Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 737

ตอนที่ 737

บทที่ 737 เขาเป็นห่วงเธออยู่คนเดียว

วางกระเป๋าเดินทางแล้ว เวินจิ้งก็แขวนเสื้อผ้าที่นำมาด้วยหลายตัวเข้าตู้เสื้อผ้า เธอรู้สึกหิว จึงหยิบมือถือเปิดประตู

ขณะปิดประตู กะพริบตา แล้วเปลี่ยนรหัสผ่าน

เธอซื้ออาหารเช้าง่ายๆ ไม่ไกลจากตึกมากนัก จากนั้นก็ไปตลาดเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่ เตรียมทำอาหารมื้อกลางวันกับมื้อเย็นเอง

แต่เรื่องที่เธอคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อซื้อเสบียงกลับมา ก็เห็นผู้ชายสองสามคนยืนหน้าประตูกำลังเปิดประตู

ชายหนุ่มรูปร่างสูงยืนโมโหอยู่ที่มุมหนึ่งของบันได ดวงตาสีเข้มมีประกายเย็นชา สายตาจับจ้องที่ประตู

เวินจิ้งถามสีหน้าไม่แสดงความรู้สึก “มู่วี่สิง คุณกำลังทำอะไร”

เสียงของหญิงสาวดังก้องทั่วทางเดินที่เงียบสงบ ร่างสูงตระหง่านของชายหนุ่มขยับเล็กน้อย ก็มองเห็นเธอแล้ว สายตาเป็นประกายทันใด ก้าวเท้ายาวเข้ามาหาเธอ

เขาขยับริมฝีปาก สายตาจริงจัง และยังแฝงความประหลาดใจและความดีใจที่ระงับไว้ เสียงที่ออกมาจากลำคอเคร่งขรึม “คุณไปไหนมา”

เขาคิดว่าเธอหนีไปแล้วอย่างนั้นหรือ ต่อให้เธอหนีไปแล้วจริงเขาเปิดล็อกได้จะมีประโยชน์อะไร

“กินข้าวเช้า ซื้อกับข้าว” สายตาสงสัยของเธอกวาดมองผู้ชายหลายคนที่ใส่เสื้อพิมพ์ชื่อบริษัทเปิดล็อกประตู “คุณคิดจะทำอะไรกับประตูของฉัน”

มู่วี่สิงมองเธอสีหน้าเรียบเฉย “คุณเปลี่ยนรหัสหรือ”

“นี่มันบ้านฉัน เปลี่ยนรหัสไม่ได้หรือไง”

แต่แรกคิดว่าเขาคงจะโกรธ ใครจะไปคิดชายหนุ่มแค่เม้มริมฝีปาก สายตายังเผยให้เห็นรอยยิ้ม น้ำเสียงก็เอาใจ คล้ายกับเวินจิ้งพูดอะไรที่ทำให้เขามีความสุขเสียเหลือเกิน

“อึม นี่มันบ้านคุณ คุณย่อมจะทำอะไรก็ได้”

เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก เพิ่งจะคิดขึ้นมาได้ นี่เป็นห้องของเขา…

เธอพูดว่าบ้านของเธอ เขาถึงได้ดีใจขนาดนั้น

มู่วี่สิงโบกมือ ไล่ให้พนักงานที่มาเปิดประตูกลับไป เดินตามเธอเข้าห้องและไม่ลืมที่จะอธิบายเสียงดัง “นั่นเป็นคนของบริษัทเปิดล็อกประตูโดยเฉพาะ ไม่ใช่คนของผม”

เวินจิ้ง:……

ตอนนี้ประเด็นสำคัญคือเขาพยายามเปิดประตูบ้านของเธอโดยใช่เหตุไม่ใช่เขาใช้อำนาจของตัวเองหรือไม่!

“คุณมาแต่เช้ามีธุระอะไรมั้ย” เธอเสียบปลั๊กตู้เย็น แล้วทยอยเรียงอาหารที่ซื้อมาเข้าไป และเริ่มทำความสะอาดอพาร์ทเมนท์

แม้ชายหนุ่มจะถูกเมินเฉย แต่ยังคงตามติดเธออย่างกับเงา ผ่านไปสิบนาที เขาพูดเสียงแหบเจือด้วยความรู้สึกน้อยใจ “จิ้งจิ้ง ผมหิวแล้ว”

เขามาแต่เช้าพบว่าประตูล็อกเปิดไม่ได้ กดกริ่งอยู่นานก็ไม่มีคนตอบรับ

ท่าทางของเวินจิ้งเรียบเฉย หยิบผ้ามาเช็ดฝุ่นที่ซอกมุม “งั้นคุณกลับไปบ้านตระกูลมู่สิ มีคนทำอาหารเช้าให้คุณ”

หยดเหงื่อบางๆ เมื่อสะท้อนแสงไฟเห็นเป็นประกายหยดน้ำ เขาเจ็บลึกในใจ ลุกขึ้นไปหยิบของในมือเธอ ขมวดคิ้ว “ผมให้คนรับใช้ที่บ้านตระกูลมู่มาช่วย งานพวกนี้คุณไม่ต้องทำ”

เวินจิ้งดึงผ้าเช็ดฝุ่นกลับมา “คุณดูไม่ออกหรือคะ เทียบกับที่บ้านตระกูลมู่ ฉันชอบชีวิตที่นี่มากกว่า ไม่ต้องส่งคนรับใช้มา”

ก็แค่งานบ้านง่ายๆ เธอทำได้แน่นอน

แต่มู่วี่สิงแย่งกลับมาอีกครั้ง ใบหน้ามุ่งมั่นของเขาไม่แสดงความรู้สึก นิ้วเรียวยาวจับผ้าเช็ดฝุ่นที่สกปรกผืนนั้น จากนั้นก็เอามาเช็ดตู้วางโทรทัศน์ เสียงเคร่งขรึม “ก็ได้ ผมทำเอง”

“มู่วี่สิง เมื่อไรคุณจะจำได้ว่าตัวเองเป็นคนป่วย!” เวินจิ้งรู้สึกปวดหัวสุดจะทน

ชายหนุ่มหันมา สายตากังวลอย่างมากจับจ้องใบหน้าของเธอ “คุณเอาแต่คิดเรื่องที่ผมบาดเจ็บ จิ้งจิ้ง คุณเป็นห่วงผมไหม”

สายตาของเธอนิ่งอึ้ง ไม่พูดอะไร

เขาขยับเข้ามาใกล้จูบที่แก้มของเธอที่ยังยืนนิ่งอึ้ง เสียงแหบบ่งบอกถึงความรัก “แต่ผมเป็นห่วง คุณอยู่คนเดียวผมก็เป็นห่วง คุณทำงานบ้านผมก็เป็นห่วง ถึงได้มานี่ไง”

เขาไม่ได้พูดว่าคิดถึงเธอ เพียงแต่บอกว่าเป็นห่วงที่เธออยู่คนเดียว

นิ้วของเธอกำแน่น พูดเสียงเย็นชา “มู่วี่สิง ฉันอยู่คนเดียวสบายดี ฉันย้ายออกมาเพราะไม่อยากเห็นคุณไม่อยากเจอคุณ ฟังไม่เข้าใจหรือไง”

เขาขยับเข้ามากอดเธอแน่น คางเกยผมของเธอ “คุณไม่ชอบ อึม ผมรู้แล้ว”

ชอบอยู่คนเดียวทำให้เกิดความเป็นความเคยชิน เขาจะไม่ยอมให้เธอเกิดความเคยชินเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมให้เธอมีโอกาสเคยชินเวลาที่เขาไม่อยู่

เธอหลับตา ในใจรู้สึกรวดร้าวนิดๆ

“ถึงอยู่กับฉันไม่มีความสุข คุณก็ยืนยันไม่ยอมหย่าใช่มั้ย” เธอถามเรียบๆ

หัวใจของมู่วี่สิงบีบแน่นครู่หนึ่ง ใบหน้ายังเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย “เวินจิ้ง ผมกำลังจีบคุณจริงจัง ผมจะจีบคุณใหม่”

อย่ามอบโทษประหารให้เขาตั้งแต่แรก นั่นไม่ยุติธรรมกับเขา!

เขาจุมพิตใบหน้าของเธอ เสียงของเขาต่ำมาก พึมพำ “ผมรู้ตัวว่าเคยทำให้คุณเจ็บ ผมยอมให้คุณลงโทษ ขอแค่อย่าลงโทษประหารหรือจำคุกตลอดชีวิต ผมยอมรับได้ทุกอย่าง”

นอกจากโทษประหารกับโทษจำคุกตลอดชีวิต…

แต่แรกเขาต่างหากที่เคยลงโทษประหารเธอไม่ใช่หรือ…การแยกทางกันที่ตั้งใจขนาดนั้น

เธอจับตู้ผละจากอ้อมกอดของเขา เดินเข้าไปในห้องนอนเงียบๆ หายไปจากสายตาเขาอย่างรวดเร็ว

บางทีผมยาวประบ่าก็พลิ้วไหวตามลม ร่างนั้นเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

ใจของเขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกแทงอีกครั้ง

เขายืนมองประตูห้องนอนที่ปิดสนิทนานถึงห้านาที ริมฝีปากบางขยับให้เห็นรอยยิ้มเยาะตัวเอง หันไปหยิบผ้าที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา สีหน้าเรียบเฉยแล้วเช็ดตรงที่เธอยังไม่เช็ดให้เรียบร้อยจนครบถ้วน

ในที่สุด หลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เขามองอพาร์ทเมนท์ที่ตัวเองเก็บกวาดจนสะอาดสะอ้านอย่างพึงพอใจมาก หลังจากล้างมือรู้สึกว่าหิวจนทนไม่ไหว เหลือบมองเวลาบนผนัง สีหน้าขรึม มิน่าตอนนี้สิบเอ็ดโมงแล้ว

แต่หญิงสาวที่ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนไม่มีทีท่าว่าจะออกมา ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ในที่สุดก็คิดว่าเขาอยากจะจีบภรรยาต้องใช้หลักการหน้าหนาไปเคาะประตู

เสียงแหบเจือความน่าสงสาร “จิ้งจิ้ง ผมทำความสะอาดเสร็จแล้ว กินข้าวได้ยัง”

เวินจิ้งนั่งพิงประตู ไม่ได้ฟังที่เขาพูด รู้แต่ว่าข้างนอกมีการเคลื่อนไหวแสดงว่าเขายังไม่กลับไป แต่ไม่รู้ว่าระหว่างนี้เขาทำอะไร

ครู่ใหญ่ เธอลุกขึ้น เปิดประตูสีหน้าเรียบเฉย มองไปก็เห็นทุกซอกมุมของห้องรับแขกถูกเช็ดจนสะอาดวิบวับ…แม้แต่พื้นก็ไม่มีร่องรอยเลอะเทอะ

ชายหนุ่มเดินเข้ามาประคองใบหน้าเธอ ถามอย่างระมัดระวัง “ผมเก็บกวาดเสร็จแล้ว เห็นแก่ที่ผมตั้งใจขนาดนี้ หาข้าวให้ผมกินได้ไหม”

มือของเขาด้านนิดๆ เมื่อเสียดสีผิวของเธอรู้สึกสากๆ ใบหน้าคมคายรู้สึกได้ถึงความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ ครึ่งหยอกล้อครึ่งน้อยใจ ลมหายใจที่คุ้นเคยรดคอของเธอ “ผมหิวมาก จิ้งจิ้ง”

ใจสั่นเบาๆ หายใจแรง เธอพึมพำ “คุณกลับไปบ้านตระกูลมู่ ยังทันเวลาอาหารเที่ยงค่ะ”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท