Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 719

ตอนที่ 719

บทที่ 719 ชีวิตของผมคือเวินจิ้ง

เวินจิ้งยิ้มเยาะ ลูกของเธอก็ไม่อยู่แล้ว เขายังเก็บมู่ซีไว้ เธออดคิดไม่ได้ว่า เขาคิดจะให้เธอกลายเป็นมู่ซี จริงๆ หรือว่าตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้กันแน่

พลันใบหน้าของมู่วี่สิงก็เย็นชาขึ้น สายตาเขาที่มองตรงมาทางเธอ ทำให้มู่ซีรู้สึกเหมือนถูกฆ่าทางสายตาได้ ความหนาวเย็นแทรกซึมไปทุกอณูของร่างกาย

“เวินจิ้ง” มู่เฉิงพูดทำลายบรรยากาศอึดอัดขึ้นมา

น้ำเสียงน่าสงสารปนหวาดกลัวพูดขอร้องขึ้นมาว่า “พี่สะใภ้ ฉันรู้ว่าฉันพูดคำที่ไม่ควรพูดออกไป แต่ว่าฉันไม่ได้ผลักพี่จริงๆ พี่ช่วยอธิบายกับพี่วี่สิงให้หน่อยได้ไหมว่าฉันไม่ได้ผลักพี่ และไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็กคนนั้น… … ”

“มู่ซี หุบปากเดี๋ยวนี้” เสียงคำรามของชายหนุ่มดังขึ้น ทำให้มู่ซีรวมถึงมู่เฉิง เสียงของมู่วี่สิงทำให้พวกเขาตกใจอย่างรุนแรง

สายตาของเขาเคร่งขรึมเด็ดขาดราวกับอยากจะฆ่าให้ตาย “ฉันจำได้นะว่าฉันเคยบอกไว้ ว่าฉันไม่อนุญาตให้เธอมาเจอเวินจิ้งอีก”

ไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็กคนนั้น… …

เมื่อคำพูดนั้นลอยเข้าหูเวินจิ้ง คิ้วเธอสั่นระริก คำนี้ทำให้หัวใจเธอยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเดิม

มีหลายเรื่องที่แบบเธอรู้อยู่แก่ใจแต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมาเป็นคำพูด จะพูดหรือไม่พูด แต่ก็รู้สึกว่ายังไงผลลัพธ์มันก็ออกมาเหมือนกันอยู่ดี

เธอรู้สึกใจลอย

เมื่อมู่เฉิงถูกหลานชายตำหนิแบบนี้บ่อยๆเข้า ทำให้จิตใจเขาขุ่นมัว แต่ก็พยายามคุมสีหน้าตัวเองให้ใจเย็นลงก่อนพูด “ฉันมาขอโทษแก แล้วแกจะต้องพูดแบบนี้เหรอ?”

ใบหน้ามู่วี่สิงยังคงเย็นชา “ออกไปให้พ้น”

เวลานี้มู่เฉิงเข้าใจแล้วว่า มู่วี่สิงนำความเจ็บปวดจากความโกรธที่สูญเสียลูกไปจำฝังหัวพวกเขาไปแล้ว

ถึงแม้ว่าเวินจิ้งจะถูกมู่ซีผลักตกลงไปจริงๆ แต่ว่า เขาเข้าใจถ้าเธอไม่มีคุณปู่คอยหนุนหลังมู่ซีก็ไม่กล้าทำขนาดนี้หรอก แม้เขาจะตำหนิเธอก็ตาม

พวกเขาสูญเสียลูก เขาก็สูญเสียหลานชายไป

พอเข้าใจแบบนี้กลับทำให้ใจเขาเย็นลง ความรู้สึกหมดแรงก็ได้แผ่ขยายออกไป

มู่ซีกระวนกระวายใจ แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมู่วี่สิงไม่ไล่เธอไป แค่เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าเขาเกลียดเธอเข้ากระดูกไปแล้ว

ตอนนี้เขาก็ยิ่งเชื่อไปอีกว่าเธอเป็นคนผลักเวินจิ้งลงมา ดังนั้น เขาจะเริ่มลงมือตอนไหนก็ได้

มู่เฉิงมองตรงไปยังเวินจิ้งที่ยังคงนิ่งเงียบ “จะทำอย่างไรเธอถึงจะยอมอภัยให้มู่ซี”

ใบหน้าขาวซีดของเวินจิ้งส่งรอยยิ้มว่างเปล่ามาทางเขา เสียงเธอแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน “ฉันไม่มีวันอภัยให้พวกคุณ”

หลังจากพวกเขาสองคนออกไปได้ไม่นาน มีคนโทรมาหามู่วี่สิง ปลายสายพูดคล้ายว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ เขาโน้มตัวลงไปพูดกับเธอว่า “จิ้งจิ้ง ฉันมีเรื่องต้องออกไปจัดการ อีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว อยู่นี่ดูแลตัวเองดีๆนะ”

มีคนของเขาเฝ้าอยู่ข้างนอก เขายังจะกลัวเธอหนีไปอีกเหรอ?

เธอไม่ได้ตอบกลับไป แต่เขาไม่ได้ถือสา กำชับเธอให้รอหมอเข้ามาตรวจ

เมื่อบรรยากาศรอบข้างเงียบสงบลง เวินจิ้งกระพริบตา เธอวางมือบนหน้าท้องเบาๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจกลับมาทิ่มแทงหัวใจเธออีกครั้ง

เธอนอนลงอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆขดตัวลง เสียงของเธอแหบต่ำสั่นไหว ก่อนจะหลับตาลง ดวงตาสวยเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา

“ขอโทษนะ… …ขอโทษ”

ขอโทษ ที่ทำให้ลูกไม่ได้ออกมาเผชิญกับโลกใบนี้

เป็นความผิดของแม่เอง

เป็นความผิดของแม่

เมื่อมู่วี่สิงมาที่บ้านส่วนตัวของเขา หญิงสาวงามหมดจดท่าทางอ่อนโยนนั่งรออยู่ที่โซฟา

คือเขาเองที่นำเธอออกมา แต่เวยอานดูเหมือนว่าไม่ยินยอมที่จะพบเขา ดังนั้นจึงเสียความพยายามนั้นไป

“ทำไมคุณถึงต้องทำร้ายหลินยี่” เวยอานเสียงสั่นเครือ

ผู้ชายที่เธอเคยบูชาราวกับเป็นเทพเจ้าคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจริงๆแล้วจะเป็นคนที่ทำร้ายคนที่เธอรักเธอด้วยน้ำมือของเขา

“นี่มันเป็นเรื่องราวระหว่างเขากับฉัน เธอไม่จำเป็นต้องรู้” รังสีของมู่วี่สิงรอบตัวดูเงียบงันและมืดมน

“ถ้าคุณยังต้องการที่จะกำจัดตระกูลนิ่งก็ไปเจอกันในศาลตามที่ผมขอแล้วกัน ”

เวยอานก้มหน้าลง ตามองพื้น เปล่งเสียงนิ่งสงบออกมา “ลูกน้องของนายไม่เต็มใจที่จะบอกกับฉัน … …เขาคนนั้น ตายไปแล้วหรือยัง?”

ไม่กี่วันมานี้ข่าวจากข้างนอกเธอรู้ทุกเรื่อง แต่พอเป็นข่าวของ หลินยี่ เธอกลับรู้อะไรน้อยมาก

เธอถามแม้กระทั่งกับโม่ถิงเซิน แต่เขากลับไม่ได้บอกอะไร

“เขาถูกยิง ตกลงไปทะเล” น้ำเสียงของมู่วี่สิงยังคงเย็นชา

ได้รับรู้ข่าวแบบนี้คร่าวๆกับได้ยินกับหูตัวเอง มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เวยอานคิดอย่างงุนงง ทั้งร่างของเธอไร้เรี่ยวแรงเหมือนถูกพรากไปในพริบตา ความเจ็บปวดทำให้ทั่วทั้งร่างไร้กำลัง

เธอหลับตาลง ก่อนถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา “คิดไม่ถึงว่าคุณจะให้ฉันช่วยคุณจัดการกับโม่ถิงเซิน”

เวยอานยิ้มอย่างเย้ยหยัน “มู่วี่สิง คุณพรากผู้ชายที่ฉันรักที่สุดไป คุณมีสิทธิ์อะไรมาขอให้ฉันช่วย!”

สักพักเธอก็คิดขึ้นมาได้อีกเรื่องหนึ่ง เวินจิ้งยังคงอยู่กับเขาใช่หรือไม่

“คู่อริของหลินยี่ มีไม่น้อยเลย สำหรับคุณ กำจัดไปหนึ่งก็คือหายไปหนึ่ง แม้กระทั่งฉัน ชีวิตของฉันเป็นของเวินจิ้ง”

… …

เมื่อมู่วี่สิงออกมาจากอพาร์ตเมนต์ เขาก็รีบกลับไปห้องหนังสือที่บ้านใหญ่หลังเก่า มีเอกสารที่หล่นไว้อยู่เขาต้องรีบไปจัดการ

เมื่อออกมาจากห้องหนังสือนั้น เขาเห็นมู่ซี ลากเด็กสาวคนหนึ่งมาทางเขา

“เธอ… …เธอมากับฉันนี่ ฉันแค่อยากให้เธออธิบายเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”

สีหน้าของมู่วี่สิงเบื่อหน่าย เมื่อเจอมู่ซีพลันใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นมืดมนขึ้น

ถึงแม้ว่ามู่ซีจะกลัวขนาดไหน แต่เธอรวบรวมความกล้ามาหาเขาก่อนจะพูดว่า “พี่วี่สิง ฉันเจอพยานแล้ว เธอบอกว่าเธอเห็นกับตาว่าเวินจิ้งเป็นคนตกลงไปเอง……”

“เสี่ยวเหมย เธอรีบบอกคุณชายไปสิ! ว่าตอนนั้นเธอเห็นอะไร”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว สายตาเย็นชามองตรงไปยังหญิงรับใช้ที่กำลังถูนิ้วอย่างประหม่า “เธอเห็นอะไร?”

“คุณชายคะ… …วันนั้นดิฉันกำลังจะขึ้นมาถูพื้น ฉันเห็นจริงๆว่าตอนนั้นคุณผู้หญิงกับคุณมู่ซีกำลังมีปากเสียงกันที่บันได”

หญิงรับใช้ที่ชื่อเสี่ยวเหมยพูดตะกุกตะกัก เธอกลัวสายตาที่มองมาอย่างเย็นชาของมู่วี่สิง “ดิฉันไม่ทราบว่าพวกเขาทะเลาะอะไรกัน แต่ดิฉันมั่นใจค่ะ …… ดิฉันเห็นด้วยตาตัวเองเลยว่าคุณผู้หญิงเป็นคนจับมือคุณมู่ซี หลังจากนั้นก็ตกลงไป ……”

เธอไม่กล้าเงยหน้าไปมองชายหนุ่ม “ดิฉันไม่เห็นว่าคุณมู่ซีจะไปแตะต้องคุณผู้หญิงตรงไหนเลยค่ะ… …”

บรรยากาศรอบข้างอึดอัดจนเสี่ยวเหมยหายใจไม่ออก เธอยังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่ม ความคิดในสมองตีกันวุ่นวายงุนงงไปหมด “คุณชาย บางทีดิฉันอยู่ไกลเลยอาจจะให้มองผิด… …”

มู่ซีรีบพูดแทรกอย่างร้อนรนทันที “เธอพูดแบบนี้ได้ยังไง เธอก็เห็นชัดแล้วนี่ ว่าเวินจิ้งเป็นคนตกลงไปเอง ฉันไม่ได้แตะต้องอะไรเธอ!”

ในตอนนั้นเองที่มู่เฉิงพยุงตัวเองด้วยไม้เท้าออกมา เขามุ่นคิ้วก่อนพูด “วี่สิงเสี่ยวเหมยทำงานให้ที่บ้านเรามาตั้งแต่ยังเล็ก เธอไม่พูดโกหก ถ้าแกไม่เชื่อมู่ซีหรือฉันก็ไม่เป็นไร แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อเธอ เด็กคนนี้ซื่อสัตย์ เธอไม่พูดโกหกหรอก”

มู่ซีรีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนเสริม “เป็นแบบนี้… …พี่วี่สิง ฉันไม่ได้ผลักเธอลงไปจริงๆ ฉันจะไปกล้าผลักคุณผู้หญิงของตระกูลมู่ได้อย่างไร… …”

ดวงตาของมู่วี่สิงสายตาดุเดือด ก่อนที่จะทิ้งประโยคอย่างเย็นชาว่า “มู่ซี ถึงเวินจิ้งจะตกลงมาเองก็ตาม แต่เธอก็ยังสมควรตาย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท