Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 714

ตอนที่ 714

บทที่ 714 เพราะเธอ

มู่วี่สิงเม้มริมฝีปากบาง น้ำเสียงเจือประชดประชัน “ถ้าอย่างนี้ เธออยู่ที่นี่ยังมีความหมายอะไร”

พูดจบ เขาก็ก้าวเท้ายาวจากไปอย่างรวดเร็ว

มู่ซีก้มหน้า มือสองข้างค่อยๆ กำหมัดแน่น

ที่โรงพยาบาล

มู่วี่สิงมองหมอที่ตรวจบาดแผลของมู่เฉิงสีหน้าเรียบเฉย “ยังดี รอยแผลไม่ลึก เดี๋ยวผมใส่ยาให้ พันแผลไว้ก่อนไม่มีอะไรหนักหนา”

หมอรู้จักกับมู่วี่สิงมานาน สอบถามด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมคุณปู่มู่กรีดข้อมือตัวเอง”

แน่นอนว่าเขาดูออกว่าแผลนั้นคือคุณปู่มู่กรีดข้อมือตัวเอง

มู่วี่สิงพูดเสียงเรียบ “อาการซึมเศร้ากำเริบ เดี๋ยวคุณให้จิตแพทย์มาประเมินหน่อย ถ้าอาการหนักก็ให้คุณปู่พักที่โรงพยาบาล”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น มู่เฉิงก็พูดอย่างเย็นชา“มู่วี่สิง แกหมายความว่าจะขังปู่ที่โรงพยาบาลหรือ เพื่อผู้หญิงคนนั้นเวินจิ้ง แกถึงกับจะขังปู่ในโรงพยาบาลบ้าหรือไง”

เมื่อเทียบกับคุณปู่ที่โวยวาย ชายหนุ่มนิ่งเฉย “เทียบกับที่บ้าน พักฟื้นที่โรงพยาบาลเหมาะกว่า ไม่ใช่หรือครับ”

มู่เฉิงเบิกตาโต เสี้ยวนาทีนั้นรู้สึกว่าชายหนุ่มเป็นคนแปลกหน้า เขาถอนหายใจลึก “มู่วี่สิง ฉันเป็นปู่แก!”

เขาพูดเรียบๆ “ถ้าปู่ไม่ใช่ปู่ผม คงจะไม่ได้อยู่สบายๆ อย่างนี้แน่”

“แกเห็นว่าฉันสบายตรงไหน สามปีก่อนฉันเตือนแกแล้วให้ห่างๆ เวินจิ้งเข้าไว้ แต่แกล่ะ กำลังทำอะไร แกล้งหย่า ตอนนี้ยังให้เธอมาอยู่ที่บ้านตระกูลมู่ ให้เธอมาลอยหน้าลอยตากับฉันอีกทุกวัน”

“งั้นปู่อยู่ที่โรงพยาบาล ก็ไม่ต้องเห็นหน้าเธอทุกวันแล้ว วางใจเถอะ พวกเราตระกูลมู่ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย มีอย่างเดียวก็คือเงิน ปู่จะได้อยู่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด…”

……

เวินจิ้งนอนตื่นสาย วันนี้ไม่มีคนปลุกเธอไปกินข้าว มู่วี่สิงคงไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน ไม่เช่นนั้นทุกวันเขาจะกำชับให้คนรับใช้ปลุกเธอ

สวมเสื้อคลุมอย่างขี้เกียจแล้วอาบน้ำเสร็จ เมื่อเปิดประตูห้องนอนก็เห็นมู่ซียืนที่หน้าประตู

สายตาของเวินจิ้งที่แผ่ออกมาจากตัวเธอ ไม่หยุดมองแต่เดินไปข้างหน้า

“เวินจิ้ง” จนกระทั่งเธอเดินไปถึงหน้าบันได มู่ซีก็เรียกให้เธอหยุด “พวกเราคุยกันเถอะ”

เวินจิ้งเหลือบตามองบันไดแต่ละขั้นเบื้องหน้า หยุดฝีเท้า ยิ้มบางๆ

มู่ซีเดินมาหยุดข้างตัวเธอ “พี่รู้ไหมเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรบ้าง”

“คุณปู่ฆ่าตัวตายหรือ” น้ำเสียงของเธอไม่แยแส

“พี่หน้าด้านจริงๆ ไม่แยแสทำอย่างกับตัวเองไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไง คุณปู่มีอาการซึมเศร้าก็เพราะพี่กับพี่ชาย ตอนนี้พี่ยังบีบจนคุณปู่จนฆ่าตัวตาย เวินจิ้ง พี่ทำไมร้ายกาจขนาดนี้!”

เวินจิ้งหันมา สายตาซ่อนรอยยิ้มเยาะเย้ย “ฉันร้ายกาจหรือ ถ้างั้น เธอจะเอายังไง”

มือของมู่ซีจับราวบันได สายตาแน่วแน่ เชิดหน้า “หย่าสิคะ พี่ต้องหย่ากับพี่วี่สิง พี่ไม่มีที่ยืนในบ้านนี้แล้ว!”

สายตาเวินจิ้งเป็นประกาย ยิ้มนิดๆ “พวกเธอนอกจากพูดเรื่องไร้สาระไปวันๆ แล้ว ยังมีแผนอะไรอีกไหม”

เธอจ้องมองตาของมู่ซี “ถ้ามีความสามารถ ก็ให้มู่วี่สิงเอาข้อตกลงหย่ามาให้ฉันเอง”

เธอพูดเยาะเย้ย “หรือเธอไปนอนเตียงเขา ไม่อย่างนั้นคนที่มีอำนาจในตระกูลมู่ ผู้ชายที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในเมืองหนาน เฉิงก็คงไม่ต้องนอนพื้นทุกวันหรอก”

มู่ซีโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แต่ก็กดอารมณ์โกรธไว้ได้อย่างรวดเร็ว เธอเลิกคิ้ว “ ดูแล้วพี่ยังอาลัยอาวรณ์เขาไม่น้อย พี่คิดว่าถึงเขาทำให้พี่ชายตาย แต่ที่จริงแล้วก็มีเหตุผล ถึงพี่จะโกรธเกลียดเขาแค่ไหน แต่ก็ยังมั่นใจมากใช่ไหมว่าเขารักพี่”

เวินจิ้งมองบันไดยาวที่อยู่เบื้องล่างตลอด สีหน้ายังคงเหมือนเดิม เสียงที่ดังเข้ามากระทบโสตประสาทมีแต่ความโหดร้าย

มู่ซียิ้มบางๆ พูดทีละคำช้าๆ ให้เธอได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ “มีบางเรื่อง ฉันคิดว่าพี่ยังไม่รู้ อย่างเช่น…พี่ชายของพี่ ถูกพี่วี่สิงฆ่ากับมือ”

เวินจิ้งรู้สึกว่าสมองเหมือนถูกระเบิดดังสนั่น ความเจ็บปวดที่แสบร้อนรุนแรงแผ่ขึ้นมาจากทั่วตัวแทรกซึมเข้าไปในทุกส่วนของปลายประสาท

เธอเหลือบตามอง ทั้งสายตาหน้าตาเย็นชา

มู่ซีเห็นสายตาของเธอก็รู้ว่าเธอถูกพูดทิ่มแทงใจแล้ว พูดเสียงต่ำต่อไป “เขาเป็นคนลงมือฆ่าก็หมายความว่า…เขาเป็นคนลั่นไกยิงพี่ชายของพี่ตกทะเล สามปีก่อนที่พี่ชายของพี่ติดคุก เพราะคดีข่มขืน ก็เป็นพี่วี่สิงที่อยู่เบื้องหลังช่วยส่งเขาเข้าคุก”

ใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเด็กสาวไม่เข้ากันกับอายุสักนิด “รู้ไหมทำไมพี่ชายของพี่ไปที่ทะเล ก็เพราะพี่ไง คุณปู่บอกเขาว่ามู่วี่สิงจะพาพี่ไปเจรจา เขาถึงไปที่นั่น หลินยี่คงเชื่อว่าพี่วี่สิงจะไม่ทำอะไรเขาต่อหน้าพี่ แต่ผลลัพธ์กลับลงเอยอย่างนี้…”

มู่ซี ยังคงยิ้มบางๆ “พี่เวินจิ้ง……ถ้าเขารักพี่ขนาดนั้นจริง เขาก็คงไม่อยากใช้พี่เป็นเครื่องมือ จริงไหม พี่ชายของพี่มีทางพ้นผิดได้ พี่วี่สิงใช้ช่องทางกฎหมายทำให้พี่ชายพี่มีความผิดไม่ได้ ก็เลยต้องทำให้เขาหายตัวไปตลอดกาล พี่ยังไม่เข้าใจอีกหรือ”

สีหน้าเวินจิ้งซีดเผือดจนไร้สีเลือด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้ามืดตาลายบ่อย หรือว่าเพราะได้ยินเรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกรับไม่ไหว เธอสูดหายใจลึก แต่ยังคงรู้สึกว่าอากาศเบาบาง เบาบางจนอาจขาดอากาศหายใจได้ตลอดเวลา

“ที่จริงพี่ชายของพี่ระมัดระวังแค่ไหน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะพัวพันถึงผู้มีอิทธิพลอีกพวกหนึ่ง พี่รู้จักโม่ถิงเซิน ไหม เขามาแล้ว ศัตรูพี่ชายของพี่เยอะเกินไป…”

เวินจิ้งจ้องมองเธอ สีหน้าขาวซีดอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงยิ้มออกมา แม้แต่ มู่ซีก็รู้สึกแปลกมาก

เธอพูดเบาๆ “มู่ซี ผู้มีอิทธิพลพวกนั้นโม่ถิงเซินรู้ว่าพี่ชายอยู่ที่ไหน เพราะเธอเป็นคนบอกเขา ใช่มั้ย”

เสียงของเธอเบาจนได้ยินกันเพียงสองคน มู่ซีถอยหลัง เม้มริมฝีปาก “ฉันก็แค่ช่วยพี่วี่สิงกับคุณปู่เท่านั้น ครั้งนี้พี่ติดค้างพวกเรา ยังไงก็ต้องชดใช้ ถ้าจะพูดว่าใครทำให้พี่ชายของพี่ตาย พี่เวินจิ้งคือคนที่ต้องรับผิดชอบมากที่สุด เพราะพี่นั่นแหละพี่ชายถึงถูกวางแผนทำร้าย”

เธอ เป็นเพราะเธอ

ถ้าในตอนแรกเธอไม่เหลือเยื่อใยจนยอมตกลงอยู่กับมู่วี่สิง เรื่องทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น…

คิดไม่ถึงขณะที่เธอยอมปล่อยวางอดีตทุกอย่างเพื่อยอมรับเขาอีกครั้ง เขามอบตอนจบให้เธอเช่นนี้

เขาเป็นคนลงมือฆ่าพี่ชายของเธอเอง และยังใช้เธอเป็นเครื่องมือ

เสี้ยววินาทีนั้นเวินจิ้งยิ้ม “เมื่อคืนมู่เฉิงทำร้ายตัวเองเพราะอาการซึมเศร้า เป็นเพราะพวกเธอวางแผนทำร้ายฉันลับหลังใช่ไหม ตอนนี้เขาคิดแต่จะไล่ฉันไป จะเกิดอาการซึมเศร้ากำเริบได้ยังไง…”

เธอพูดยังไม่ทันจบ บอดี้การ์ดชุดดำสองคนก็เข้ามาในห้องรับแขก เข็นรถเข็นของมู่เฉิงเข้ามา ข้อมือของเขาพันผ้าพันแผลสีขาว

ชายหนุ่มสง่างามแต่เย็นชาเดินตามหลังพวกเขาเข้ามาด้วย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท