Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 734

ตอนที่ 734

บทที่ 734 เพราะบาดเจ็บจึงมีคนเสียใจ

เมื่อเวินจิ้งกลับมาถึงบ้านตระกูลมู่ก็พบกับชายหนุ่มที่สีหน้าหงุดหงิด เขานั่งบนโซฟา สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ ดูไร้ความรู้สึกแต่ก็แน่วแน่

เธอเพียงปรายตามองเขาแวบหนึ่งแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน

เธอรำคาญเขาถึงขนาดนี้หรือ แม้แต่จะมองสักนิดก็ยังไม่ยอม

มู่วี่สิงโกรธจนลุกพรวด สาวเท้ายาวไปทางทิศทางที่เธอเดินไป เสียงเรียกประหลาดใจของมู่ซีดังตามมาติดๆ “คุณชาย แผลยังไม่หายดี…ระวังหน่อยค่ะ…”

เมื่อได้ยินเสียงนั้นเวินจิ้งประหลาดใจ ชะงักเท้าอยู่กับที่ ยังไม่ทันเดินต่อไปก็ถูกชายหนุ่มโอบไว้ในอ้อมกอด ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าทำเช่นนี้จะทำให้แผลเขาฉีกขาดหรือไม่

เธออยากจะผลักเขาออกไป แต่ก็คำนึงถึงบาดแผลของเขาจึงอดทนไว้ ไม่พูดอะไร ได้แต่ปล่อยให้เขากอด ยืนนิ่งไม่ขยับ

เธอรอเขาระบายความโกรธออกมา

มู่วี่สิงโอบกอดหญิงสาว แรงจากมือมาก แต่ก็ยับยั้งไว้ด้วย ใบหน้าแนบชิดใบหน้าหญิงสาว สองคนแทบตัวติดกัน “คุณไปไหนมา ฮึ”

น้ำเสียงของเขาหงุดหงิด

“เดินเล่นเรื่อยเปื่อย”

มือของเขาออกแรงมากขึ้น น้ำเสียงเอาแต่ใจ แต่อารมณ์กลับแฝงด้วยการออดอ้อนไม่น้อย “พรุ่งนี้อยู่บ้านเป็นเพื่อนผมนะ ไม่ต้องออกไปไหน”

ช่วงนี้เขาพักฟื้น ไม่มีงานออกตรวจและผ่าตัดที่โรงพยาบาล

เวินจิ้งหลับตา พูดเรียบๆ “วันนี้ฉันรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ตกลงกันว่าเขาจะสอนฉันชงกาแฟ”

“ผู้ชายหรือผู้หญิง”

“ผู้ชาย เจ้าของร้านกาแฟ”

แววตาของชายหนุ่มเย็นชาทันที “ผมไม่ให้ไป ถ้าคุณอยากเรียนชงกาแฟผมเรียกคนที่มีฝีมือที่สุดในเมืองหนานมาสอนคุณก็ได้”

“แต่ฉันชอบกาแฟที่เขาชง ไม่ได้ชอบกาแฟดีที่สุดเสียหน่อย”

มู่วี่สิงก้มหน้าขมวดคิ้ว น้ำเสียงน่ากลัวทีเดียว “คุณชอบหมอนั่นหรือไง”

เวินจิ้งแค่นหัวเราะ “จะเป็นไปได้ไง ฉันซื่อสัตย์ขนาดนี้จะลืมหมอหยู ไปชอบผู้ชายคนอื่นได้ยังไง”

มู่วี่สิงยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ กัดฟันพูดทีละคำช้าช้า “เวินจิ้ง คุณอย่าบังคับให้ผมทำอะไรมัน!”

“อย่างนั้นคุณกำจัดผู้ชายทุกคนบนโลก ถ้าเหลือคุณคนเดียวฉันอาจจะพิจารณา”

ลมหายใจของชายหนุ่มหอบถี่และลึก สายตาก็ดูอันตราย นิ้วเรียวยาวบีบคางของเธอรุนแรง ไม่สนใจว่าการทำเช่นนี้จะทำให้บาดแผลของตัวเองฉีก “เวินจิ้ง ผมไปทำให้คุณเกลียดเข้ากระดูกตอนไหนกันแน่”

วันนี้เขาอยู่บ้านรอเธอทั้งวัน รอจนเธอไปรู้จักกับผู้ชายสอนชงกาแฟข้างนอก!”

ขนตาของเวินจิ้งกะพริบ “ฉันบอกแล้วว่าไม่ชอบคุณก็ยังจะบังคับให้ฉันอยู่ที่นี่ หรือว่านี่ยังเกลียดไม่พอหรือ”

นิ้วของเขาค่อยๆ ออกแรง สายตายิ่งดุดันมากขึ้น เขายิ้มเย็นพูดเสียงต่ำ “เมื่อก่อนเราก็คุยกันอย่างนี้หรือ งั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมที่จำทุกอย่างได้รู้ดีว่าต้องทำยังไงกับคุณยิ่งกว่าตอนที่จำอะไรไม่ได้”

เขาคลายมือที่บีบคางเธอ ก้มหน้าจูบหนักๆ ที่ริมฝีปากของเธอ “ผมไม่อนุญาตให้คุณไปเจอกับผู้ชายชงกาแฟสองต่อสอง คุณชอบฝีมือของเขาผมจะให้เขามาสอนที่นี่”

เวินจิ้งลืมตาโต สายตาเย็นชา “คุณหมายความว่า ต่อไปนี้ฉันอยู่กับคุณได้คนเดียว…ที่บ้านตระกูลมู่”

เขาอดไม่ได้จูบเธออีกครั้ง “รอผมแผลหายออกไปข้างนอกได้คุณอยากจะไปไหนก็ได้”

น้ำเสียงของเขาทั้งบังคับและเอาใจ “เด็กดี อย่าโกรธนะ”

จิตใจของเธออ่อนล้าหมดแรง แต่สีหน้ายังคงเรียบเฉยไม่แสดงออกแต่อย่างใด

เสียงของมู่ซีถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ “พี่สะใภ้ จะให้ฉันพันแผลให้คุณชายใหม่มั้ยคะ แผลของเขาเหมือนจะปริอีกแล้ว…”

เสื้อเชิ้ตตรงบริเวณไหล่มีเลือดซึมออกมา เพราะรถคว่ำเขาจึงมีบาดแผลทั้งตัว เวินจิ้งถอยหลังก้าวหนึ่ง ก็เห็นรอยเปื้อนเลือดบนเสื้อเชิ้ตของเขาจริงๆ

ความโกรธระเบิดขึ้นทันที เวินจิ้งจ้องมองเขาโกรธที่ไม่ใส่ใจสักนิด เสียงสูงปรี๊ด “มู่วี่สิง คุณคิดว่าทรมานคนอื่นสนุกหรือไง”

ชายหนุ่มอยู่ๆ ก็ถูกเธอตะคอกใส่ ยังไม่ทันตอบโต้อะไร เห็นชัดว่าครั้งนี้ทำให้เวินจิ้งโกรธจัด “หรือชาติที่แล้วคุณชอบผู้หญิงงอน หาเรื่องทำให้ตัวเองเจ็บ คุณคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์เหล็กหรือคิดว่าตัวเองบาดเจ็บจะได้มีคนสงสาร”

เธอโกรธพูดตะกุกตะกัก “ฉันไม่อยากดูแลคุณแล้ว ดูแลตัวเองตามยถากรรมเถอะ!”

พูดจบ เธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน มู่วี่สิงยังไม่เข้าใจที่จู่ๆ เธอก็โกรธเกรี้ยวเกิดขึ้นจากตรงไหนกันแน่ ก็ได้ยินเสียง “ปัง”

ประตูห้องนอนถูกกระแทกปิดเสียงดัง

ดูเหมือนเป็นเพราะความโกรธของเธอบรรยากาศเงียบมาก คนในห้องรับแขกไม่มีใครกล้าส่งเสียง

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เพิ่งจะก้มดูบาดแผลของตัวเอง เธอโกรธจัดขนาดนี้เพราะสาเหตุนี้หรือ

แล้วยังพูดว่าชาติที่แล้วเขาเป็นผู้หญิง

เธอออกไปรู้จักกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ เขาจะมีกะจิตกะใจดูแลแผลตัวเองอีกหรือ อีกอย่างแผลนี้ก็ไม่หนักหนาอะไร

เขาเดินขึ้นไปชั้นบนมู่ซีตกใจ ละล่ำละลัก “ฉันไปเรียกพี่สะใภ้ลงมาดีกว่า คุณชายบาดเจ็บอย่าเพิ่งขยับ”

มู่วี่สิงถามไม่พอใจ “เธอไม่เห็นหรือเวินจิ้งกำลังโกรธหรือไง”

เธอจะยอมลงมาหรือ

เขายืนที่หน้าประตูห้องนอนใหญ่ ระงับความโกรธเคาะประตูอย่างอ่อนโยน “จิ้งจิ้ง เปิดประตูหน่อย”

เวินจิ้งหลับตา กว่าจะระงับอารมณ์โกรธลงก็ได้ก็ถูกยั่วโมโหอีก ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ให้ได้

เธอไม่ตอบรับ เพียงแต่หลับตาลงหนักๆ

มู่วี่สิงยังคงเคาะประตูต่อไป เสียงไพเราะนั้นราวกับเคาะลงในใจเธอ “ผมไม่ให้คุณดูแลแล้ว ออกมากินข้าวเถอะ”

ความอ่อนโยนของเขาในเวลานี้ ราวกับย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน

เขาอ่อนโยนเหมือนกับเวลานี้

“จิ้งจิ้ง“

ประตูถูกเปิดจากด้านใน เวินจิ้งยืนนิ่งสงบต่อหน้าเขา

แววตาของชายหนุ่มลึกซึ้ง เธอยังไม่ทันพูดอะไรก็ถูกชายหนุ่มกอดเธอแน่น ลมหายใจร้อนผ่าวรดลำคอ อบอุ่นและจั๊กจี้

“คุณอย่าเย็นชาแบบนี้ ผมจะไม่ลืมว่าตัวเองเป็นคนป่วย”

เสียงเขากระซิบข้างหูเธอ “ครั้งหน้าไม่ทำอีก อึม”

ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามสำหรับเขาแล้ว ราวกับกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญสักนิด เผชิญหน้ากับผู้ชายแบบนี้ เวินจิ้งหมดแรงยิ่งกว่าตอนที่เขาจำทุกอย่างได้

เขาลูบเส้นผมของเธอ จูบคิ้วเบาๆ คุณลงไปกินข้าวก่อน ผมจะทายาทำแผลใหม่ก่อน”

แผลเขามากมายขนาดนั้น จะทายาเองได้อย่างไร

เวินจิ้งผละออกจากอ้อมกอดเขาเบาๆ เดินเข้าไปในห้องนอนเตรียมกล่องยา “ไปนั่งที่โซฟาสิคะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท