Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 731

ตอนที่ 731

บทที่ 731 เธอเป็นคนขี้หึงตั้งแต่เมื่อไร

“เรื่องที่เขาติดค้างฉันหรือพวกคุณติดค้างฉันก็ชดใช้แล้ว จึงไม่เกี่ยวกับว่าฉันจะให้อภัยหรือไม่ ตอนนี้ฉันก็ไม่มีสถานะหรือเหตุผลอะไรจะตำหนิเขาค่ะ”

เรื่องของความรู้สึก ใช่ว่าให้อภัยหรือไม่ให้อภัยจะจัดการความรู้สึกได้

มู่เฉิงถอนหายใจลึก “เธอตัดสินใจหย่าแน่แล้วใช่มั้ย”

“ฉันไม่เคยเปลี่ยนความตั้งใจค่ะ”

“ก็ดี” เขาเอ่ยขึ้นเคร่งขรึม “ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วจะไม่คืนดีกับวี่สิง อย่างนั้นมู่ซีจะกลับมาตระกูลมู่ เธอคงจะไม่ว่าอะไร ใช่มั้ย”

มู่ซีหรือ

เวินจิ้งที่เดิมนิ่งขรึมอยู่แล้วก็เงียบไป ในสมองอดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงคำพูดของมู่ซีที่พูดกับเธอที่ปากบันไดในวันนั้น เธอตอบเสียงเย็นชา “เรื่องของตระกูลมู่ฉันไม่มีสิทธิ์วุ่นวาย แต่ฉันไม่รับประกัน มู่ซีกลับมาแล้ว ฉันจะอยู่ร่วมกับเธอได้ไม่มีปัญหา”

สิ่งที่ควรพูดนั้น เธอทำไม่ได้จริงๆ

การที่เธอพูดออกไปว่าไม่เกลียดมู่วี่สิงกับคนของตระกูลมู่ นั่นก็เพราะเขาต้องถูกแทง และยังอุบัติเหตุนั่นอีก เขาชดใช้ความแค้นทุกอย่างหมดแล้ว

ทั้งรักทั้งเกลียดหมดสิ้นแล้ว เธอเพียงหวังว่าทั้งสองคนจะไม่ต้องยุ่งเกี่ยวอะไรกันอีก

น้ำเสียงมู่เฉิงผ่อนคลาย “มู่ซีจะไม่ทำให้เธอลำบากใจแน่ เพียงแต่เธออย่าต่อว่าอะไรต่อหน้ามู่ซี”

สีหน้าของเวินจิ้งเย็นชาขึ้น เมื่อได้ยินชื่อนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เมื่อกลับไปที่ห้องนอนข้างห้องนอนใหญ่ เวินจิ้งปิดประตูทันที

ตอนนี้คืออะไรกัน ผู้ชายคนนั้นจำอะไรไม่ได้นอกจากเธอคนเดียว ถึงได้ยิ่งเผด็จการและทำตามอำเภอใจอย่างนั้นหรือ

ตอนนี้เธออยากไปจากที่นี่ก็ทำไม่ได้ เรื่องหย่ายิ่งห่างไกลไม่รู้จะเป็นไปได้เมื่อไร

ตอนนี้ยิ่งน่าขันเข้าไปใหญ่ เธอต้องเห็นผู้หญิงคนนั้นมู่ซีกลับมาลอยหน้าลอยตา เอาอกเอาใจสามี “ในนาม” ของเธอทุกวัน

ตอนนั้นเธอคิดดีแล้วที่จะไม่เก็บเด็กคนนั้นไว้ก็จริง…แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ตั้งใจยั่วยุเธอ บางที…เธออาจไม่หวั่นไหวขนาดนั้น…

บางที เด็กคนนั้นอาจจะยังอยู่…

เธอจะไม่ยอมแพ้ ที่จริงเธอจะยอมแพ้ได้อย่างไรกัน…

……

วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งถูกนาฬิกาปลุกที่หัวเตียงปลุกให้ตื่น สายตาพร่ามัวมองเวลาบนนาฬิกา

เจ็ดโมงเช้าแล้ว ถึงเวลาต้องเรียกเขาตื่นนอน

เธอเปลี่ยนชุดนอนและอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็เดินไปทางห้องนอนใหญ่ แต่ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ หญิงสาววัยรุ่นสดใสก็เคาะประตูอย่างมีมารยาทแล้ว

เวินจิ้งรู้สึกว่า เธอต้องรำคาญผู้หญิงคนนี้ถึงขั้นสุดขอบโลกแน่ๆ เมื่อก่อนเธอเห็นผู้หญิงคนไหนที่ชอบมู่วี่สิงก็จะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้ง

แต่เธอยืนนิ่งที่เดิม ไม่เดินเข้าไปตรงนั้น ไม่รู้เพราะอะไรจึงไม่เดินกลับไป

มู่ซีกลับไม่สังเกตเห็นว่าเวินจิ้งยืนอยู่ไม่ไกล หลังจากเคาะประตูครู่หนึ่งแล้ว เสียงอ่อนหวานก็พูดขึ้นอย่างมีมารยาท “พี่วี่สิง พี่ตื่นยังคะ ฉันจะเข้าไปนะคะ”

รออยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีเสียงตอบรับจากในห้องนอน มู่ซีค่อยๆเปิดประตูอย่างระมัดระวัง

ใบหน้ามู่วี่สิงสีเย็นชา หรี่ตามองไม่พอใจ “ออกไป”

มู่ซีมองเขาตาโตประหลาดใจ น้ำเสียงทั้งประหลาดใจและเสียใจ “พี่วี่สิง พี่จำฉันไม่ได้จริงๆ หรือคะ”

ชายหนุ่มจึงหรี่ตามองเธออีกครั้ง สีหน้านิ่งขรึมยิ่งขึ้น “เธอคือคนรับใช้ที่เวินจิ้งหามาหรือ”

เสียงของเขาสูงขึ้น น้ำเสียงแสดงความโมโหอย่างชัดเจน “เวินจิ้งหาผู้หญิงที่เหมือนเธอขนาดนี้มาอ่อยฉันหรือ”

แต่แรกเวินจิ้งคิดจะเดินกลับไปแล้ว แต่เมื่อได้ยินประโยคนั้นก็ชะงักเท้า เม้มริมฝีปากบาง คิ้วที่ขมวดอยู่คลายลงบ้าง

มู่ซีมองชายหนุ่มหวาดกลัว กัดริมฝีปากน้อยใจ “ฉันไม่ใช่คนที่พี่สะใภ้หามา ฉันเป็นหลานสาวที่คุณปู่รับเลี้ยง และไม่ใช่คนรับใช้ด้วย”

สีหน้ามู่วี่สิงเริ่มผ่อนคลายลง แต่ยังคงไม่พอใจอยู่มาก “งั้นก็ออกไป หน้าที่ปลุกฉันมีแต่ผู้หญิงของฉันกับคนรับใช้ เวินจิ้งเป็นคนขี้หึง เธออย่าไปให้เขาเห็นหน้าล่ะ”

เวินจิ้ง:……

เธอเป็นคนขี้หึงตั้งแต่เมื่อไรกัน

เธอหันหลังกลับ เดินเข้าไปเงียบๆ

เธอยืนที่หน้าประตู สีหน้าเรียบเฉย หรี่ตามองมู่ซีที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดกับชายหนุ่มบนเตียง “ในเมื่อมีคนดูแลแล้ว งั้นก็ไม่ต้องการฉันแล้ว”

เธอพูดเสียงเรียบ “ใส่เสื้อผ้าอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวเช้าค่ะ”

“จิ้งจิ้ง” เธอยังไม่ทันหันหลังกลับไป เสียงเคร่งขรึมของชายหนุ่มก็ดังขึ้น “ผมเจ็บแผลที่อก คุณมาช่วยผมใส่เสื้อหน่อย”

คงกังวลว่าเธอจะปฏิเสธ เขาจึงสำทับอีกประโยค “ผมไม่ชอบผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาถูกเนื้อต้องตัว”

บาดแผลที่อกของเขา…เธอเองที่เป็นสาเหตุ

เวินจิ้งหันไปบอกมู่ซีที่กำลังจะขยับปากพอดี “เธอออกไปก่อนเถอะ”

มู่ซีก้มหน้าน้อยใจ “คุณปู่เป็นคนให้ฉันมาปลุกพี่วี่สิง…”

เวินจิ้งพูดเสียงเย็น “มู่ซีอย่าให้ฉันได้ยิน “พี่วี่สิง” หลุดออกมาจากปากเธออีก”

เธอฟังแล้วรำคาญหู เมื่อก่อนคิดว่าตัวเองไม่มีสถานะจะห้าม แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการสถานะอะไรแล้ว

เธอไม่อยากได้ยิน เหตุผลแค่นี้ก็มากพอ!

มู่ซีมองเธอตาโต “พี่สะใภ้…พี่ไม่ยอมยกโทษให้ฉัน…”

มู่วี่สิงรำคาญที่สุดตอนที่ผู้หญิงต่อล้อต่อเถียงกัน ยิ่งผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงของเขาด้วยแล้ว ขณะนั้นใบหน้าเย็นชา “เธอไม่อยากอยู่บ้านตระกูลมู่หรือไง”

ถึงจะเป็นน้องสาวแท้ๆ มาอยู่ตรงนี้ก็ไม่แน่ว่าเขาจะจำอะไรได้ ยิ่งเป็นน้องสาวที่ไม่รู้มาจากไหนยิ่งแล้วใหญ่

มู่ซีไม่กล้าพูดมาก ได้แต่ก้มหน้ากระซิบเสียงแผ่ว “งั้นฉันออกไปช่วยเตรียมอาหารเช้าก่อน พวกพี่รีบลงไปนะคะ”

เมื่อพูดจบ เธอก็ปิดประตู

เวินจิ้งเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ตผู้ชายออกมาตัวหนึ่ง คุกเข่าลงข้างเตียง สายตาของชายหนุ่มจับจ้องเธอตลอดเวลา

ใบหน้าหล่อเหลาแม้จะเรียบเฉย ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรมากมาย แต่ดวงตาคู่นั้นก็มีความคาดหวังและดีใจระคนกันอยู่ลึกๆ

เธอเองไม่รู้ว่าเขาคาดหวังเรื่องอะไรและดีใจเรื่องอะไร

“ที่รัก ช่วยผมถอดเสื้อผ้าหน่อย” เสียงของชายหนุ่มกดต่ำจนฟังดูเซ็กซี่ และยังไม่ลืมต่อท้าย “ผมเจ็บแผล”

เวลายกแขนอาจจะทำให้แผลที่หน้าอกตึง เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขา

ท่าทางของเธอเป็นธรรมชาติ ราวกับเคยทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ร่างกายของชายหนุ่มสั่นเบาๆ จ้องมองใบหน้าของเธอ พูดขึ้นเสียงแข็ง “คุณถอดเสื้อให้ หมอหยูบ่อยๆ หรือ”

ผู้ชายคนนี้หลังจากสูญเสียความทรงจำวิธีคิดช่างเรียบง่าย ในเมื่อเธอไม่รักเขาแล้ว การปฏิบัติเช่นนี้มีแต่ร่างกายบาดเจ็บเท่านั้นถึงจะเป็นไปได้ และเขาเองก็ไม่ใช่คนที่จะบาดเจ็บบ่อยๆ เสียด้วย

เวินจิ้งกะพริบตา แล้วช้อนตายิ้มเยาะ พูดสบายๆ “คุณอยากรู้เรื่องนี้จริงหรือคะ”

เธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คุณอยากรู้ละเอียดแค่ไหนล่ะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท