Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 726

ตอนที่ 726

บทที่ 726 ปกป้องผู้ชายอีกคนหนึ่งจนสุดกำลัง

ขณะที่เวินจิ้งกำลังสับสน เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือก็ดังขึ้น เธอก้มหน้าลงมอง เป็นป้าหลี่ของบ้านตระกูลมู่

ปลายนิ้วมือของเธอสั่นระริก มองชื่อที่กำลังกะพริบอยู่อย่างตกตะลึง สุดท้ายก็ไม่ได้รับสาย

คนขับรถด้านหน้ารู้สึกว่าท่าทีของเธอแปลกประหลาดเกินไป จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณผู้หญิง ถ้าเป็นโทรศัพท์จากที่บ้านก็รีบรับเถอะ คนที่บ้านคงจะเป็นห่วงมากแล้ว”

มือของเธอสั่น แต่ยังคงกดรับสายโทรศัพท์ “คุณนายคะ”

เสียงของป้าหลี่คล้ายกำลังร้องไห้ “เกิดอะไรขึ้นกับคุณและคุณผู้ชายกันแน่ ทำไมถึงได้ทะเลาะกันจนกลายเป็นแบบนี้”

เธอกัดริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไรออกมา

“คุณนายคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน รีบกลับมาได้ไหมคะ นี่…เป็นเรื่องเป็นตายแล้วจริง ๆ ”

เธอถามด้วยเสียงกระซิบ “ส่งเขาไปโรงพยาบาลหรือยัง”

เธอคงจะ…ไม่ได้แทงลงไปตรงตำแหน่งสำคัญใช่ไหม

ครั้งนี้ป้าหลี่ร้องไห้ออกมาแล้วจริง ๆ “ไปโรงพยาบาลอะไรกันล่ะคะ คุณชายมู่ไม่ยอมให้พวกเราพาเขาไป…”

หัวใจของเธอบีบรัดแน่นในทันที ได้ยินเสียงร้องไห้ของป้าหลี่หนักมากขึ้นเรื่อย ๆ “…คุณผู้ชายพยายามพาตัวเองขับรถไล่ตามคุณ สภาพของเขาในตอนนี้จะขับรถได้ยังไง…คุณนาย ฉันขอร้องเถอะค่ะ คุณรีบกลับมาเถอะนะคะ ไม่อย่างนั้นได้มีคนตายจริง ๆ แน่…”

เขาถูกแทงจนเลือดออกมาขนาดนั้น…ยังจะขับรถไล่ตามเธอมาอีกหรือ

โทรศัพท์ของเธอร่วงหล่นจากมือ น้ำตาก็ไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ

เธอกัดเม้มริมฝีปากแน่น พูดออกมาอย่างไร้หัวใจ “คุณโทรหาคุณปู่มู่เถอะ วันนี้ฉันจะนั่งเครื่องบินไปจากที่นี่แล้ว ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว”

เดินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ตอนนี้เธอไม่สามารถใจอ่อน

เธอรีบวางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว พูดออกมาทีละคำอย่างชัดเจน “คุณคนขับคะ รบกวนเร็วขึ้นอีกหน่อยด้วยค่ะ”

คนขับรถยิ้ม “คุณผู้หญิงจะรีบบินเหรอครับ ผมไปถึงสนามบินเร็วขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าจะสามารถบินก่อนได้หรอกนะ”

เวินจิ้งไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงยกมือขึ้นเปิดหน้าต่าง ลมหนาวในยามเช้าพัดเข้ามา ทำให้ผมกระจัดกระจายบนใบหน้าของเธอ

ตอนที่เธอลงจากรถ ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว

ความจริงแล้วเที่ยวบินของเธอไม่ได้เช้าขนาดนี้ เพียงแต่เธออยากที่จะหนีออกไปจนแทบรอไม่ไหวแล้ว หยูจิ่งห้วนรีบมาให้เร็วขึ้นหน่อยเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิด พวกเขาปลอมบัตรประชาชนกับพาสปอร์ต มู่วี่สิงจะได้ตรวจสอบไม่ได้

“เวินจิ้ง” เมื่อหยูจิ่งห้วนมองเห็นเธอก็รีบทักทายเธอทันที มองขึ้นลงแล้วก้รู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าเธอยังคงสบายดี

เทคนิคการปลอมตัวของเขา แม้แต่เวินจิ้งก็ไม่สามารถมองออก เขาสวมแว่นตากรอบดำ ทั้งยังมีหนวดเคราอยู่เต็มใบหน้า ไม่ได้แต่งชุดลำลองหรูหราเหมือนเมื่อก่อน

หยูจิ่งห้วนขมวดคิ้วและมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวและท่าทีที่ล่องลอยของเวินจิ้ง “เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม มู่วี่สิงรู้ไหมว่าเธอหนีมาแล้ว”

ตามที่เขารู้เกี่ยวกับเจ้านายเก่าของตัวเอง คนคนนั้นไม่น่าจะปล่อยเวินจิ้งออกมาง่าย ๆ ถึงจะถูก

เธอฝืนยิ้มออกมา นิ้วมือเกี่ยวสายสะพายแล้วเสียดสีมันไม่หยุด ท่าทางไม่สงบเช่นนี้ หยูจิ่งห้วน ย่อมที่จะดูออก

แต่ในเมื่อเธอไม่อยากพูด เขาก็ไม่อยากจะถามเยอะ

ท้องฟ้าสว่างไปทั่วแล้ว ลี่หนานเฉิงรีบขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ตอนนี้ยังคงเป็นเวลาเช้ามาก คนกับรถที่อยู่บนถนนจึงยังคงมีไม่มาก

เขาขับรถไปพลางคุยโทรศัพท์ไปพลาง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “นายอย่าทำให้ฉันกลัวสิ ฉันสัญญาว่าจะช่วยนายพาตัวเวินจิ้งกลับมา นายไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหม ฉันขอร้องล่ะ ไม่อย่างนั้นนายก็หยุดรถ ฉันจะให้คนไปส่งที่โรงพยาบาล”

ให้ตายเถอะ เขาไปคบหากับเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง ไม่สนใจชีวิตของตัวเองเลยสักนิด บาดเจ็บอยู่ยังจะขับรถไล่ตามคนอยู่อีก

เขาควรพูดว่าเวินจิ้งจะต้องใจอ่อน ดังนั้นก็เลยไม่รู้สึกเจ็บมาอย่างนั้นเหรอ

น้ำเสียงของมู่วี่สิงยังคงเย็นชา ถึงแม้ว่าจะฟังดูรู้สึกถึงความอ่อนแรงอยู่หลายส่วนก็ตาม “ให้คนไปดูที่สนามบิน จะปล่อยให้เธอไปจากเมืองหนานไม่ได้”

“เข้าใจแล้ว” ลี่หนานเฉิงรู้สึกเหมือนใกล้จะร้องไห้แล้ว “แต่นายช่วยไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหม ฉันจะสกัดกั้นเครื่องบินทั้งหมด จะไม่ปล่อยให้เวินจิ้งขึ้นเครื่องได้ เชื่อในความสามารถของฉัน…”

ลี่หนานเฉิงรู้สึกเหมือนหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วจริง ๆ เอาแต่พูดไม่หยุดเพียงหวังว่าผู้ชายที่กำลังขับรถไล่ตามภรรยาคนนั้นจะทำตัวมีเหตุผลขึ้นมาหน่อย…

‘โครม…’ เสียงเบรกที่คมผิดปกติดังมาจากโทรศัพท์ ลี่หนานเฉิงยังไม่ทันได้ตอบสนองว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงชนดังขึ้นมาติดต่อกันหลายครั้ง

ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดขาว ตอบสนองโดยการกระทืบเบรกรถทันที

“นาย…” หัวใจของลี่หนานเฉิงเต้นแรง ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากปลายสาย เขาตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที “มู่วี่สิง!”

“เวินจิ้ง ดื่มน้ำหน่อยเถอะ” หยูจิ่งห้วนยื่นขวดน้ำแร่ให้เธอ “เธออย่าได้กังวลนักเลย”

เวินจิ้งพยักหน้า รับขวดน้ำมาอย่างใจลอย เธอนั่งบนเก้าอี้ในห้องรับรอง ก้มหน้าเปิดขวดน้ำ

ทันใดนั้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็มาจากหัวใจของเธอทันที มือลื่นจนขวดน้ำที่ถูกเปิดตกลงไปบนพื้น น้ำจึงหกรดกางเกง

“ขอโทษ…” เธอรีบพูดขอโทษทันที หลังจากนั้นก็ก้มลงเก็บขวดน้ำ

แต่หยูจิ่งห้วนเก็บมันขึ้นมาก่อนแล้ว “ไม่เป็นไร เวินจิ้ง”

เธอฝืนยิ้มออกมา ดวงตาจมอยู่ในภวังค์ ใบหน้าซีดเซียวค่อย ๆ เป็นไม่สงบ คล้ายเต็มไปด้วยความกังวล

หยูจิ่งห้วนพูดปลอบ “จิ้งจิ้ง เธออย่าคิดมากขนาดนั้น หิวไหม ฉันจะไปซื้อของกินมาให้”

“ไม่ต้อง” เธอพูดเสียงเบา “ฉันไม่หิว ถ้าคุณหิวก็ไปซื้ออะไรมากิน…”

เวินจิ้งยังไม่ทันพูดจบก็ตัวแข็งค้าง

ดวงตาที่แบ่งแยกดำขาวชัดเจนของเธอจ้องมองไปยังลี่หนานเฉิงที่เดินมาก้าวใหญ่ ๆ เข้ามาด้วยสีหน้าดำมืด

ด้านหลังของเขามีบอดี้การ์ดอีกสิบคน เขาเดินอยู่ด้านหน้าสุด สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เธอเม้มริมฝีปากแน่น เรี่ยวแรงทั่วทั้งร้ายคล้ายกับถูกสูบออกไป

เธอพูดเสียงเบา “คุณหมอหยู อีกสักครู่คุณบินไปก่อนเลยนะคะ ไม่ต้องสนใจฉัน”

เธอมองเห็นแล้ว หยูจิ่งห้วนเองก็มองเห็นแล้ว เขาขมวดคิ้ว ดึงมือของเวินจิ้งเดินออกมาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ลี่หนานเฉิงมองการกระทำของพวกเขา จากนั้นก็รีบสั่งให้บอดี้การ์ดขวางทั้งสองคนไว้ทันที

“คุณหมอหยู คุณฟังฉันนะ คุณบินไปก่อน” เวินจิ้งขวางหน้าเขาไว้

หยูจิ่งห้วนนิ่งเงียบ แน่นอนว่าตอนนี้เขาไม่สามารถบินไปได้

เพียงแต่เขารู้สึกแปลกใจ มู่วี่สิงอยากจะไล่ตามเวินจิ้ง แล้วทำไมเขาถึงไม่มาตอมด้วยตัวเอง

ตอนที่ลี่หนานเฉิงเห็นเวินจิ้งยืนขวางอยู่ข้างหน้าผู้ชายคนอื่นก็ยิ่งโมโห ไม่รู้ว่าตอนนี้เพื่อนของเขาถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้วหรือยังด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับปกป้องผู้ชายอีกคนหนึ่งจนสุดกำลัง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท