Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 722

ตอนที่ 722

บทที่ 722 ฉันจะพาเธอไปเอง

เวินจิ้งยังเจ็บหัวเข่าอยู่ แล้วนี่ก็ยังเป็นห้องพักฟื้นของเธอ เธอรู้สึกลำบากที่จะต้องย้ายที่ย้ายทางให้พวกเขา

มู่วี่สิงหอมแก้เธอ แล้วพยักหน้าให้มู่เฉิง “ได้”

พูดจบก็เดินออกไปก่อน มู่เฉิงมาคนเดียว ตอนที่จะออกไปเขาหันมองเวินจิ้งด้วยสายตาซับซ้อน

ณ ระเบียงทางเดินของนอก

“วี่สิง” มู่เฉิงมองชายหนุ่มที่มีท่าทีเย็นชาไร้อารมณ์ “แกคิดจะกำจัดมู่ซีจริง ๆ เหรอ”

แววตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเหลืออด “ผมคิดว่าปู่รู้รูปแบบการจัดการของผมชัดเจนแล้วเสียอีก ครั้งนี้มู่ซีลงมือกับผู้หญิงของผม”

มู่เฉิงพูดโน้มน้าว “ตอนนี้แกก็รู้แล้วว่ามู่ซีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องลูกของเวินจิ้ง เธอแค่พูดเรื่องที่ไม่ควรพูด ไม่น่าจะต้องถึงขนาดให้เธอออกไปจากเมืองหนานตลอดไปเลยก็ได้นี่”

อารมณ์ของมู่เฉิงสงบเป็นอย่างมาก “ไม่ว่าจะยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันพาเธอเข้ามาอยู่ในตระกูลมู่ วันนี้เธอก็คงไม่เดินมาอยู่ตรงจุดนี้ ฉันรับรองได้ว่าหลังจากนี้เธอจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าแกกับเวินจิ้งอีก แต่ขอแค่แกอย่าฆ่าเธอ”

สายตาของมู่วี่สิงเย็นเยียบ “ใช่ครับ ถ้าปู่ไม่พาเธอกลับมาที่ตระกูลมู่เพื่อแทนที่คนที่ตายไปแล้ว ไม่แน่ว่าผมเองก็อาจไม่ได้อยู่ตรงหน้าปู่แบบตอนนี้”

สีหน้าของมู่เฉิงพลันซีดขาว “แกกำลังจะพูดอะไร”

มู่วี่สิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ตั้งแต่ที่ปู่รู้ว่าผมอยากอยู่กับเวินจิ้ง ตั้งแต่ตอนที่ปู่รู้ว่าหลินยี่คือคนร้าย ปู่ก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะเอาชีวิตหลินยี่มาชดใช้ให้กับชีวิตของมู่ซือซือ ใช่ไหมครับ เป็นเพราะว่าผมรู้เรื่องทุกอย่าง เป็นเพราะว่าผมยังอยู่ ปู่เลยแก้แค้นเวินจิ้งไม่ได้”

มู่วี่สิงแค่นหัวเราะเย้ยหยัน “ปู่ก็รู้ว่าความจริงผมคิดจะปล่อยวางเรื่องหลินยี่แล้ว แต่ปู่บอกว่าการที่เธอท้องแล้วบังคับให้ผมตามหาหลินยี่แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นแค่หมากกระดานหนึ่ง เป้าหมายของปู่คือการให้ผมกับหลินยี่ได้เผชิญหน้ากัน ที่คนของโม่ถิงเซินรู้ก็เพราะมู่ซี เป็นคนบอกเขา และที่เธอกล้าขนาดนี้ก็เพราะมีคุณคอยบงการอยู่ข้างหลังเธอ”

ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเย็นชาและห่างเหิน ไม่คล้ายกับแววตาที่ใช้มองคนสนิท แต่เป็นแววตาที่คล้ายใช้มองคนแปลกหน้า

หลังจากนั้นเขาก็พูดออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง “คุณเป็นปู่ของผม ผมทำอะไรคุณไม่ได้ เรื่องการตายของซือซือไม่เกี่ยวอะไรกับเวินจิ้ง ปู่ตั้งใจทำให้ผมเข้าใจผิดตั้งแต่แรก แต่ความจริงแล้วผมรู้มาตลอดว่าเธอเองก็เป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ผมก็ยังติดอยู่ในวังวนนี้ โยนความผิดทั้งหมดไปไว้ที่เธอ…คุณปู่ครับ ผมรบกวนว่าหลังจากนี้อย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก”

มือของเขาจับลงบนบานประตู แผ่นหลังที่พิงไว้อยู่ตื่นตระหนกตกใจ มู่เฉิงพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “หากไม่พูดถึงเรื่องมู่ซี ถึงอย่างไรเด็กคนนั้นก็เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของแก ต่อให้แกมาขอร้องก็ไม่มีประโยชน์”

ตอนที่มู่วี่สิงกลับเข้าไปในห้อง เวินจิ้งก็เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว นั่งขัดสมาธิบนเตียงมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอย

เขาพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง “อยากนอนหรืออยากดูทีวี”

เพิ่งจะพูดจบคุณหมอก็ผลักประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว “คุณนายมู่เจ็บตรงไหนไหมครับ สภาพร่างกายของเธอตอนนี้ยังไม่ควรออกจากโรงพยาบาลนะครับ”

ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวมู่วี่สิงจะตำหนิ ในฐานะหมอแล้วเขาไม่กล้าทำผิดเลยจริง ๆ

“คุณนายมู่เจ็บตรงไหนครับ” คุณหมอก้มลงตรวจสอบ

เวินจิ้งเลิกขากางเกงของตัวเองขึ้น “เจ็บหัวเข่านิดหน่อย แต่ไม่ได้หนักหนาอะไร”

เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่อาการบาดเจ็บที่รุนแรงอะไร คนเป็นหมอก็สั่งยาให้เธอ แล้วกำชับว่า “ถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงมาก แต่ก็ต้องตั้งใจดูแล อย่าให้แผลโดนน้ำ…”

“ฉันทราบแล้ว ฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้ตอนไหนคะ”เวินจิ้งเงยหน้าถาม

“แม้ว่าร่างกายของคุณจะไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงแล้ว แต่การแท้งบุตรนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณมาก ดังนั้นคุณจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยอีกหนึ่งสัปดาห์ ถึงจะสามารถกลับบ้านได้ ”

“ร่างกายของฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วสินะ”หลังจากทายาเสร็จเธอก็ค่อย ๆ ลดขากางเกงลง พูดเสียงเรียบ ๆ แต่ไม่ได้เป็นการถาม

คนเป็นหมอพยักหน้า “ครับ ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”

หลังจากคุณหมอออกไป ห้องพักฟื้นก็เหลือเพียงเธอกับมู่วี่สิง

เธอลดขาลงวางราบ ข้างในห้องพักฟื้นเงียบมาก เงียบจนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันได้ เวินจิ้งมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเตียงของเธอ แล้วคิดไปถึงประโยคหนึ่งที่เคยได้อ่านขึ้นมาได้

สุดปลายของความรักคืออะไร ไม่ใช่เพียงเฉียดหัวไหล่แล้วผ่านไป ไม่ใช่การพบเจอกันแต่เพียงน้อย จากกันแต่เพียงมาก ไม่ใช่การสร้างความเจ็บปวด และไม่ใช่เรื่องของมือที่สาม เพียงแต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่มีอยู่ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเราสองคนรักกันมาก พวกเรานั่งหันหน้าเข้าหากัน แต่กลับไม่สามารถรับรู้ถึงเรื่องราวของอีกฝ่ายได้อีกต่อไป

เหมือนที่ตอนนี้เธอเห็นว่าห่างกับเขาแค่เพียงเอื้อมมือ แม้ว่าเธอจะมองเห็นความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ในดวงตาที่ไม่แสดงออกของเขาได้อย่างชัดเจน แต่เธอกลับไม่สามารถรับรู้ถึงมันได้อีกต่อไปแล้ว

เหมือนที่เธอรู้ดีมาตลอด ความอาวรณ์พันผูกที่เคยพ้นผ่าน ไม่มีทางที่จะถูกตัดขาดออกเป็นสองส่วน ดังนั้นเธอจึงเลือกวิธีที่โหดร้ายและเด็ดขาดที่สุด

เธอเอนตัวลงนอนแล้วหลับตาลงช้า ๆ

มู่วี่สิงรู้ดีว่าเธอแค่ไม่อยากพูดกับเขา เขาเองก็ไม่คิดจะชวนเธอทะเลาะ ทำเพียงนั่งลงบนโซฟาอย่างเงียบ ๆ

จนกระทั่งถึงเวลาทางอาหาร มู่วี่สิงเปิดประตูห้องพักฟื้นเพื่อเตรียมออกไปอะไร ๆ มาให้เธอกิน ผลลัพธ์คือเมื่อเปิดประตูออกไปแล้วก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตู

หยูจิ่งห้วนแต่งกายด้วยชุดลำลองสีอ่อน ทำให้เขาดูหล่อเหลาเป็นอย่างมาก “คุณมู่คงไม่ถือสาหากผมจะขอพูดอะไรกับเวินจิ้งสักสองสามประโยค”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเล “ฉันถือสา”

หยูจิ่งห้วนเลิกคิ้ว “ผมคิดว่าตอนนี้คุณทำตามความต้องการของเธอน่าจะดีกว่านะครับ”

ถึงแม้ว่าหยูจิ่งห้วนจะยังคงยิ้มอยู่ แต่ว่าคิ้วสวยของเขากลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“หมอหยู!”

มู่วี่สิงได้ยินความยินดีที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเวินจิ้งอย่างชัดเจน เธอไม่เคยช่วงเวลาแบบนี้ตอนที่อยู่ต่อหน้าเขาเลยสักครั้ง

เขากำหมัดแน่น พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “นายมีเวลาแค่สิบนาที”

พอเห็นหยูจิ่งห้วนเดินเข้ามา ใบหน้าของเวินจิ้งก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณมาได้ยังไง”

หยูจิ่งห้วนไม่พูดอะไรอยู่นาน เขาเพียงมองเธออย่างเงียบ ๆ มองใบหน้าที่ขาวซีด ร่างกายที่ซูบผอม เส้นผมที่ยาวสวยเหมือนน้ำตก เธอยังคงเป็นเธอ แต่กลับดูไม่เหมือนเธอเลย

เวินจิ้งไม่ควรเป็นแบบตอนนี้

เขากระซิบถาม “หลังจากนี้เธอวางแผนไว้ยังไง”

เขารู้เรื่องที่เธอแท้งลูกแล้ว สำหรับเวินจิ้งแล้วเรื่องนี้น่าจะทะลวงเข้าไปถึงกระดูก

“ฉันจะไปจากที่นี่”

“ไปคนเดียวเหรอ กลับไปอยู่กับคุณนายหลินที่ลอนดอนใช่ไหม”

ดวงตาดำขลับหมุนกลอกอย่างรวดเร็ว ลอนดอนเหรอ

นั่นไม่ใช่สถานที่ที่เธออาลัยอาวรณ์ เธอเพียงแค่อยากจะอยู่กับแม่แท้ ๆ แต่ต้องเป็นได้อยู่กับแม้แท้ ๆ ไปพร้อมกับพี่ชาย ไม่ใช่มีเธอแค่เพียงคนเดียวแบบนี้

“ยังไม่แน่ใจ อาจจะกลับไปประเทศF ฉันชอบที่นั่นมาก”

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาเธอไปเอง” หยูจิ่งห้วนพูดออกมาโดยไม่แม้แต่จะคิด

ทั้งสองคนต่างพากันนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

หยูจิ่งห้วนมองหน้าเธอ “เดิมทีฉันก็กำลังขยับขยายอยู่ที่ประเทศF พวกเรากลับไปด้วยกัน ดีไหม หลังจากนี้เธออยากไปที่ไหนฉันก็จะไปกับเธอ”

เวินจิ้งพูดอย่างลังเล “แต่มู่วี่สิงไม่มีทางปล่อยฉันไป ฉันรู้จักฝีมือเขาดี ฉันไม่อยากทำร้ายคุณ”

เธอทำร้ายคนมามากมายเกินพอแล้ว เธอไม่สามารถดึงหยูจิ่งห้วนเข้ามาจมปลักกับเรื่องนี้ได้

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท