บทที่ 734 เพราะบาดเจ็บจึงมีคนเสียใจ
เมื่อเวินจิ้งกลับมาถึงบ้านตระกูลมู่ก็พบกับชายหนุ่มที่สีหน้าหงุดหงิด เขานั่งบนโซฟา สวมเสื้อเชิ้ตสีดำ ดูไร้ความรู้สึกแต่ก็แน่วแน่
เธอเพียงปรายตามองเขาแวบหนึ่งแล้วก็เดินขึ้นไปชั้นบน
เธอรำคาญเขาถึงขนาดนี้หรือ แม้แต่จะมองสักนิดก็ยังไม่ยอม
มู่วี่สิงโกรธจนลุกพรวด สาวเท้ายาวไปทางทิศทางที่เธอเดินไป เสียงเรียกประหลาดใจของมู่ซีดังตามมาติดๆ “คุณชาย แผลยังไม่หายดี…ระวังหน่อยค่ะ…”
เมื่อได้ยินเสียงนั้นเวินจิ้งประหลาดใจ ชะงักเท้าอยู่กับที่ ยังไม่ทันเดินต่อไปก็ถูกชายหนุ่มโอบไว้ในอ้อมกอด ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าทำเช่นนี้จะทำให้แผลเขาฉีกขาดหรือไม่
เธออยากจะผลักเขาออกไป แต่ก็คำนึงถึงบาดแผลของเขาจึงอดทนไว้ ไม่พูดอะไร ได้แต่ปล่อยให้เขากอด ยืนนิ่งไม่ขยับ
เธอรอเขาระบายความโกรธออกมา
มู่วี่สิงโอบกอดหญิงสาว แรงจากมือมาก แต่ก็ยับยั้งไว้ด้วย ใบหน้าแนบชิดใบหน้าหญิงสาว สองคนแทบตัวติดกัน “คุณไปไหนมา ฮึ”
น้ำเสียงของเขาหงุดหงิด
“เดินเล่นเรื่อยเปื่อย”
มือของเขาออกแรงมากขึ้น น้ำเสียงเอาแต่ใจ แต่อารมณ์กลับแฝงด้วยการออดอ้อนไม่น้อย “พรุ่งนี้อยู่บ้านเป็นเพื่อนผมนะ ไม่ต้องออกไปไหน”
ช่วงนี้เขาพักฟื้น ไม่มีงานออกตรวจและผ่าตัดที่โรงพยาบาล
เวินจิ้งหลับตา พูดเรียบๆ “วันนี้ฉันรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง ตกลงกันว่าเขาจะสอนฉันชงกาแฟ”
“ผู้ชายหรือผู้หญิง”
“ผู้ชาย เจ้าของร้านกาแฟ”
แววตาของชายหนุ่มเย็นชาทันที “ผมไม่ให้ไป ถ้าคุณอยากเรียนชงกาแฟผมเรียกคนที่มีฝีมือที่สุดในเมืองหนานมาสอนคุณก็ได้”
“แต่ฉันชอบกาแฟที่เขาชง ไม่ได้ชอบกาแฟดีที่สุดเสียหน่อย”
มู่วี่สิงก้มหน้าขมวดคิ้ว น้ำเสียงน่ากลัวทีเดียว “คุณชอบหมอนั่นหรือไง”
เวินจิ้งแค่นหัวเราะ “จะเป็นไปได้ไง ฉันซื่อสัตย์ขนาดนี้จะลืมหมอหยู ไปชอบผู้ชายคนอื่นได้ยังไง”
มู่วี่สิงยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ กัดฟันพูดทีละคำช้าช้า “เวินจิ้ง คุณอย่าบังคับให้ผมทำอะไรมัน!”
“อย่างนั้นคุณกำจัดผู้ชายทุกคนบนโลก ถ้าเหลือคุณคนเดียวฉันอาจจะพิจารณา”
ลมหายใจของชายหนุ่มหอบถี่และลึก สายตาก็ดูอันตราย นิ้วเรียวยาวบีบคางของเธอรุนแรง ไม่สนใจว่าการทำเช่นนี้จะทำให้บาดแผลของตัวเองฉีก “เวินจิ้ง ผมไปทำให้คุณเกลียดเข้ากระดูกตอนไหนกันแน่”
วันนี้เขาอยู่บ้านรอเธอทั้งวัน รอจนเธอไปรู้จักกับผู้ชายสอนชงกาแฟข้างนอก!”
ขนตาของเวินจิ้งกะพริบ “ฉันบอกแล้วว่าไม่ชอบคุณก็ยังจะบังคับให้ฉันอยู่ที่นี่ หรือว่านี่ยังเกลียดไม่พอหรือ”
นิ้วของเขาค่อยๆ ออกแรง สายตายิ่งดุดันมากขึ้น เขายิ้มเย็นพูดเสียงต่ำ “เมื่อก่อนเราก็คุยกันอย่างนี้หรือ งั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมที่จำทุกอย่างได้รู้ดีว่าต้องทำยังไงกับคุณยิ่งกว่าตอนที่จำอะไรไม่ได้”
เขาคลายมือที่บีบคางเธอ ก้มหน้าจูบหนักๆ ที่ริมฝีปากของเธอ “ผมไม่อนุญาตให้คุณไปเจอกับผู้ชายชงกาแฟสองต่อสอง คุณชอบฝีมือของเขาผมจะให้เขามาสอนที่นี่”
เวินจิ้งลืมตาโต สายตาเย็นชา “คุณหมายความว่า ต่อไปนี้ฉันอยู่กับคุณได้คนเดียว…ที่บ้านตระกูลมู่”
เขาอดไม่ได้จูบเธออีกครั้ง “รอผมแผลหายออกไปข้างนอกได้คุณอยากจะไปไหนก็ได้”
น้ำเสียงของเขาทั้งบังคับและเอาใจ “เด็กดี อย่าโกรธนะ”
จิตใจของเธออ่อนล้าหมดแรง แต่สีหน้ายังคงเรียบเฉยไม่แสดงออกแต่อย่างใด
เสียงของมู่ซีถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ “พี่สะใภ้ จะให้ฉันพันแผลให้คุณชายใหม่มั้ยคะ แผลของเขาเหมือนจะปริอีกแล้ว…”
เสื้อเชิ้ตตรงบริเวณไหล่มีเลือดซึมออกมา เพราะรถคว่ำเขาจึงมีบาดแผลทั้งตัว เวินจิ้งถอยหลังก้าวหนึ่ง ก็เห็นรอยเปื้อนเลือดบนเสื้อเชิ้ตของเขาจริงๆ
ความโกรธระเบิดขึ้นทันที เวินจิ้งจ้องมองเขาโกรธที่ไม่ใส่ใจสักนิด เสียงสูงปรี๊ด “มู่วี่สิง คุณคิดว่าทรมานคนอื่นสนุกหรือไง”
ชายหนุ่มอยู่ๆ ก็ถูกเธอตะคอกใส่ ยังไม่ทันตอบโต้อะไร เห็นชัดว่าครั้งนี้ทำให้เวินจิ้งโกรธจัด “หรือชาติที่แล้วคุณชอบผู้หญิงงอน หาเรื่องทำให้ตัวเองเจ็บ คุณคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์เหล็กหรือคิดว่าตัวเองบาดเจ็บจะได้มีคนสงสาร”
เธอโกรธพูดตะกุกตะกัก “ฉันไม่อยากดูแลคุณแล้ว ดูแลตัวเองตามยถากรรมเถอะ!”
พูดจบ เธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน มู่วี่สิงยังไม่เข้าใจที่จู่ๆ เธอก็โกรธเกรี้ยวเกิดขึ้นจากตรงไหนกันแน่ ก็ได้ยินเสียง “ปัง”
ประตูห้องนอนถูกกระแทกปิดเสียงดัง
ดูเหมือนเป็นเพราะความโกรธของเธอบรรยากาศเงียบมาก คนในห้องรับแขกไม่มีใครกล้าส่งเสียง
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เพิ่งจะก้มดูบาดแผลของตัวเอง เธอโกรธจัดขนาดนี้เพราะสาเหตุนี้หรือ
แล้วยังพูดว่าชาติที่แล้วเขาเป็นผู้หญิง
เธอออกไปรู้จักกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ เขาจะมีกะจิตกะใจดูแลแผลตัวเองอีกหรือ อีกอย่างแผลนี้ก็ไม่หนักหนาอะไร
เขาเดินขึ้นไปชั้นบนมู่ซีตกใจ ละล่ำละลัก “ฉันไปเรียกพี่สะใภ้ลงมาดีกว่า คุณชายบาดเจ็บอย่าเพิ่งขยับ”
มู่วี่สิงถามไม่พอใจ “เธอไม่เห็นหรือเวินจิ้งกำลังโกรธหรือไง”
เธอจะยอมลงมาหรือ
เขายืนที่หน้าประตูห้องนอนใหญ่ ระงับความโกรธเคาะประตูอย่างอ่อนโยน “จิ้งจิ้ง เปิดประตูหน่อย”
เวินจิ้งหลับตา กว่าจะระงับอารมณ์โกรธลงก็ได้ก็ถูกยั่วโมโหอีก ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ให้ได้
เธอไม่ตอบรับ เพียงแต่หลับตาลงหนักๆ
มู่วี่สิงยังคงเคาะประตูต่อไป เสียงไพเราะนั้นราวกับเคาะลงในใจเธอ “ผมไม่ให้คุณดูแลแล้ว ออกมากินข้าวเถอะ”
ความอ่อนโยนของเขาในเวลานี้ ราวกับย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน
เขาอ่อนโยนเหมือนกับเวลานี้
“จิ้งจิ้ง“
ประตูถูกเปิดจากด้านใน เวินจิ้งยืนนิ่งสงบต่อหน้าเขา
แววตาของชายหนุ่มลึกซึ้ง เธอยังไม่ทันพูดอะไรก็ถูกชายหนุ่มกอดเธอแน่น ลมหายใจร้อนผ่าวรดลำคอ อบอุ่นและจั๊กจี้
“คุณอย่าเย็นชาแบบนี้ ผมจะไม่ลืมว่าตัวเองเป็นคนป่วย”
เสียงเขากระซิบข้างหูเธอ “ครั้งหน้าไม่ทำอีก อึม”
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามสำหรับเขาแล้ว ราวกับกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญสักนิด เผชิญหน้ากับผู้ชายแบบนี้ เวินจิ้งหมดแรงยิ่งกว่าตอนที่เขาจำทุกอย่างได้
เขาลูบเส้นผมของเธอ จูบคิ้วเบาๆ คุณลงไปกินข้าวก่อน ผมจะทายาทำแผลใหม่ก่อน”
แผลเขามากมายขนาดนั้น จะทายาเองได้อย่างไร
เวินจิ้งผละออกจากอ้อมกอดเขาเบาๆ เดินเข้าไปในห้องนอนเตรียมกล่องยา “ไปนั่งที่โซฟาสิคะ”