข้างนอกว่า”มู่วี่สิง คุณจะไปไหนอีก ได้รับบาดเจ็บก็พักผ่อนไป”

แต่ผู้ชายไม่ได้หยุดเดินเลย

ในรถ ลี่หนานเฉิงนั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสาร หันหัวมองผู้ชายที่หลับตาอยู่ และสั่งให้คนขับขับรถ

พอมาถึงโรงพยาบาล มู่วี่สิงก็รีบจัดการงานที่ค้างไว้ในช่วงนี้ งานรักษาหยุดไปแล้ว แต่เขาต้องทำการตัดสินในเรื่องสำคัญของโรงพยาบาล

จนถึงตอนเย็นๆ เขาถึงทำงานส่วนใหญ่ให้เสร็จ

เมื่อลี่หนานเฉิงมาก เกาเชียนเฝ้าอยู่ข้างนอก

“คุณลี่ มีข่าวของหลินยี่หรือเปล่า เขาตายแล้วจริงๆเหรอ”เกาเชียนถามอย่างเป็นห่วง

เจ้านายอยู่ข้างในไม่ได้ออกมาเป็นแปดชั่วโมงแล้ว ก็ได้กินหรือดื่มอะไรด้วย เขาไม่กล้าเข้าไปรบกวนเลย

“ยังไม่มีข่าว แต่เราสั่งคนไปหาศพอยู่ตลอด ตอนนั้นยิงพลาดไม่โดนตรงกลางหัวใจ แต่ไต้ทะเลเต็มไปด้วยหินโสโครก มันยากที่จะบอกว่าจะรอดเรือเปล่า”

ตอนนั้นเขายืนอยู่ข้างหลังมู่วี่สิง ก็เลยรู้ดีว่ากระสุนได้เบี่ยงเบนไปจากหัวใจ แต่แนวปะการังและน้ำทะเล มันยากที่คิดว่าสภาวการณ์ปัจจุบันจะดีเลย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท