Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 725

ตอนที่ 725

บทที่ 725 เธอไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้

ท่าทางของมู่วี่สิงเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเธอนัก ใบหน้าหล่อเหล่าเต็มไปด้วยโทสะ นัยน์ตาแดงก่ำ “เวินจิ้ง อย่ามาพูดคำว่าตายต่อหน้าฉัน!”

เขาทนไม่ได้ที่จะมีคำคำนี้แขวนอยู่ที่ชื่อของเธอ!

เธอยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับไป ก็เห็นเขาหยิบมีดที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา แล้วยัดด้ามมีดเข้ามาในมือของเธอ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความกดดัน “เธอรู้ดีว่าควรทำยังไง”

พอเธอกำมีดไว้ เขาก็คลายมือลง “เกลียดที่ฉันฆ่าพี่ชายของเธอใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันจะชดใช้ให้เธอด้วยชีวิต จัดการเถอะ ”

เวินจิ้งเบิกตากว้าง มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ จับมีดที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น แล้วพูดออกมาทีละประโยคว่า “มู่วี่สิง คุณอย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ ถ้าคุณยังจะขวางฉันอยู่ ฉันจะลงมือจริง ๆ ”

ไม่คิดเลยว่าเขาจะบีบคั้นเธอขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะใช้วิธีการนี้มาบังคับเธอ

แววตาของเวินจิ้งค่อย ๆ แปลเปลี่ยนเป็นเย็นชา เธอยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ ปลายมีดชี้ไปที่ตำแหน่งหัวใจของเขา พูดออกมาอย่างชัดเจนและคล่องแคล่ว “ถ้าฉันแทงลงไปแล้ว คุณจะให้คนของคุณปล่อยฉันไปใช่ไหม”

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ไม่มีแม้แต่ความอ่อนข้อและการประนีประนอม

มู่วี่สิงพูดเสียงเรียบ “เธอลงมือกับฉันแล้ว ฉันจะให้โอกาสเธอหนีไป แต่ว่านะเวินจิ้ง ถ้าหากว่าครั้งหน้าพวกเราได้พบกันอีก เธอจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว”

เวินจิ้งยิ้ม “ความหมายของคุณก็คือ ถ้าฉันฆ่าคุณไม่ตาย สักวันฉันก็จะถูกคุณพากลับมา ใช่ไหม ”

ความหมายของเขาก็คือ เธอต้องแทงให้โดนหัวใจเขาในมีดเดียว ทำให้เขาไม่มีโอกาสนั้นไปตลอดกาลสินะ

เธอเลิกคิ้วด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน พูดเสียงเบา “มู่วี่สิง พวกเราไม่เหมาะสมกันเลยสักนิด ทั้งต่างคนต่างสุดโต่งกันเกินไป เอาชีวิตมาเดิมพันกันแบบนี้ ก็มีแต่จะทำร้ายกันและกัน”

เธอใช้ชีวิตขอลูก แต่เขาใช้ชีวิตของตัวเอง

เวินจิ้งรู้สึกเพียงว่าตอนนี้แสงไฟจากเพดานเหนือศีรษะของเขาทำให้หดหู่จนแทบหายใจไม่ออก

พวกเราต่างสุดโต่งกันจนเกินไป นิสัยแบบนี้หากฝืนอยู่ด้วยกันต่อไปก็ไม่มีทางครบถ้วนสมบูรณ์

คิ้วของมู่วี่สิงไม่แม้แต่จะขยับ เขาเพียงพูดออกมานิ่ง ๆ “ถ้าอย่างนั้นเธอก็ลงมือเถอะ มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น”

มือของเวินจิ้งค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้ ขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

จะต้องเป็นเพราะแสงจ้ามากเกินไปแน่ ๆ ดวงตาของเธอถึงได้เจ็บขนาดนี้

ความเจ็บปวดแบบนั้นแพร่กระจายในหัวใจของเธออย่างรวดเร็ว เธอเจ็บมาก พูดเสียงสะอึกสะอื้นที่แฝงไปด้วยความวิงวอน “มู่วี่สิง ฉันขอร้องเถอะนะ อย่าบังคับฉันเลย ฉันอยู่กับคุณต่อไปไม่ได้แล้วจริง ๆ ฉันทำไม่ได้ คุณอย่าบังคับฉัน…”

อย่าได้บังคับเธออีกเลย เธอเหนื่อยมากแล้วจริง ๆ

เส้นประสาทในสมองของเธอบีบแน่นจนเกินไป ราวกับว่าจะขาดสะบั้นลงไปได้ทุกเมื่อ

มู่วี่สิงเดินเข้าใกล้เธอทีละก้าว ทีละก้าว รีดเค้นน้ำเสียงทุ้มต่ำออกมาอย่างสุดความสามารถ “เธอเกลียดฉันไม่ใช่เหรอ เธออยากจะจากฉันไปไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ลงมือเถอะ หลังจากลงมีดเล่มนี้ ความเคียดแค้นชิงชังระหว่างเราก็หายไป ฉันเองก็ไม่ต้องการเป็นหนี้ชีวิตเธอ”

ตอนนี้มู่วี่สิงคิดว่า ถ้าหากเธอลงมือ บุญคุณความแค้นระหว่างพวกเราที่แม้แต่เขาก็ไม่สามารถแยกแยะออกได้พวกนั้น จะสามารถแยกแยะออกได้อย่างละเอียด

หลังจากนี้เขาจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนั้นอีก จะได้รักแค่เธอ

“คุณอย่าเข้ามานะ!” เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เธอทำได้เพียงเดินถอยหลังออกไปทีละก้าว ๆ ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธอหวาดกลัว

เธอไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมได้อีกแล้ว

พวกเราเดินกันมาไกลมากแล้ว ไม่สามารถทำให้เรื่องทั้งหมดหวนกลับไปได้

เธอไม่มีความเชื่อใจหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว เป็นอีกครั้งที่เธอต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมแห่งความพินาศย่อยยับ

มู่วี่สิงสบเข้าไปในดวงตาของเธอ ความรู้สึกของเธอราวกับจะถูกบีบคั้นให้พังทลายลงมา “ถ้าหากไม่คิดที่จะลงมือ ก็เป็นคุณนายมู่ของฉันต่อไป”

ขณะที่เขากำลังยื่นมือออกไป

‘ฉึก…’ ในชั่วพริบตา ท้ายที่สุดเวินจิ้งก็ยกมือขึ้น

ท้องฟ้ายังคงไร้ซึ่งแสงสว่าง ทั่วทั้งเมืองยังคงตกอยู่ในการหลับใหล เงียบสงบจนไม่ได้ยินเสียงใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

ตอนที่หยูจิ่งห้วนรับสายโทรศัพท์เขาก็อยู่ที่สนามบินแล้ว ตอนที่เพิ่งจะรับสายก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นมาทันที

หัวใจของเขาจมดิ่ง พูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เป็นอะไร เวินจิ้ง เธอไม่ไปแล้วเหรอ”

ถ้ามู่วี่สิงไม่ให้เธอไปจริง ๆ เธอก็คงไม่ร้องไห้แบบนี้

แต่เขาไม่เคยเห็นเธอร้องไห้หนักมากขนาดนี้มาก่อน ร้องแทบหายใจไม่ออก

หลังจากที่เวินจิ้งขึ้นนั่งบนรถแท็กซี่ เธอก็ใช้มือหนึ่งหยิบโทรศัพท์ จากนั้นก็ขดตัวและใช้อีกมือหนึ่งกอดตัวเองไว้ หน้าผากแนบชิดกับหัวเข่า ไหล่สั่นระริก

คนขับที่ขับอยู่ข้างหน้าหันกลับมามองเธอเป็นระยะ ๆ

เธอไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงร้องไห้ออกมา หยูจิ่งห้วนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำได้เพียงแต่พูดปลอบเธอว่า “เธออย่าเสียใจไปเลยนะ ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่ต้องไป พวกเราค่อยให้ช้ากว่านี้อีกหน่อยก็ได้ ร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นฟู ไม่ควรต้องมีสภาพอารมณ์ที่หนักหน่วงแบบนี้”

แท้จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เขาเพียงฟังเธอร้องไห้ก็รู้สึกว่าเธอกำลังใกล้จะพังทลาย เขาเคยพบเจอคนป่วยมามากมาย แต่ไม่เคยมีใครที่ร้องไห้ได้น่าปวดใจขนาดนี้

เวินจิ้งส่ายหน้า แม้ว่าเธอจะกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ และอีกฝ่ายก็ไม่เห็นการกระทำของเธอ เธอก็ยังคงส่ายหน้าและสะอึกสะอื้น น้ำเสียงรางเลือนไม่ชัดเจน

“ไม่ ฉันต้องไป ฉันต้องรีบไปเดี๋ยวนี้”

หยูจิ่งห้วนขมวดคิ้ว “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”

เวินจิ้งหลับตา เธอไม่เข้าใจ เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของตัวเอง รู้สึกเพียงปวดหัวจนคล้ายกับจะระเบิด

เส้นประสาทแต่ละเส้นราวกับกำลังฉีกกระชากออก “ฉันอยู่บนรถ อีกไม่นานก็จะถึงสนามบิน”

เมื่อวางสายโทรศัพท์ คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าก็ถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณผู้หญิง คุณจะบินรอบไหน คุณไปโรงพยาบาลก่อนดีไหม สุขภาพไม่แข็งแล้วขึ้นบินจะอันตรายเอานะ”

เวินจิ้งเงยหน้ามองกระจกหลัง จึงได้รู้ว่าสภาพของตัวเองในตอนนี้จนตรอกมากขนาดไหน ใบหน้าไร้สีเลือด นัยน์ตาดำกลวงเปล่า แม้แต่ริมฝีปากก็ขาวซีด โดยเฉพาะมือข้างที่กำโทรศัพท์เอาแต่สั่นระริกอยู่ตลอด

เธอกอดตัวเองแน่นขึ้น ไม่เคยรู้สึกหนาวขนาดนี้มาก่อน ความหนาวเหน็บของกระดูกไหลออกมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของร่างกายอย่างต่อเนื่อง น้ำตาไหลไม่หยุด

ในหัวของเธอว่างเปล่า เธอคิดไม่ออกว่าตัวเองแทงมีดลงไปได้อย่างไร รู้เพียงแค่หลังจากที่เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากหน้าอกของเขา เธอก็รู้ว่าเธอทำมันจริง ๆ

คิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะสามารถลงมือกับผู้ชายที่เธอรักเขามากแบบนี้ได้ การรับรู้นี้ทำให้เส้นประสาทที่แทบจะพังทลายของเธอยิ่งเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงขึ้น

เธอไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ในหัวของเธอคิดแต่เพียงว่าเธอต้องรีบหนีไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้บ้าไปจริง ๆ

เพียงแค่เธอหลับตาลง ท้ายที่สุดหัวใจของเธอก็เริ่มบีบรัดด้วยความเจ็บปวด เธอทั้งสับสนทั้งหวาดกลัว

มีดด้ามนั้น…เธอแทงมันลงไปที่ตรงไหนกันนะ

ภาพของผู้ชายที่ถูกอาบย้อมไปด้วยเลือดค่อย ๆ ปรากฏชัดตรงหน้าเธอ เธอรู้สึกอ่อนแอลงเรื่อย ๆ

เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าหลังจากลงมีดไปแล้ว การแสดงออกของเขาเป็นอย่างไร

ตกใจ ประหลาดใจ หรือว่าโล่งใจ

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท