Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 759

ตอนที่ 759

บทที่ 759 เธอแบกรับความเสียสละของเขาไม่ไหว

มู่วี่สิงนิ่งไปสักพัก ก่อนจะชักเท้าเดินกลับไปด้านหลัง และรีบปิดประตูห้องพักฟื้นทันที

เมื่อเวินจิ้งกลับมาที่เตียงอีกรอบ เธอหันไปถามเขาเสียงเบา “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ทำไมเรื่องสำคัญขนาดนี้เขาถึงไม่บอกเธอ?

“ไม่มีอะไรหรอก หลิงเหยาพยายามที่จะยัดข้อหาให้คุณเป็นคนฆ่า เธอมีอำนาจของตระกูลหลิงหนุนหลัง ดังนั้นตอนนี้มันก็เลยยุ่งยากไปหน่อย”

ถึงแม้มู่วี่สิงจะพูดกระชับเข้าใจง่ายแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เข้าใจสักที

มืออบอุ่นของมู่วี่สิงกำลังช่วยคลึงระหว่างคิ้วที่กำลังขมวดของเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ผมไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องอะไรกับคุณแน่ๆ”

เวินจิ้งเงียบ ไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน

ในตอนนั้นที่หลิงเหยาหุนหันพลันแล่นแบบนั้น เธอก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความผิดของหลิงเหยา แต่ทำไมคนที่ทำผิดถึงต้องเป็นเธอ?

ตอนนี้ตระกูลหลินตกต่ำลงแล้ว คนที่เธอจะพึ่งพาได้ ก็มีแค่ มู่วี่สิง

เธอยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนหันไปมองยังมู่วี่สิง “ฉันรู้ว่าคุณจะช่วยฉัน แต่ฉันไม่ต้องการความเสียสละของคุณ ฉันรับมันไม่ไหวหรอก มู่วี่สิง ได้โปรดจำไว้”

วินาทีถัดมา คางบอบบางของเธอก็ถูกเขาบีบแน่น ดวงตาของชายคนนั้นเอ่อล้นไปด้วยความขุ่นเคือง “เวินจิ้ง ทำไมถึงพูดว่ารับความเสียสละของผมไม่ได้? ทำไม?”

เขาเป็นสามีของเธอ ส่วนเธอคือภรรยาของเขา เป็นคนที่เขารักมากที่สุด ไม่ว่าเธอจะขอร้องเรื่องอะไร เขายินดีทำให้ทุกอย่าง

แต่ตอนนี้เธอพูดแบบนี้ รับความช่วยเหลือของเขาไม่ได้

เขาคิดว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขามันค่อยๆดีขึ้น

ในที่สุดเธอก็ยอมรับแหวนของเขาแล้ว รับจูบของเขา เริ่มที่จะพึ่งพาเขาเหมือนเคย เหมือนสามปีก่อนที่เคยอยู่ด้วยกันแบบนั้น

ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาวูบหนึ่งมีความเจ็บปวดฉายชัดออกมา ก่อนที่เขาจะพูดต่อ “ความหมายของผมง่ายมาก ถ้าหากวันนี้คุณสูญเสียอะไรไป เพราะผม หากทีหลังผมจากคุณไป งั้นคุณก็ไม่ขาดอะไรไปมากแล้ว”

เขาจ้องมองใบหน้าซีดเซียวของเธออยู่นานก่อนจะยิ้มกับตัวเอง เสียงทุ้มพูดขึ้น “เวินจิ้ง ดูเหมือนคุณจะมั่นใจมากว่าผมรักคุณมาก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือจะพูดอะไรผมก็จะยังรักคุณมาก”

ดวงตาของเธอสั่นระริก “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น”

เขาโอบเอวของเธอไว้แน่น เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธเธอ แต่กลับออกห่างจากเธอ ทำตัวไม่สนิทสนมไม่ได้ “หากคุณคิดแบบนั้นได้ เพราะผมก็เป็นแบบนั้นแหละ”

จูบลงบนแก้มเธอ “จิ้งจิ้ง อย่าพูดแบบนี้กับผมอีกได้ไหม ผมเสียใจนะ”

เธอนิ่งแข็งไม่ขยับตัวอยู่ภายใต้อ้อมอกเขา

ความรู้สึกอบอุ่นทำให้ใจเธอสั่นสะท้าน

เธอนึกว่าเธอแสดงความรู้สึกของเธอออกไปอย่างชัดเจนแล้ว สองปีให้หลังนี้เธอยังคงจะไปจากเขา ความคิดนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

เธอไม่ได้โทษเขา ไม่ได้เกลียดเขา แต่แค่ไม่อยากที่จะรบกวนเขาต่อไป และไม่ยินยอมอย่างยิ่งที่จะมีอะไรติดค้างกับเขา

เมื่อมีหนี้บุญคุณระหว่างคนสองคน ก็จะยิ่งมีแต่ความพัวพันที่คลุมเครือไม่จบสิ้น

มู่วี่สิงไม่ได้บอกรายละเอียดที่ชัดเจนของเรื่องนี้แก่เธอ เวินจิ้งก็เลยเปิดเน็ตหาเองในโทรศัพท์มือถือ เธอเลื่อนดูทีละข่าว

วันนั้นทำไมอั้ยเถียน ถึงส่งข้อความมาหาเธอ ตอนนี้นับว่าชัดเจนแล้ว เบอร์ของเธอถูกแอบเอาไปใช้ ดังนั้นเธอเลยได้รับข้อความจากอั้ยเถียน หรือแท้ที่จริงอั้ยเถียนไม่ได้มาที่เมืองหนานด้วยซ้ำ

ส่วนใครแอบนำเบอร์อั้ยเถียนมาใช้นั้น… …

เธอก็ไม่รู้ว่าจะใช่หลิงเหยาหรือเปล่า

สถานการณ์ตอนนี้ ไม่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจากลานจอดรถ ไม่มีพยาน กระทั่งดีเอ็นเอของหลิงเหยาหรือลายนิ้วมือ ทั้งหมดโดนลบไปอย่างหมดจด

เธอจ้องไปที่มือถือ ก่อนยิ้มอย่างเย็นชา มิน่ามู่วี่สิงถึงไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเธอ ที่เกิดเหตุมีคนตายหนึ่งคน ตลอดจนมีแค่เธอคนเดียวที่อยู่ตรงนั้น รถที่ชนก็เป็นรถของเธออีก

ถ้าไม่ใช่เธอ ผีก็คงทำ

… …

คดีฆาตกรรมนี้ในเมืองหนานกลายเป็นที่รู้จักและพูดถึงไปทั่วทั้งเมืองอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเวินจิ้ง ภรรยาของมู่วี่สิง ซึ่งเป็นตัวเอกของเหตุการณ์นี้

ทันทีที่เวินจิ้งออกจากโรงพยาบาลหมายศาลก็มาถึงเธอ ส่วนวันขึ้นศาลก็ใกล้เข้ามาทุกที

ข้างนอกศาลฝูงนักข่าวขนาดใหญ่ก็ได้มาหลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำ ทันทีที่รรถเบนท์ลีย์สีดำหยุดลง เหล่าผู้สื่อข่าวก็รีบยกไมโครโฟนขึ้นมาเพื่อสัมภาษณ์

เวินจิ้งอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม บนหน้าผากของเธอยังคงมีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ บนกายสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเข้มตัวโคร่ง ร่างกายส่วนใหญ่อยู่ในอ้อมแขนของมู่วี่สิงแทบทั้งหมด

โดยไม่ต้องรอให้นักข่าวมีโอกาสเข้ามาถามคำถาม บอดี้การ์ดหลายสิบคนในรถรีบลงมาแยกทุกคนอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้ใครก็ตามได้มีโอกาสเข้าใกล้เวินจิ้ง

มู่วี่สิงปฏิเสธที่จะให้ผู้สื่อข่าวทุกคนเข้าฟังคดีนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงยืนอออยู่ข้างนอก คิดหาโอกาสที่จะได้ข่าวเพียงเล็กๆน้อยๆจากข้างใน

เมื่อเวินจิ้งรีบเดินกลับไปยังรถที่จอดไว้ เสียงเศร้าสลดจากกลุ่มคนลอยดังเข้ามากระทบโสตประสาทของเธอ เสียงนั้นดังมาอย่างชัดเจนจากหน้าประตูศาลท่ามกลางเสียงจอแจตรงนั้น

“เวินจิ้ง หยุดอยู่ตรงนั้น!”

เวินจิ้งชะงักฝีเท้า หันกลับไปอย่างเย็นชา หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี รอบตัวแผ่กลิ่นอายสูงศักดิ์เดินตรงมาหาเธอ

สิ่งที่เธอรู้สึกตลกมากก็คือ ตรงหน้าเธอคาดไม่ถึงเลยว่าคือหลิงเหยา

เพราะว่ามีมู่วี่สิงบดบังอยู่ข้างหน้า ดังนั้นพวกเธอจึงเข้าไม่ถึงเธอ ทว่าเธอกลับเดินออกมาเผชิญหน้าด้วยตัวเอง มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ก่อนเดินขึ้นไปอยู่ข้างๆเธอ

ผู้หญิงตรงหน้าเธอคือส้งลี่มารดาของหลิงเหยา มารดาของหลิงฉิงได้จากโลกนี้ไปนานแล้ว ดังนั้นคนที่เลี้ยงหลิงฉิงมากับมือคือส้งลี่

“คุณหญิงหลิง” เวินจิ้งยืนอย่างสงบนิ่ง ท่าทางเธอไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง แต่ก็ไม่อ่อนน้อมจนดูต้อยต่ำ

ส้งลี่โกรธจนตัวสั่นเมื่อมองไปยังเวินจิ้ง “เวินจิ้ง ทำไมเธอถึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ พวกเราตระกูลหลิงสนับสนุนตระกูลหลินมาโดยตลอด แต่ตอนนี้พวกเราไม่ได้ติดหนี้พวกเธอแล้ว เธอเกลียดชังอะไรหลิงฉิงนัก ถึงได้ขับรถชนเขาจนตายแบบนี้!”

เธอพึมพำ ก่อนที่โผเข้ามาหาเวินจิ้งอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง การกระทำขาดสติแบบนี้แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง หลิงเหยาที่ยืนอยู่ข้างๆเข้ามาขวางได้ทัน “แม่ ใจเย็นหน่อย อย่าวู่วาม”

เวินจิ้งยังคงยืนเฉยๆ ลูกน้องของมู่วี่สิงมีความเป็นมืออาชีพมาก ผมเส้นเดียวของเวินจิ้งเธอก็ไม่ได้แตะ

เธอขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณนายหลิง ได้โปรดอย่าเศร้าเลยค่ะ”

ส่งคนหนุ่มไปสวรรค์ก่อนตัวเอง เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสียใจที่สุดในโลก

หลิงฉิงผู้ล่วงลับเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอก็เป็นผู้บริสุทธิ์ คุณนายหลิงก็ยิ่งเป็นผู้บริสุทธิ์

“เธออย่ามาตีหน้าเซ่อที่นี่” ส้งลี่ตะโกนใส่เธออย่างน่าตกใจ “เมื่อก่อนฉันรักเธอราวกับเป็นลูกตัวเอง ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนจิตใจเลวทรามแบบนี้ หลิงฉิงเป็นสายเลือดของตระกูลหลิง ครั้งนี้ฉันจะไล่ล่าพวกเธอให้ถึงที่สุด จะให้เธอชดใช้ด้วยชีวิต!”

เวินจิ้งมองหญิงตรงหน้าด้วยความตะลึง หัวใจเธอเหมือนถูกแทง ก้าวไปข้างหลังโดยไม่รู้ตัว มู่วี่สิงสังเกตเห็นท่าทางของเธอ จึงกระชับแขนโอบเธอแน่น

เธอฝืนยิ้มก่อนพูด “พวกเราไปเถอะ”

มู่วี่สิงชำเลืองมองไปยัง ส้งลี่ ที่ท่าทางของเธอราวกับจะแตกสลายรอมร่อ ก่อนจะหยุดสายตาไปที่หลิงเหยา สายตาแบบนั้นที่ทำให้เธอหนาวเหน็บจนเข้ากระดูก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท