Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 713

ตอนที่ 713

บทที่ 713 ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

เวินจิ้งสังเกตว่า หมู่นี้มู่วี่สิงออกจากบ้านแต่เช้าตรู่และกลับมาดึกดื่น

เขายังคงนอนบนพื้นทุกวัน แต่ออกไปก่อนเธอตื่น หลังจากเธอหลับนานแล้วบางครั้งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ จึงรู้ว่าเขากลับมาแล้ว

ช่วงเวลานี้เธอพักที่บ้านตระกูลมู่ตลอด เมื่อมู่วี่สิงไม่อยู่ ท่าทีของมู่เฉิงต่อเธอยิ่งเย็นชามากขึ้น แม้แต่สายตาที่มองเธอก็มีแต่ความเกลียดชัง

เธอตั้งใจกินข้าวร่วมโต๊ะกับพวกเขา เพราะเธอพบว่าเมื่อเธออยู่ด้วย มู่เฉิงกับมู่ซีจะอารมณ์เสียมาก แม้แต่ความอยากอาหารก็หมดสิ้น

ตอนนี้เธอมีความสุขที่จะทำเรื่องนี้

มู่เฉิงเพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมา ก็ถามเธอเสียงเย็นชา “เวินจิ้ง หมู่นี้วี่สิงอยู่ข้างนอกตลอด เธอทะเลาะอะไรกับเขาหรือเปล่า ถึงได้ไม่ยอมกลับบ้าน”

แม้ว่ามู่ซีจะคอยเป็นเพื่อนเขาทุกวัน แต่เขาอายุมากแล้วถึงรับเลี้ยงหลานสาวก็ย่อมเทียบไม่ได้กับหลานชายของตัวเอง ในครอบครัวนี้มู่วี่สิงไม่เห็นปู่อยู่ในสายตาก็พอแล้ว ตอนนี้ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้าอีก

แม้ยามจะบอกว่าเขากลับบ้านทุกคืน แต่คนที่ได้พบหน้าเขามีแต่เวินจิ้งคนเดียว

เวินจิ้งก้มหน้ากินน้ำแกง เธอไม่รู้สึกอยากกินอาหาร แต่สุดท้ายแล้วก็ทนไม่ได้ที่จะทรมานเด็กในท้อง จึงบังคับตัวเองกินอาหารทุกมื้อ

เธอช้อนตา พูดเรียบๆ “ฉันทะเลาะกับเขาแล้วยังไงหรือคะ”

ริมฝีปากของเธอยิ้มนิดๆ “ทำไมหรือคะ หลานชายท่านไม่ยอมพูดด้วยและยังไม่ยอมมาให้เห็นหน้า แม้แต่อยากจะรู้เรื่องเขาก็ต้องถามฉันหรือคะ”

มู่ซีไม่พอใจท่าทางของเธอ “พี่เวินจิ้ง ฉันเคารพที่พี่เป็นพี่สะใภ้ แต่พี่อย่าทำรุนแรงเกินไป ถ้าไม่เป็นเพราะพี่ชายของพี่เพิ่งเสียไป ฉันกับคุณปู่ไม่ยอมทนมาตลอดแน่นอน”

เธอวางตะเกียบในมือลงช้าๆ รอยยิ้มที่มีมาตลอดหายไป “พี่คิดว่าพี่วี่สิงเก็บพี่ไว้เพราะยังรักพี่หรือคะ พี่เวินจิ้ง ฉันคิดว่าพี่ฉลาดมาก ทำไมทำเรื่องโง่ๆ เขาไม่รักพี่ ก็แค่รู้สึกผิดกับพี่เท่านั้น ถึงได้ยังเลี้ยงพี่ในบ้านตระกูลมู่”

เวินจิ้งรู้สึกว่าที่ มู่ซีพูดว่าเขารู้สึกผิดกับเธอ น่าขันยิ่งกว่าการแสดงออกของเขาที่แสดงความรักลึกซึ้งมาตลอด

อารมณ์ของเธอเรียบเฉยเช่นเดิม กินน้ำแกงต่อไป

เสียงของมู่ซีที่นั่งตรงข้ามยังคงดังต่อไป “ฉันไม่เห็นว่าพี่วี่สิงผิดตรงไหน พี่ชายของพี่มีส่วนให้น้องสาวเขาตาย พี่ก็เป็นผู้สมคบคิดทางอ้อม ชีวิตแลกด้วยชีวิตก็เท่านั้น!”

มู่เฉิงทนฟังเกินพอแล้ว เวินจิ้งดื้อดึงไม่ฟังเหตุผลต่อหน้าพวกเขา อดไม่ได้พูดขึ้น “เวินจิ้ง อยากได้เงินเท่าไหร่บอกมา รีบเซ็นใบหย่ากับวี่สิง ไปจากตระกูลมู่ซะ”

สุดท้ายทนไม่ไหวแล้วหรือ

ใบหน้าของเวินจิ้งยังคงเปื้อนรอยยิ้ม “ทีแรกพวกคุณหลอกมู่วี่สิงว่าฉันท้องแล้วขู่ให้คุณไปหาพี่ชายของฉัน ก็เพื่อให้เขาเป็นคนไล่ฉันออกไป ……เพราะถ้าฉันกับพี่ชายทำให้น้องสาวเขาตายแล้วยังทำร้ายคุณปู่ของเขา เขาต้องไม่ให้อภัยฉันแน่ หึ”

เธอมองทั้งสองคนอย่างครุ่นคิด ”มู่เฉิงท่านหาผู้หญิงที่เหมือนกับฉันขนาดนี้ คิดจะเตรียมพร้อมหลังไล่ฉันไปแล้ว ให้เธอเป็นหลานสะใภ้ของคุณใช่ไหม มู่ซีเธอคิดจะแต่งงานกับพี่วี่สิงของเธอมาตลอดล่ะสิ”

มู่ซีสบตากับมู่เฉิงมู่ซีทำสีหน้าไม่ถูกเมื่อถูกมองความคิดทะลุปรุโปร่ง แต่แวบเดียวก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบเฉย

“ฉันไม่เคยปฏิเสธว่าชอบพี่วี่สิง หรือถึงขั้นแต่งงานกับเขา…”

เธอเชิดหน้า “นั่นก็เป็นเพราะพี่ ตั้งแต่แรกที่พี่วี่สิงพาพี่กลับมา เขาก็เอาอกเอาใจพี่สารพัด แต่พี่ไม่ไว้หน้าเขาสักนิด คุณปู่ทำดีกับพี่ก็ไม่สนใจ แถมตอนนี้พี่ยังเกลียดพี่วี่สิงขนาดนี้ พี่เวินจิ้ง ไม่คู่ควรเป็นภรรยาพี่เขาสักนิด!”

ท่าทางหยิ่งผยองขนาดนั้น ราวกับทั้งโลกนี้มีแต่เธอที่คู่ควรกับมู่วี่สิง

ตอนกลางคืน ช่วงนี้เวินจิ้งหลับลึก ร่างกายเหนื่อยล้าเพราะตั้งท้อง บวกกับตอนกลางวันประสาทยังตึงเครียดอีก รู้สึกผ่อนคลายเวลาที่อยู่คนเดียวเท่านั้น

แต่แรกเธอไม่ได้ยินเสียงมู่วี่สิงกลับมา กระทั่งกลางดึกก็มีเสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น

เธอหลับลึกมากแต่ก็รู้สึกตัวง่ายเช่นกัน เสียงดังขนาดนี้ปลุกเธอให้รู้สึกตัวทันที

ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แค่เพียงไม่กี่วินาที เธอก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออก

สีหน้ามู่วี่สิงดุดันจับหญิงสาวที่ยืนตรงหน้าประตูลากเธอออกไปไกลค่อยพูดเสียงต่ำ แต่เวินจิ้งยังคงได้ยินเสียงดุของชายหนุ่มไม่ดังนัก

“มู่ซีทำอะไร! ไม่รู้หรือไงเวินจิ้งหลับตั้งนานแล้ว มันรบกวนเธอ รีบไปซะ!”

มู่ซีตกใจเพราะท่าทางเย็นชาของเขา พูดจาตะกุกตะกักไม่เป็นประโยค “พี่วี่สิง คุณปู่เกิดเรื่องแล้ว…อาการซึมเศร้ากำเริบ กรีดข้อมือตัวเอง…”

เธอถึงกับประหลาดใจ เพราะสีหน้ามู่วี่สิงยังคงเย็นชา เพียงแต่พูดขึ้นเรียบๆ “งั้นก็ไปเรียกหมอมา”

เขาหันไปปิดประตู ก่อนที่จะหันกลับมา

มู่ซียืนตะลึง เธอบอกเขาว่าคุณปู่ฆ่าตัวตาย เขายังอุตส่าห์ไม่ลืมปิดประตู กลัวว่าเสียงดังและแสงสว่างจากข้างนอกจะรบกวนคนที่นอนหลับขนาดนั้นเลยหรือ

เขานี่ช่าง…

เวินจิ้งขี้เกียจสนใจความวุ่นวายของพวกเขา ตอนกลางวันเธอไม่เห็นว่ามู่เฉิงมีวี่แววจะเกิดอาการโรคซึมเศร้ากำเริบตรงไหน

เธอหลับตานอนต่อ

มู่วี่สิงเดินเร็วมาก แต่ไม่ร้อนรนแม้แต่น้อย ขณะเดินเข้าไปในห้อง ก็เห็นผ้าปูเตียงสีอ่อนเปื้อนเลือดแดงฉานกองใหญ่ เขาขมวดคิ้ว สีหน้าไร้ความรู้สึก

คนรับใช้วุ่นวายกับการห้ามเลือดที่ข้อมือที่ถูกกรีดเรียบร้อยแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่ามู่เฉิงไม่ให้ความร่วมมือ ดิ้นรนขัดขืนตลอด คนรับใช้ก็ไม่กล้าออกแรงบังคับเขามากเกินไป

มู่วี่สิงกำชับเสียงเย็นกับบอดี้การ์ดที่อยู่ในห้องแล้ว “ส่งคุณปู่ไปโรงพยาบาล”

มู่ซีอดไม่ได้พูดขึ้น “พี่วี่สิง ตอนนี้ส่งคุณปู่ไปโรงพยาบาลจะดีหรือคะ ฉันกลัวว่าจะกระเทือนจิตใจคุณปู่…”

มู่วี่สิงไม่สนใจเธอ มองดูบอดี้การ์ดยกตัวมู่เฉิงลงรถเข็น จากนั้นเข็นรถเข็นออกไป เขาเดินตามหลังไป

มู่ซีคิดจะเดินตามไปด้วย แต่มู่วี่สิงหันมา สายตาเหมือนคบเพลิง ถามน้ำเสียงเย็นเยือก “คุณปู่ปกติดีทำไมอาการซึมเศร้ากำเริบ”

ไม่รู้เพราะอะไร ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ เธอรู้สึกว่าพลังของเขาที่แผ่ออกมาทำให้เธอยิ่งหวาดกลัว พลังความเย็นชาและเหี้ยมโหดจากเขารุนแรงเหลือเกิน

“เพราะพี่สะใภ้…ตอนกลางวันที่พี่ไม่อยู่ ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณปู่ไม่ดีนัก มักจะพูดจากระทบกระเทือนใจคุณปู่ แล้วตอนนี้พี่ยังเย็นชากับคุณปู่ได้ยังไง”

เมื่อเห็นชายหนุ่มขมวดคิ้ว ภายใต้รูปลักษณ์แสนเย็นชานั้นกำลังครุ่นคิดอะไร เธอลองถามเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ “พี่วี่สิง ฉันรู้สึกว่าในเมื่อความสัมพันธ์ของพวกพี่ไม่อาจกลับมาเหมือนเดิม ทำไมพวกพี่ไม่หย่ากันล่ะ…เรื่องพี่ชายเธอพวกเราให้เงินชดเชยก็ได้ ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป คุณปู่คงจะทนรับไม่ไหว…

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท