Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 770

ตอนที่ 770

บทที่ 770 เขาไม่ชอบผู้หญิงที่พูดเจื้อยแจ้วไร้สาระ

มู่วี่สิงยืนอยู่ในแสงสลัวๆในห้องหนังสืออย่างเงียบๆอยู่นานสองนาน จนกระทั่งมีก้อนอุ่นๆนุ่มๆเข้ามาใกล้

เขาก้มหน้าลงมองดูเจ้าก้อนดำๆ หน้ารูปงามขมวดคิ้วขึ้นแล้วก้มลงไปอุ้มมันขึ้นมาไว้บนตัก

ฝ่ามือค่อยๆลูบหัวมันเบาๆ เสี่ยวเฮยโตขึ้นแล้วนิดหน่อย แต่เหมือนดูซึมๆ ผู้ชายพึมพำขึ้น “แม้แต่เจ้าเขาก็ไม่อยากได้เหรอ”

“โฮ่งๆ!” เสียงเห่าเบาๆดังขึ้น คู่ดวงตาหงอยๆของมู่เสี่ยวเฮยจ้องมองเขา

มือผู้ชายค่อยๆจับขนของเขา ริมฝีปากได้เผยรอยยิ้มออกมา แล้วเสียงแหบทุ้มต่ำก็ดังขึ้น “พวกเราต่างก็ถูกเขาทิ้งแล้ว มู่เสี่ยวเฮยต่อไปเจ้ามีแต่เราคนเดียวแล้วนะ”

มู่เสี่ยวเฮยที่ยังคงไม่รู้เรื่องอะไรได้เข้ามาคลอเคลียอยู่ที่แขนของเขา

“หิวไหม เดี๋ยวจะพาลงไปหาอะไรกินกัน” เขาอุ้มมันขึ้นแล้วยิ้มจางๆ “จิ้งจิ้งเก็บเจ้ามาเลี้ยงแต่ตอนนี้ไม่เอาเจ้าแล้ว เจ้าจะคิดถึงเธอไหม”

ผู้ชายอุ้มลูกสุนัขออกไป แต่ยังเดินไม่ถึงห้องรับแขกก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น เขาขมวดคิ้วขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ

“ฉันต้องการเจอพี่วี่สิง…..ฉันต้องการที่จะเจอเขา…..”

ห้องรับแขกที่เงียบสงบมีเสียงโวยวายของมู่ซีดังขึ้น

มู่เฉิงที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วขึ้น “มู่ซีเธออย่างส่งเสียงดังโวยวายเช่นนี้ เดี๋ยววี่สิงก็อารมณ์ขึ้นหรอก”

มู่ซีโกรธจนกระทืบเท้า “หนูก็แค่ต้องการที่จะพบเขาก็แค่นั้น ใครให้พวกมันมารั้งหนูไว้ล่ะคะ!”

บอดี้การ์ดที่สวมชุดสูทสีดำกล่าวขึ้นอย่างเย็นชาว่า “คุณมู่ พวกเราแค่ทำตามที่นายท่านสั่ง ท่านตอนนี้ไม่ต้องการพบผู้ใด คุณมู่ คุณปู่มู่เชิญพวกท่านกลับไปเถอะ”

“โฮ่ง! ผู้ชายยังไม่ทันเปล่งเสียงใดๆ มู่เสี่ยวเฮยก็เห่าขึ้นแล้ว

มู่วี่สิงเหลือบมองพวกเขาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วสั่งบอดี้การ์ดว่า “พาพวกเขาออกไป”

มู่เฉิงหน้าถอดสี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พูดตรงๆ แต่ความหมายในคำพูดของมู่วี่สิงนั้นรวมไปถึงชายชราอย่างเขาด้วย

มู่ซีเบิกตากว้างทันที “ทำไม”

มู่วี่สิงไม่กลัวว่าเธอจะเปิดเผยคลิปวิดีโอที่ถูกปลอมแปลงขึ้นหรืออย่างไร หรือเพราะตอนนี้เวินจิ้งได้จากไปแล้ว เขาถึงไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวลอีก

“จงออกไปให้หมด” สีหน้ามู่วี่สิงที่ไม่สบอารมณ์

“มู่วี่สิง คุณเชื่อหรือไม่ว่าฉันจะแพร่งพรายความลับของคุณออกไป……ให้โลกใบนี้รู้ว่าเวินจิ้งคือฆาตกรตัวจริง ส่วนคุณคือคนที่ใส่ร้ายหลิงเหยา ฉันรู้ว่าเป็นคุณ…..”

มู่ซียังคงร้องโหวกเหวกโวยวาย บอดี้การ์ดจึงดึงเธอแล้วพาออกไป

มู่วี่สิงกลับยกมือขึ้นสั่งให้หยุด

“หากคุณไม่มา ฉันเกือบลืมไปแล้วว่าคุณคือฆาตกรที่ฆ่าลูกของผม”

มู่เฉิงจับไม้ค้ำไว้แน่น สักพักหลังจากควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือแล้วจึงพูดขึ้น “วี่สิงในเมื่อแกฟื้นคืนความจำแล้ว แกก็น่าจะรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นเพราะเวินจิ้งตกจากบันไดเองจึงทำให้เธอแท้ง มันไม่เกี่ยวกับมู่ซีแต่อย่างใดเลย”

ผู้ชายหันหลังมาอย่างช้าๆ น้ำเสียงเย็นชา “เหรอครับ ถ้าหากตอนนั้นไม่ใช่เพราะเขาโทรศัพท์หาโม่ถิงเซิน เวินจิ้งตอนนี้ยังคงอยู่ข้างกายผม”

เขาก้มหน้าแล้วยิ้ม ลูบเสี่ยวเฮยที่อยู่ในอ้อมแขนแล้วชะงักขึ้น “ไม่แน่หลานของท่านตอนนี้อาจจะคลอดออกมาแล้ว”

สุดท้ายเขาได้ทิ้งคำพูดไว้ว่า “มู่ซีต่อไปอย่าได้มาปรากฏตัวให้ผมได้เห็นหน้าอีก ไม่อย่างนั้นผมจะทำให้คุณไม่มีที่ซุกหัวนอนอีกต่อไป”

สามเดือนต่อมา ณ ประเทศ F

เมื่อนั่งอยู่ระเบียงที่เงียบสงบ สามารถมองเห็นทะเลสีครามจากระยะไกล เธอเอนกายลงบนเก้าอี้นั่งเล่นอย่างสบายๆ ในลมหายใจเธอสามารถได้กลิ่นน้ำทะเลเค็มๆ

ผมของเธอได้ยาวจนจรดหลัง ผมที่นุ่มสลวยถูสัมผัสกับผิวกายยามลมพัดโชยมา คันนิดๆแต่ก็เย็นสบาย

ในมือมีคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอยู่ ในนั้นมีข่าวสารต่างๆมากมาย

ด้านหลังมีเสียฝีเท้าดังขึ้น มีเสียงหญิงสาวร้องเจื้อยแจ้วด้วยอารมณ์โมโหนิดๆ “เวินจิ้ง เมื่อไรเธอจะตอบตกลงแต่งงานกับพี่ชายของฉัน!”

เวินจิ้งที่ยังคงก้มหน้า สายตาไม่ได้ละไปจากจอคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค “ถ้าเธอไม่ชอบที่เห็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของฉันรักใคร่กันดี ทำให้เธอเกิดความอึดอัดไม่สบายใจ อย่างนั้นฉันคิดว่าเธอควรที่จะไปหาผู้ชายคนอื่นนะ”

“อย่าพูดถึงพี่ชายของเธอกับผู้หญิงคนนั้นอีก!” เมื่อพูดถึงลู่โยวโยวอารมณ์ขึ้นทันที “ถ้าไม่ใช่เพราะฉันตามผู้หญิงคนนั้นกลับมา ไม่แน่พวกเขาอาจจะไม่ได้พบเจอกันอีก ตอนนี้กลับมาทำให้ฉันอารมณ์จี๊ดขึ้น! เวินจิ้งเธออย่ามาเฉไฉเปลี่ยนเรื่องที่ฉันพูด ฉันถามว่าเมื่อไรเธอจะตกลงปลงใจยอมแต่งงานกับพี่ชายของฉัน”

เวินจิ้งขี้เกียจที่จะสนใจเธอ ท่องอินเทอร์เน็ตมีความสุขกว่าการที่ถูกสองพี่น้องบังคับให้แต่งงาน

ลู่โยวโยวไม่ได้มีพิษสงอะไร เพียงแต่ว่าเธอมีความเด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อและชอบตามตื๊อไม่เลิก

“ฉันรู้ว่าผู้หญิงเมืองหนานนั้นถ้าไม่อ่อนน้อมสุดๆก็จะอวดดีสุดๆ ถ้าเธอไม่ใช่น้องสาวของหลินยี่ ต่อให้ชาติที่แล้วทำบุญมากมายก็ไม่มีทางที่จะได้แต่งงานกับพี่ชายของฉันได้ เธอจะไปลองชุดแต่งงานได้หรือยัง!”

ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ เธอจะรู้ไหมว่าโลกใบนี้มีคนไม่น้อยที่อยากจะเป็นนายหญิงแห่งตระกูลลู่

มีแต่เธอที่ตาบอดคนเดียว

เวินจิ้งพูดอย่างไม่แยแสว่า “หรือว่าฉันยังไม่ได้บอกพี่ชายเธอว่าฉันนั้นยังไม่ได้หย่า”

“ก็แค่ยังไม่ได้หย่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย พวกเราสามารถให้ทนายความจัดการได้ทุกอย่าง เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ”

หน้าเวินจิ้งหน้ามืดทะมึนขึ้น รู้สึกว่าผู้ชายประเทศFนั้นเป็นคนใจกว้าง ไม่ใส่ใจแม้แต่เรื่องที่เธอยังไม่ได้หย่า ถึงแม้ว่าเหตุผลจะเป็นเพราะเธอนั้นเป็นน้องสาวของหลินยี่ก็ตาม

เธอปฏิเสธขึ้นเบาๆ “คุณหนูลู่ ฉันจะบอกคุณอีกครั้งว่า ฉันนั้นไม่ได้ชอบพี่ชายของเธอ”

ลู่โยวโยวยิ่งร้อนรนขึ้น “ผู้หญิงอย่างเธอช่างตาต่ำจริงๆ เธอไม่ชอบพี่ชายของฉัน แต่เธอก็ต้องนึกถึงพี่ชายของเธอบ้างสิ”

ถ้าหากเวินจิ้งแต่งงานกับลู่เซิ่น อย่างนั้นก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่หลินยี่จะทำงานให้กับบริษัทลู่ซื่อ

เวลานี้มีเสียงทุ้มต่ำได้ดังขึ้น “จิ้งจิ้งคิดถึงความสุขของตัวเองก็เท่ากับเป็นการคิดถึงความสุขของผมด้วย ไปบอกพี่ชายของเธอนะ ถ้าเขาหาภรรยาไม่ได้จริงๆ ผมจะหาให้เขาในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน ดังนั้นอย่าได้มารบกวนน้องสาวผมอีก”

ลู่โยวโยวหันศีรษะไป แวบแรกก็เห็นชายรูปงามที่ดึงดูดสายตายืนอยู่หน้าประตู เขาสวมเสื้อผ้าเชิ้ตสีดำสบายๆ ที่กระดุมด้านบนถูกปลดออก เผยให้เห็นถึงความเซ็กซี่ของแผ่นอก

ลู่โยวโยวถอนหายใจเข้าลึกๆ ก่อนหน้านั้นชายคนนี้นอนสลบไสลเธอรู้สึกหงุดหงิดมาก ตอนนี้เขาตื่นขึ้นมาแล้วเธอยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม

เบิกตาโพลงมองผู้ชายด้วยความโกรธ แล้วก็วิ่งออกไป

เวินจิ้งมองตามหลังของเธอแล้วเม้มริมฝีปากตัวเอง ทันใดนั้นก็มองไปยังพี่ชายตัวเองอย่างจริงจัง “พี่คะ น้องคิดว่าลู่โยวโยวนั้นก็ใช้ได้เหมือนกันนะคะ ถ้าหากไม่มีเวยอาน พี่จะสนใจเธอไหม”

คุณหนูมหาเศรษฐีแห่งบ้านตระกูลลู่ นอกจากโดนตามใจจนเสียนิสัย อย่างอื่นถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว

“พี่ชอบผู้หญิงที่นิสัยดี” ปากของเวินจิ้งถูกอุดด้วยประโยคเดียวของหลินยี่

เขาไม่ชอบผู้หญิงที่พูดเจื้อยแจ้วน่ารำคาญ

มองดูใบหน้าของพี่ชายที่ท่าทางรังเกียจ เวินจิ้งจึงไว้อาลัยให้กับ ลู่โยวโยวประมาณครึ่งนาที

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท