Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 748

ตอนที่ 748

บนที่ 748 ยังไงก็อยากเจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย

เวินจิ้งตกตะลึง เธอไม่รู้จริงๆว่าตระกูลหยีและตระกูลหลิงมีความสัมพันธ์แบบนี้ ในเมื่อสามารถแต่งงานกับตระกูลหลิงได้ ก็คงมีฐานะสูงเหมือนกัน ทำไมหยีเป่ยโจวต้องเปิดร้านกาแฟด้วย

เธอยิ้ม “หลิงเหยา ฉันมีเสน่ห์มันผิดตรงไหนไม่ทราบ หยีเป่ยโจวรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และเขาก็ไม่เคยบอกฉันว่าเขาชอบฉัน ตัวเองไม่สามารถทำให้ผู้ชายรักได้ ก็อย่ามาใส่ร้ายคนอื่น”

พูดจบเธอก็วางสายไปอย่างเย็นชา เพราะโทรศัพท์มีสายอื่นโทรเข้ามา

แม้ว่าเสียงของผู้ชายจะอ่อนโยน แต่ก็มีความสงสัยอยู่ “คุณโทรศัพท์กับใครเหรอ”

เวินจิ้งคลึงนิ้วรอบมุมเสื้อและตอบอย่างเกียจคร้านว่า “แฟนเก่าของคุณ”

“หลิงเหยา เธอโทรหาคุณทำไม” เขาจำไม่ได้เลยว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงอยู่กับหลิงเหยา อาจจะเป็นเพราะว่าอยากกระตุ้นเวินจิ้งมั้ง

ไม่อย่างนั้นเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนนั้นได้ยังไง เขาเกลียดเธอด้วยซ้ำ

“เธอโทรมาบอกว่าฉันแย่งผู้ชายของเธอ”

โทรศัพท์ทางนู้นเงียบไปสักพัก น้ำเสียงที่อ่อนโยนก็มีความรุนแรงเล็กน้อย “ฉันสั่งอาหารเช้าให้คุณแล้วคุณไม่ต้องทำเองแล้ว กินข้าวดีๆ ตอนเย็นฉันจะกลับไปอยู่กับคุณนะ”

เขาโกรธเหรอ

เธอยิ้ม “มู่วี่สิง คุณห้ามไปหาเรื่องหยีเป่ยโจวนะ เขาก็แค่ชอบฉันเฉยๆ เขาไม่ได้พูดและทำอะไรเลย”

อาจ… จริงๆแล้วก็ไม่ได้ชอบมั้ง

พวกเขาเจอกันแค่สองครั้งเอง ความรู้สึกที่ หยีเป่ยโจวมีต่อเธอคงไม่ได้ลึกซึ้งมากหรอก วันหลังเธอก็ตั้งใจอ่านหนังสือที่บ้าน ไม่ไปเรียนชงกาแฟแล้วกัน

น้ำเสียงของผู้ชายคนอ่อนโยนขึ้น พูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณไม่ได้ชอบเขา ฉันจะไปหาเรื่องเขาทำไมล่ะ”

เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เธอพูดเบาๆว่า “เอาล่ะ อาหารที่คุณสั่งไว้มาถึงแล้ว ฉันจะไปกินข้าวแล้วนะ”

เธอไม่ได้ถามว่าเขาอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่ ดูเหมือนว่าหลังจากทำเรื่องนั้นเสร็จ เธอก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนเดิมแล้ว แม้ว่ายังเฉยเมยก็ตาม

แต่ว่ามันก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เมื่อคืนเธอเต็มใจให้เขา วันพรุ่งนี้เธออาจจะให้หัวใจเขาก็ได้

เขามีเวลามาก ไม่ต้องรีบ

“คนดี กินเยอะๆนะ คุณผอมเกินไป”

เมื่อเปิดประตู เป็นอาหารตามสั่งจริงๆ เวินจิ้งไม่ได้คุยกับเขาต่อ วางสายและเอาอาหารเข้าบ้าน

อาหารสามอย่างและซุป 1 ไม่ได้เยอะมาก แต่ทุกอย่างทำได้สวยงามมาก ความร้อนและกลิ่นหอมผ่านเข้าสู่จมูกของเธอในเวลาเดียวกัน ท้องที่หิวอยู่ก็พอใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าเธอทันที ทำให้เธออารมณ์ดีไปด้วย

หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็รีบไปกินข้าว

มู่วี่สิงคงรู้ว่าเธอจะไม่มีแรงทำอาหาร เขาจึงสั่งอาหารให้เธอ เขารู้ว่าเธอชอบอะไรและไม่ชอบอะไร แล้วยังรู้ว่าเธอจะตื่นตอนไหน

เธอก้มหน้าและกินอาหารกลางวันเงียบ ๆ

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเมื่อกินข้าวเสร็จ เธอเก็บโต๊ะเสร็จและกำลังจะไปอ่านหนังสือ โทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะกาแฟก็ดังขึ้นอีกครั้ง

หยีเป่ยโจว

เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ลังเลนานมาก ก็รีบรับสายและยิ้มเบาๆ” คุณหยีค่ะ”

เสียงของทางนั้นอ่อนโยนมาก “กินข้าวยังครับ”

“เพิ่งกินเสร็จค่ะ”

ผู้ชายยิ้มเบาๆ “ฉันแค่อยากถามคุณว่า เมื่อไหร่คุณจะมีเวลามาเรียนชงกาแฟครับ”

เวินจิ้งอึ้งไปสักพัก พูดด้วยน้ำเสียงที่มีความขอโทษเล็กน้อยว่า “ฉันคงไม่ได้ไปอีกแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังเรียนภาษาต่างประเทศด้วยตัวเอง คงไม่มีเวลามากค่ะ”

“คุณกำลังเรียนภาษาต่างประเทศเหรอ ต้องการครูสอนไหม”

เธอกระพริบตา “ยังไม่ต้องค่ะ”

หยีเป่ยโจวเงียบไปสักพัก และยิ้มอย่างเอือมระอา “เธอโทรไปหาคุณแล้วใช่ไหมครับ”

“คุณหมายถึงหลิงเหยาเหรอคะ”

“เธออารมณ์ไม่ค่อยดี” น้ำเสียงของหยีเป่ยโจวดูคลุมเครือและระมัดระวังมาก “เธอไม่ได้พูดอะไรที่รุนแรงใช่มั้ยครับ”

“ไม่ต้องห่วง เธอรังแกฉันไม่ได้หรอกค่ะ”

แม้ว่าอารมณ์ของเธอจะอ่อนโยนกว่า แต่หลิงเหยาจะแข็งแกร่งกว่า แต่เธอไม่ใช่เวินจิ้งที่เหมือนเมื่อสามปีก่อนแล้ว เธอจะทนการกลั่นแกล้งของคนอื่นได้ยังไง

“เวินจิ้ง” จู่ๆหยีเป่ยโจวก็เรียกชื่อของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกเธอแบบนี้ “ฉันอยากเจอคุณ ออกมาได้ไหมครับ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว

เสียงของหยีเป่ยโจวค่อยๆดังขึ้นจากทางนั้น “ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าคุณเต็มใจจะมา”

เธอปฏิเสธที่จะเรียนชงกาแฟต่อ หมายความว่าเธอปฏิเสธความรู้สึกของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอแต่งงานไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะบอกให้เธอรู้

เวินจิ้งตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้ค่ะ งั้นฉันจะไปที่ร้านกาแฟ”

หยีเป่ยโจวดูเหมือนจะไม่คิดว่าเธอจะตกลงเร็วอย่างนี้ ความสุขในน้ำเสียงก็ไม่ทันที่จะเก็บไว้ “ผมจะรอคุณนะครับ”

เธอวางหนังสือและเดินกลับห้องนอนเปลี่ยนชุด

หยีเป่ยโจวนั่งรอเธอในที่นั่งที่เธอชอบมากที่สุด เวินจิ้งเข้ามาก็เห็นแล้ว

เธอเดินไปนั่งตรงข้ามเขา รับเมนูที่บริกรส่งให้และสั่งกาแฟโปรดของเธอ

เธอยิ้มให้เขาเบาๆ “คุณหยี”

ดูเหมือนว่าได้ยินเสียงเขาถึงรู้ว่าเธอมาถึงแล้ว หยีเป่ยโจวมองผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเขา แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นผิวของเธอที่สัมผัสกับอากาศโดยทำการกระทำที่ไม่รู้ตัว แม้ว่าเธอจะสวมผ้าพันคอ ลอยจูบที่ลึกมาก

เขากระพริบตา “ไม่คิดว่าคุณจะเป็นคุณนายมู่ครับ”

“ฉันก็ไม่เคยคิดว่าคุณชายของตระกูลหยีจะมาเปิดร้านกาแฟที่นี่ค่ะ”

สายตาที่ หยีเป่ยโจวมองเธอจริงจังมาก “คุณอยู่กับเขามีความสุขไหมครับ”

เขายิ้ม แม้ว่าหลิงเหยาจะเป็นคู่หมั้นของเขา แต่เขาก็เพิ่งรู้ว่าเธอเกือบจะแต่งงานกับมู่วี่สิงไปแล้ว

คนที่สามารถทำได้ทุกอย่างในเมืองหนานเฉิง

แล้วเขาชอบภรรยาของมู่วี่สิง

“เขาคงรักคุณมาก” เขาพึมพำ

ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกเองหรือเปล่า เพราะว่าสามารถทำให้ผู้ชายที่ฐานะสูงมากคนนั้นยกเลิกสัญญาการแต่งงานกับตระกูลหลิง เลือกที่จะอยู่กับเวินจิ้งผู้หญิงที่ดูเหมือนไม่ได้มีตระกูลที่ดีมาก แถมยังแต่งงานกับเธอด้วย นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากอยู่ในวงการไฮโซ

“คงเป็นแบบนั้นมั้ง” เวินจิ้งเอียงหัวและยิ้มเบาๆ

ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของพี่ชาย เธออาจพูดได้อย่างมั่นใจว่าเขารักเธอมาก และตอนนี้เธอก็ไม่สงสัยเลยว่าผู้ชายคนนั้นรักเธอ แต่เธอไม่สามารถประเมินได้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ก็ไม่กล้าประเมินอีกเลย

หยีเป่ยโจวมองดวงตาของเธอตรงๆ “แล้วคุณล่ะ คุณรักเขาไหม”

เขาไปตรวจสอบมาอย่างรอบคอบแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วและจนถึงตอนนี้ไม่เคยหย่าร้างกันเลย แต่แยกกันอยู่ 3 ปีแล้ว

ทำไมเธอยังยอมอยู่กับมู่วี่สิง

อีกอย่าง เขายังตรวจสอบพบว่าพี่ชายของเวินจิ้งดูเหมือนจะอะไรกับมู่วี่สิง เรื่องนี้ซับซ้อนเกินไป เขาก็ไม่ได้สอบสวนให้ชัดเจน

แต่เขาคิดว่า ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่คงไม่มีความสุข มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กั้นอยู่ระหว่างพวกเขา

เพราะฉะนั้น เขาถึงยืนยันที่จะเจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท